Inside Dara
จูลี่ เดอะเฟซ สุดกลั้นน้ำตา เปิดเหตุผลทำไม? เกือบยอมเป็นเด็กเสี่ย

จูลี่ เดอะเฟซ เผยชีวิตเคยลำบากมากจนเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะต้องหาเงินส่งตัวเองเรียน ต้องทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านแมคโดนัลด์ ก่อนจะเดินสายประกวดนางงาม เพราะพ่อแม่ส่งเสียไม่ไหว เล่าเคยไม่มีเงินสักบาทจนต้องไปขอเงินคนไม่รู้จัก เกือบคิดสั้นยอมเป็นเด็กเสี่ย แต่เพราะความรักดีจึงไม่คิดทำ

โชคดีตอนนี้มีงานมีเงินดูแลตัวเองได้แล้ว ความฝันต่อไปคืออยากทำงานเก็บเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ บอกไม่เสียใจแม้จะต้องออกจากการแข่งขันเดอะเฟซ มั่นใจหลังจากนี้จะมีงานแน่นอน

เป็นอีก 1 ตัวเก็งที่ถูกมองว่าน่าจะเป็น เดอะเฟซไทยแลนด์ คนที่ 3 สำหรับสาว จูลี่ วิลาวรรณ แอนเดอร์สัน ลูกทีมมาช่า-คริส แต่สุดท้ายก็ถูกให้ออกจากการแข่งขันเมื่อวันเสาร์ที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเมนเทอร์ลูกเกด

หลังจากที่ถูกให้ออกจากการแข่งขัน สาวจูลี่ก็ได้มาเปิดใจเล่าถึงเรื่องราวของชีวิตตัวเองว่า ครั้งนึงเคยลำบากมากจนมีความคิดว่าจะไปเป็นเด็กเสี่ยเพื่อหาเงินมาส่งเสียตัวเองเรียนให้จบ ซึ่งสาวจูลี่เล่าว่า

รู้สึกเสียใจที่ต้องออกจากการแข่งขัน เพราะว่าเราไม่สามารถคาดเดาเกมได้ จะเข้าห้องดำเมื่อไหร่ เค้าจะส่งใครไปห้องดำ สาเหตุที่ออกคือพี่เกดเคยพูดว่าถ้าเข้าห้องดำแล้วเจอกับเราอีกครั้ง เค้าก็จะเอาเราออก เค้าเตือนไว้แล้ว ครั้งที่ 2 พอรู้ว่าต้องเข้าห้องดำก็รู้ว่าจะต้องออก รู้แล้วว่าจะต้องไป

ในใจลึกๆ ก็หวังว่าเค้าจะเห็นใจเราในสิ่งที่เราพูดไป เห็นความตั้งใจเราที่เปลี่ยนแปลงให้เค้าเห็น เราไม่รู้ว่าเมนเทอร์จะมีเรื่องอะไร เป็นเรื่องส่วนตัวของพี่มาช่า เรื่องงานอะไรหรือเปล่า เราไม่รู้จริงๆ

แต่ถึงจะออกจูลี่ก็มองว่ามันเป็นเกมค่ะ เพราะว่าพอจบตรงนั้นพี่เกดก็มากอด รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่เค้ามี คือเค้าไม่ได้อยากเอาเราออกจริงๆ แต่เพราะเกมนะเค้าถึงทำ และไม่ได้รู้สึกโกรธ แค่รู้สึกว่ามาไกลแค่นี้ก็ดีแล้ว 11 วีคแล้ว ไม่คิดว่าจะอยู่ไกลขนาดนี้ ถ้าได้เป็นเดอะเฟซถือเป็นกำไรชีวิตมากกว่า ได้ก็ดี ถ้าไม่ได้เราก็ไม่ใช่เดอะเฟซ แต่ก็มีงานแน่นอน

เมื่อก่อนจูลี่เคยทำงานมาก่อน เปลี่ยนสายจากนางงามมาเป็นนางแบบ พอเลิกประกวดนางงาม มันต้องมองหางานอย่างอื่นทำ งานแรกที่ทำคือเดินแบบชุดแต่งงาน ก็มีงานมาเรื่อยๆ เพราะเห็นจากเฟซบุ๊กของเรา จูลี่ไม่ได้ชอบการเดินสายประกวดเลยค่ะ แต่ทำเพราะเงินอย่างเดียวเลย คือไม่ชอบการประกวด แต่มีคนมาชวนประกวดเยอะมาก ไม่ชอบทำอะไรที่ดูเป็นจริตผู้หญิง เพราะเป็นคนแมนๆ ห้าวๆ โอกาสมันมา มันต้องหาเงิน ก็เลยต้องทำ

ที่เราต้องหาเงินขนาดนี้เพราะต้องจ่ายค่าเทอมเอง เทอมละ 4 หมื่น ตอนนั้นเรียนการบิน คือพ่อแม่เคยซัพพอร์ตเราได้ แต่พอพ่อกับแม่ป่วยและแก่แล้ว มันเป็นจุดที่เราต้องทำ เราเป็นพี่คนโตของบ้าน (ร้องไห้) ต้องเข้มแข็งขึ้น

หนูคิดหลายอย่างมาก หนูเคยคิดจะฆ่าตัวตายก็มีนะ เพราะว่าพ่อหนูป่วยเป็นโรคหัวใจ ทำบายพาสหัวใจมันต้องใช้เงินเยอะ แม่หนูก็จบ ป.4 ค่ะ เป็นแม่บ้านธรรมดา เค้าเหนื่อยกับหนูมาตลอด และเค้าก็ไม่เคยบอกหนูเลยว่าเค้ากู้เงินมาให้เราเรียน ก็รู้สึกว่าทำไมไม่บอกแต่แรก จะได้ทำงาน คือเมื่อก่อนเค้าซัพพอร์ตได้แค่ค่าห้อง เลยทำงานร้านแมคโดนัลด์พาร์ทไทม์ระหว่างเรียน ก็ช่วยเค้าได้แค่นั้น

แต่พอมาถึงจุดที่แม่ถามว่าจูลี่เมื่อไหร่หนูจะเรียนจบ ก็บอกแม่ว่ารอหนูหน่อย เพิ่งอยู่ปี 2-3 เอง หนูจะรีบเรียนจบให้นะ เค้าบอกว่าตอนนี้พ่อกับแม่ไม่ไหวแล้ว หนูต้องช่วยทำอะไรอย่างอื่นที่มันได้เงินเยอะกว่านี้ได้มั้ย เค้ามาขอหนู

หนูก็คิดว่าจะทำอะไร เครียดมาก อยากขายของ อยากทำอะไรที่มันได้เงิน ไปเป็นเด็กเสี่ยมั้ย หนูคิดหมด จะทำอย่างไรให้ได้เงิน แต่ว่าหนูยังมีความรักดีอยู่ จุดที่ดาวน์ที่สุดคือไม่มีเงินเลยสักบาท ต้องหน้าด้านไปขอคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งเค้าก็น่ารัก ให้มาด้วย

เริ่มทำงานพาร์ทไทม์ได้ชั่วโมงละ 44 บาท ทำวันละ 6-8 ชั่วโมง เพราะว่าเราต้องเรียนไปด้วย รู้สึกเหนื่อย ก็เลยไปประกวดนางงาม ประกวดครั้งแรกได้มา 5 พัน รู้สึกทึ่งมาก เพราะมันคือเงินเดือนทั้งเดือนของหนูเลยนะ ก็เลยมาทางด้านนี้ ก็ทำมาเรื่อยๆ

ตอนนี้เงินที่ใช้ทุกบาททุกสตางค์คือเงินที่หามาได้เอง 100 เปอร์เซ็นต์ เราสามารถจ่ายค่าเทอมเองได้ จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ดูแลตัวเองได้ทุกสิ่งอย่าง พอมันทำให้ตัวเองได้ เราก็อยากจะทำให้พ่อแม่ อยากคืนเค้า แม่เพิ่งมาบอกว่าเค้ากู้เงินให้เราเรียน ก็เลยมุ่งมั่น ตั้งใจทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน

ตอนนี้อยู่ปี 4 เกรดเฉลี่ยน 3.48 เกียรตินิยมอันดับ 2 มันดีสำหรับเรามากที่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ตอนแรกหวังอันดับ 1 อยากให้แม่ภูมิใจ อยากให้คนรู้ว่าเราทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยได้ อยากให้ทุกคนมีเราเป็นแรงผลักดันในชีวิตว่าเราจะต้องสู้นะ

หนูเคยผ่านจุดต่ำสุดของชีวิตมาแล้วอย่างที่บอก มันเหนื่อยมากๆ แต่พอเราก้าวผ่านจุดนั้นมาได้ เราโคตรเก่งเลย มันสุดยอดมาก และนับถือแม่มากแม่อยู่ได้ไง แม่เก่งมาก มนุษย์พ่อแม่เค้าหามาได้หมด

จูลี่เล่าต่อว่าไม่ได้อยู่กับพ่อแม่นะ เพราะพ่อกับแม่ต้องอยู่ต่างประเทศหาเงินส่งมาให้ ก็เคยถามว่าทำไมเราไม่อยู่ด้วยกัน ทำไมไม่ทำงานที่ไทย แม่ก็บอกว่า ถ้ากูอยู่เมืองไทย กูจะหาเงินได้เท่ากับอยู่ต่างประเทศมั้ย จะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงพวกมึง คนเป็นแม่สู้หมดเลย ลำบากแค่ไหนเค้าก็สู้หมดเลย

แม่หนูจบ ป.4 จะทำงานอะไร หนูเป็นห่วงเค้ามาก เค้าก็บอกว่าเค้านวดได้ นวดแผนไทย จับเส้น (ยิ้ม) รู้สึกแม่เก่ง ดีใจมากที่ได้เป็นลูกพ่อลูกแม่นะ ถึงแม้เราไม่ได้อยู่กับเค้า เค้าไม่ได้เลี้ยงเรา แต่มันภูมิใจ ไม่เคยโกรธเค้าเลย ดีใจมาก

คือเคยเครียดมาก แต่อยู่กับตัวเองเยอะจนแบบรู้เลยว่าที่เราเป็นแบบนี้เพราะเราผ่านการเลี้ยงดูมาแบบไหน ถึงเข้าใจ แต่ไม่เคยเสียใจเลยเพราะได้เห็นตัวเองมากขึ้น เห็นคนอื่นมากขึ้น

พอเลี้ยงตัวเองได้ เริ่มมีเงินเก็บที่เยอะขึ้น อยากทำอะไรที่สามารถทำเงินให้เกิดผลประโยชน์และเลี้ยงพ่อแม่ได้ อยากซื้อบ้านให้พ่อกับแม่มาอยู่ด้วยกัน แม้พ่อแม่จะหย่ากันแล้ว แต่หนูก็หวัง หนูอยากอยู่กับพวกเค้า อยากดูแลเค้า อยากให้เค้าพักได้แล้ว เค้าแก่มากแล้ว คือจูลี่พยายามคิดว่าตอนนี้เราลำบากแล้ว แต่ยังมีอีกร้อยล้านชีวิตที่เค้าลำบากกว่าเราอีกค่ะ หนูเลยคิดว่าเราสบายมากแล้ว.