Inside Dara
เติมฝันในวันสดใสของ'ฉัตร'

กำลังเป็นที่พูดถึงกับบท "กรรณนรี" หรือ "กาว" ในละคร "ไฟมาร" ละครยอดฮิตของช่อง 7 สำหรับนางเอกสาวเลือดใหม่ "ฉัตร-ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร" กับบทบาทการแสดงที่เรียกว่าเข้มข้น ทำให้หลายคนอยากที่จะรู้จักสาวน้อยคนนี้ให้มากขึ้น วันนี้ขอเปิดใจของสาว "ฉัตร" ให้หลายคนได้รู้จักกันว่านางเอกคนนี้ไม่ได้มีแค่หน้าตาเท่านั้น

ละครจานด่วน
เจอละคร "ไฟมาร" ซึ่งเป็นละครจานด่วนถ่ายไปออนแอร์ไป เป็นอย่างไรบ้าง

ช่วงแรกๆ ค่อนข้างกดดัน เพราะฉัตรเอง ไม่เคยเจอละครจานด่วนขนาดนี้ เป็นละครที่ไม่ได้มีถ่ายไว้ก่อนเลยค่อนข้างหนัก ไม่ใช่เฉพาะตัวฉัตร รวมถึงทีมงานทุกคนในละครเรื่องนี้ แต่ถึงหนักแค่ไหนทีมงานก็จะห่วงกลัวฉัตรจะเล่นไม่ได้ เพราะเป็นละครดราม่า ที่มีซีนอารมณ์เยอะมาก แถมยังเป็นละครที่ไม่ได้มีบทไว้ให้ก่อน ทำให้เราไม่ได้มีการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า มาเจอบทหน้ากอง เราไม่ต้องเตรียมอะไรมาเลย นอกจากเตรียมใจมาอย่างเดียว (หัวเราะ) เตรียมใจว่าวันนี้จะมีบทอะไร แต่มันเป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง ว่าทำให้เราลุ้นดี เรื่องนี้ฉัตรรับบทเป็นนักข่าวบันเทิงด้วย เราก็มีทำการบ้านด้วยตัวเองนิดหน่อย ในเรื่องของการต้องติดตามข่าวมากขึ้น เพราะในบทก็มีการสอดแทรกเรื่องของข่าวต่างๆ อัพเดทไว้ด้วย บางครั้งอ่านข่าวนี้ไป ก็แอบคิดไว้เหมือนกันว่าข่าวที่เราอ่าน จะเจออยู่ในบทที่เราจะไปแสดงไหม (ยิ้ม)"

กระแสตอบรับที่กลับมาหลังจากละครออนแอร์ไปเป็นอย่างไรบ้าง

ช่วงนี้ฉัตรถ่ายละคร อยู่ในกองตลอด ไม่ค่อยได้ออกไปไหนเจอกับใคร แต่เพื่อนๆ หรือคนรอบตัวก็จะคอยมาอัพเดทให้ฟังว่าฟีดแบ็กดี ชอบตรงที่ว่านำเรื่องราวที่เป็นพูดถึงในตอนนั้นมาแซกเข้าไปในละครด้วย ทำให้ละครดูเป็นเรื่องราวที่ทันสมัยตลอดเวลา เราก็รู้สึกดีที่หลายคนชอบละครของเรา เพราะทุกคนทำงานกันเต็มที่

บทของ "กรรณนรี" แตกต่างหรือเหมือนกับตัวของ"ฉัตร"ไหม

แตกต่างกันอย่างมาก สำหรับกรรณนรีกับฉัตร เพราะในเรื่องกรรณนรีเป็นนักข่าว จะต้องมีความคล่องแคล้ว ทะมัดทะแมง คิดเร็วทำเร็ว ไม่เหมือนฉัตรเลย คือฉัตรไม่ได้เป็นคนรียบร้อยมาก แต่ก็ไม่ได้คล่องเท่ากับกรรณนรี เลยทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนลุคของตัวเองเยอะมากเลย เพราะกรรณนรีในเรื่องเขาเจอเรื่องราวต่างๆ จนทำให้เขามีความคิด การพูดจาที่เป็นผู้ใหญ่ แต่ก็แฝงไปกด้วยอารมณ์ของเด็กที่มีบ่มของครอบครัว ส่วนเรื่องของการแต่งตัวมีพี่ๆ ทีมงานคอยดูแลให้ตรงตามคาแรกเตอร์อยู่แล้ว

เรื่องนี้ได้มาร่วมงานกับ นุสบา ปุณณกันต์ นางเอกมากฝีมือคนหนึ่งของเมืองไทยเป็นอย่างไงบ้าง

ดีใจมาก เพราะในเรื่องฉัตรเล่นเป็นลูกของพี่นุส พี่นุสเป็นคนที่เก่งมาก เป็นนักแสดงที่มีความสามารถมาก ฉัตรได้ติดตามผลงานของพี่นุสก่อนหน้านี้ ฉัตรชอบมาก พอในเรื่องนี้ได้มาเข้าฉากด้วยกัน พี่นุสเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเราได้เยอะมาก เพราะส่วนใหญ่ที่ฉัตรเข้าฉากกับพี่นุส จะเป็นฉากที่เป็นดราม่าซะส่วนใหญ่ ซึ่งพี่นุสจะคอยส่งอารมณ์ให้ฉัตรเยอะมาก การทำงานกับพี่นุสทำให้ฉัตรได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นเยอะมาก

ฉากไหนในละครเรื่องนี้ที่สำหรับฉัตรยากที่สุด

ยากทุกฉากเลย เพราะในเรื่องนี้ฉัตรมีซีนอารมณ์เยอะทั้งที่เข้าฉากกับพอร์ช (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) และกับพี่นุส ซึ่งความยากในแต่ละฉากก็แตกต่างกันไป การเข้าฉากกับพี่นุสก็จะเป็นอีกอารมณ์ เหมือนแม่กับลูกที่ปมในใจกันและกัน ฉัตรโชคดีที่พี่นุสเป็นนักแสดงที่เก่ง พี่เขาเลยช่วยเหลือส่งอารมณ์ให้เราได้เยอะ กับพอร์ชเองก็ยาก แต่ว่าโชคดีที่เราเคยมีโอกาสได้ร่วมงานกันมาแล้ว ทำให้การปรับจูนอารมณ์กันก็เป็นไปได้ด้วยดี

ชีวิตในโลกมายา
เกือบ 3 ปีในวงการบันเทิง จากเด็กสาวธรรมดามาเป็นดาราเป็นอย่างไงบ้าง

ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก อย่างแรกฉัตรว่าดาราทุกคนเป็นเหมือนกันหมดคือเรื่องของเวลา เวลาของเราไม่เหมือนของคนอื่น เราไม่สามารถที่จะบอกได้ว่างานเราจะเสร็จเมื่อไหร่ หรือจะเป็นเรื่องการไปไหนมาไหน เราไม่สามารถที่จะไปไหนมาไหนได้แบบที่ไม่คิดอะไร ต้องยอมรับว่าเราก็ต้องดูแลในเรื่องของภาพลักษณ์ ที่จะออกไปด้วย ต้องระวังตัวมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่งานนี้ให้กับฉัตรคือทำให้เราโตขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น ฉัตรว่าทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วย ว่าเราแบ่งแยกได้ดีแค่ไหน ซึ่งฉัตรเองก็พยายามทำให้เต็มที่ แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะเอาเรื่องของที่ว่าเราเป็นดารามาเป็นความกดดันว่าทำนั้นไม่ได้ ทำนี่ไม่ได้ คือเราก็พยายามใช้ชีวิตปกติ แต่แค่ต้องระวังตัวมากหน่อยแค่นั้น

คิดไหมว่าถ้าไม่มายืนอยู่ตรงนี้"ฉัตร"จะเป็นอย่างไร

ฉัตรว่าฉัตรก็คงเป็นเหมือนเด็กปกติ ช่วงเรียนก็เรียน ทำกิจกรรมต่างๆ ตามแบบ ที่เด็กวัยรุ่นทั่วไปทำ หากเรียนจบออกมาก็ทำงานในสายที่เราเรียนมา เพราะตัวตนฉัตรจริงๆ ก็ไม่ได้มีชีวิตที่แตกต่างจากเด็กวัยรุ่นทั่วไป ฉัตรเองไม่ได้เป็นคนที่เรียบร้อย เป็นผ้าพับไว้อย่างที่ใครหลายๆ คนเข้าใจ เป็นคนออกแนวลุยๆ หน่อยด้วยซ้ำ แต่ไม่ถึงขั้นห้าวมากมาย (ยิ้ม) แต่ก็มีมุมที่สู้คนเหมือนกัน อย่างหากคน ที่ไม่ได้สนิท เราก็อาจจะไม่ได้เข้าไปพูดคุยด้วย ถ้าสนิทด้วยก็พูดคุยด้วย แต่ไม่ได้พูดเก่งอะไร เพราะฉัตรจะเป็นแนวผู้ฟังมากกว่า

เรื่องราวนอกจอ
ตอนนี้เห็นว่าเรียนปี 4 คณะบัญชี ม.เกษตรฯ กำลังจะจบแล้ว แบ่งเวลาเรื่องเรียนกับเรื่องงานอย่างไร

เรื่องการเรียน กับเรื่องของงานค่อนข้างแบ่งยากมาก เราอาจจะคิดว่า เราก็แบ่งแบบนั้นแบบนี้ตามตารางที่วางไว้ แต่พอทำจริงๆ มันยากมาก ฉัตรเองทุกวันนี้ ยังเรียนอยู่ ไม่ได้ดร็อปเรียนไป เพราะว่าฉัตรอยากที่จะจบพร้อมเพื่อนๆ คือจบตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งตอนนี้ก็เหลือประมาณอีกหนึ่งเทอม แต่ด้วยว่าละครเรื่องนี้ ต้องถ่ายทุกวัน เพราะถ่ายไปออกอากาศไป เราเลยต้องเทให้กับละคร แต่เทอมนี้ฉัตรเองลงเรียนไว้เยอะเหมือนกัน แต่คิดว่าถ้าถ่ายละครเสร็จ แล้วไปเร่งตามเพื่อน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ฉัตรอยากจบให้ทันเพื่อนๆ แต่คุณพ่อคุณแม่ฉัตรเอง ก็ค่อนข้างห่วง จะบอกเราว่าไม่เป็นไร จบช้าหน่อยก็ได้ เขากลัวเราจะเหนื่อยเกินไป ถ้าเป็นละครถ้าไม่ถ่ายทุกวัน เราก็แบ่งไปตามงานกับเพื่อน

มาเรื่องของครอบครัวบ้าง ชีวิตครอบครัว "ฉัตร" เป็นอย่างไร

ครอบครัวฉัตร เป็นครอบครัวปกติธรรมดามาก มีคุณพ่อคุณแม่ และมีน้องชาย ฉัตรกับน้องชายอายุห่างกันปีเดียว เลยทำให้เราเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า แล้วเป็นพี่น้องที่คุยกันได้ทุกเรื่อง แต่น้องชายเป็นประเภทที่ ไม่ได้หวงพี่สาว แต่ห่วงมากกว่า ไม่ค่อยมีอารมณ์ที่แบบว่าพี่สาวเป็นดารา หรือชมว่าพี่สาวสวยเลย บางทีก็จะออกไปเที่ยวด้วยกัน แล้วก็นัดกันว่าจะแต่งตัวเหมือนกัน หรือเวลาที่ฉัตรจะไปงานต่างๆ เขาเองก็จะมีแบบดูเรื่องของการแต่งตัวให้ แต่ไม่ถึงขนาดห้ามแต่งตัวโป๊หรืออะไร เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า เราไม่ใช่คนแต่งตัวในแบบนั้น

เห็นว่าไปไหนมาไหนก็จะมีคุณแม่คอยตามไปคุมด้วยตลอด

แม่คอยตามไปไหนมาไหนด้วยมากกว่า ไม่ถึงขนาดที่ว่าตามไปคุม อย่างบางทีเราทำงานใกล้ๆ บ้าน แม่ก็จะมาส่ง แล้วก็กลับไปบ้าน เมื่อเสร็จงานก็จะกลับมารับ หรือถ้าไปไหนมาไหนไกลๆ แม่ก็จะคอยไปเป็นเพื่อน เพราะแม่เขาก็ห่วงเราอย่างที่แม่ทุกคนเป็นห่วงลูก

หัวใจไร้หนุ่ม
มีข่าวกับหนุ่มๆ ทั้ง "พอร์ช-ศรัณย์" ทั้ง "กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ" จริงๆ หัวใจมีคนจับจ้องหรือยัง

ไม่มีเลย เรื่องของข่าวทั้งกับพอร์ช เราทำงานด้วยกัน ส่วนใหญ่เขาจะแกล้งฉัตรมากกว่า ไม่ได้มีอะไรกันเป็นพิเศษ เป็นเพื่อนร่วมงานกัน ส่วนกับกันเอง เราไม่ได้เจอกันมาพักใหญ่แล้ว เพราะเราต่างคนต่างทำงาน แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน เพราะเรารู้จักกันมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้ว เขาเองก็เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง ฉัตรเองเห็นข่าวแล้วที่เขาห่วงเรา กลัวใครจะมาหลอก (หัวเราะ) กันเองเขารู้ว่าเราเป็นคนเชื่อคนง่ายๆ ใครเข้ามาพูดดีๆ กับเรา เราก็จะคุยด้วย โดยที่เราไม่รู้หรอกว่าเขามาจีบหรืออะไร แต่ยังไงฉัตรก็ขอบคุณที่เขาเป็นห่วง

แล้วสถานะหัวใจตอนนี้ของ "ฉัตร" เรียกว่าอะไร

โสด เพราะว่าตอนนี้แค่ทำงานกับเรียน ก็แทบไม่ได้มีเวลานอนแล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปมีใครหรือให้เวลากับใครเลย ขอทำเรื่องของการเรียนและการทำงานให้ดีก่อน ฉัตรเองไม่ได้รีบร้อนเรื่องนี้ ปล่อยไปตามเวลาดีกว่า

เปิดอกแบบหมดเปลือกกับสาวคนนี้ เรียกว่าหนุ่มๆ ได้อ่านแล้ว คงแอบปลื้มเธออยู่แน่นอน


เธอคนนี้ชื่อ : ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร
ชื่อเล่น : ฉัตร
เกิด : 11 เมษายน 2534
การศึกษา : กำลังศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาบัญชี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ผลงานที่ผ่านมา : ละครใต้ฟ้าตะวันเดียว (ช่อง 9) ละครเสือสั่งฟ้า (ช่อง 7) ละครลูกผู้ชายไม้ตะพด (ช่อง 7)
ผลงานล่าสุด : ละครไฟมาร (ช่อง 7)