Inside Dara
เปิดใจครั้งแรก! พีพี ลั่นไม่ผิด โต้พังรัก หยก ไม่เคยคิดเกินเลย แอมป์

พีพี พัชญา เปิดใจครั้งแรกหลังเก็บตัวนานเกือบครึ่งปี จากกรณีที่โดนมองว่าเป็นมือที่สามทำรักของนางร้ายสาว หยก ธัญยกันต์ และ แอมป์ พีรวัศ พังไม่เป็นท่า เจ้าตัวยืนยันความสัมพันธ์กับแอมป์แค่พี่น้อง ส่วนไลน์หลุดก็เป็นการพูดคุยตามประสาคนไม่เจอกันนาน รับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญของชีวิต

หลังจากถูกมองว่าเป็นต้นเหตุทำให้ต้นรักของนางร้าย หยก ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ และ แอมป์ พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ ล้มไม่เป็นท่า เพราะนางเอกน้องใหม่ พีพี พัชญา เพียรเสมอ เข้ามาเป็นมือที่สาม ที่เป็นข่าวฮอตตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แม้ทั้งหยกและแอมป์ จะออกมาเคลียร์ตัวเองกันหลายต่อหลายรอบแล้ว แต่สำหรับสาวพีพี ยังคงเก็บตัวเงียบ ไม่ออกสื่อและชี้แจงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ล่าสุดนางเอกน้องใหม่พีพี พัชญา เพิ่งจะได้ออกมาเคลียร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่อง ซึ่งสาวพีพี จะชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวนี้ว่าอย่างไร ไปฟังจากปากของเจ้าตัวกันเลย

“ข่าวมือที่สาม แอมป์ หยก เป็นครั้งแรกที่ออกมาชี้แจงค่ะ ความจริงมันไม่ได้มีอะไรเลย วันที่เกิดเรื่องไม่รู้เรื่องเลยค่ะ คุณแม่ค่อนข้างเครียด พยายามโทรไปปรับความเข้าใจทั้ง 3 คน แต่ก็ไม่มีการตอบรับกลับมา หนูค่อยข้างตกใจกับข่าวมาก แต่ยืนยันไม่ได้คิดกับพี่แอมป์เกินเลยมากกว่าพี่น้อง ภาพคู่เราถ่ายกันปกติในกองค่ะ คำพูดในไลน์เป็นการพูดคิดถึงในความรู้สึกพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันนาน และอีกอย่างเนื้อหาที่เผยแพร่ไปก็ไม่ครบถ้วนด้วย ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ที่ไม่เคยออกมาชี้แจงเพราะหนูต้องรอคำตัดสินใจทางผู้ใหญ่ก่อน และอีกอย่างหนูไม่ได้ผิด ทางบ้านเลยไม่อยากให้ยุ่งกับเรื่องนี้ อยากให้หนูโฟกัสไปที่เรื่องอื่นมากกว่าค่ะ หนูเชื่อว่าชีวิตคนเราไม่ได้สวยงามเสมอไป ต้องมีอะไรให้ได้เรียนรู้ค่ะ ทางผู้ใหญ่ก็บอกหนูว่าอย่าไปตอบโต้รุ่นพี่ด้วยค่ะ ตอนนี้ในไอจีก็ยังถูกโจมตีบ้างแต่มันก็เป็นแค่ความเห็นส่วนบุคคล และหนูก็ไม่เคยปิดไอจีหนี เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ถึงกับเครียดนะคะแต่อยากให้ทุกคนเข้าใจมากกว่า

หลังจากเกิดเรื่อง ทางพี่แอมป์ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้ออกมาให้พูดอะไรนะคะ ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้คุยกับพี่หยกเลยค่ะ แต่ทางพี่แอมป์คุณแม่โทรไปคุยบ้าง และหนูเชื่อว่าพี่หยกคงไม่อยากเคลียร์แล้วละคะ เรื่องที่เกิดน่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่า จากนี้ไปถ้าพี่ทั้งสองคนกลับมาคบกันหรืออยู่ในสถานะใดก็ตาม ก็เคารพการตัดสินใจค่ะ หากมีงานติดต่อมา หนูยินดีร่วมงานนะคะ ส่วนเรื่องคนมองเป็นผู้หญิงแรง อยากให้เวลาเป็นตัวตัดสินดีกว่าค่ะ ยอมรับว่าต่อไปต้องระมัดระวังตัวเองมากขึ้น เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของชีวิตค่ะ อยากจะบอกกับทุกคนว่า ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง ให้เสรีภาพความคิดกับทุกคน หนูเชื่อว่าเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์อะไรหลายอย่างได้ และหนูขอยืนยันว่าหนูไม่ใช่มือที่สามแน่นอนค่ะ”.