Inside Dara
'ชาติพยัคฆ์' กระตุ้นคนรักชาติ ยกระดับการผลิตละครไทย

จ้อหน้าจอสัปดาห์นี้ จะหยิบละครรักชาติของช่อง 3 อย่างเรื่อง ชาติพยัคฆ์ มาพูดถึงกันหน่อย ละครที่ตอนนี้ใครหลายๆ คนต่างชื่นชอบในเนื้อเรื่องและโปรดักชั่นที่พูดถึงกันว่าภาพสวยงาม แสงสีแปลกใหม่ถูกใจคนดู

ละครเรื่องนี้ เค้าโครงเรื่องและบทประพันธ์โดย ณพุทธ สุศรีฯ/ฉัตรชัย เปล่งพานิช กำกับการแสดงโดย โชติรัตน์ รักษ์เริ่มวงษ์ ผลิตโดย บริษัท เมตตาและมหานิยม จำกัด ควบคุมการผลิตโดย ฉัตรชัย เปล่งพานิช ซึ่งละครเรื่องนี้ ผู้จัดคนเก่ง นก ฉัตรชัย ได้มีความตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะผลิตละครรักชาติเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งกว่าจะได้เริ่มต้นผลิตละครเรื่องนี้ นก ฉัตรชัย เผยว่าต้องเตรียมงานเป็นปี เพราะเป็นละครพีเรียด เป็นเรื่องราวที่ถูกสมมติขึ้น อยู่ในช่วงสมัย ร.ศ.112 ทั้งตัวแสดง เรื่องราว สถานที่ ถึงจะเป็นการสมมติตัวละคร สมมติเมือง แต่การเขียนบทขึ้นมาใหม่ ข้อมูลในอดีตก็ต้องแน่น ไม่เขียนมั่วๆ ตามใจต้องการ ต้องอิงกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ด้วย บวกกับการหาโลเคชั่นในการถ่ายทำเพื่อความสมบูรณ์แบบของละคร รวมถ่ายทำอีก 1 ปี กว่าจะได้ละครเรื่องนี้มาให้แฟนๆ ได้ดู

ถึงแม้ว่าเริ่มต้นการถ่ายทำละครเรื่องนี้ จะมีปัญหาเรื่องของนักแสดงบ้างก็ตาม ทั้งที่ถูกมองว่านักแสดงดูไม่เหมาะสม หรือการถอนตัวของนักแสดง แต่สุดท้ายละครเรื่องนี้ก็สามารถเดินหน้าเปิดกล้องถ่ายทำจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ พร้อมออกสู่สายตาประชาชน

เมื่อละครออกอากาศไป หลายคนที่ตั้งตารอดู ก็ไม่ผิดหวัง เริ่มต้นตั้งแต่นักแสดงในเรื่อง ต้องยกนิ้วให้นักแสดงทุกคนในเรื่องนี้ว่าเก่งมาก ถึงแม้ตอนแรกพระเอกของเรื่องอย่าง ท็อป จรณ โสรัตน์ จะโดนมองว่าไม่เหมาะสมกับการเป็นพระเอกก็ตาม แต่พอละครออกอากาศไป ทุกคนต่างก็ยอมรับในฝีมือทางการแสดงของพระเอกคนนี้แบบเต็มใจ ส่วน มิว นิษฐา จิรยั่งยืน แม้จะโดนมองว่าเหมือนเป็นนักแสดงตัวประกอบ เพราะโผล่ออกมาให้เห็นน้อย แต่สาวมิวก็ทำให้หลายคนต้องเสียน้ำตาและรู้สึกสงสารได้ไม่น้อย กับฉากที่คุณแม่ตัดขาดความเป็นแม่ลูกกับเธอ ตู่ นพพล โกมารชุน กับบทพระยาประเสริฐภักดี อู๋ สมิทธิ ลิขิตมาศกุล กับบท คุณโชติ และ เดวิด อัศวนนท์ กับบท ปีเตอร์ สุดยอดตัวร้ายของเรื่องก็เล่นได้ร้ายซะคนดูเกลียดกันเป็นแถว และตัวละครอื่นๆ อีกทั้งเรื่อง ที่ร่วมมือกันถ่ายทอดเรื่องราวจนทำให้เนื้อหาในเรื่องมันดูกลมกลืนไม่โดดหรือหนักไปที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่ง หรือกลบตัวละครใดตัวละครหนึ่งไป ทุกคนสวมวิญญาณเป็นตัวละครนั้นๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

ส่วนเรื่องฉากก็เก็บรายละเอียดได้ดีเกือบหมด พิถีพิถันในการถ่ายทำ โปรดักชั่นดี ภาพสวย จัดแสงสวยได้เหมือนละครและซีรีย์ต่างชาติ การแต่งตัวให้นักแสดงตามคาแรกเตอร์ถือว่าดี พวกทาสพวกบ่าวมีการทาสีผิวเนื้อตัวดูมอมแมม เสื้อผ้าหน้าผมของนักแสดงก็ทำให้เข้ากับเนื้อหาในเรื่องได้ดีเยี่ยม ดูได้จาก นายพลอังเดร เมื่อตอนที่ต้องอยู่ดูแลคุก เนื้อตัวเสื้อผ้าก็มอมแมมตามสถานที่ที่อยู่ แต่พอเข้ามาประจำการในพระนคร เสื้อผ้าเนื้อตัวก็สะอาดสะอ้าน ทำให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ส่วนเนื้อเรื่องก็เดินเร็วกระชับฉับไวไม่ยืดเยื้อต๊ะตอนยอน โลเคชั่นในการถ่ายทำก็เลือกมาได้อย่างสวยงาม ข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ที่ประกอบในฉากก็ไม่ทิ้งไป ทำให้คนดูเหมือนได้ย้อนกลับไปในยุคนั้นสมัยนั้นจริงๆ

และมีฉากที่สำคัญของละครเรื่องนี้ให้ได้ดูแทบทุกอาทิตย์ นั่นก็คือฉากบู๊ต่อยมวยไชยาของพระเอกและเหล่านักสู้จากต่างชาติให้คนดูตามเชียร์ทุกวีค ไม่มีพลาด แต่งานนี้เชื่อว่าหลายคนคงจะแอบขัดใจในความรันทดของกล้าอยู่ไม่น้อยว่าจะโชคร้ายซ้ำซ้อนไปถึงไหนกัน ส่วนเพลงประกอบละครถ้ามองให้สอดคล้องกับเนื้อหาของเรื่องก็ถือว่าปลุกใจได้ดีนัก แต่สำหรับคนที่ชอบความเป็นไทยมากๆ อาจจะไม่ปลื้มกับเพลงประกอบละครเรื่องนี้สักเท่าไหร่

ชาติพยัคฆ์ เป็นละครอีก 1 ความภูมิใจของคนไทย เพราะหลายคนชมเป็นเสียงเดียวกันว่าเนื้อเรื่องสนุกไปกับการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของพระเอก ได้ดูมิตรภาพระหว่างเพื่อน หรือลุ้นไปกับการชิงไหวชิงพริบของตัวดีกับตัวร้าย และตัวร้ายกับตัวร้ายด้วยกันเอง และแอบขำไปกับความตลกของแก๊งคนจีนที่เพิ่มเข้ามาในเรื่อง เพื่อไม่ให้เนื้อหาของเรื่องดราม่ามากจนเกินไป สนุกสุดยอดสมกับการรอคอยจริงๆ