Inside Dara
วันที่เลิกกัน แต่รักของ ‘พลอย’ ยังคงอยู่

เป็นนางเอกสาวคิวทองที่หาตัวจับยากคนหนึ่งของวงการบันเทิง สำหรับสาว พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ซึ่งนอกจากฝีมือการแสดงที่ทุกคนยอมรับแล้ว เชื่อว่าวินาทีนี้หลาย ๆ คนคงจับตามองในเรื่อง “ความรัก” กับอดีตหวานใจดีกรีดอกเตอร์ นาวิน ต้าร์-นาวิน เยาวพลกุล ที่เพิ่งเลิกรากันไปไม่นานมานี้

อัพเดทผลงาน?

“ตอนนี้พลอยถ่ายละคร 2 เรื่อง คือ “มาดามดัน” แล้วก็ “สามีตีตรา” บุคลิกทั้งสองเรื่องคนละคาแรกเตอร์เลย คือเป็นช่วงจังหวะที่หลายคนอยากให้พลอยกลับมาเล่นแนวนี้ เล่นเป็นคนดี เล่นคอมเมดี้บ้าง ที่ผ่านมาพลอยจะเล่นแต่ดราม่าหนัก ๆ มาทางสายโหด ใน “มาดามดัน” จะเป็นบทสบาย ๆ น่ารัก ได้เล่นกับ มาริโอ้ น้องชายด้วย ส่วน “สามีตีตรา” จะแซบมาก เป็นการเอากลับมาทำครั้งที่ 3 แล้ว นางเอกคนแรกคือ พี่นก-จริยา คนที่ 2 คือ พี่แอนทองประสม คนที่ 3 คือ พลอย- เฌอมาลย์ แล้วยังมีพี่แอนมาเป็นผู้จัด แล้วพี่นกมาเล่นเป็นคุณแม่ด้วยก็ยิ่งแซบ สบายเลยเพราะทุกคนช่วยเหลือเราเต็มที่ เราก็ลุ้นเพราะเห็นว่าพี่แอนตั้งใจมาก เราอยากทำออกมาให้ดีที่สุด เราพยายามเต็มที่ แต่เสร็จ 2 เรื่องนี้ พลอยก็ต้องถ่ายหนังต่ออีก 2 เรื่อง ซึ่งอาจจะข้ามไปถึงต้นปีหน้า หลังจากนั้นจะถ่ายละครกลางปีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น ปีหน้าคงไม่รับละครแล้ว เพราะว่าเหนื่อยจริง ๆ อย่างมาทริปนี้กับ บ.เบลล์เพอร์ฟูมส์ ก็ถือเป็นโอกาสได้พักไปด้วย บางทีเราต้องอยู่กับการแสดงทุกวันมันก็จะบ้า นี่ถ้าไม่กินข้าวทุกวันก็คงผอม นี่คือกิน ๆ ให้ตัวเองไม่โทรม”

ทำงานหนักขนาดนี้ดูแลตัวเองยังไง?

“ว่างก็พัก แค่นี้เลย พลอยว่างพลอยก็พักเต็มที่ ช่วงนี้ไม่ค่อยออกกำลังกาย เลยไม่ค่อยมีแรง ไปหาหมอ นอนให้วิตามินอย่างเดียว แล้วกินอาหารเสริม พลอยพักผ่อนน้อยเลยป่วยบ่อย บางทีกลับบ้านยังไม่อาบน้ำเลย ตายคาโซฟา เป็นอย่างนี้เกือบทุกวันแล้ว ตอนหลัง ๆ เพราะไม่ไหว ชีวิตพลอยเหมือนนักเรียนประจำ ตื่นตี 5 อาบน้ำ แปรงฟัน ไปถึงกอง 7 โมงเช้า 4 ทุ่มกลับบ้าน มันเป็นแบบนี้ติดต่อกันมาหลายปีมากแล้ว เดือนนึงบางทีว่างแค่ 2 วัน เป็นวันที่เราต้องทำธุระส่วนตัว เราก็ต้องทำทุกอย่าง เจอคุณยาย เจอคุณแม่ เจอเพื่อน จ่ายค่าโทรศัพท์ มันก็หมดเวลาแล้ว”

ดูพลอยผูกพันกับคุณยายมาก?

“พลอยติดยายมาก แม่ก็ติด แต่แม่แหม่มจะดื้อ คุณยายก็ดื้อ แต่พลอยติดยาย เพราะยายเลี้ยงพลอยมาตั้งแต่เด็กค่ะ เขาเป็นผู้หญิงที่เก่ง มีลูกตั้ง 9 คน เขาอายุเยอะ เรามีเวลาให้เขาน้อย เขาก็มีเวลาให้เราน้อยเหมือนกัน ฉะนั้นอะไรที่ให้เขาเป็นนัมเบอร์วันได้ พลอยก็จะให้เขาก่อน เพราะเขามีเวลาให้พลอยน้อยแล้ว ให้ก่อนทุกเรื่อง คนในครอบครัวต้องมาก่อน ถามว่าติดเพื่อนไหมก็ติดนะ ติดมานานแล้ว คือถ้าเรามีเวลาอยู่กับคนอื่นได้บ้างก็อยากอยู่ เพราะว่าทุกวันนี้พลอยใช้เวลาอยู่กับช่างไฟในกองมากกว่าเพื่อน มากกว่าคนในบ้าน พลอยเจอแม่น้อยมาก พี่นุ่นปีนึงเจอกันกี่ครั้งเอง ชีวิตเรามันมีแต่คำว่า...งาน...งาน...งาน ฉะนั้นถ้ามีเวลาว่าง ก็อยากให้เวลากับตัวเอง กับคนที่เรารัก เป็นเรื่องธรรมดา”

มาถึงทุกวันนี้วงการบันเทิงให้อะไรกับพลอยบ้าง?

“พลอยเล่นละครมาตั้งแต่เด็ก ๆ เกือบ 20 ปีแล้ว เรียกได้ว่าทั้งชีวิต เราได้อะไรเยอะแยะ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกมองมุมไหน เด็ก ๆ พลอยเป็นคนโลกสวย แต่พอโตมาอยู่วงการบันเทิงมันทำให้เรารู้ว่าโลกไม่ได้สวยอย่างที่คิด พลอยไม่เคยได้อะไรมาง่าย ๆ พลอยไม่เหมือนดารารุ่นใหม่ที่ทำงานมาแค่ 1-2 ปี แล้วดังเป็นพลุแตก พลอยลุยมาตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ตั้งแต่งานโฆษณา พลอยก้าวมาทีละขั้นบันได พลอยไม่ได้กระโดดขึ้นลิฟต์ เราได้ทุกอย่างมาด้วยความยากลำบาก ต้องสู้ ต้องฝ่าฟันเยอะ เพราะสิ่งที่พลอยทำมันไม่เหมือนคนอื่น เราเลือกที่จะเล่นบทดราม่า บทร้าย ซึ่งคนมองว่าถ้าดาราคนไหนเล่นบทร้ายชีวิตจริงต้องเป็นแบบนั้น แต่เราก็ยืนกรานที่จะทำแบบนั้นเพราะเราไม่ใช่ มีคนด่าเราตั้งแต่เล่นละครเรื่อง “หน้าต่างบานแรก” ว่ามันก็เป็นเด็กใจแตก ท้องก่อนแต่งเหมือนละครที่มันเล่นนั่นแหละ คือตอนนั้นพลอยอายุแค่ 17 ปี บทแบบนี้ไม่มีใครอยากเล่น เพราะทุกคนอยากมีภาพลักษณ์ดี ๆ แต่พลอยคิดว่ามันคืองาน เราอยากพิสูจน์ตัวเอง แล้วอย่างที่เห็นทุกวันนี้เราอยู่ในจุดที่ดี เราทำอะไรเราต้องรู้จักคุณค่าของตัวเอง ไม่ดูถูกอาชีพของเรา และไม่สูญเสียความเป็นตัวเองไป พลอยเป็นฟรีแลนซ์ไม่มีสังกัด ไม่มีใครดัน ไม่มีผู้จัดการ เลยลำบากกว่าคนอื่น แต่ไม่เสียใจ เพราะนี่คือสิ่งที่เราเลือก พลอยไม่ได้ให้ใครเลือก”

พอถึงจุดที่ประสบความสำเร็จ ทุกคนก็พร้อมจะสปอยเรา?

“เป็นธรรมดา วันหนึ่งถ้าเราไม่ได้เป็นใครเขาก็ไม่ได้มาสนใจเราหรอก มันมีหลายเหตุผล แต่บางคนเขาทำเพราะเขาชื่นชอบเรา อยากให้เรามีความสุข แต่สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้อยู่ตลอดไป ความสุขมันไม่ได้อยู่กับเราตลอด ความทุกข์มันก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอด ไม่ว่าความสุขหรือความทุกข์ เพราะฉะนั้นถ้ามองแบบนี้เราจะไม่คิดอะไร มันจะเป็นสิ่งที่เข้ามาแล้วผ่านไป”

วางแผนในวงการบันเทิงอย่างไร?

“ไม่วางเลย พลอยก็ทำเท่าที่ตัวเองตั้งใจไป เดี๋ยวมันก็จะมีเรื่องดี ๆเข้ามาเอง”

คนมองว่าเราเป็นขาวีนขาเหวี่ยง น้อยใจบ้างไหม?

“ชัวร์ น้อยใจอยู่แล้ว น้อยใจมาก น้อยใจตลอดเวลา ถ้ามองดี ๆ ชีวิตพลอยไม่เคยง่าย ชีวิตเรายากมาก แล้วก็ชอบอยู่เฉย ๆ แล้วมีคนมารังแก แล้วคนนั้นสามารถปรับเปลี่ยนสถานการณ์ให้เราดูผิดได้ มันชอบมีเรื่องซวย ๆ เข้ามาตลอด แล้วเอะอะ ก็มีเรื่องอะไร คนก็จะอ๋อ...พลอยมันไม่ใช่คนดี มันเป็นอย่างนี้ พลอยน้อยใจมีความรู้สึกบ้าง แต่พอมันเกิดอะไรหลาย ๆ อย่าง พลอยก็หันหน้าเข้าหาพระเจ้าอย่างเดียว แล้วพลอยก็รู้สึกว่าพลอยสงบแล้วก็เปลี่ยนแปลง”

ช่วงหลัง ๆ ดูใจเย็นมากขึ้น?

“มันอยู่ที่ใจเราด้วยค่ะ ว่าเราซึมซับอะไรมา เพราะสิ่งที่อยู่รอบข้างมันไม่ได้ทำให้พลอยใจเย็นเลย มันยั่วยุให้เรามีอารมณ์ตลอดเวลา แต่สิ่งที่พลอยสัมผัสอยู่มันทำให้พลอยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ แล้วทุกคนก็รับรู้ในการเปลี่ยนแปลงของพลอย คริสเตียนสอนให้เราอ่อน น้อมถ่อมตนกับทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าเรื่องที่มันจะหนักหนาขนาดไหน เพราะมันเป็นประสงค์ของพระองค์ที่จะขัดเกลาให้เรามีคุณภาพมากขึ้น อดทน อดกลั้นมากขึ้น แล้วเราจะได้ความรัก ความเมตตาจากทุก ๆ คนกลับมา พลอยคิดว่าสิ่งที่พลอยเชื่ออยู่ตอนนี้มันมีอยู่จริงเพราะก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลง พลอยได้”

พลอยชอบขึ้นคำสอนในอินสตาแกรม?

“ใช่ พลอยอยากจะแชร์ให้ทุกคนรู้ พลอยโฟกัสที่ความรักนะ แต่พลอยไม่ได้บอกว่ารักของพลอยมันดี แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ มุมมองที่เราจะแบ่งปันให้กับผู้อื่น การช่วยเหลือกัน การแบ่งปัน การให้อภัย ให้กับคนอื่นที่เราอ่านในไบเบิ้ล เพื่อเป็นพระพรให้กับทุกคน”

ความรักตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

“ไม่เป็นไง ยังปกติ เราก็ต้องโอเค หลาย ๆ คนคิดว่าพลอยไม่เฮิร์ต แต่พลอยเฮิร์ตนะ แต่พลอยไม่จำเป็นต้องแสดง แต่คนที่อยู่รอบ ๆ ข้างพลอยเขารู้ว่า...พลอยเสียใจ เราเสียใจกันหมด ทำยังไงได้ มันไม่มีเวลาเลย พลอยไม่เคยเลิกกับใครเพราะเรื่องเวลามาก่อนในชีวิต ถ้าผู้ชายเลิกกับเรา เพราะเขาไปมีคนอื่นมันยังง่ายกว่าที่เลิกกันเพราะเรื่องนี้ เขาไม่ผิด เราไม่ผิด มันแย่ แต่ถ้ารักอันนั้นมันมีอยู่จริงเขาก็จะกลับมา ถ้ากาลเวลามันทำให้คนเปลี่ยน มันไม่สามารถกลับมาได้แล้ว มันก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป พลอยยอมเสี่ยงที่จะได้เกิดโอกาสที่ดีกว่า พลอยไม่รู้ว่าจะมีอะไรที่ดีกว่าไหม พลอยไม่ได้พูดว่าพลอยจะเจอใครที่ดีกว่าพี่ต้าร์ พลอยเชื่อว่าพี่ต้าร์เป็นคนที่ดีมาก รักพลอยที่สุดเท่าที่พลอยเคยเจอมา เขาดูแลพลอยดีมาก ให้พลอยได้ทุกอย่าง แต่พลอยคิดว่า ณ จุดนี้ สถานการณ์มันเป็นแบบนี้ พลอยต้องเลือกที่จะเสี่ยง เพื่อที่มันจะมีอะไรที่แข็งแรงกว่านี้ไหม ให้เป็นเรื่องของเวลา โอกาส และพรหมลิขิต”

เชื่อในพรหมลิขิตไหม?

“เชื่อค่ะ เวลาพลอยรู้สึกรักใครพลอยไม่ได้หยุดรักง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ที่เข้ามาในชีวิตพลอย พลอยเคยรักเขามากขนาดไหน ความรักมันก็ยังมีอยู่ มันยังห่วงใย มันยังมีอยู่จริงนะ แต่บางคนอาจจะเปลี่ยนสถานะเป็นเพื่อน เป็นพี่ แต่ความรักมันยังคงอยู่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมาเป็นที่หนึ่งในใจเรา ต้องดู เพราะหัวใจพลอยมีแค่สี่ห้อง ทุกคนก็อยากเป็นที่หนึ่ง แต่ที่หนึ่งในใจพลอยก็เยอะมาก เยอะเหลือเกิน (หัวเราะ)”

แต่หลายคนมองว่าเลิกกันแล้วเกลียดกัน จบแบบไม่ดี?

“พลอยว่าแล้วแต่คนจะมอง คนสองคนเลิกกัน มันง่ายกว่าที่เลิกกันทั้งประเทศ เพราะนักแสดงเวลาเลิกกัน มีปัญหากัน มันกลายเป็นว่าเรามีปัญหากับคนทั้งประเทศ เราต้องหนักแน่น และต้องใจเย็นมาก ๆ อย่างพลอยเลิกกับพี่ต้าร์ คนนี้เอาพลอยมาพูดแบบนี้ เอาพี่ต้าร์มาพูดแบบนี้ เห็นพี่ต้าร์ที่โน่นที่นี่ เห็นพลอยทำอย่างโน้นอย่างนี้ มันทำให้รู้เลยว่าคนมันชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านมากแค่ไหน แต่พลอยดีใจถ้าเรื่องของพลอยทำให้ชีวิตคุณมีสีสัน มีเรื่องพูดระหว่างขึ้นรถไฟฟ้าก็โอเค พลอยเชื่อว่าสิ่งที่พลอยพูดมาทั้งหมด ถ้าคนได้อ่านบทสัมภาษณ์พลอยคงจะไม่ทำ พลอยคิดว่าความรักมันเป็นเรื่องดี แต่อย่าทำพังด้วยการที่พอเรามีความเห็นไม่ตรงกันแล้วต้องทำให้มันแตก ทำไมต้องทำร้ายกัน ถ้าเรารักกันจริง ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง ศักดิ์ศรีคงไม่เกี่ยว พลอยว่านะ มันไม่มีว่าใครทิ้งใครก่อน แล้วศักดิ์ศรีมันจะด้อยค่า ฉันจะเสียคุณค่ามันไม่เกี่ยว ถ้าเรามองความรักเป็นเรื่องใหญ่ เป็นที่หนึ่งในใจเรา จะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องรับให้ได้ แล้วก็ทำให้มันสวยงามที่สุด ไม่ให้ใครเจ็บมากที่สุด”

มุมมองความรักเปลี่ยนไปไหม?

“ไม่เคยเปลี่ยน เลิกกับใครก็ไม่เคยเปลี่ยน (ยิ้ม) ทุกคนจะถามแบบนี้ตลอดเวลา เป็นคำถามเหมือนกินข้าวหรือยัง คือพลอยยังไม่เชื่อในการแต่งงาน ที่โบสถ์มีถามว่าไปลงคอร์สแต่งงานไหม พลอยก็บอกว่าพลอยยังไม่ต้องการ พลอยยังไม่มีเวลาให้ใครเลย ปัญหาของการหย่าร้างก็คือการแต่งงานนี่แหละ ยิ่งบ้านเราด้วย การแต่งงานมันต้องมีเรื่องของสินสอด เรื่องของหน้าตา การจัดงาน มันเป็นการจัดงานเพื่อคนอื่น พลอยเลยไม่อยากแต่ง พลอยคิดว่าถ้าใครรักเราจริง ๆ เขาจะอยู่กับเราไปตลอด ไม่ว่าจะสถานะไหน เขาก็จะอยู่กับพลอย กลับมารักพลอย รู้สึกดีกับเรา ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ลืมไปได้เลย”

เห็นว่ามีแวบ ๆ ว่าอยากเก็บไข่ เก็บสเปิร์มไว้มีลูก?

“เคยแวบ ๆ อยู่ในหัว เพราะคนที่บ้านรอบตัวกดดันพลอยไง ถามว่าพลอยอยากมีลูกไหมก็อยากมี แต่ไม่อยากท้อง ไม่อยากมีสามี ผิดต่อศาสนาทุกอย่าง (หัวเราะ) คือเราอยากให้พี่นุ่นท้องให้ด้วยซ้ำ แล้วเอาไข่ของเราเอาสเปิร์มของใครก็ได้ ต่างชาติพันธ์ุดี หน้าตาสวยมาใส่ คือคิดประหลาด เราไม่อยากท้องเพราะว่ามันเอาความสาวเราไปหมดเลย พลอยทำงานหนักมาทั้งชีวิต พลอยต้องมานั่งเลี้ยงลูกเหรอ มันไม่ไหวนะ มันอยู่ในระหว่างการชั่งใจ คือตอนนี้พลอยอายุ 30 แล้ว พลอยอายุ 50 ปี ลูกอายุ 20 ปี แล้วต้องมาไล่ตามเด็กคนหนึ่งที่มันเป็นลูกเราก็ไม่ไหว ต้องกังวลว่าเดี๋ยวแกจะไปติดยาเสพติดไหม แกจะไปท้องก่อนแต่งไหม แกจะไปทำอะไรเสื่อมเสียไหม คือชีวิตเราเหนื่อยมามากพอแล้ว เรายังเห็นแก่ตัวอยู่ ยังต้องให้อะไรกับตัวเอง ก็คิดว่าถ้าพี่นุ่นมีลูกพลอยจะขอเป็นแม่ทูนหัวด้วย แล้วก็เลี้ยงลูกพี่นุ่นไป แต่พี่นุ่นจะมีก่อนหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่แน่ใจ บ้านนี้ผีเข้าผีออก (หัวเราะ)”

คติที่ใช้ชีวิตประจำวันตอนนี้คืออะไร?

“สบาย (เสียงสูง) เวลามีอะไรเกิดขึ้นก็จะพูดคำว่าสบายแล้วทำเสียงสูง โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เรื่องใหม่แล้ว เราพูดทุก ๆ วันบอกกับตัวเองแบบนี้ แล้ว ป้าตือ-สมบัติ สอนพลอยว่า “โลกมีไว้ให้เหยียบ ไม่ได้มีไว้ให้แบก” เลิกแบกได้แล้ว ก็ได้ผลดีขึ้น มันช่วยได้จริง ๆ เราเคยบอกอย่างนี้กับหลาย ๆ คน มันก็เวิร์ก”

สุดท้ายจะฝากอะไรถึงแฟน ๆ?

“ขอบคุณที่คอยอยู่ข้าง ๆ เรา รักและยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ขอบคุณที่ให้กำลังใจทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับในอินสตาแกรม ล้านฟอลโล่แล้วเยอะมาก ครึ่งหนึ่งแม่ค้าฝากร้าน (หัวเราะ) ก็ต้องขอบคุณที่เขาให้กำลังใจเรา ไม่ใช่ว่าพลอยไม่อ่านนะ พลอยอ่านหมด คือเราก็รู้สึกดีกับคำพูดที่ให้กำลังใจ ทุก ๆ คำมันมีความหมาย มันมีผลนะ กับการที่พลอยตื่นขึ้นมา แล้วจะลุกก้าวออกจากบ้าน กำลังใจมันสำคัญมาก ถ้าไม่มีมันเหมือนลูกโป่งโดนเจาะ เหี่ยวไปหมดเลย แต่ทุกครั้งที่เหนื่อยแล้วเปิดอินสตาแกรมอ่าน บางอันก็แคปชั่นไว้เลยนะ มันทำให้เราฟื้นมีสติ ก็ขอบคุณทุกคนมากจริง ๆ ถ้าไม่มีทุกคนพลอยคงอยู่ไม่ได้ เพราะพลอยขาดความรักไม่ได้”

และนี่คือตัวตนจริง ๆ ของพลอย-เฌอมาลย์ ที่ไม่ใช่แค่ “นางเอก” หรือ “นางร้าย” แต่ในจอที่หลาย ๆ คนรู้จัก แต่เธอเป็น “ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง” ที่เชื่อและศรัทธาในความรักมาตลอด!.