Inside Dara
ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร “แม่น้ำตาล” เปิดใจ ถึงจะเป็น แค่แม่บ้านทำความสะอาดแต่ก็ภูมิใจที่เลี้ยงดูลูกจนมีวันนี้

แม่ผู้ยิ่งใหญ่ เปิดใจ “ชุติกาญจน์” แม่ “น้ำตาล ชลิตา” ถึงจะเกิดมายากจน เป็นแค่แม่บ้านทำความสะอาด แต่ก็ภูมิใจที่เลี้ยงดูลูกสาวจนมีวันนี้ เผยชีวิตลำเค็ญของน้ำตาล เคยรับจ้างล้างส้วม-ล้างจาน ตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่ ใส่แต่เสื้อผ้ามือสองที่ลูกเจ้านายโละมาให้ พอมาประกวดนางงาม “ใหม่ ดาวิกา” ก็ให้ยืมชุดไปใส่ประกวด ไม่ต้องซื้อเอง ขอบคุณความจนที่ทำให้น้ำตาลเป็นคนอดทน เหมือนฝันลูกติดท็อป 6 นางงามจักรวาล ลั่นสิ่งล้ำค่าสูงสุดกว่าการได้มงฯคือน้ำตาลได้พูดถึงพ่อหลวงบนเวทีระดับโลก

ผู้นำระดับโลก ในอดีตหรือปัจจุบันที่คุณชื่นชอบหรือเคารพ คือใครและทำไม?

“คนนั้นก็คือในหลวงของดิฉันค่ะ (เสียงสั่น) ตั้งแต่ดิฉันเกิดมาก็เห็นท่านทำงานหนักมาตลอด ไม่เคยบ่นแม้แต่น้อย และท่านก็เปรียบเสมือนพ่อของทุกคนในประเทศไทยค่ะ”

… เชื่อว่า ทุกคนยังคงจำคำตอบนี้ได้เป็นอย่างดี แม้จะผ่านไปนานหลายเดือนแล้ว แต่เสียงของคำพูดจากหัวใจของ “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 และเจ้าของตำแหน่งท็อป 6 นางงามจักรวาล 2016 ที่จัดประกวดขึ้น ณ ประเทศฟิลิปปินส์ ยังคงก้องอยู่ในหัวใจคนไทยไม่รู้ลืม

ปีนี้ไม่ใช่แค่น้ำตาลสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งชาติ ด้วยการเข้ารอบ 6 คนสุดท้ายมิสยูนิเวิร์ส 2016 ได้ ในรอบ 28 ปีเท่านั้น แต่น้ำตาลยังทำให้คนไทยน้ำตาไหลด้วยความตื้นตันใจ เมื่อได้ยินเธอพูดถึงพ่อหลวงบนเวทีระดับโลกให้คนทั้งโลกได้ฟังเรื่องของพ่อ ทุกความงดงามที่น้ำตาลได้แสดงออกมาตลอดระยะเวลาที่ทำการประกวด นอกจากแสดงให้เห็นถึงการเตรียมตัวที่ดีแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงการปลูกฝังเลี้ยงดูที่ดีจากครอบครัว ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและจิตสำนึกที่ดีเหล่านี้ก็คือ “แม่กิ๊ฟ ชุติกาญจน์” คุณแม่ของน้ำตาล

เนื่องในวาระวันสำคัญสูงสุดของคนไทย วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2560 เราจึงถือโอกาสนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของคุณแม่และคุณลูกคู่นี้ ผู้ที่ทำให้คนไทยได้มีความสุขกับเกียรติยศที่ได้มาบนสายสะพายไทยแลนด์ ซึ่งกว่าน้ำตาลจะมาถึงจุดนี้ได้ “แม่ชุติกาญจน์” บอกว่าต้องเจอความลำบากมามากมาย ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร

เบื้องหลังมงฯอันทรงเกียรติ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม่เกิดมายากจน มีอาชีพเป็นแม่บ้านทำความสะอาด ทำให้น้ำตาลลำบากไปด้วย

“กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ชีวิตน้ำตาลตอนเด็กๆ ลำบากมาก เรามาจากครอบครัวที่ไม่มีอะไรเลย เป็นรอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะเลย เราอยู่ด้วยความอดทนและอยู่ด้วยความซื่อสัตย์ของคนในครอบครัว ซึ่งมันเป็นพื้นฐานของครอบครัวเรา จริงๆ คุณพ่อน้ำตาลก็จะบอกเขาตลอดให้เป็นคนอดทน เป็นคนดี เป็นคนซื่อสัตย์กับทุกๆ คนที่เข้ามาในชีวิตเรา แล้วเราก็จะเจริญเอง (ยิ้ม)”

“แม่มีลูกสาว 2 คน น้ำตาลเป็นคนโต วัยเด็กของน้ำตาลเรียกว่าลำบากเลยค่ะ ยากจน ไม่ได้มีเงินทองเลย จะกินอะไรเราก็ต้องคิด ทุกอย่างเราต้องคิดหมดว่าควรซื้อมั้ย ควรกินมั้ย ชีวิตเขาผ่านความยากลำบากมามากค่ะ อยู่บ้านเช่าธรรมดา ตอนนั้นแม่ทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาด เวลาไปทำก็ต้องกระเตงเขาไปด้วยเพราะไม่มีคนดูเขาเพราะคุณพ่อคุณแม่ทำงานกันหมด เราทำงานรับจ้างทั้งคู่ พ่อเขาทำงานในสนามกอล์ฟ อีกสิ่งนึงคือเขาจะรู้ว่าทำไมเจ้านายถึงรักแม่ ทำให้ถึงให้กุญแจบ้านไว้ ทำไมเจ้านายให้แม่ไปทำความสะอาดในส่วนที่มีของมีค่าอยู่ เพราะว่าความซื่อสัตย์ของเรา ความที่เราไม่ได้อยากได้อะไรของใคร น้ำตาลก็จะซึมซับตรงนี้มา เวลาเราลำบากเจ้านายก็จะห่อข้าวให้เรามาทานบ้าง น้ำตาลนี่ไม่เคยซื้อเสื้อผ้าเลย มีแต่เจ้านายแม่ให้ตลอด เป็นเสื้อผ้าของลูกเจ้านาย”

น้ำตาลเคยล้างส้วม ล้างจาน ทำทุกอย่างที่ได้เงินเพราะอยากช่วยแม่หาเงิน

“ชีวิตวัยเด็กเขาไม่ได้เหมือนคนอื่น ถามว่าเขาเคยบ่นน้อยใจมั้ย เขาไม่เคยปริปากว่าน้อยใจนะ แต่เรามองสายตาลุกเขาอาจจะอยากไปเล่นกับเพื่อนๆ แต่เขาไม่มีโอกาสได้ไปเล่น แต่เขาคิดว่าเอาเวลานั้นมาช่วยพ่อช่วยแม่ดีกว่า น้ำตาลเริ่มช่วยพ่อกับแม่ทำงานตั้งแต่ ป.4 ค่ะ เขาช่วยทำทุกอย่างที่แม่ทำ ล้างจาน รีดผ้า ล้างห้องน้ำ กวาดบ้าน ถูบ้าน เช็ดกระจก เขาเรียนรู้เขาดูจากที่เราทำ เขาจะรู้เลยว่าสิ่งแรกที่แม่ทำเวลาไปถึงบ้านเจ้านายคือ เอาพรมเช็ดเท้าออกไปซัก เขาก็ช่วยแม่ทำทุกอย่างไม่เคยหมิ่นเงินน้อยเลย สมมุติแม่ทำความสะอาดบ้านหลังนี้ยังไม่เสร็จ เขาสามารถไปทำความสะอาดอีกหลังนึงได้เลย แม่รับทำความสะอาดหลายหลัง ตอนนั้นเขาอยู่ ป.5 เขาทำได้โดยที่ไม่อายเขาเต็มใจช่วยแม่และทำมาตลอด (ยิ้ม) ช่วยแม่หาเงินตั้งแต่เด็กเลย เขาไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะขอว่าวันนี้ไม่ไปได้มั้ย อยากไปเล่นกับเพื่อนไม่มีเลย จนเราถามว่าลูกไปเล่นกับเพื่อนมั้ย แต่เขาก็บอกไม่ไป อยากทำงานมากกว่า”

“การที่ครอบครัวเราลำบากทำให้ตาลเป็นคนที่อดทนมากๆ และเป็นเด็กที่กตัญญู ส่วนนึงเพราะเขาเห็นพ่อแม่ลำบากมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เขาไม่ค่อยอยากได้โน่นอยากได้นี่เท่าไหร่ เงินก้อนแรกที่เขาทำงานได้เขาก็ให้พ่อกับแม่หมด อย่างเวลาเขาอยากได้อะไรเขาจะเก็บเงินเอง เงินที่พ่อกับแม่ให้เขาจะแบ่งเก็บเพื่อเอาไปซื้อสิ่งที่เขาอยากได้ แต่จะไม่ขอเราเพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ไม่มี”

เผยน้ำตาลประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เพราะอยากเติมเต็มความฝันของแม่

“ตอนที่น้ำตาลจะมาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เขาก็มาปรึกษาพ่อกับแม่ก่อนค่ะ ปรึกษาว่าจะมาดีมั้ย แม่ก็บอกก็มาลองดู พอเราสนับสนุนเขาก็มาสมัครเลย ตอนนั้นถ้าถามถึงความพร้อมของเขาแม่ก็มองว่าพร้อมระดับนึง เรื่องหน้าตาน่าจะพอสู้เขาได้ แต่ต้องลดหุ่นลดน้ำหนักอีกหน่อยเพราะตอนนั้นเขาอวบๆ หน่อย (หัวเราะ) แม่เองเคยประกวดนางงามมาก่อนแต่เป็นเวทีเล็กๆ อย่าง นางสงกรานต์ นางนพมาศ แต่น้ำตาลเขาไม่เคยประกวดนางงามเลย เขาเคยประกวดดาวเดือนมหา’ลัยที่มหาสารคามแค่นั้น เวทีนี้คือเวทีใหญ่ครั้งแรกของเขา และประสบความสำเร็จเลยเราก็ภูมิใจ จริงๆ ตอนที่รู้ว่าเขาเข้ารอบ 40 คนสุดท้ายแม่ก็ภูมิใจแล้วค่ะ ถือว่าเยอะแล้วก็ไม่คิดว่าเขาจะเดินมาได้ไกลขนาดนี้”

“ที่เขาอยากมาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพราะเขาอยากสานฝันแม่ และเป็นเวทีใหญ่เขาก็อยากลองดูว่าเป็นยังไง แต่ใจจริงๆ เขาก็ชอบนางงามอยู่แล้ว เขาก็อยากสานฝันให้แม่เป็นจริงด้วย แล้วแม่เองก็เคยอยากให้เขาประกวดเวทีนี้ด้วย (หัวเราะ) แต่แม่ไม่เคยบังคับเขาให้ประกวดนะคะ เรารอให้เขาเอ่ยปากเอง เพราะแม่ถือว่าการที่เขาอยากประกวดด้วยใจของเขาเองมันจะเป็นเครื่องยึดติดทางจิตใจของเขาเองว่าอยากทำ แล้วมันจะทำออกมาดี เขาก็มาเติมเต็มความฝันของแม่ในเรื่องนี้เลยค่ะ (ยิ้ม) เป้าหมายที่แม่อยากให้เขาประกวดเวทีนี้เพราะหนึ่งเป็นเรื่องอนาคตของเขา อาจจะทำให้เขามีช่องทางมีงานมีการที่ดีขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้น ได้เรียนหนังสือ เพราะครอบครัวแม่ยากจน เราก็อยากให้ลูกได้มีที่เรียนที่ดี”

ถึงครอบครัวมีปัญหาเรื่องเงินแต่โชคดีที่คนเอ็นดูเยอะ “ใหม่ ดาวิกา” ให้ชุดน้ำตาลไปใส่ประกวดนางงาม

“เรื่องค่าใช้จ่ายตอนประกวดโชคดีว่าน้ำตาลไม่ได้เสียอะไรเลย เพราะนุ่ม(ผู้จัดการส่วนตัว)เป็นคนไปยืมชุดให้ คุณใหม่ ดาวิกา ก็ให้ชุดให้เสื้อผ้ามายืมใส่ แล้วก็มีอีกหลายคนที่ให้มาใส่ อย่างคุณใหม่เขาก็คงให้ด้วยความเอ็นดูน้อง สงสารน้อง เขาก็เลยช่วยเหลือน้อง ยังจำวินาทีที่ประกาศชื่อว่าลูกเราได้ ตอนนั้นไม่ได้ร้องไห้แต่ตกใจ (หัวเราะ) งง อึ้ง เหมือนแบบใช่เหรอ ก็ดีใจค่ะ พอลงมาจากเวทีคำแรกที่น้ำตาลพูดกับพ่อกับแม่คือ หนูทำสำเร็จแล้ว แม่ก็พูดกับเขาว่า ลูกเก่งมากค่ะ”

“พอเขาต้องไปประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ฟิลิปปินส์แม่ก็ดีใจ แล้วเขาก็ลบคำสบประมาทของใครหลายๆ คนที่บอกว่าเขาไม่สมที่จะเป็นนางงาม บอกว่าเขาไม่เก่งภาษาอังกฤษ ตัวเตี้ย อ้วน แล้วหลังจากนั้นเขาก็พยายามทำทุกอย่าง และทำได้ดีด้วย ซึ่งเป็นความพยายามที่เขาอดทนทุกอย่าง แม่กับพ่อก็เป็นกำลังใจให้เขาตลอด โทร.คุยกับเขาตลอดบอกให้เขาตั้งใจทำให้ดีที่สุด ให้ลูกทำแต่สิ่งที่ดี สิ่งไหนที่ไม่ดีอย่าไปทำ เขาก็ออกกำลังกาย ฟิตหุ่น กินอาหารที่ไม่อ้วน ช่วงนั้นเขาก็เครียดนะแต่เราจะไม่ทำร้ายตัวเองด้วยการมานั่งเศร้าสร้อยกับมัน แต่เอาคำสบประมาทเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันให้ฮึดสู้มากกว่า”

ภูมิใจที่ลูกได้พูดเรื่องพ่อหลวงของคนไทยให้คนทั้งโลกรับรู้ ถึงน้ำตาลไปไม่ถึงมงกุฎจักรวาล แต่การได้พูดถึงพ่อหลวงบนเวทีนี้ก็คือสิ่งล้ำค่าสูงสุดแล้ว

“วันตัดสินแม่ก็เดินทางตามไปให้กำลังใจเขาที่ฟิลิปปินส์ ตอนที่ประกาศว่าเขาได้เข้า 6 คนสุดท้ายแม่ดีใจมาก (ยิ้ม) ตอนนั้นแม่นั่งอยู่กับกลุ่มคนไทย ทั้งคนไทยและคนฟิลิปปินส์เขาเชียร์เราเยอะมาก ยอมรับว่าตอนนั้นความหวังของแม่มันมาแล้วค่ะ เราคิดว่าลูกน่าจะถึงมงฯ ความมั่นใจเรามาเลยค่ะเพราะตอนอยู่บนเวทีหรือแม้แต่ตอนเก็บตัวเขาทำไม่พลาดเลย แต่พอไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็ไม่เสียใจค่ะ ถือว่าเขาทำเต็มที่แล้ว โอเคมันอาจจะมีเสียใจบ้าง แต่ไม่ถึงกับเฮ้ย…อะไร ไม่ใช่แบบนั้น เราภูมิใจแล้วที่เห็นเขาสวยสง่าอยู่บนเวที และเราภูมิใจมากที่ลูกพูดถึงพ่อหลวงของเราบนเวที ใส่ชุดแม่หลวงบนเวทีให้โลกได้รับรู้ (ชุดประจำชาติที่น้ำตาลใส่ประกวดบนเวที มิสยูนิเวิร์ส 2016 ในรอบชุดประจำชาติ ชุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ) ไปเผยแพร่ว่าพ่อของคนไทย แม่ของคนไทยเป็นยังไง แค่นี้แม่ก็ภูมิใจแล้ว สิ่งนี้มีค่าสูงสุดแล้วถึงจะไม่ได้มงฯ แต่สิ่งนี้ก็ดีที่สุดแล้วจริงๆ ค่ะ”

“แม่จะปลูกฝังเขาตลอดว่าสิ่งที่ทำให้พวกเราคนไทยยืนอยู่ได้มาจนถึงวันนี้ก็คือพ่อหลวงและแม่หลวงของพวกเรา มีประเทศที่ร่มเย็นเป็นสุข เรารู้สึกภูมิใจในพ่อกับแม่เรา และก็จะบอกน้ำตาลตลอดว่าท่านอดทนมากนะลูก ทำงานเพื่อคนไทยตลอดเลย น้ำตาลเขาก็จะซึมซับสิ่งเหล่านี้มาตลอด พอได้ยินคำถามทำให้เขาไม่นึกถึงใครเลย น้ำตาลนึกถึงในหลวงคนเดียวเลย เพราะท่านอยู่ในใจตลอด พอน้ำตาลตอบเสร็จเสียงเชียร์ในห้องนั้นดังมาก แม่ภูมิใจที่ลูกเราตอบแบบนั้น (ยิ้ม)”

ชีวิตพลิกจากเด็กรับจ้างทำความสะอาดบ้าน สู่ท็อป 6 นางงามจักรวาล ตอนนี้กำลังเร่งเก็บเงินซื้อบ้านให้พ่อแม่

“ชีวิตเขาก็เปลี่ยน ตรงที่ต้องทำงานเกือบทุกวัน ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน แต่ชีวิตอย่างอื่นเราก็ยังใช้ชีวิตของเราปกติ ไม่ได้หวือหวาอะไรขึ้น ส่วนน้ำตาลก็ยังเหมือนเดิม ชื่อเสียงเงินทองที่เข้ามาไม่ได้ทำให้นิสัยใจคอเขาเปลี่ยนไป อย่างเรื่องเงินแม่จะเป็นคนดูแลหมดเลย เวลาเขาจะใช้อะไรเขาจะโทร.มาบอกว่าจะไปจ่ายค่าอะไรยังไง ชีวิตที่ดีขึ้นของเขาก็ส่งผลกับครอบครัวตรงที่แม่กับพ่อก็มีภาระน้อยลงไป แต่เราก็ยังทำงานปกติ ไม่ใช่มีเงินมากกว่าเดินแล้วไม่ทำงาน เพียงแต่ตอนนี้แม่ไม่ได้เป็นแม่บ้านแล้วค่ะ เลิกทำตั้งแต่ก่อนน้ำตาลประกวดนางงาม แม่มาทำงานขายกับข้าวอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นร้านของคิงพาวเวอร์ แล้วน้ำตาลก็เพิ่งเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวให้แม่กับพ่อ ร้านอยู่ในซอยมัณฑนา ใกล้มหาวิทยาลัยหัวเฉียว ขายที่ร้านและรับออเดอร์ส่งข้างนอกด้วย เขาตั้งใจเปิดร้านให้เพราะอยากทำให้ครอบครัวสบาย ไม่อยากให้พ่อแม่ลำบากแล้ว เขาอยากทำให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขาพูดมาตลอดว่าจะดูแลพ่อกับแม่เป็นอย่างดี ซึ่งเขาก็ทำจริงๆ ทุกวันนี้ครอบครัวเรามีความเป็นอยู่ดีขึ้นเพราะน้ำตาล (ยิ้ม)”

“น้ำตาลมีความตั้งใจที่อยากจะช่วยเหลือคนที่ลำบาก คนที่ด้อยโอกาส เพราะเขาเคยผ่านจุดนั้นมาก่อน เขารู้ว่าความไม่มีมันเป็นยังไง แม่ภูมิใจที่เขาคิดได้แบบนี้ ตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาเป็นคนเอื้อเฟื้ออยู่แล้ว เขาจะเป็นฝ่ายให้มากกว่าที่จะเป็นคนรับ เป็นคนคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ แม่เชื่อมั่นในตัวเขาว่าชื่อเสียงเงินทองจะไม่ทำให้เขาลืมตัว เพราะเขามีจุดมุ่งหมายที่เขาตั้งใจไว้คือการซื้อบ้านให้พ่อกับแม่ เพราะตอนนี้เราอยู่คอนโดกัน เขาก็จะประหยัดเก็บเงิน”

ความในใจจากแม่ถึงน้ำตาล ลูกสาวสุดที่รัก

“รู้สึกภูมิใจในตัวน้ำตาลที่มาถึงวันนี้ได้ สิ่งที่เขาทำในทุกๆ วันในชีวิตประจำวันของเขาก็เป็นคนดีอยู่แล้ว น้ำตาลเป็นคนจิตใจดี เป็นคนซื่อสัตย์ อยากบอกน้ำตาลว่าลูกทำดีที่สุดแล้ว อะไรที่ไม่ดีต้องคิดเองเพราะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะทำอะไรก็ให้พึงปฏิบัติตัวอยู่ในศีลธรรมที่ดี เป็นคนดีในสังคม เป็นหนึ่งในดวงใจพ่อแม่อยู่แล้วก็ขอให้ยึดติดกับความดีที่ลูกเคยทำไว้ตลอดไป แม่รักลูกมาก พ่อเขาก็หวงมาก เรื่องแฟนแม่ขอแค่ขอให้เขาดูแลลูกเราได้ไม่ใช่มาฉาบฉวยมันก็ไม่ดี เพราะเราเป็นลูกผู้หญิง ในศีลธรรมของคนไทยมันก็ไม่สมควรอยู่แล้ว ต้องดูว่าเขารักลูกเราจริงมั้ย แต่ตอนนี้เขายังไม่มีแฟนนะ (หัวเราะ)”