Inside Dara
"เกรซ กาญจน์เกล้า" ฟาดบทบาทใหม่พิธีกรจัดจ้านย่านวิภา

เริ่มบทบาทใหม่สุดปัง หลังนักแสดงสาวสวย "เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า” ผันตัวมาเป็นฟรีแลนซ์ ก็โลดแล่นรับงานใหม่ๆที่ท้าทาย และก้าวข้ามขีดจำกัดตัวเอง และที่กำลังฮือฮากับบทบาทพิธีกรแบบจัดเต็มในรายการวาไรตี้ทอล์กโชว์ “จัดจ้านย่านวิภา” ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ 5 โมงเย็น กับการเป็นพิธีกรเต็มตัวครั้งแรกของ 3 คนบันเทิงสุดจัดจ้าน 3 คน 3 สไตล์ ครบรส ครบเครื่อง ทั้งร้อง เล่น เต้น โชว์ ทั้ง “อ๊อฟ ปองศักดิ์” จัดจ้านด้านการร้อง การเอนเตอร์เทนผู้ชม “หญิง รฐา” จัดจ้านด้านสาย Show ไฟลุกทุกเวทีเป๊ะทุกท่วงท่า และ “เกรซ กาญจน์เกล้า” จัดจ้านด้านการแสดง Energy เกินร้อย ได้ทุกบท บดทุกท่า

เพราะชอบความท้าทาย เกรซขอปล่อยความเป็นตัวเองในบทบาทพิธีกรครั้งนี้

เกรซ เล่าว่า ถือเป็นครั้งแรกกับพิธีกรเต็มตัว ที่ผ่านมาเคยเป็นพิธีกรรายการเพลงบ้าง แต่ครั้งนี้เป็นทอล์กโชว์วาไรตี้ที่แรก มีรายการติดต่อเข้ามาเยอะ แต่รายการนี้เป็นตัวเองที่สุด และเป็นรายการที่ไม่เหมือนคนอื่น ไม่ต้องมานั่งทอล์กโชว์แบบจริงจัง แต่สามารถเป็นตัวเองที่ไลฟ์ลี่ สนุก และพิธีกรทั้ง 3 คนต่างก็มีคาแรกเตอร์ชัดเจน

เกรซ เล่าถึงการทำงานร่วมกับ หญิง– รฐา และ อ๊อฟ–ปอง-ศักดิ์ ด้วยว่า

สบายมากเพราะตนเป็นคนจังหวะโบ๊ะบ๊ะได้อยู่แล้ว เลยไม่เป็นปัญหา ด้วยฟอร์มรายการที่ไม่ซีเรียสเลยรู้สึกว่าเหมาะกับตัวเรา น่าจะทำให้ตนสนุกกับการทำงาน แค่คิดว่าจะได้ร่วมงานกับพี่ๆ 2 คน ก็คิดว่าต้องสนุกแน่ๆ แล้วใครจะห้ามใครดี เมื่อมาทำงานด้วยกัน 3 คนแล้วมีความสุขจริงๆทั้งสองคนน่ารักมาก เราไปด้วยกันได้ดีเลยล่ะ

เมื่อได้มานั่งเก้าอี้พิธีกรจะมีมุมมองอย่างไรไปฟังกัน

เกรซ บอก งานพิธีกรเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก เลยอยากลองทำ เป็นอีกมุมที่คนจะได้เห็นตัวตนเรา โชคดีที่รายการนี้เป็นคาแรกเตอร์ของตัวเราเอง ตนไม่ต้องพยายามไปเป็นใคร เหมือนเพื่อนมาพูดคุยแลกเปลี่ยนแซวกัน เม้าท์กัน เน้นความสนุก หัวใจคือการทำให้คนดูสนุก และเผยในอีกหลายๆแง่มุมของแขกรายการ รวมทั้งตัวพิธีกรทั้ง 3 คนด้วย

มันไม่ได้มีรูปแบบตายตัว อยากทำอะไรก็ทำ เล่นเกมสนุกสนาน เหมือนได้ปล่อยของ เห็นความเป็นเกรซในอีกด้านจริงๆแล้วตัดสินใจไม่นานเลย พอเป็นอิสระเราก็อยากทำอะไรที่ไม่เคยทำ และเป็นตัวเองจริงๆ ส่วนการทำหน้าที่พิธีกรตรงนี้แล้วทำให้เราต้องหาความรู้อยู่ตลอด การเป็นพิธีกรต้องรู้เยอะ และต้องจับจังหวะให้ถูกกับตัวแขกรับเชิญ เราต้องทำการบ้านสำหรับแขกรับเชิญแต่ละคนว่าเค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร นอกเหนือจากข้อมูลพื้นฐานที่รายการให้ตั้งแต่ก้าวมาเป็นนักแสดงอิสระ “เกรซ” ก็ได้ทำอะไรเยอะมากให้คนเห็นมุมใหม่ๆ เกรซ ขอใช้คำว่า “เหมือนเราได้เริ่มชีวิตใหม่ในร่างเราคนเดิม เหมือนเป็นคนใหม่ ได้ทำอะไรใหม่ๆ คนเห็นมุมที่เป็นตัวตนเราชัดเจน”

“เกรซ” ชอบท้าทายตัวเองไปเรื่อยๆ ตนแฮปปี้ที่ได้ลองทำอะไรที่ท้าทายมากๆ ไม่ว่ามันจะออกมาเป็นยังไง ตนจะรู้สึกดีที่ได้ทำมัน ตนไม่ค่อยกลัวอะไรนะ อยากลองทำและเชื่อมั่นในตัวเองว่าเราต้องลอง เพราะเมื่อก่อนไม่ชอบ งานพิธีกรเท่าไหร่ เพราะเริ่มด้วยรายการสดมันคือที่สุด จนผ่านไปเรื่อยๆตนก็อยากเปิดโอกาสให้ตัวเองเจองานอื่นๆ จนมาเจอรายการที่ใช่ คือรายการนี้ ตนว่าการได้ข้ามขีดจำกัดตัวเองมันก็สะใจดีนะว่าสุดท้ายเราก็ทำได้ เพราะมันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หรอก พอทำได้ มันรู้สึกว่าเฮ้ยทำได้ เกรซ ชื่นใจ

หลังจากก้าวเป็นนักแสดงอิสระ ปีนี้ถือเป็นปีทอง เป็นปีที่ทำงานหนักและได้ทำอะไรใหม่ๆ มีงานละคร “นางฟ้าคาบาเร่ต์” ของ GMMTV เล่นเป็น Drag Queen เล่น 2 ตัว ได้ร้องเพลง แอ็กชัน ดราม่า และกำลังจะทำเพลงกับค่ายเพลงหนึ่ง ขึ้นแท่นศิลปินเต็มตัว ด้วยโอกาสจังหวะที่เข้ามา

เรื่อง “งาน” กำลังรุ่ง เรื่อง “รัก” ก็กำลังไปได้ดี หัวใจของ เกรซ วันนี้มีหนุ่ม นิค หนุ่มธุรกิจหล่อหน้าใสที่ใครๆก็พูดถึง นานๆทีจะได้เห็นหน้า เพราะก่อนหน้านี้ เกรซ ไม่ค่อยเปิดตัวพูดถึงหวานใจสักเท่าไหร่

แต่วันนี้เวลาเริ่มพิสูจน์หลายสิ่ง หนุ่ม นิค ทุ่มทุนทำเซอร์ไพรส์จัดงานวันเกิดให้ เกรซ หวานเสมอจนสาวๆอิจฉา เกรซ เลยเริ่มเปิดใจ เริ่มพูดถึงได้เพราะรอให้มั่นใจก่อนหรือเปล่า

เกรซ เผยว่า ก็ใช่ด้วยส่วนหนึ่ง เราไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ช่วงแรกๆก็ยังไม่ได้อยากให้ฟันธงเพราะทุกอย่างต้องใช้เวลาให้รู้จักกันดีๆ เค้าไม่ได้โรแมนติกหรอก เค้าก็ทำให้ในวาระโอกาสพิเศษ เค้าคิดเองจัดเองทำของเค้าเอง

หลายคนมองว่า นิค พูดน้อย เกรซ พูดเก่ง เติมเต็มกันพอดีมั้ย เกรซ รีบตอบอย่างไว

“ไม่ใช่ว่าพูดน้อย แต่ไม่พูด (หัวเราะ) กับเกรซเค้าพูดนะ แต่กับคนอื่นเค้าจะเขิน เกรซ เลยชอบแกล้งเค้า ก็คงอย่างนั้น เพราะเราเหมือนเพื่อนกัน คุยกันตลกสนุก ไม่ค่อยเอาเรื่องเครียดใส่กัน เราจะมีบ่นบ้างเรื่องงานต่างๆปกติ คือเรามีความรักมาถึงจุดที่เค้าก็ขี้เกียจเปลี่ยนเรา และเราก็ขี้เกียจเปลี่ยนให้คนอื่นแล้วเหมือนกัน ก็คือยอมรับกันซะเถอะแล้วเจอกันตรงกลาง มันไม่ได้มีอะไรถูกใจเราร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ก็ต้องอดทนบ้างยอมบ้าง เราก็ต้องคิดด้วยว่าเราสอง คนดีพอสำหรับกัน คอยซัพพอร์ตกัน

เค้าไม่อยากเปิดตัวอะไร เค้าเป็นคนเฉยๆ ไม่ได้อยากให้พูดถึง ไม่อยากอยู่ในวงการ เค้าก็มีธุรกิจของเค้าเอง แต่ไม่ได้เป็นไฮโซอะไรเลย ถ้าเห็นเค้าแต่งตัวคือเสื้อยืดกางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ มีแค่วันเกิดเราที่เค้าแต่งตัวดีวันนั้น แหละ ชีวิตปกติเป็นหนุ่มเซอร์ธรรมดา อยากอยู่เงียบๆ พยายามจะถ่ายรูปอะไรก็ไม่ให้ถ่าย เล่นตัวนะ”

ส่วนอะไรที่ทำให้ประทับใจในตัวผู้ชายคนนี้ เกรซ เผยหัวใจ

“เพราะเค้าสบายๆ เข้าใจอะไรง่ายๆ ไม่ยาก เราอยู่ในจุดที่เราตั้งใจทำงาน ลุยงานเต็มที่ เราก็อยากมีคนที่ซัพพอร์ตเราข้างๆ ไม่ได้ ต้องการให้มาสวีตอะไรมากมาย แค่ไม่เป็นปัญหาแค่นั้นเราก็รู้สึกดีแล้วค่ะ”.