ชิมลางจอเงิน ทับทิม-อัญรินทร์ ประเดิมภาพยนตร์ "ดับแสงรวี After Sun down"
สวยเก่งครบเครื่องจริงๆ ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ นักแสดงสาวมากความสามารถ หลังได้รับโอกาสใหม่ๆ ท้าทายความสามารถ ล่าสุดชิมลางจอเงิน! ประเดิมภาพยนตร์พีเรียดวาย โรแมนติกสยองขวัญเรื่อง “ดับแสงรวี After Sun down” ประกบคู่จิ้นวายสุดปัง ซี-พฤกษ์ และ นุนิว-ชวรินทร์ งานนี้มีแต่ความฟินเว่อร์!! ผลงานกำกับโดย อ๊อด-บัณฑิต ทองดี การันตี ความหลอน
แต่ก่อนที่แฟนๆจะได้ชมภาพยนตร์แบบเต็มๆ สาวทับทิบมาเยือน “มาลัยไทยรัฐ” อีกครั้งกับแฟชั่นเก๋ๆ 4 ลุคไม่ซ้ำกัน โดยมี ช่างแต่งหน้า P’คิว IG: veethat_makeup, ช่างทำผม P’โชค IG : Chokee_hair, สชล คุณาจิรเมธ สไตลิสต์ 09-2426-6324, นรินทร์ ศรีสุภา, กุลธิดา สิทธิวงษ์ และช่างภาพ สุรกิจ แก้วมรกต พร้อมชักชวนแฟนๆกรี๊ดขนลุกจิกเบาะไปด้วยกัน 20 ก.ค.66 พร้อมกันในโรงภาพยนตร์
โดดมาเล่นหนังทั้งทีก็ต้องมีอะไรๆแปลกใหม่ให้น่าติดตามที่สำคัญเพราะครั้งนี้สาวทับทิมรับบทเป็น “ผี” ที่ไม่ได้เล่นบทแบบนี้มานานแล้ว เลยไม่ต้องพูดเยอะให้เจ็บคอ ตกปากรับคำทันที...“ด้วยตัวบทน่าสนใจ ไม่ใช่เรื่องราวสยองขวัญอย่างเดียวแต่เป็นหนังรักเรื่องนึง จะได้เห็นความรักหลาก หลายรูปแบบที่มันเกิดขึ้น ประกอบกับพี่อ๊อดเป็นผู้กำกับ ทับทิมติดตามผลงานพี่อ๊อดมาตั้งแต่เรื่องๆแรก เราเป็นแฟนหนังผี พอเป็นพี่อ๊อด ทำให้ทับทิมเชื่อมือ ต้องดีและน่ากลัวแน่ๆ และเรื่องนี้มีโอกาสได้ร่วมงานกับน้องนุนิวและน้องซีด้วย มีความรู้สึกว่าพอเราเป็นนักแสดงอิสระเราก็อยาก มีโอกาสร่วมงานน้องๆนักแสดงรุ่นใหม่ๆ พอ 2 คนนี้ น่าสนใจนะ น้องเองเป็นดาวรุ่งที่มีความสามารถที่เราอยากร่วมงานด้วย”
จากคาแรกเตอร์ของ “กรรณิการ์” เป็นวิญญาณที่มีแต่ความแค้น ชิงชัง ทำให้ตนเองต้องทำการบ้านหนักเหมือนกัน ต้องดีไซน์คาแรกเตอร์ของตัวละครออกมา ทำให้น้ำเสียงที่พูดออกมาต้องดีไซน์ให้ตัวละครดูมีความโกรธในตัวและเคียดแค้น ทำยังไงให้คนดูรู้สึกหลอนจังเลยเป็นความท้าทาย และวันไหนที่แต่งตัวเป็นผีแบบจัดเต็ม ความหลอนไม่ต้องพูดถึงแค่ทุกคนไม่อนุญาตให้ตนเดินไปไหนมาไหนคนเดียวเด็ดขาด
งานนี้ทับทิม เล่าเบื้องหลังให้ฟังว่า...“ช่วงถ่ายทุกคนไม่อนุญาตให้ทับทิมเดินไปไหนมาไหนคนเดียว ด้วยสถานที่ ทุกคนจะพูดว่าพี่ทับทิมอย่าเดินไปไหนคนเดียวนะ ด้วยโลเกชันบ้านเป็นทรงโบราณ อารมณ์สมัย ร.6 ก็เลยห้าม บรรยากาศมันได้ กำลังจะเดินไปไหน โดนทักก่อนเหมือนโดนทุกคนจับตา ตอนแรกกะเราจะไปยืนหลบมุมในที่มืดๆ รอคนเดินผ่านมา พอจะก้าวเท้าปุ๊บทุกคนทักไปไหน อดแกล้งทุกคนเลย
ดับเบิล “ฟิน” ที่ได้ ทำงานร่วมกับ ซีนุนิว คู่จิ้นสุดฮอตแห่งยุค เป็นการทำงานที่ดีต่อใจสุดๆ... “ก่อนหน้าก็มีการติดตามผลงานมาบ้าง จากที่เราเห็นน้องก็เป็นคนที่มีความสามารถ พอถึงช่วงเวลาถ่ายทำไม่น่ามีปัญหา เพราะดูเค้าเป็นคนมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานของเค้าดี อีกอย่างก่อนหน้าถ่ายทำมีการเวิร์กช็อป ทำให้เรามีโอกาสได้พูดคุย ละลายพฤติกรรม ทั้งซีและนุนิวเลย ความ รู้สึกสบายแล้ว เราดูเข้ากันได้ง่าย”
น้องนุนิวดูเป็นคนขี้อ้อนในสายตาเรามั้ย...“น้องเป็นคนน่ารักนะ เด็กน้อยที่สุดในกอง เอาอย่างนี้ดีกว่า จะเป็นที่เอ็นดูของพี่ๆทุกคน พอร่วมงานกันสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง อย่างที่บอกมีเวิร์ก ช็อปก่อน ละลายพฤติกรรม เราเจอกัน 3 คน เลยไม่ได้รู้สึกมันมีช่องว่างอะไรที่มันเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของพวกเราเลย ช่วงเวิร์กช็อปด้วยกัน กลายเป็นว่าทุกคนเปิดใจ เราเปิดใจ เวลาเราร่วมงานกับนักแสดงใหม่ๆ เราอยากให้การทำงานราบรื่น”
เมื่อถามว่าระหว่างซีกับนุนิวใครคุยเก่งกว่ากัน สาวทับทิบตอบทันทีว่า “ซีค่ะ คุยเก่งกว่านุนิว น้องจะเป็นคนเขินๆ ซีบุคลิกอาจจะดูนิ่งๆ แต่อาจจะอายุใกล้เคียงกันเลยคุยกันบ่อยกว่าเยอะกว่า แต่ทุกอย่างราบรื่นด้วยดี สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง เราเข้าฉากกับน้องนุนิวเยอะด้วย ถึงขั้นลงไม้ลงมือ โหดค่ะ (หัวเราะ)”
กลัวทำน้องเจ็บไหม “กลัวค่ะ กลัวมากเลย เราต้องคอยทะนุถนอมเค้า จะคอยถามว่าเจ็บหรือเปล่า เกรงใจน้อง เพราะในเรื่องทับทิมออกแนวทำร้ายเพราะเป็นผีแค้น แต่เราก็ช่วยเซฟน้องด้วยค่ะ”...เอ้า...าา แฟนคลับซำบายใจได้
นอกจากจะเป็นสายขยัน “บ้างาน” แล้ว สาวทับทิมยังเป็นสายขยันเรียนสุดๆ เพิ่งคว้าปริญญาเอก จบด็อกเตอร์ตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว...“ค่ะ จบมาสักพักนึงแล้ว ตอนนี้เลยเป็นช่วงเวลาที่ทับทิมลุยงานอย่างเดียวเต็มที่ เพราะก่อนหน้านี้ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยตลอด ครั้งนี้เป็นครั้งที่เราทุ่มให้กับงาน”
จะต่อปริญญาเพิ่มอีกสักใบมั้ย “ถ้าเป็นปริญญา ตอนนี้ยังไม่มีแพลน คิดว่าอาจจะไม่แล้วมั้ง มันสูงสุด และตอนนี้ยังไม่มีแพลนอะไร ถ้าเกิดจะเรียนต่อคงเรียนแค่หลักสูตรสั้นๆแล้วค่ะ”
ยังมีเป้าหมายในชีวิตมากมายกว่านี้อีกมั้ย “ตอนนี้เป็นส่วนเรื่องงานล้วนๆ เราอยากทำให้มันสำเร็จตามเป้า เรายังมีกำลังมีแรงเราก็อยากทำสิ่งที่เราอยากทำ ณ ตอนนี้เลือกทำในสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ ”
อยากทำโน่น ทำนี่เยอะๆ แบบนี้เราอยากพิสูจน์อะไรหรือเปล่า “บางทีเราเห็นโอกาสบวกกับความตั้งใจของเราที่ไปเห็นมา เรามีความรู้สึกว่าเราสามารถทำให้เกิดประโยชน์ต่อคนส่วนมากได้นะ ทำไมเราไม่ทำล่ะ อะไรเพื่อส่วนรวม ตามกำลัง ตามถนัดของเรา”
ต้องเรียกว่าสาวทับทิมเป็นคน “ลักกี้อินเกม ลักกี้อินเลิฟ” งานก็ปัง ความรักก็ดี มีหนุ่มคุยๆ แต่ยังไม่พร้อมเปิดตัวใดๆ แต่พอถามทุกอย่างในชีวิตดูลงตัวหมดแบบนี้ใกล้จะข่าวดีอย่างที่หลายๆคนลุ้นบ้างมั้ย...“ยังไม่ทราบเลยว่าเมื่อไหร่ ตอนนี้ทับทิมมีความสบายใจทุกอย่าง แฮปปี้ อะไรที่เราโตขึ้น เรียนรู้ทุกอย่างมากขึ้น เรามีความรู้สึกว่า เราไม่จำเป็นจะต้องไปพูดอะไรเยอะหรอก เราใช้ชีวิตของเราไปตามปกตินี่แหละ มีใครสักคนก็มีกำลังใจดีๆในส่วนของเรา”
ไม่เปิดตัวเพราะฝ่ายชายหรือเปล่า “ไม่ค่ะ ไม่ใช่ทับทิมปิดหรืออะไรนะ เราใช้ชีวิตตามปกติ ณ วันนี้เราเรียนรู้ว่าเราไม่จำเป็นว่าเราจะต้องพูดทุกเรื่องก็ได้ เรามีความรู้สึกเรื่องไหนที่เราอยากพูดก็จะพูดแล้วกัน เรื่องไหนเรามีความรู้สึกว่ามันก็คงไม่สำคัญเท่าไหร่ ไม่ได้ส่งผลต่อคนอื่นเราก็มีความรู้สึกไม่ต้องพูดก็ได้ แต่เราใช้ชีวิตปกติ เป็นสิ่งที่เราเรียนรู้จากที่เราโตขึ้นในแต่ละปี ไม่ได้ปิดว่ามีแฟนแต่ไม่ต้องมาบอกว่าเค้าคือใครขนาดนั้น”
เริ่มมองอนาคตเรื่องแต่งงานไว้ยังไงบ้าง “ทับทิมว่ามุมมองเรื่องนี้เปลี่ยนทุกปีเลย ถ้าเราเทียบกับเมื่อก่อนเรามีความคิดแบบเด็กๆ แต่มาวันนี้ปุ๊บเรามองหาอะไรที่มันมีความพร้อม มั่นคงจริงๆ ที่เราดูแล้ว อันนี้คืออนาคต คิดว่าถ้าถึงเวลาน่าจะรู้เอง ยอมรับมีๆ มีคุยเล่นๆ กันบ้าง”
ด้วยอายุกังวลเรื่องการมีลูกอย่างที่หลายๆคนเป็นห่วงมั้ย “ทุกคนจะพูดเรื่องแต่งงาน อายุเยอะๆมีลูกจะมีปัญหานะ แต่กลายเป็นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เรากังวลเลยค่ะ ตอนนี้เทคโนโลยีไปไกลมาก คิดว่าถ้าถึงเวลานั้นจุดนึงมันมีเทคโนโลยีมาช่วยเราถ้ากรณีมีปัญหา ตอนนี้เราไม่ได้แพนิกถึงขั้นต้องรีบไปฝากไข่ไว้ก่อน”
แสดงว่าแต่งงานเราไม่ได้ซีเรียสเรื่องมีลูกใช่มั้ย “อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ค่ะ”.
ภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต
