Inside Dara
"ไนกี้"พระเอกติดดิน ภักดี"เอ็กแซ็กท์"ตลอดชีวิต

เป็นพระเอกเลือดใหม่ค่ายเอ็กแซ็กท์ที่มาแรง สำหรับ "ไนกี้"นิธิดล ป้อมสุวรรณ

เข้าวงการมาปีเดียวก็มีผลงานละคร 3 เรื่องรวด "เรือนเสน่าหา", "จ้าวพายุ" และ "อีสา รวีช่วงโชติ" อะไรที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ลองไปฟังคำตอบกันดู

แววการเป็นนักแสดงเริ่มฉายตอนไหน

ไนกี้ - "ตอนเรียน ม.4-ม.5 เริ่มมีแมวมองติดต่อและให้ไปถ่ายรูป ได้งานโฆษณาชิ้นแรกทเวลฟ์ พลัส ค่าตัวหลักหมื่น ได้มาก็ให้คุณแม่ ภูมิใจมาก จากนั้นก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นงานถ่ายโฆษณา พอเข้ามหาวิทยาลัยถึงจะเดินแบบ ถ่ายแบบ เล่นมิวสิควิดีโอ"

เป็นนักแสดงสังกัดเอ็กแซ็กท์ได้อย่างไร

ไนกี้ - "ผมใช้เวลาเรียน 3 ปีครึ่งก็จบ เรียนจบก็ถามตัวเองว่าชอบอะไร อยากทำอะไร พอตอบตัวเองว่าเรารักและชอบงานวงการบันเทิงปุ๊บ เหมือนโอกาสเข้ามาทันที เพราะช่วงนั้นหลังเล่นมิวสิควิดีโอเพลง ผู้ใหญ่เห็นก็เรียกให้มาออดิชั่น เป็นช่วงรอยต่อที่เร็วมากๆ"

"ช่วงออดิชั่นยากมาก จำได้วันนั้นลองบทเรื่องดอกโศก บทที่พี่ป้อง-ณวัฒน์ เล่น แล้วก็มีอีก 2-3 บทจากละคร 2-3 เรื่อง อีก 1 เดือนเขาก็ติดต่อมา ผู้ใหญ่สรุปว่าเอาเราเป็นนักแสดงในสังกัด ซึ่งปีผมเขาคัดเลือกเอาผมแค่คนเดียว หลังจากนั้นก็เรียนแอ๊กติ้งเพิ่ม ประมาณครึ่งปีก็ได้เล่นละคร "เรือนเสน่หา" รับบทสุข ถือว่าใกล้ตัวมาก ได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่เยอะมาก ส่วนหนึ่งของประสบการณ์การแสดงของผมก็ได้รับการเคี่ยวจากรุ่นพี่ ละครเรื่องแรกถือว่าประสบความสำเร็จ กระแสตอบรับดี ไปไหนคนพูดถึงพ่อสุข จากนั้นก็มีละคร "จ้าวพายุ""

ละคร "จ้าวพายุ" เดิมผู้ใหญ่วาง "โตโน่-ภาคิน" เล่น แต่ตอนหลังเป็นเรา รู้สึกอย่างไรที่เป็นตัวแทนโตโน่

ไนกี้ - "ผมว่าผมมาแสดงในรูปของไนกี้มากกว่า ผมมองว่าจ้าวพายุใครเล่นก็เป็นรูปแบบของคนที่เล่น ไม่มีใครแทนใครได้ ผมรู้สึกว่าเป็นงานชิ้นหนึ่งที่ผู้ใหญ่มอบหมายให้เราทำก็ทำเต็มที่ และการได้มาทำตรงนี้ ความกดดันก็มีแค่เราเตรียมตัวน้อยเท่านั้นเอง แต่พอเข้ามาทำจริงๆ ผู้ใหญ่และครูหลายๆ ท่านสอนเราเยอะมาก ทำให้เป็นตัวละครได้ในเวลารวดเร็ว ซึ่งฟีดแบ็กจากคนดูเขาชอบ ไปไหนคนก็เรียกว่า ลม, ศุวิล บางทีเรียก จ้าวพายุ ตามชื่อละคร ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสครับ"

นอกจาก "จ้าวพายุ" ยังมีละครเรื่อง "อีสา รวีช่วงโชติ" ด้วย

ไนกี้ - "ดีใจครับที่ได้กลับมาเล่นพีเรียดอีกครั้ง ซึ่งผมเล่นเป็น หม่อมราชวงศ์รวีช่วงโชติ เป็นผู้พิพากษา คาแร็กเตอร์ดูโตขึ้น ใส่สูท ผูกไท มีอารมณ์ซับซ้อนขึ้น ต้องทำความรู้จักตัวละครมากขึ้น มีการเวิร์กช็อป เรียนแอ๊กติ้งเพิ่ม พยายามศึกษา คาแร็กเตอร์ผู้พิพากษา อีกทั้งเรื่องนี้ผมได้แสดงร่วมกับนักแสดงคุณภาพหลายท่าน อย่าง พี่นุ่น-วรนุช และพี่นก-สินจัย น่าจะได้อะไรเยอะเหมือนกัน ได้วิชาการแสดงเพิ่มมากขึ้น"

รู้สึกอย่างไรที่ตอนนี้ขึ้นแท่นพระเอกลูกรัก "บอย-ถกลเกียรติ"

ไนกี้ - "จริงๆ ผมไม่ใช่ลูกรักหรอกครับ ผมรู้สึกว่าเราตั้งใจทำงานมากกว่าและทำทุกวันให้ ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนที่ผู้ใหญ่ให้ผมเล่นก็สามารถเล่นได้ ผู้ใหญ่มอบหมายให้เราแล้วถือว่าดูความเหมาะสมให้เราแล้ว ก็ต้องทำเต็มที่ครับ"

ครอบครัวสนับสนุนเรื่องการแสดงหรือเปล่า

ไนกี้ - "ตอนแรกไม่เลย เขาอาจมองว่าเป็นงานฉาบฉวย ไม่มั่นคง แต่เราก็ขอพิสูจน์ตัวเองว่าเรารักและชอบตรงนี้จริงๆ ช่วงนั้นก็พิสูจน์ให้ทางบ้านเห็นว่าเราเรียนจบ ทำงาน และอยู่ได้ด้วยเงินเราเองโดยไม่ขอทางบ้านอยู่โดยเงินที่หามาอย่างสุจริตพ่อแม่ก็เห็นและรู้ว่าเราทำได้จริงๆ"

ชีวิตตอนนี้ของ "ไนกี้" เปลี่ยนแปลงไปเยอะหรือเปล่า

ไนกี้ - "ยังใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย ถึงวันนี้ก็ยังไปกลับมหาชัย-กรุงเทพฯ ยังใช้บริการรถตู้อยู่ มองว่ามันสบายเพราะเราเคยเดินทางแบบนี้ คุ้นชิน ไม่รู้สึกอึดอัด ได้เจอชีวิตผู้คนมากมาย คนเรามีความลำบากมีความสุขที่ไม่เหมือนกัน การที่ได้นั่งรถไปดูบรรยากาศรอบข้าง ได้เห็นชีวิตคนเยอะมาก บางทีชีวิตคนตรงนี้เราเอามาเป็นจินตนาการในการแสดงได้"

นั่งรถตู้แบบนี้มีคนจำได้ไหม

ไนกี้ - "มีคนจำผมได้เยอะมาก ล่าสุดผมต้องเปิดไฟฉายในรถตู้แล้วเซ็นลายเซ็นให้แฟนละคร ผมเป็นคนเรียบง่าย เป็นคนติดดินคนหนึ่งที่ไม่ได้คิดมากและใช้ชีวิตเหมือนเดิมครับ ส่วนเรื่องรถ ถ้าจะซื้อก็คงซื้อให้ที่บ้านมากกว่า ผมยังไม่จำเป็นต้องใช้ ตอนนี้อยู่กับเอ็กแซ็กท์ เขาก็มีการบริการและเทกแคร์เราเป็นอย่างดี"

"ทุกวันนี้ยังอยู่มหาชัย ยังไม่คิดย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ เพราะคุณแม่ยังเป็นห่วงอยู่ บางทีอยู่กรุงเทพฯ ก็จะอยู่กับคุณน้าที่คอนโดฯ คุณแม่ยังไม่ปล่อย เราอยู่กับผู้ใหญ่ท่านสบายใจกว่า"

ก่อนหน้านี้มองวงการบันเทิงอย่างไร

ไนกี้ - "ผมมองวงการนี้เป็นการทำงานที่ทำงานง่ายดีนะ อย่างเล่นละครฉากนี้ดูง่ายจัง แต่พอเข้ามาทำจริงๆ รู้เลยว่าไม่ง่าย ฉากๆ หนึ่งกว่าจะออกมามันใช้หัวใจ ใช้คนในการทำงานเยอะมาก ต้องรอปัจจัยหลายๆ อย่าง กว่าจะได้ฉากหนึ่งที่ดีให้คนดูได้ดูเพียงแค่ไม่กี่นาที"

เซ็นสัญญากับเอ็กแซ็กท์กี่ปี

ไนกี้ - "อยากจะบอกว่าเซ็นตลอดชีวิตครับ ไม่คิดจะไปไหน ผมเซ็นยาวเลย เพราะอยู่แล้วรู้สึกเหมือนบ้าน สบายใจก็ไม่คิดจะไปไหน"

ตอนนี้วางอนาคตในเรื่องต่างๆ อย่างไร

ไนกี้ - "ตอนนี้ยังไม่ได้มองถึงอนาคตเลยครับ ขอทำงานปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน ส่วนการเรียนปริญญาโทเคยคิดมานานแล้ว แต่เรื่องเวลาตอนนี้ยังหาไม่ได้ ขอทำงานในสิ่งที่เรารักและชอบก่อน ยังไม่คิดเรื่องอื่นครับ"

ได้ดีด้วยไม้เรียว

เป็นคนมหาชัย จ.สมุทรสาคร โดยครอบครัวทำธุรกิจแก๊สหุงต้ม ซึ่งพระเอกหนุ่ม "ไนกี้-นิธิดล" เล่าถึงชีวิตวัยเด็กว่า

"ตอนเด็กๆ ซนครับ (หัวเราะ) ได้แผลเยอะเลย ชอบเล่นต่อสู้ลุยๆ ปีนต้นไม้ ขี่จักรยานแข่งกับเพื่อน จะได้แผลเป็นของแถมตลอด ทั้งหัวแตก คางแตก หน้าผากแตก ซนจนถูกทำโทษ โดนไม้เรียว พ่อกับแม่จะตีเพื่อให้รู้ว่า ทำผิด แล้วก็สอนเหตุผลว่าทำไม ถึงตี ส่วนใหญ่จะเป็นแม่ตีครับ"

"ทำผิดหนักสุดจนแม่ทำโทษคือหนีไปเที่ยวกับเพื่อน อยู่ประมาณป.6 ได้ ไปจุดพลุ ตอนนั้นรู้สึกว่ามันสนุกแต่ไม่รู้ว่าอันตรายมาก ผมรู้สึกว่าผมโตขึ้นมาได้ดีทุกวันนี้ก็เพราะไม้เรียวของคุณแม่นี่แหละครับ"

ด้วยเป็นลูกชายคนกลาง ส่วนใหญ่คนมองว่าลูกคนกลางมักมีปัญหา "ถึงผมจะเป็นลูกชายคนกลาง แต่ก็เหมือนเป็นพี่ชายคนโตมากกว่า ไม่ได้น้อยใจเหมือนหลายคนที่เป็นลูกคนกลางที่พ่อแม่ อาจจะรักพี่คนโตกับน้องคนเล็กมากกว่า เพราะครอบครัวผม คุณพ่อคุณแม่ให้ความอบอุ่นกับลูกๆ เป็นอย่างดี ไม่รู้สึกว่ามีความเหลื่อมล้ำ และตัวพี่น้องก็รักกัน ผมห่างกับพี่สาวแค่ 1 ปี ส่วนกับน้องชายคนเล็กห่างกันหลายปีมาก"

เด็กๆ เป็นเด็กกิจกรรมไหม ไนกี้กล่าวว่า "ตอนเด็กๆ ผมชอบทำกิจกรรมควบคู่กับการเรียน ป.1-ป.6 อาจารย์จะให้เป็นตัวแทนโรงเรียนทำกิจกรรมต่างๆ อย่างกิจกรรมวันแม่ วันลอยกระทง เป็นตัวแทนโรงเรียนไปร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนอื่น"

ช่วงนั้นมีแววเป็นนักแสดงหรือยัง "ยังครับ ผมเป็นคน ขี้อายตั้งแต่เด็ก ถึงจะเป็นเด็กเฮี้ยวแต่ก็มีบางมุมที่ขี้อาย พอจบป.6 ก็เข้ากรุงเทพฯ มาสอบที่ ร.ร.ทวีธาภิเศก ซึ่งต้องปรับตัวเยอะเหมือนกันเพราะไม่มีเพื่อน อาหารก็ต้องซื้อกินเอง ต้องจัดระบบชีวิตตัวเองใหม่"

"ตอนเรียนผมชอบเตะ ฟุตบอลมากๆ เป็นกิจวัตรเลย เช้า-กลางวัน-เย็น และเพื่อนที่เตะบอลกันประจำที่นี่คือบอย-โชคชัย ซึ่งเรียนรุ่นเดียวกัน กิจกรรมที่ร่วมกับทางร.ร.ส่วนใหญ่เป็นแนวกีฬา รวมถึงถ้ามีการรณรงค์เรื่องต่างๆ คุณครูจะให้ผมเป็นตัวแทน ที่ครูเลือกผมน่าจะเป็นเรื่องบุคลิก รวมถึงเวลาเราทำอะไรหรือช่วยอะไรใคร ก็เต็มที่ครับ"

ทำทุกอย่างเต็มที่นี่แหละ ถึงก้าวเป็นพระเอกค่ายเอ็กแซ็กท์
ไม่มีเวลาคิดเรื่องรัก-ชอบสาวมองโลกแง่บวก

แรกเข้าวงการยังไม่ทันมีผลงานเป็นที่รู้จักเท่าไหร่ พระเอกหนุ่ม "ไนกี้"นิธิดล ป้อมสุวรรณ ก็กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอม มีข่าวกุ๊กกิ๊กกับนางเอกรุ่นพี่ "วิว"วรรณรท สนธิไชย

ทั้งนี้ "ไนกี้" กล่าวว่า "ข่าวกับวิวไม่มีปัญหาอะไรครับ เพราะเราเป็นพี่น้องกัน และส่วนใหญ่ก็เจอกันที่บริษัทและตามงานอยู่แล้ว ซึ่งกับวิวตอนหลังมารู้น่า จะเป็นรุ่นเดียวกับเราครับ ไม่ได้อึดอัดกับข่าวครับ น่าจะเป็น การเข้าใจผิด เพราะเราก็อาจจะคุยกันแค่ตามงานแค่นั้น และช่วงที่ถ่ายเอ็มวีด้วยกันเขาก็เทกแคร์เราค่อนข้างดี"

แต่ก็มีข่าวออกมาแรงถึงขั้นว่า "ไนกี้" เป็นผู้ชายในสต๊อกของ "วิว" ตรงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง พระเอกหนุ่มกล่าวว่า "อย่าเอาผมเข้าไปในสต๊อกของเขาเลยครับ ตอนนี้เจอกันไม่มีปัญหาครับ เราเป็นพี่น้องกัน คุยกันตามปกติเหมือนเพื่อนร่วมค่ายมากกว่า ผมไม่รู้สึกอึดอัด ผมก็ยังใช้ชีวิตตามปกติอยู่ และถ้าเจอกับเขาในค่ายก็ยังทักทายกันดี ทักทายกันปกติ ไม่มีปัญหา เพราะผมไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายครับ"

ถามตรงๆ ว่า ณ ตอนนี้ในเรื่องความรักมีหรือยัง "ไนกี้" เปิดใจว่า "ผมยังไม่ได้มองครับ เพราะว่าตอนนี้ผมขอโฟกัสเรื่องงานอย่างเดียวครับ เรื่องของตารางเวลาตอนนี้ทำงานถ่ายละครแทบจะ 7 วันอยู่แล้ว ไม่มีเวลาแน่ๆ"

เพราะทางผู้ใหญ่เบรกเรื่องความรักด้วยหรือเปล่าถึงยังไม่มี พระเอกหนุ่มรีบปฏิเสธ "ไม่ครับ ทางผู้ใหญ่ไม่เคยห้ามมีความรักเลยนะครับ ผมมองว่าถ้าเราเจอแล้วคลิกกันมันก็คงใช่ครับ แต่ตอนนี้คือติดในเรื่องของเวลาที่เราทำงานหนักมาก ไม่มีเวลามากกว่า อยากโฟกัสเรื่องงานก่อน เพราะเรารักและชอบ อยากให้คนดูจำเราได้จากผลงานที่เรา แสดงครับ"

ด้วยความที่เริ่มดัง ทำให้รู้สึกกลัวไหมที่ผู้หญิงที่เข้ามาหาเรา จะหวังอะไรในตัวเรา "ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น ทุกคนที่เข้ามาหาผมเราก็มองว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คุยกันเป็นเพื่อนทุกคน ยังไม่มีมากกว่านี้เลยครับ"

มีสเป๊กผู้หญิงที่ชอบหรือเปล่า ไนกี้ตอบว่า "เมื่อก่อนเคยมีครับ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เพราะเรารู้สึกว่าคนเราถ้าเข้าใจกันมันจบทุกอย่าง ต่อให้มีสเป๊กและวาดฝันไว้ว่าอยากได้ผู้หญิงแบบไหนแต่ว่าโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่ใช่"

ถ้าพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอกอยากได้สาวสไตล์ไหน "รูปลักษณ์ภายนอกผมมองว่าเป็นแค่องค์ประกอบส่วนหนึ่งมากกว่า ผมชอบการคุยกันแล้วเข้าใจกัน มันหายากมากที่คุยกันแล้วจะเข้าใจกันและคลิกลงตัว และไม่ได้คิดว่าต้องเจอคนที่เหมือนเรา"

"ผมชอบคนที่มองโลกในแง่บวกที่มันโอเคกับตัวเอง ครอบครัว และสังคมมากกว่าครับ" ไนกี้ทิ้งท้าย


ชื่อเล่น : ไนกี้
ชื่อ/นามสกุล : นิธิดล ป้อมสุวรรณ
วัน/เดือน/ปีเกิด : 6 ก.ย. 2531
บิดา/มารดา : มานิตย์/อัจฉรา ป้อมสุวรรณ
พี่น้อง : มีพี่สาว 1 คน ชื่อ ณัฐชนก ป้อมสุวรรณ, และน้องชาย 1 คน ชื่อ จิรวัฒน์ ป้อมสุวรรณ
การศึกษา : ป.1-ป.6 ที่ ร.ร.สมฤดีสมุทรสาคร ม.1- ม.6 ร.ร.ทวีธาภิเศก คณะวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ม.หอการค้าไทย