Inside Dara
เลิฟซีนจัดเต็ม พิมประภา "พรหมพิศวาส"

วงการมายาเปิดอ้ารับ พิม-พิมประภา ตั้งประภาพร นางเอกดาวรุ่ง ที่มีงานพุ่งต่อเนื่อง เพราะ พิม มีไม้เด็ด ตั้งธงรบสำหรับงานไว้เลยว่า ตั้งใจแสดงแบบทุ่มสุดตัว ให้รู้สึกเหมือนราวกับว่าเป็นโอกาสสุดท้าย! ใจเต็มร้อย บวกกับ พิม ไม่หยุดพัฒนาความสวยของตัวเอง จากเป็นนางเอกสวยใสสายแบ๊ว แต่เดี๋ยวนี้พิมแซ่บได้ จัดจ้านในย่านช่อง 7 โตขึ้นสวยขึ้น ก้าวเข้ามาเป็นนางเอกเบอร์ต้นๆ กับละครเรื่องล่าสุด “พรหมพิศวาส” ทางช่อง 7HD ผู้จัด เจี๊ยบ โสภิตนภา พิมรับบทเป็น “ปานตะวัน” เป็นผู้หญิงสู้ชีวิต และอดทนกับทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความรัก พิม เล่าว่า...

“เป็นคนที่ชีวิตรันทดมาก มีความจำเป็นที่จะต้องทำงานหลายอย่างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว รวมถึงมีความฝันที่อยากจะเป็นนักร้อง แล้ววันนึงเราได้โอกาสจากพระเอกที่จะให้เราไปเป็นนักร้องที่ค่ายเพลง เพราะให้ทั้งโอกาสและรักแรกให้กับเรา ซึ่งเขาเป็นคนทำให้เราเสียใจ ด้วยความแค้นของเขาที่มีกับแม่ของเรา เขาก็เลยเอาความแค้นมาลงที่เรา คือน่าสงสารมากๆ คือผู้หญิงอะไรทำไมไม่มีบุญเลย โดนทำร้ายทุกๆอย่าง ถือว่าเป็นบทท้าทายมากๆ เป็นละครที่พิมตั้งใจมากๆ ใส่เต็ม มีเท่าไหร่ใส่หมด ไม่ว่าจะเป็นการเต้น ร้อง พัฒนาการของตัวละครในการแสดงที่จะมีอยู่ตลอดทั้งเรื่อง”

ในเรื่องการร้องเต้น สำหรับ พิมชิลมั้ย?

“ไม่ชิลนะคะ เพราะแนวเต้นก็ไม่ใช่แนวที่เราถนัด ค่อนข้างออกไปในแนวเซ็กซี่มากๆ”

ถนัดแนวติ๊กต่อก?

“(หัวเราะ) ใช่ค่ะ พอมาเป็นแนวแบบเต้นเซ็กซี่ พิมไม่ได้มองว่ามันยากที่ตัวท่าแต่มันยากด้วยจริตและอินเนอร์ที่ต้องใส่เข้าไปในลุคของปานตะวัน มันเป็นพาร์ตความจำเป็นบางอย่างที่ทำให้ปานตะวันต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน บางวันก็ไปเป็นเด็กเสิร์ฟ ตามผับ ตามบาร์”

ลุคเซ็กซี่ทำได้ขนาดไหน?

“คิดว่าเราไม่ค่อยถนัด แต่พิมพอใจและพิมเต็มที่เกินร้อยกับละครเรื่องนี้ ไม่ว่าการแสดง การเต้น การร้อง คือเรารู้สึกว่าเราใส่เต็มจริงๆ พิมรักตัวละครตัวนี้ พิมอยากจะถ่ายทอดตัวละครนี้ให้คนได้ดู เพราะตัวละครปานตะวันสะท้อนชีวิตของใคร หลายๆคนได้เยอะ และพิมอยากให้ปานตะวันเป็นแรงบันดาลใจของคนที่กำลังท้อถอยในเรื่องการใช้ชีวิต เขามีความเชื่อมั่นเขายึดความดีเป็นหลัก และความฝันที่เขาตั้งใจจะทำให้เป็นความจริงก็เลยทำให้สิ่งเร้า สิ่งแย่ๆรอบตัวนั้นทำอะไรเขาไม่ได้เลย ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้รับโอกาสดีๆที่ทำให้ชีวิตเขาพลิกไปได้ เราอยากถ่ายทอดตรงนี้ คือการเป็นคนใฝ่ดี ทำทุกอย่างที่ดี วันนึงก็จะมีคนเห็นค่ะ”

การร่วมงานกับพระเอก บูม-กิตตน์ก้อง ขำกฤษ?

“พิมดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับพี่บูมอีกครั้ง พิมเคยร่วมงานกับพี่เขาแล้ว 2 เรื่องคือ “บุษบาท่าเรือ” และ “กาลครั้งหนึ่งในหัวใจ” ซึ่งก็คลาดกันไม่ได้คู่กันในตอนจบตลอดเลย เราก็ยังคุยกันว่า เราก็เล่นกันมาหลายเรื่องยังไม่เคยคู่กันเนอะ ต้องมีคู่กันสักครั้งนะ แล้ววันนี้พอได้เล่นด้วยกันจริงๆ มันดีใจมาก ถ้าบทตัวละครนี้ไม่ได้เล่นคู่กับพี่บูม พิมจะเครียดมากเหมือนกันนะ เพราะเลิฟซีนเยอะมาก พอมาเป็นพี่บูม ทุกอย่างมันง่ายไปหมด พี่เขาเป็นพี่ชายที่ดี ให้เกียรติ ก่อนจะเล่นมีการขออนุญาต มีการปรึกษากันก่อนแบบพี่จะเล่นแบบนี้นะ คือเราได้พาร์ตเนอร์ที่ดีมากๆ มันก็เลยเต็มที่เลย จะเล่นอย่างไรก็ไม่รู้สึกตะขิดตะขวง เรารู้สึกว่าเราจะเล่นอะไรก็ได้เพื่อให้สมบทบาทมากที่สุดค่ะ”

เรียกว่าเลิฟซีนเปลืองเนื้อเปลืองตัว?

“มากค่ะเรื่องนี้ ต้องบอกว่าไม่ได้พี่บูมนี่เครียดเลยนะคะ จริงๆ”

พิม สวยน่ารัก ในชุดเสื้อผ้า PATINYA, PASSARA x PIMPRAPA โดยช่างภาพ สุรกิจ แก้วมรกต รัวชัตเตอร์ถ่ายแฟชั่น “มาลัยไทยรัฐ” ทำให้รู้ว่า พิม ไม่ใช่เก่งแค่แสดง ถ่ายแบบก็เริ่ดอยู่

นอกจากนี้ พิม ก็ยังทำธุรกิจเสื้อผ้า “จะทำเสื้อผ้าเป็นแบรนด์ของตัวเอง PASSARA x PIMPRAPA และทำเสื้อผ้ากับแบรนด์ของเพื่อน คือเรารู้สึกว่าเราโตขึ้นเราอยากมีธุรกิจ มีการงานที่มั่นคง สามารถดูแลคนที่เรารักได้” เป็นสาวหัวก้าวหน้า ไม่เคยหยุดนิ่ง เก่งครบด้าน แต่เรื่องหัวใจเงียบฉี่

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ พิมบอกเลยว่า “ชีวิตมันไม่มีพาร์ตความรักเลย คือช่วงนี้ 2-3 ปีมา คือเราตั้งใจกับงานมากๆ จนคนรอบข้างเริ่มพูดว่า พิมทำไรเยอะแยะ เดี๋ยวขายไอ้โน่น เดี๋ยวขายไอ้นี่ เล่นละครอีก วันว่างของเรา เราเข้าออฟฟิศเพื่อคุยงาน ไปถ่าย vlog อีก คือพิมมีช่องยูทูบ ชื่อช่อง พิมนิยม ทุกอย่างในหัวตอนนี้จะมีแค่คิดว่า จะทำอย่างไรให้ชีวิตก้าวหน้า”

ชักสงสัย พิมมองความรักคืออะไร แล้วไม่มีใครมาจีบเลยหรา?

“ไม่ได้บอกนะคะว่ามีความรักมันไม่ดี แต่เพียงแค่ตอนนี้เรายังไม่มีพาร์ตนั้นเข้ามาในชีวิต”

หนุ่มๆ เข้ามาบ้างไหม?

“ก็จะมีเพื่อนๆแนะนำบ้าง แต่เราไม่ได้สนใจ แล้วไม่รู้เป็นอะไร เราอาจจะแปลกหรือเปล่าเวลาใครแนะนำมาเราจะรู้สึกไม่ชอบ แต่ถ้าเป็นแบบไปเจอกันตามธรรมชาติโอเค”

ให้ธรรมชาติจัดสรรให้?

“ค่ะ คือได้เรียนรู้นิสัยกันมากกว่า คือพิมคิดว่าถ้าเขาจะมาเขาควรมาเอง แล้วเราก็จะรู้สึกได้ว่าคนนี้คือคนที่ใช่ เพื่อนจะรู้ว่าเราเป็นคนที่กำแพงสูงมากๆ ถ้าเป็นเพื่อนที่สนิทจริงๆ จะไม่แนะนำใครมาให้”

2-3 ปีที่ไม่มีใครมาดูแลหัวใจ?

“พิมทำทุกอย่างเยอะมากๆ เลยไม่มีพาร์ตให้เหงา ถ้าเหงาที่สุด ก็คงจะเป็นช่วงพาร์ตโควิด-19 ก็มีฟีลที่เหงาบ้าง แต่ไม่ได้โหยหาแบบอยู่คนเดียวไม่ได้ ไม่ใช่ค่ะ”

เป็นนางเอกเลยต้องเลือกเยอะ?

“ไม่หรอกค่ะ พิมว่ามันอยู่ที่ความสบายใจ อยู่ที่ความจริงใจ ถ้าเรารู้สึกได้ถึงมาตามธรรมชาติเราจะรู้สึกดีและพิมจะอยากรู้จักเขาต่อไปเอง ซึ่ง ณ วันนี้ยังไม่เจอ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเราปิดกั้น คือถ้าจะมีเข้ามาเราก็พร้อมที่จะเปิดใจ ถ้าเขาคือคนที่ใช่จริงๆ ความรักคือสิ่งที่ดี ถ้าเราได้ความรักที่ดี ที่พาเราไปในทางที่ดี แต่สำหรับพิม ถ้ามีแล้วไม่ได้ทำให้เรามีความสุขได้มากกว่าทุกวันนี้ที่เราเป็น พิมว่าไม่ต้องมีก็ได้ (สวยๆ) รู้สึกว่าเราอยู่ด้วยตัวเองมาหลายปี อยู่ในแบบที่เรามีเป้าหมาย มีความตั้งใจว่าอยากสร้างความมั่นคงด้วยตัวเองแล้ว เราเลยไม่ต้องการคนอื่นที่มาให้ความมั่นคงกับเรา เราไม่ได้หวังที่จะไปพึ่งใคร เป้าหมายของเราคือการทำให้ชีวิตเราก้าวหน้าประสบความสำเร็จไปให้ได้ คือถ้าไม่มีพาร์ตความรักที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจว่ามีคนนี้เคียงข้างก็ดี เราก็ไม่มีก็ได้ค่ะ”.

ภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต