Inside Dara
อุ้ม ลักขณา แฉคนชวนรับงานกินข้าวให้เงินแสน ตอบชัดถอดหน้าอกต้นเหตุรักพังหรือไม่

เรียกว่าเป็นเซ็กซี่สตาร์ที่สวยสตรองสุดๆ สำหรับนักแสดงสาว อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ ที่ล่าสุดกลับมาเป็นสาวโสดอีกครั้ง และเปิดใจกับรายการ “Thairath Talk” โดย เรโด้ พิธีกร ชวน อุ้ม เปิดใจถึงภาพความเซ็กซี่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด ไม่เข้าใจทำไมบางคนตัดสินแค่ภายนอก แฉเบื้องหลังเส้นทางความมืดของวงการ 18+ ราคาที่ต้องจ่ายกับการขายความเซ็กซี่ ตกใจรายวันกับการที่ผู้ชายส่งอินบ็อกซ์ของลับให้ดูวันละหลายอัน รวมไปถึงประเด็นที่คนสงสัย ถอดหน้าอกกลายเป็นต้นเหตุที่รักร้าวหรือไม่

ด้วยบทที่เราเล่นดูเซ็กซี่ เรารับมือยังไงกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ?

“อุ้มเป็นคนที่เจอคำวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบมาตลอด ด้วยความที่ภาพลักษณ์เราเป็นดาราเซ็กซี่ เราดูแรง เราไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคนเหมือนกันว่าผู้หญิงที่เล่นบทเซ็กซี่ กล้าถ่ายแบบเซ็กซี่ จะต้องเป็นผู้หญิงที่แรด มั่ว เราไม่ค่อยเข้าใจกับการที่คนคิดแบบนั้นเหมือนกัน ทั้งๆ ที่เราเลี้ยงดูพ่อแม่ เป็นหัวหน้าครอบครัว ทำมาหากินด้วยอาชีพสุจริต ไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาพูด เราไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนเราตัดสินคนที่ภายนอกด้วย นั่นคือสิ่งที่อุ้มโดนมาตลอด อุ้มสักข้างตัวว่า Don’t judge me if you don’t know me. เพราะอุ้มจะโดนตัดสินแบบนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา

บางทีเคยมีแฟน พ่อแม่แฟนจะไม่ชอบเราเพราะว่าอาชีพนี้มันเต้นกินรำกิน นมใหญ่กว่าหัวมึ-อีก ผู้หญิงแบบนี้จะเอาไปทำเมียได้ยังไง โดยที่ทำไมเขาไม่ได้มองตัวตนที่แท้จริงของเราจริงๆ อยู่บ้านหรือไปไหนข้างนอก เรารู้กาลเทศะ ใครจะใส่ชุดว่ายน้ำเดินกลางห้าง เราก็ต้องมีกาลเทศะ เราก็รู้อะไรควรไม่ควร เบื้องหลังการทำงานเราเป็นคนยังไง จิตใจเราเป็นยังไง นั่นคือสิ่งที่คนควรจะให้คุณค่ามากกว่าแค่มองภายนอก”

เบื้องหลังดาร์กขนาดไหนในฐานะที่เราเป็นเซ็กซี่สตาร์?

“มันก็จะมีทั้งงานกินข้าว ถามว่าเขาติดต่อมายังไง มันจะมีคนกลางค่ะ เขารู้จักผู้ใหญ่ท่านนี้ อยากได้ดาราคนนี้ ก็มีหลากหลายวงการค่ะ นักธุรกิจ ฝรั่งต่างชาติ มีหลายแบบค่ะ ก็จะมีแบบไปทานข้าวเฉยๆ ให้เงินเท่าไร ถ้าทานข้าวด้วย ไปลงเรือ ปาร์ตี้บนเรือ ถ้าถูกคอถูกใจกัน ถ้าอยากเลี้ยงดูปูเสื่อก็ว่ากันอีกทีนึง หรือมีแบบครั้งคราว มีหลายราคาค่ะ

ซึ่งอุ้มไม่รับอยู่แล้ว ถามว่าเขาเสนอราคามาเท่าไรที่เราตกใจที่สุด ก็มี 2-3 แสนนะตอนนั้นในอดีต แต่อุ้มก็ให้คุณพ่อเป็นคนจัดการ พ่อก็ด่าชุดใหญ่เลย เคยมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นด้วยนะคะ เคยฟ้องคนคนหนึ่งซึ่งเอาอุ้มไปแอบอ้างเพื่อขาย แล้วเขารับเงินแล้วด้วย เราก็ฟ้องคนนั้น”

ตอนนั้นโมโหมั้ย?

“โมโหค่ะ โกรธ และเสียใจ ตอนนั้นเรายังเด็ก ใหม่กับวงการ เราได้เรียนรู้ว่ามันมีการทำงานแฝงแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ ทำไมคนคิดว่าเราต้องทำอะไรแบบนั้น เพียงแค่ว่าเรากล้ารับงานเซ็กซี่ ซึ่งมันเป็นการดูถูกกันเกินไปค่ะ ไม่ว่าทำงานอะไรก็แล้วแต่ พ่อแม่อุ้มรับรู้ทุกอย่าง เขาจะไปคุมด้วยซ้ำ เขารู้ว่านี่คือการทำงาน แล้วเราเคยผ่านเวทีอินเตอร์มา มันเลยรู้ว่าขอบเขตการทำงานอยู่ตรงไหน

ที่อุ้มเล่นบทเซ็กซี่ เลิฟซีนบางฉากเราก็ไม่ได้เล่นเอง อันไหนที่เล่นได้พอไหวก็เล่นแค่นั้น มันมีขอบเขตการทำงาน แต่บางทีขอบเขตความคิดของคนเราห้ามไม่ได้ ตอนหลังก็เลยต้องปล่อยวางแล้วค่ะ ก็อย่าไปอ่านมันซะ ถ้าอ่านมากๆ เราเครียด ปวดหัว เอาเป็นว่าคนในครอบครัวเรารู้ คนรอบข้าง ผู้ใหญ่เขารู้ว่าเราเป็นยังไง เพราะฉะนั้นอย่าไปแคร์โซเชียลมากค่ะ”

เคยเจออินบ็อกซ์ประหลาดๆ ไหม?

“โอ๊ย มีส่งรูปอวัยวะเพศมาให้ดูตลอดแหละค่ะ อุ้มจะมีแอดมินตอบให้ แอดมินจะบอกว่าแม่ ช่วยบอกหน่อยได้ไหม เลิกส่งมาได้แล้ว หนูจะอ้วกแล้วเนี่ย (ยิ้ม) ก็เคยมีเผลอกดไปดูเหมือนกันค่ะ ตกใจ เล็กแค่นี้เองเหรอ (หัวเราะ)”

สมัยก่อนมีดาราคนมีชื่อเสียงเข้ามาจีบเราไหม?

“อ๋อ สมัยฮอตๆ น่ะมีเยอะ ตอนนี้เขาก็ยังโลดแล่นในวงการ ถามว่าติดต่อยังไง ตอนนั้นมีไอจีแล้วนะคะ ก็เจอกันในกองถ่าย ด้วยความที่เราเป็นสาวเซ็กซี่ พอเราไปเล่นละครก็จะมีบ้างที่มีคนมาจีบ ไปทานข้าวกัน ถามว่ามีพระเอกไหม ก็มีนะ เขาก็ยังอยู่ในวงการ ถามว่าตอนนั้นเป็นแฟนกันไหม มีบางคนที่เคยคบๆ ก็มีนะคะ เคยแอบๆ คบ สื่อไม่รู้”

ส่วนใหญ่ความรักของอุ้มจะคบคนเดียวหรือรถไฟหลายขบวน?

“ส่วนใหญ่อุ้มรักใครรักจริงค่ะ และคบนานเป็นตัวเป็นตน แต่จะมีบางคนที่แบบคบคนเดียวน่ะแหละ แต่ไปด้วยกันไม่รอด คบแป๊บๆ ต่ำสุด 6 เดือน ถ้ายาวก็เป็นปี จะคบทีละคน แต่จะคบเร็ว พอเลิกปุ๊บก็มีคนใหม่เข้ามาแล้ว จะไม่ค่อยมีเวลาโสดนานๆ เลยค่ะ”

ถามถึงเรื่องการศัลยกรรมว่าทำอะไรมาบ้าง?

“หน้าอก จมูก ถามว่าทำไมไม่สวยแบบธรรมชาติ ก็ถ้าธรรมชาติมันสวยจะทำทำไมล่ะจ๊ะ (ยิ้ม) ก็ธรรมชาติมันไม่สวยไงจ๊ะ ก็ต้องใส่สิจ๊ะให้มันสวย เพราะจมูกมันแบนค่ะ”

เล่าเรื่องทำหน้าอกให้ฟังหน่อย ตอนทำก็อยากเป็นเซ็กซี่สตาร์ถูกไหม หลังจากนั้นก็เอาออก เอาออกด้วยเหตุผลอะไร?

“เอาจริงๆ ที่ทำมาสมัยแรกเลย พอเรามีลูกอะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปเนอะ มันก็เหี่ยวยานไปแล้ว หน้าอกมันก็ใหญ่เกินไป พอมันใหญ่เกินไปมันหนักมาก พอมันหนักอุ้มมีปัญหาเรื่องสุขภาพแล้ว ปวดหลัง ปวดไมเกรน แล้วเราเป็นสายสปอร์ตออกกำลังกาย มันเลยทำให้เราอยากจะเอาออก สองพอมีนมมันดูอ้วนมากเลยอะ ต่อให้เราน้ำหนักแค่นี้ มันดูตัวตันไปหมดเลย ใส่อะไรก็ดูโป๊ บางทีอยากแต่งตัวสบายๆ บ้าง เทรนด์สมัยนี้หน้าอกแบบมินิมอลก็ดูดีกว่า มันไม่ใช่เซ็กซ์ซิมโบลนมตู้ม

บวกกับเราแต่งงานแล้ว เราคิดว่าชีวิตนี้คงไม่เปิดนมให้ใครดูแล้ว เขาคือคนสุดท้าย นั่นคือปรัชญาของอุ้มเลย ที่ถอด ณ ตอนนั้น เราก็เรียกเขามาคุยเลยว่าอุ้มอยากเอาออกนะ พี่โอเคไหมถ้าอุ้มจะเอาออก จากที่อยู่กับเรามาหลายปี เราตู้มๆ มาตลอด ถ้าวันนึงเราไม่มีแล้วยูจะไม่รักเรารึเปล่า จะเปลี่ยนไปไหม จะไม่มีความสุขบนเตียงหรือเปล่า เรามีการพูดคุยกันเลยค่ะ เขาบอกว่าไม่ใช่ มันไม่มีปัญหา เขารักที่เราเป็นเรา อะไรที่ทำให้เราสบายกายสบายใจสบายตัวทำเถอะ แล้วแต่เลย เราก็เลยตัดสินใจไปเอาออก

ซึ่งตอนเอาออก มันก็รู้สึกดีนะ มันโล่ง สบายตัว แต่ความสวยงามน่ะมันไม่เหมือนเดิมอยู่แล้ว แล้วเราคิดว่าเออ เราคงไม่ได้ถอดเสื้อผ้าให้ใครดูแล้วแหละ เขาจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้เห็นสังขารนี้ไปตลอด นั่นคือสิ่งที่เราคิด แต่ ณ วันนี้ไม่ใช่แล้ว มันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่แน่อนาคตจะทำอีกก็ได้ เพื่อที่จะทำงานแล้วมันมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ใส่เสื้อผ้าแล้วสวย เราภูมิใจในสิ่งที่มีและทำให้ดีขึ้น อุ้มไม่ได้ทำใหญ่ แต่ทำให้แบบยกกระชับแล้วสวยขึ้น รอให้ฮีลใจตัวเองให้ดีขึ้นกว่านี้ก่อน”

การเอาหน้าอกออก ความเป็นเซ็กซี่สตาร์ลดลง ทำให้ชีวิตคู่มันไปไม่รอดใช่หรือไม่ อย่างไร?

“ไม่ใช่ค่ะ (ส่ายหน้า) ร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ มันไม่ได้เกี่ยวกับหน้าอกเลย ตัวเขาเองก็ยืนยัน หลังจากที่มีข่าวพวกนี้เกิดขึ้น เขาก็บอกว่าพี่ไม่ได้เป็นแบบนี้เพราะว่าอุ้มเอาหน้าอกออกนะ อย่าโทษตัวเองนะ ถามว่าตอนนั้นแอบโทษตัวเองไหมว่าที่มาของการแยกทางคือเรื่องนี้ ไม่เลยค่ะ เรื่องนี้มันไม่ใช่เลยค่ะ เพราะอุ้มถอดมาเป็นปีแล้ว เราอยู่ด้วยกันมา มันมีอะไรมากกว่าแค่เรื่องบนเตียง เราดูแลตัวเองดี ออกกำลังกายดี หุ่นเราก็ดี แต่ถ้าเกิดแค่หน้าอกอย่างเดียวแล้วทำให้คนคนหนึ่งเปลี่ยนไป อุ้มว่ามันไม่ใช่ความรักที่ดี”.