Inside Dara
เจนี่ เปิดใจเล่ามรสุมชีวิตช่วงเป็นข่าวดัง ได้บทเรียนชีวิต ไม่เคยคิดเสียใจ

เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ นางเอกหน้าเด็กหุ่นเป๊ะตลอดกาล ที่วันนี้จะมาเปิดปากที่แรกเล่าย้อนมรสุมชีวิตที่เป็นข่าวดังชั่วข้ามคืนจนเกิดความคิดชั่ววูบหวิดคิดสั้น พร้อมเล่าจุดเปลี่ยนที่ทำให้กลับมาลุกขึ้นยืนและรักตัวเองได้อีกครั้ง ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง One31

หลังๆ เจนี่เป็นคนที่ชอบเกี่ยวกับธรรมะ ไหว้พระ ปฏิบัติธรรม?

ชอบมาก

จุดเริ่มต้นมาจากไหน?

จริงๆ ก็นานมาแล้ว 8-9 ปี เป็นช่วงที่เจนรู้สึกว่าจะทำยังไงดีกับชีวิตที่มันดาวน์ มันเฟล เหมือนหาอะไรที่มายึดเหนี่ยวความรู้สึกไม่ได้เลย ความรู้สึกนี้ใครก็ช่วยไม่ได้เลย นอกจากตัวเราเอง

แสดงว่านั่นคือจุดที่พลิกผันที่สุดในชีวิตของเจนี่เลย?

เจนก็ไม่คิดว่าเจนจะล้มหรือจะรู้สึกแบบนี้ หรือจะมาเจอวันแบบนี้ เป็นวันที่เรามึนเลย เราจะไปขวาหรือจะไปซ้าย เจนไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย เราไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตจริงๆ แล้วเจนไม่เคยแสดงออกเวลามีข่าวเจนไม่เคยออกมาแถลง เจนไม่พูด เจนไม่ร้องไห้ เพราะกำลังมึนอยู่ เหมือนเวลคนเสียใจมากๆ น้ำตาสักหยดก็ไม่มี เพราะมันเหมือนกับช็อก

จุดพลิกผันที่พีกที่สุดในชีวิตเจนี่ คนทั้งประเทศเฝ้าติดตามข่าวนี้?

7 วัน 7 คืนเลย จำได้

เจนไม่คุยกับใครเลย ไม่ปรับทุกข์กับเพื่อน ไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น อยู่คนเดียวเงียบๆ ทั้งที่เพื่อนรายล้อมเต็มไปหมด?

เพื่อนบุกบ้านมาเพราะกลัวจะฆ่าตัวตาย

ถ้าเปรียบเทียบเป็นมิวสิกวิดีโอก็คงปิดไฟมืดๆ ไปนั่งอยู่ตามมุมหลืบๆ ข้างหน้าต่าง?

ใช่เลยๆ

ร้องไห้ ผอมแห้งแรงน้อยกว่านี้?

ติดกระดูกเลย หนังติดกระดูกเลย อยู่ในบ้านนั่งสงบสติอารมณ์ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงไม่กินอะไรเลย เหมือนคนที่มึนตลอดเวลา ไม่รู้จะทำอะไรต่อในวันพรุ่งนี้

เป็นอยู่นานไหมที่อยู่ในมุมของเจนคนเดียว ในบ้านมุมมืดๆ?

เป็นเดือน จนเพื่อนเป็นห่วงเจนี่มาก จำได้ว่านานากับอลิชามาเคาะประตู เข้ามาไม่ปลอบไม่อะไรเลย แค่มานั่งเป็นเพื่อนจนถึงเที่ยงคืนทุกวัน ไม่พูดกับใครเก็บตัวคนเดียว จนแม่ แม่คนเดียวแค่ทัช บ้านเจนี่กับบ้านหม่ามี๊จะอยู่ติดกัน เหมือนพี่เลี้ยงทำข้าวมาให้กินพอพี่เลี้ยงเก็บข้าวออกไป เหมือนแม่คงเห็นว่าเจนไม่กินข้าว แม่เลยเอาข้าวมาให้แต่เราก็ยังทำฟอร์มว่าแข็งแรง

หม่ามี๊เดินเอาข้าวมาวางให้ที่โต๊ะ กำลังจะหยิบกินแบบไม่สบตาหม่ามี๊แล้วก็ทำเป็นเหมือนจะกินข้าวแต่ไม่กินนะ แล้วแม่ก็มาลูกหลัง ซึ่งแม่เป็นคนที่แข็งแรงมากไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ลูกเห็นเหมือนกัน หม่ามี๊ก็ลูบหลังแล้วก็บอกว่า “อ่อนแอบ้างก็ได้นะลูก”

เจนก็ยังไม่มองหน้าอีก แล้วก็พูดว่า “รู้ไหมว่าหนูอะทุกข์มากเท่าไร หม่ามี๊ทุกข์มากกว่าเจนี่อีก 10 เท่า” เจนน้ำตาหล่นใส่ข้าวแล้วไม่มองหน้าแม่ด้วย ไม่สะอึกด้วยนะเหมือนจะพยายามกลั้นให้ได้มากที่สุด แต่มันทนไม่ไหว ตอบกลับไป “ค่ะ” คำเดียว หลังจากนั้นเป็นต้นมาเจนรู้เลยว่าวันนี้เจนจะอยู่เพื่อหม่ามี๊

แสดงว่าก่อนหน้านี้คิดว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่?

เออใช่ เจนเคยคิดว่า เราไม่รู้จะอยู่ไปทำไม มันเหมือนใครๆ ก็ไม่รัก เคยรู้สึกว่าถ้าเราไปโลกมันก็คงจะดีขึ้นมั้ง สวยขึ้นมั้ง

แต่ไม่เคยทำอะไรเพื่ออยากจะให้ตัวเองไป?

มันเป็นแค่ความคิดชั่ววูบมากๆ มันมีทั้งขาวกับดำวิ่งเข้ามา มันอยู่ที่ว่าเราหนึ่งวินาทีตอนนั้นเราจะขวาหรือจะซ้ายดี

ความโชคดีคือมีสติ?

ใช่ ฟ้ายังมีตา เทวดายังคุ้มครองจริงๆ

ถามจริง เรื่องนี้มันยังเป็นปมในใจเราไหม?

ไม่ มันเป็นบทเรียนมากกว่า มันทำให้เจนี่เป็นเจนี่อย่างทุกวันนี้ เราอย่าไปโทษอดีต ทุกอย่างเป็นบทเรียน ทำให้เจนเดินอย่างช้าๆ ค่อยๆ เดิน แล้วรู้ว่าวันนี้เจนต้องไปทางไหน ถ้าเจนไม่มีวันนั้นเจนอาจจะสอนโนล่าอย่างวันนี้ไม่ได้นะ ทุกอย่างในชีวิตเจนไม่เคยรู้สึกเสียใจเลย เราขอบคุณสิ่งที่ต้องเจอเป็นบทเรียนที่ทำให้เราเป็นเราจนถึงทุกวันนี้

จุดไหนถึงจากแม่แล้วเป็นมาธรรมะ?

เราคิดว่าเราลองนั่งนิ่งๆ ซิ ว่าเราจะทำอะไรต่อได้ แล้วก็ลองสวดมนต์ดูเริ่มจากบทเล็กๆ แล้วก็ลองนั่งสมาธิ ในเมื่อตอนนั้นไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ก็ลองซักนิดดูก่อน จาก 1 นาที เป็น 2 นาที จากบทเล็กเป็นบทใหญ่ ต้องบอกว่าสิ่งมหัศจรรย์มันเกิดขึ้นจริงๆ