Inside Dara
“เบลล่า” สาวลูกครึ่งหัวใจไทย ชีวิตอิสระแต่อยู่ในกรอบ

กำลังโด่งดังเป็นที่ถูกอกถูกใจแฟนละครเอามาก ๆ กับบทของ “ตันหยง” หรือ “น้องเมย์” ในละคร “พรพรหมอลเวง” ทำเอา เบลล่า-ราณี แคมเปน นางเอกลูกครึ่งไทย-อังกฤษ กลายเป็นสาวฮอตขึ้นมาทันใด ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมาก ๆ วันนี้สาวเบลล่าเลยเคลียร์คิวมานั่งเปิดใจ เพื่อให้แฟน ๆ ได้ทำความรู้จักเธอมากขึ้น

กระแสละครเป็นอย่างไรบ้าง?

เรียกว่าดีมากเลยค่ะ คนพูดถึงเยอะมาก ด้วยองค์ประกอบของละคร คือมีเด็กด้วย น้องเล่นเก่งมาก เราต้องสลับร่างกับเด็กเข้าไปอยู่ในบ้านของพระเอก แล้วก็มีฉากกุ๊กกิ๊กน่ารัก มีหอมกัน คนก็เลยกรี๊ดกร๊าด มีทั้งอิจฉาพี่บอย อิจฉาหนู และอิจฉาน้องอันดาค่ะ

กดดันไหมเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรก?

ช่วงแรกก็ค่อนข้างกดดันนะคะ เพราะมีกระแสมาตั้งแต่ตอนแคสติ้งเลยว่าใครจะได้เล่นหรือไม่ได้เล่น มีทั้งคนที่เชียร์และมีทั้งคนที่ยังติดภาพนางร้ายของเรามาก่อน เรื่องนี้ทำเวิร์กช็อปค่อนข้างเยอะ เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ ตอนเวิร์กช็อปกับน้องอันดา เราก็พยายามเล่นเหมือนเป็นคนคนเดียวกันให้คนเชื่อให้ได้ พยายามทำทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติ ให้มันออกมาจากข้างในจริง ๆ ทำการบ้านค่อนข้างหนัก ทั้งอ่านบท ตีความตัวละคร คุยกับผู้กำกับเยอะว่าหนูเล่นเป็นอย่างไรบ้าง พยายามขอคำแนะนำจากพี่เขาตลอด แต่ละวันที่ถ่าย ฉากจะเยอะ บางวันถ่ายทุกฉากเลยค่ะ

ถือเป็นการก้าวกระโดดไหม เพราะจากตัวรอง ตัวร้าย มาเป็นนางเอกเลย?

ถ้ามองว่าจากตัวรองเป็นตัวเอกก็ก้าวกระโดดเหมือนกันนะคะ เพราะว่าเล่น 2 เรื่องแล้วมาเป็นนางเอก แต่ถ้าในแง่ของการทำงานไม่กระโดดนะ เพราะกว่าจะได้มาอยู่จุดนี้ก็นานเหมือนกัน กว่าจะเรียนแอ๊คติ้งอีก แล้วพอจบเรื่องที่สอง “ตะวันยอดรัก” ก็มาถ่าย “พรพรหมอลเวง” ต่อเลย ตอนแรกไม่ได้มองว่าจะได้มาทำงานตรงนี้เลยค่ะ เคยแคสโฆษณาเล่น ๆ เพราะโฆษณาถ่ายวันเดียวก็จบ แต่ละครมันค่อนข้างจริงจัง ใช้เวลาเยอะ ช่วงแรกยังไม่เข้าใจหรอกว่าการแสดงคืออะไร ยังค้นหาอยู่ แต่ตอนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราไปแล้ว ทำงานเกือบ 7 วัน พอได้เข้าใจได้เรียนรู้มันมากขึ้นก็สนุก บรรยากาศในกองถ่ายก็โอเคมีความสุข เหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ ๆ ครอบครัวหนึ่งค่ะ

ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน?

เพิ่งมาเปลี่ยนก็ตอนนี้ล่ะค่ะ ก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยมีคนจำได้ ไปไหนมาไหนคนก็แค่มองหน้าเฉย ๆ แต่ตอนนี้เขาจำได้แล้ว มาทัก มาขอถ่ายรูป ขอลายเซ็น แต่เราก็ทำตัวปกติเหมือนเดิมค่ะ แต่ก็คงไม่ใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะคีบไปไหนแล้ว (หัวเราะ) ตอนนี้ยังไม่ชินกับการที่คนเรียกว่านางเอกค่ะ แต่ก็มีคนเรียกเยอะนะประมาณว่า คนนี้นางเอกพรพรหมนี่นา คนเขาจำได้เราก็ดีใจค่ะ ตอนนี้คาดหวังกับตัวเองมากกว่าค่ะ ว่าเราจะทำงานได้ดีขึ้น ไม่ได้คาดหวังกับกระแสข้างนอกเลย ทุกวันนี้ฝึกฝนตัวเองมีฝึกเรื่องการใช้อารมณ์ในการแสดงค่ะ บางทีมันต้องคิดให้เยอะขึ้น อย่างตอนที่ไม่มีบทพูด ต้องใช้สายตา มันก็ต้องคิดอะไรในสมองให้มากขึ้น ให้เหมือนเล่นออกมาจากข้างใน มีไปเวิร์กช็อป ไปซ้อมอ่านบท แต่ละเรื่องรับบทแตกต่างกัน ทำให้ต้องฝึกไปคนละแบบค่ะ ผลงานเรื่องต่อไปก็มีแล้วค่ะ เรื่อง “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ตอน คุณชายพุฒิภัทร แล้วก็มีเรื่อง “ลูกทาส” ค่ะ เรื่องหลังนี้ต้องฝึกเยอะเลยค่ะ เพราะเป็นละครพีเรียดยุครัชกาลที่ 5 เป็นลูกเจ้าพระยา ต้องพูดเสียงเย็น ๆ นุ่ม ๆ

เข้ามาอยู่วงการบันเทิงแบบนี้ ทางบ้านเข้มงวดอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?

ตอนแรกที่เข้ามายังเรียนอยู่ ก็จะเข้มงวดเรื่องเรียนค่ะ ให้รับละครได้แค่เรื่องเดียว แล้วต้องแบ่งเวลาไปเรียน 3-4 วัน ตอนนี้เรียนจบแล้ว เขาก็เริ่มปล่อย เราต้องบริหารเงินเอง วางอนาคตของตัวเอง แต่เขาอยากให้เรียนต่อด้วย ตอนแรกว่าจะเรียนปีนี้เลย แต่ยังไม่พร้อมก็เลยจะเป็นปีหน้า ส่วนเรื่องข่าวต่าง ๆ แม่เขากังวล คือกังวลว่าเราจะคิดมากเอง แต่ถ้าเราไม่ได้ไปทำอะไรมันก็ไม่มีอะไรให้กังวลนะ เราพร้อมรับมือกับข่าวที่ไม่จริง ก็แค่พูดความจริงออกไป และมันก็คงซา ๆ ไปเองถ้าไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ

เบลล่าถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน?

คุณพ่อคุณแม่จะให้ดูแลตัวเองค่อนข้างเยอะค่ะ เป็นลูกคนเดียวด้วย เขาจะปล่อยให้คิดเอง ให้บริหารเงินเอง พ่อแม่ไม่ได้เก็บให้ ดูแลตัวเอง ขับรถเอง อยากได้อะไรก็เก็บเงินซื้อเอง ให้อิสระ ไม่ตาม ไม่คุมเลย คุณพ่อเป็นฝรั่งที่มีความเป็นไทยสูง เวลาจะเล่นอะไร เขาจะปล่อยอิสระ แต่ก็มีกฎในบ้านอยู่บ้างให้เราทำตามให้อยู่ในกรอบประมาณหนึ่ง เช่น ทานข้าวเสร็จต้องล้างจานนะ หรือกลับบ้านให้ตรงตามเวลา แล้วหนูก็โตที่เมืองไทย ก็ทำตามวัฒนธรรมไทยหมด ไม่ได้ฝรั่งจ๋า เรียนโรงเรียนไทยด้วย ไม่ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ แต่อยู่บ้านก็พูดภาษาอังกฤษกับพ่อนะคะ การที่พ่อแม่ปล่อยทำให้เหมือนเราโตเร็วกว่าเพื่อนไปหนึ่งสเต็ปค่ะ วิธีคิดของเราจะมองอนาคตค่อนข้างเยอะ อย่างเรื่องเรียนต่อจะเรียนคณะเดิม เพราะวางแผนไว้แล้วว่า ถ้าเกิดตอนแก่ไม่มีอะไรทำก็จะไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ส่วนเรื่องเงินก็พยายามมีหลาย ๆ บัญชี กระจายเงินเข้าทุกบัญชี จะได้ใช้ไม่หมดค่ะ

วางอนาคตตัวเองอย่างไรหากต้องออกจากวงการบันเทิง?

เมื่อก่อนอยากเป็นแอร์โฮสเตส ถ้าตรงจุดนี้มันไม่รุ่งจริง ๆ ก็อาจจะไปเป็นแอร์ หรือถ้าได้ทำงานในวงการบันเทิงไปนาน ๆ แล้ว วันหนึ่งอาจจะทำเบื้องหลัง เพราะเรียนวิทยุโทรทัศน์มาโดยตรงด้วย เดี๋ยวก็จะเรียนปริญญาโทเก็บความรู้เอาไว้ด้วย น่าจะวนเวียนอยู่ในวงการบันเทิงนี่แหละค่ะ แต่อาจจะอยู่เบื้องหลัง

แล้วเรื่องความรักล่ะเป็นอย่างไรบ้าง เห็นว่ามีข่าวกับเวียร์-ศุกลวัฒน์?

คบกันแบบพี่น้องค่ะ คือรู้จักพี่เวียร์มาสักพักใหญ่แล้ว ได้ถ่ายหนังด้วยกัน แต่หนังไม่ได้ฉาย (ถูกเลื่อนออกไป เกี่ยวกับชายแดนใต้และรักต่างศาสนา) ตอนปีใหม่หนูไปเชียงใหม่กับเพื่อนแล้วไปเจอพี่เวียร์ที่นั่น ก็ได้ไปไหว้พระและทานข้าวด้วยกัน แต่ยังไม่ได้เปิดใจหรือเจาะจงว่าต้องเป็นพี่เวียร์ เพราะตอนนี้ทำงานค่อนข้างเยอะ ไม่มีเวลาคิดเรื่องพวกนี้เลยค่ะ สเปกไม่ได้มีเฉพาะเจาะจงอะไร แค่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ รับฟังเราได้ เทคแคร์เราบ้าง เข้าใจชีวิต เข้าใจการทำงานของเราค่ะ

แล้วพี่เวียร์ใช่ไหมล่ะ?

พี่เวียร์ก็ได้อยู่ แต่ยังไม่ถึงเวลาค่ะ ยังไม่โตด้วยมั้งคะ ตอนนี้ขอทำงานไปก่อนค่ะ พี่เขาไม่ได้จีบค่ะ ก็แค่คุยกันในกองถ่ายนี่แหละ เป็นพี่น้องกัน แลกเบอร์กันปกติ หลังถ่ายหนังจบก็มีทักมาบ้าง เจอกันไม่บ่อยนะคะ เจอล่าสุดก็ที่เชียงใหม่

มุมมองความรักของเบลล่าเป็นอย่างไร?

ความรักน่าจะทำให้คนเรามีความสุข ทำให้เรายิ้ม คนที่จะมาเป็นคนรักของเราได้แสดงว่าเราแฮปปี้และเปิดใจให้เขา แต่หนูก็ไม่มีคนเข้ามาจีบเลยค่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน (หัวเราะ) ไม่ค่อยได้เจอใครด้วย ส่วนใหญ่ทำงานทั้งสัปดาห์ เจอแต่คนหน้าเดิม ๆ ไม่มีโอกาสเจอใครอยู่แล้ว คิดว่าเราคงทำงานทำการให้มั่นคงก่อน เราเองก็กลัวเรื่องความรักไปกระทบงานเหมือนกัน คงปล่อย ๆ ไปก่อน ให้เป็นเรื่องของธรรมชาติค่ะ

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย?

ฝากแฟน ๆ เดลินิวส์ติดตามผลงานละครด้วยนะคะ พรพรหมอลเวงใกล้จะจบแล้ว ตันหยงจะได้คืนร่างแล้ว ติดตามลุ้นรักตันหยงกับน้าวีด้วยว่าเขาจะมาลงเอยกันได้อย่างไร แล้วก็ฝากซีรีส์ “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ตอนที่ 3 ด้วย เรื่องนี้พลิกคาแรกเตอร์เป็นเด็กสาวบ้านนอกจน ๆ ชีวิตรันทดเลย รวมทั้งละครเรื่อง “ลูกทาส” ซึ่งน่าจะออนแอร์ภายในปีนี้เหมือนกันค่ะ

งานนี้ต้องเอาใจช่วยนางเอกมือใหม่กันแล้ว ว่าจะเดินไปถึงจุดที่ฝันได้หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ เรื่องความรักต้องลุ้นกันต่อไปว่าใครที่จะมาครอบครองหัวใจน้องเบลล่า จะเป็นพระเอกต่างช่องหรือเปล่านะ