Inside Dara
“บุพเพฯ” โมเดล ปรากฏการณ์ “ทองเอกฯ ” กู้วิกฤตช่อง 3

ยอมรับแบบหน้าชื่นตาบานเลยว่าครั้งแรกที่ได้ยินชื่อละคร นึกไปว่าเป็นละครตอนเย็นฟอร์มเล็กๆ“ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง”

แต่มาเปลี่ยนใจก็ตอนเห็นรายนามของนักแสดง“มาริโอ้ เมาเร่อ” กับ “คิมเบอร์รี่ แอน เทียมศิริ”ก็รับรู้ได้โดยพลันว่า นักแสดงเบอร์นี้ย่อมต้องไม่ใช่ละครฟอร์มไก่กาแน่นอน แต่น่าจะซ่อนอะไรดีๆ ไว้ให้ค้นหาอีกเพียบ

สมมติว่าถ้าตัดชื่อละครที่ฟังดูไม่ค่อยรื่นหู (ในช่วงแรก) ออกไป ต้องบอกว่าการพบกันของพระ-นางคู่นี้ก็เรียกว่าทำให้หน้าละครน่าสนใจมากเลยทีเดียว

หนึ่ง..... เพราะเป็นการจับคู่กันครั้งแรกสอง .... ดูจากทีเซอร์ตัวอย่างแล้ว ถือว่าเป็นการฉีกคาแรกเตอร์โดยสิ้นเชิงของนางเอกอย่างคิมเบอร์รี่ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่เคยลงมาเล่นละครในสายคอเมดี้เพียวๆ ขนาดนี้มาก่อน มากสุดก็ละครโรแมนติกคอเมดี้สไตล์จิกหมอนนอนฟิน ซึ่งแฟนละครคงเห็นกันจนชินตา

ส่วนฝั่งของพระเอกอย่างมาริโอ้นั้น สไตล์คอเมดี้แบบนี้นี้ต้องถือว่าเป็นแนวถนัด และเข้าทางมากกว่าเวลาไปแสดงบทดรามาเข้มเชือดเฉือนอารมณ์ ซึ่งก็เป็นความจงใจของทางผู้จัด ที่เจตนาใช้ภาพจำของ “พี่มากพระโขนง” มาเปิดหัวแหวนให้กับละครเลยนี้

เพราะยุคนี้ อะไรที่สามารถตีหัวเข้าบ้านได้ ก็ต้องรีบทำ ด้วยว่าสถานการณ์ของช่อง 3 ไม่ได้เอื้ออำนวยให้สามารถจะเรื่อยๆ มาเรียงๆ ได้อีกแล้ว

ความหวั่นวิตกอย่างเดียวก็คือ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ดันมาลงโปรแกรมออกอากาศต่อจาก “บ่วงนฤมิต” ที่สร้างสถิติเป็นละครหลังข่าวที่ทำเรตติ้งต่ำเตี้ยที่สุดในประวัติศาสตร์ของช่อง 3 มีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องเพียงแค่ 1.767 เท่านั้น ด้วยสาเหตุอันเนื่องกระแสการต่อต้านนางเอก “แมท-ภิรนีย์ คงไทย” ที่สะท้านสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งตึกมาลีนนท์ ไม่ต่างอะไรกับแผ่นดินไหวระดับร้อยริกเตอร์ และยังส่งผลต่อเนื่องไปยังละคร “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” ที่รีเมกจากซิรีส์เกาหลียอดฮิต “ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว” ซึ่งเล่นประกบกับพระเอกเบอร์หนึ่งอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” โดยบท “ฟ้ารดา” นางเอกของเรื่องนี้นั้น ว่ากันว่าก่อนที่จะเปิดโผว่าเป็นใครจะได้รับไป เป็นบทที่นางเอกเบอร์ต้นหลายคนในช่องล้วนแล้วแต่อยากจะจับจ้องแย่งชิงให้ได้มา แต่สุดท้ายก็กลับตกมาอยู่ในมือของแมท โดยที่ก่อนหน้านั้นทางผู้จัดอย่างบรอดคาซท์ฯ ก็ไมได้ล่วงรู้ว่าแมทจะสร้างคดีดาวคดีดังจนส่งผลกระทบมาถึงละครฟอร์มยักษ์ที่เป็นความหวังของช่องอย่างนี้

แต่พอละครออกอากาศไปได้เพียงตอนแรก เมื่อคืนวันพฤหัสที่ 31 มกราคม ต้องบอกว่า ความหวั่นวิตกในเรื่องดังกล่าวมลายหายสิ้นไปทันที ไม่เพียงเท่านั้นยังถือเป็นการจุดประกายความหวังของช่อง 3 ที่ริบหรี่จวนเจียนจะดับมอดลงไปแล้ว ให้กลับมาลุกโชติช่วงชัชวาลอีกครั้ง

ด้วยตัวเลขเรตติ้งตอนแรกที่กวาดไปได้ถึง 4.006 นั้น ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว

โดยเฉพาะถ้านำไปวัดกับละครที่สร้างประวัติการณ์ให้กับช่อง 3 ในปีที่แล้วอย่าง “บุพเพสันนิวาส” ที่เริ่มต้นออกอากาศในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คือช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทำไปได้ 3.417 ก็ต้องถือว่า “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ออกสตาร์ทได้แรงกว่า

เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าปลายทางจะดันไปได้สูงกว่าสถิติเดิมของ “บุพเพสันนิวาส” ที่กวาดเรตติ้งจากทั่วประเทศไปได้ถึง 18.6 ได้หรือไม่นั้น !!??? ก็ต้องตามติดกันต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยการออกสตาร์ทของ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ก็ทำให้สัญญาณชีพของช่อง 3 มีแนวโน้มว่าจะมีจังหวะการเต้นที่ดีขึ้น

ต่อเมื่อลองถอดรหัสความแรงของ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ก็ต้องบอกว่าใช้โมเดลเดียวกับ “บุพเพสันนิวาส” แทบจะทุกกระเบียดเลยทีเดียว

เริ่มจากโครงสร้างของเรื่อง ที่ถือว่าฉีกความซ้ำซากจำเจ ฉีกฟอร์แมตเดิมๆ ของละครที่คนดูเริ่มจะเอียน ไม่ใช่แนวชิงรักหักสวาท ตามล่าล้างแค้น สงครามของแม่ผัวลูกสะใภ้ หรือทายาทเศรษฐีปลอมตัวมาตามหารักแท้

แต่ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” พูดถึงเรื่องของทองเอก หมอยาแผนโบราณ ที่นอกจากจะมุ่งมั่นในการรักษาผู้คนให้รอดพ้นจากโรคร้าย ยังจะต้องต่อสู้กับค่านิยม และความเชื่อทางไสยศาสตร์ของคนไทยในยุคสมัยของรัชกาลที่ 5 ซึ่งถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนว่า ยังไม่มีภาพยนตร์ หรือละครไทยเรื่องไหน ที่ใช้วิชาชีพของแพทย์แผนไทยเป็นแกนหลักในการดำเนินเรื่องแบบนี้

นั่นหมายถึงว่าทั้ง “บุเพสันนิวาส” และ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ก็ล้วนแล้วแต่เป็นละครพีเรียด มีการสอดแทรกวัฒนธรรม ประเพณี เรื่องราว วิถีชีวิต ของผู้คนในยุคสมัยตามเนื้อหาของเรื่อง เพียงแต่ต่างกันที่เรื่องแรกว่าย้อนไปถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนเรื่องหลัง เป็นช่วงกลางของสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนในยุคนี้ ยังคงถวิลหาความงดงามของอดีต แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าละครพีเรียดทุกเรื่องจะต้องประสบความสำเร็จ หากยังต้องพึ่งพาองค์ประกอบอื่นๆ เข้ามาเสริม และส่งอย่างลงตัว

องค์ประกอบดังกล่าว หมายรวมถึงคาแรกเตอร์ของนักแสดงอย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น โดยเฉพาะบทของแม่ชบาที่รับบทโดยนางเอกคิมเบอร์รี่ ที่เล่นแบบไม่ห่วงสวยนั้น ไม่ต่างอะไรกับที่ “เบลล่า-ราณี” เคยทำได้ดีในบทของเกศสุรางค์ ที่อยู่ในร่างของแม่การะเกด

ใน “บุพเพสันนิวาส” มีไอ้จ้อย - อยุธยาคิวท์บอย รวมถึงบรรดาบ่าวไพร่ อย่างอีผิน อีแย้ม อีปริก เป็นตัวชูรส ใน “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ก็มีตัวตามพระ อย่าง “ฟรอยด์–ณัฏฐพงษ์” คู่หูเดิมจาก “พี่มากพระโขนง” รวมถึง “จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม” รวมถึงนักแสดงที่ผันจากนางเอกมาสายฮา อย่าง “แพท-ณปภา” มาเพิ่มอรรถรสให้ละครดูกลมกล่อม และชวนหัวร่อจนงอหายมากขึ้น

“บุพเพสันนิวาส” มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเรื่องของตำรับอาหารคาว-หวาน (นอกเหนือจากเกร็ดความรู้ในเชิงประวัติศาสตร์) ใน “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ก็สอดแทรกสาระน่ารู้เกี่ยวกับตำรับยาแผนโบราณ รวมถึงบรรดาสมุนไพรไทยที่หลายคนอาจจะคุ้นแค่ชื่อ แต่ไม่ได้รู้ลึกไปถึงสรรพคุณเชิงยาอย่างถ่องแท้

และที่ต้องกาดอกจันหมายเหตุตัวเป้งๆ ก็คือเมื่อครั้งที่ “บุพเพสันนิวาส” สร้างปรากฏการณ์ถล่มทลายนั้น ไม่ได้วัดจากตัวเลขของเรตติ้งคนดูทางทีวีอย่างเดียว แต่ยังหมายรวมถึงเรื่องความนิยมในโลกโซเชียลที่มีกระแสมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ก็เช่นเดียวกัน

เพราะตัวเลขของเรตติ้ง ก็สอดคล้องกับกระแสในโลกโซเชียล ซึ่งเพียงแค่ออกอากาศตอนแรกก็สามารถทำให้ แฮชแท็ก #ทองเอกหมอยาท่าโฉลง ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของประเทศไทย ไม่เพียงเท่านั้น แฮชแท็กของละครเรื่องนี้ ยังทะลุเพดานไปติดอันดับ 3 เทรนด์ทวิตเตอร์ของโลกอีกด้วย

กระทั่งยอดวิวของการดูย้อนหลังในเว็บไซต์ยูทูปของ Ep.1 ก็ทะลุไปกว่า 10 ล้านวิว ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

แม้แต่เจ้าของเพจคนดังอย่าง “อีเจี๊ยบเลียบด่วน” ยังต้องเขียนถึง

ไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นช่องทางให้นักการตลาดออนไลน์ทั้งหลาย อาศัยกระแสของละครมาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าอย่างใน “บุพเพสันนิวาส” ก็มีสินค้า และบริการอย่างประเภทที่อิงกระแสของละครมาทำโฆษณา สำหรับ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ก็ส่อเค้าว่าสถานการณ์ไม่น่าจะแตกต่างกัน เพราะขนาดแค่เริ่มต้น ก็เริ่มมีให้เห็นกันบ้างแล้ว

“โป๊บ - เบลล่า” คว้าพรีเซ็นเตอร์คู่กัน ไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัว ก็ไม่แน่ว่า “มาริโอ้ - คิมเบอร์รี่” อาจจะคว้าไปมากกว่า

ด้วยอานิสงส์ของบุพเพฯ โมเดล ที่นำมาสู่ปรากฏการณ์ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” จึงมั่นใจได้ว่า งานนี้เสียงหัวเราะที่เคยเงียบหายไปพักใหญ่ คาดว่าจะดังออกมาจากตึกมาลีนนท์ จนกึกก้องไปทั่วละแวกพระราม 4 อีกครั้งคราหนึ่งอย่างแน่นอน