Inside Dara
'ทนายนิด้า'ฟาดแรงขยะสังคม เช่ารถไปจำนำ-ทวงเจอแจ้งตร.!

เมื่อวัน 19 เม.ย. โลกออนไลน์เกิดกระแสแชร์โพสต์จากทนายชื่อดังอย่าง ทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ ได้แชร์เรื่องราวเตือนภัย สำหรับผู้ที่ทำอาชีพรถเช่า หลังเจอลูกค้าแอบเอาไปจำนำ แถมเมื่อทวงกลับเจอแจ้งตำรวจจับอีก โดยทนายนิด้าระบุว่า "#หลอกเช่ารถ" ภาวะเศรษฐกิจก็แย่ คนทำมาหากินสุจริตก็โ-ตรลำบาก มีน้องๆ ทำธุรกิจให้เช่ารถยนต์ก็มาเจอขยะสังคมตระเวนเช่ารถแล้วเอาไปจำนำต่อเพื่อเอาเงินก้อนน้อยๆออกมาแบ่งปันกันกับแก๊งค์ตัวเองแล้วไปหาเช่าใหม่ อีคนรับจำนำก็เหลือเกิน ลูกความตามไปจนเจอรถตัวเองจอดอยู่สถานที่หนึ่งเลยเอากุญแจสำรองขับกลับมา เช็คไปกับกลุ่มให้เช่ารถด้วยกันหลายคนก็โดนแก๊งค์นี้ทำแบบเดียวกัน แต่ด้วยความยากลำบากและความต้องใช้ทุนทรัพย์ในการดำเนินคดีจึงทำให้แก๊งค์นี้ยังคงลอยนวล

ต่อมาน้องไปเจอขยะนี่ที่บนห้างแห่งหนึ่งกำลังทำการเช่ารถคนอื่นอยู่เดาว่าน่าจะทำแบบเดิม น้องๆ จึงเข้าไปขอพูดคุยด้วยว่าทำแบบนี้ทำไม เงินทองหายากลำบาก กว่าจะได้ค่าเช่ารถคันนึงวันละ 7-800 บาท แล้วพวกมึงมาทำแบบนี้กุจะเอาเงินที่ไหนส่งรถ มีปากเสียงชุลมุนกันพักนึง ขอกุญแจรถที่ยังไม่ได้คืน หลังจากนั้นขยะมันไปแจ้งตำรวจว่าน้องๆปล้นทรัพย์ และแจ้ง พรบ.ทวงหนี้

"ตำรวจชุดสืบก็เรียกไกล่เกลี่ย แต่ไกล่เกลี่ยประมาณว่า พรบ.ทวงหนี้โทษหนักนะ ร่วมกันปล้นก็โทษหนัก เอาง่ายๆ คือตอนนี้ยังไม่รับแจ้งความ เราจะไกล่เกลี่ยยังไง" วันนั้นเพิ่งเข้าไปเป็นทนายดูแลคดีนี้ให้น้องก็ถามตำรวจชุดสืบคนนั้นว่าหมายความว่าไง ตำรวจก็ประมาณว่าเราจะชดใช้ค่าเสียหายให้เขาได้ที่แค่ไหน ยังไงล่ะ นี่ก็เลยถามกลับไปว่าแล้วที่หลอกเช่ารถเพื่อเอาไปจำนำ ปลอมเอกสารว่าทางเรามอบอำนาจให้ไปจำนำ ขยะจะไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ยังไงจะได้ไว้เป็นแนวทาง "ตำรวจตบโต๊ะบอกไม่ให้เอาเรื่องนี้มาพูด เพราะเป็นคดีอื่น ท้องที่อื่น ให้ไปคุยที่ สน.อื่น" นี่ก็ขึ้นเหมือนกัน เพราะชีวิตการทำงานในศาลนอกศาล ไกล่เกลี่ยคือเอาทุกปัญหามาคุยกัน ให้จบด้วยกันไปพร้อมๆกัน ตำรวจก็ไม่ยอม "นี่ก็ไม่ยอมเพราะมองว่าตรรกะวิบัติ มาไกล่เกลี่ยให้โจร แล้วคนทำมาหากินอีกฝ่ายนึงต้องมาจ่ายตังค่าถามหากุญแจรถของตัวเอง ต่อไปจะทำมาหากินยังไง" เลยโดนตำรวจท่านนั้นไล่ว่าแบบนี้ให้เชิญกลับไป แล้วให้ขยะไปแจ้งความดำเนินคดีกับลูกความ

นั่นคือความเจ็บปวดที่เก็บไว้ตั้งแต่วันนั้นว่าการทำงานของตำรวจลักษณะนี้ที่ไม่มีจิตวิญญาณในการบำบัดทุกข์บำรุงสุข ไม่ได้อำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้ได้รับผลร้ายอย่างที่ควรจะเป็น ถ้ามีตรรกะที่ดีกว่านี้ ในวันนั้นเชื่อว่าจะไม่ได้ยินคำพูดว่าให้เอาอะไรไปคุยในท้องที่ใด เพราะการที่คุณเป็นตำรวจก็เป็นทั้งประเทศไทย อำนวยชัยให้ได้ทั้งหมดแม้การเอารถไปจะไม่ใช่ท้องที่ตัวเองแต่โจรนั่งอยู่ต่อหน้าคุณตรงนี้ ซึ่งคำตอบนี้น่าจะคิดเองได้ เพราะขนาดตัวเองเป็นตำรวจและอยู่ฝ่ายสืบสวนยังมีแก่ใจที่จะเรียกไกล่เกลี่ยได้เลย อันนี้งง!

"ที่มาเล่าให้ฟังเพราะวันนี้ได้ทราบว่าแก๊งค์นี้ไปทำเช่นนี้กับผู้ให้เช่ารถคนอื่นอีกแล้ว จากที่น้องคิดว่าจะใช้เวลาทำมาหากิน ไม่อยากเอาเรื่องเอาความเพราะลำพังหาเงินส่งรถแต่ละเดือนก็หนักมากแล้ว ก็คงต้องกัดฟันดำเนินคดีเอาแก๊งค์นี้เข้าคุกให้ได้เสียที" ได้แต่หวังว่าตำรวจที่มี mind set แบบนี้ ต่อไปต้องทบทวนการทำงานใหม่ให้ดี ถ้าตำรวจในวันนั้นให้น้ำหนักไปทางลูกความโดนเชิดรถมากกว่าพรบ.ทวงหนี้ คนเดือดร้อนในวันนี้อาจน้อยลงไปอีกอย่างน้อย 1 อัตรา "น้องพูดกับนิด้าตอนตัดสินใจดำเนินคดีว่า #ทำมาหากินสุจริตทำไมมันยากเหลือเกิน"

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงต่อว่ากระทำของมิจฉาชีพที่เบียดเบียนคนอื่น ยิ่งในช่วงสถานการณ์ระบาดขนาดนี้ยังทำได้ลงคออีกด้วย...

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @ทนายนิด้า