ภายหลังงานแถลงข่าว The New Era of MUT นำโดย บอสณวัฒน์ – ณวัฒน์ อิสรไกรศีล และแอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ร่วมแถลงข่าว ณ MGI HALL ชั้น 6 ศูนย์การค้า Bravo BKK (Show DC เดิม) พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 อย่างยิ่งใหญ่อลังการ จากนั้นผู้บริหารทั้ง 2 ควงคู่กันให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด
วันนี้ข่าวใหญ่สะเทือนวงการ? แอน จักรพงษ์ – “จบดีลกันด้วยการที่เรารักกัน ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่การแสดง แต่ต่อจากนี้เป็นต้นไปคือเรื่องจริง”
บอสณวัฒน์ – “เราคุยกันมาระยะหนึ่ง เราเหมือนเพื่อนพี่น้องไปมาหาสู่ ทำงานกันเยอะ ตามประสาเพื่อนอาจมีบ้างบางโอกาส อาจจะน้อยใจ เราก็ยอมรับ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นอย่างนั้น แต่ให้กำลังใจตลอด เพราะคุณแอนบิ๊กเซอร์ไพรส์ในการไปเอามิสยูนิเวิร์สมาได้ ผมเองก็เอาไม่ได้ และผมก็ลุ้นอยู่ตลอด แล้วได้มาจริงๆ
“เรารู้จักกันมาตั้งแต่โครงการเก่าๆ ตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่คุณแอนกลับมาจากออสเตรเลียใหม่ๆ บ้านคุณแอนเราก็เคยไป เราพูดคุยกัน ใช้เวลานานพอสมควร แต่คุยเรื่องอื่น คุยเรื่องธุรกิจจริงๆ อย่างที่เห็น โดยคุยเรื่องงานไม่ถึง 1 ปี เราก็ให้เกียรติคนเดิม ในการใช้สิทธิ์ในการเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์”
ทำไมถึงสนใจมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์?
บอสณวัฒน์ – “ผมอยู่วงการประกวดนางงามนี้มา 20 กว่าปี ตั้งแต่มิสไทยแลนด์เวิลด์ แล้วผมเคยเจอคุณพอลล่า ชูการ์ต มาก่อน ผมคิดว่าเวทีนี้เป็นเวทีศักดิ์สิทธิ์เวทีหนึ่ง เราเคยมอง แล้วอยากทำให้ดีที่สุด แต่โอกาสไม่ถึง”
“ผมต้องขอบคุณคุณแอน (ยกมือไหว้แอน และแอนไหว้ตอบ) ที่คุณแอนไปกระชากแบรนด์จากคนอเมริกันมาอยู่ในมือคุณแอนได้ อันนี้สุดยอด (ปรบมือ) เราไม่สนใจตรงอื่น เราสนใจตรงที่ว่า เอามาได้ อันนี้มันยากมาก ต้องรู้สึกภูมิใจ ก็เลยสนใจ”
ระยะเวลากี่เดือนที่คุยกันเรื่องนี้?
แอน จักรพงษ์ – “หลังจากเม็กซิโกก็เริ่มคุยกัน ประมาณธันวาคม มกราคม เริ่มคุยกันอย่างจริงๆ จัง แต่ก็เปิดโอกาสให้ทุกท่านเข้ามา ซึ่งมีหลายท่านมาเสนอเยอะมาก ที่เป็นพี่ณวัฒน์ได้ เพราะเป็นบอส โดยที่ให้พี่ณวัฒน์ ไม่ใช่เราคนเดียว ทีมที่นิวยอร์ก ทีมที่เม็กซิโกช่วยกันดู เป็นคุณสมบัติ ทั้งเรื่องประสบการณ์ เรื่องความพร้อมด้านการเงิน ความพร้อมด้านเน็กเวิร์กกิ้ง เมื่อสักครู่บนเวที โฆษณาพร้อม ลูกค้าพร้อม เวทีพร้อม สถานที่พร้อม เจ้าภาพภูเก็ตพร้อม ทุกอย่างพร้อมภายใน 1 วัน”
“ไม่ให้บอสจะให้ใครคะ มันคือความพร้อม ของคนที่จะรับงานของแต่ละประเทศ 120 ประเทศก็เป็นลักษณะนี้ ที่เราจะเฟ้นหาคนที่พร้อมมากที่สุด ของแต่ละประเทศไป”
เงิน 180 ล้านบาท มีความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน?
บอสณวัฒน์ – “จ่ายไป 180 ล้าน เมื่อสักครู่รับมา 115 ล้าน พีดีเอ็มยูที เมื่อสักครู่ก็ได้ไปหลายสิบล้านแล้ว ก่อนที่เราจะจัดประกวด ปีนี้ก็คุ้มทุนเรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญที่สุด ต้องบอกผู้ถือหุ้นว่า เราไม่ได้เพิ่มทุนใดๆ ทั้งสิ้น เราไม่ได้ทำอะไรที่ใช้กลยุทธ์ทางการเงิน เราใช้เงินที่เรามีอยู่ จ่ายไป 180 ล้าน ไม่ได้เพิ่มทุน หรือทำใดๆ ทั้งสิ้น”
เวที MUT จะซ้ำซ้อนกับ MGI หรือไม่?
บอสณวัฒน์ – “ไม่ซ้ำซ้อนครับ ถ้าผมไม่ได้ทำ คนอื่นก็ทำ คนอื่นต้องมีวิธีการหาเงินอยู่แล้ว เพียงแค่ว่า ผมเข้าไปทำอีกอันหนึ่ง แต่ผมจะไปขยี้ให้รายได้เพิ่มพูนมากขึ้น บอกเลยในเมืองไทยสามารถทำให้เป็นเงินเป็นทองได้ อย่างสปอนเซอร์ที่เราเห็น บางคนบอกเป็นไปได้เหรอ 30 ล้าน เราเป็นบริษัทมหาชน เราไม่กล้าผิดแม้ตัวเลขเพียงตัวเดียว เชื่อเถอะว่าคนไทยทำมาหากินเก่ง ทำธุรกิจเก่ง เพียงแค่รอจังหวะและเวลา”
“ผมขอจังหวะนี้ มาช่วยกันพัฒนามิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ให้เป็นเนื้อเป็นหนัง ให้เป็นเงินเป็นทองเพื่อซัพพอร์ตทางคุณแอน ทาง JKN ทางมิทยูนิเวิร์ส อันนี้ผมด้วยความจริงใจ ที่ผมเข้ามา บางทีเราก็กลับไปนั่งคิด ทำไมเราประทับใจและสงสาร ทำไมคุณแอนต้องวุ่นวายอยู่คนเดียว ทำไมคุณแอนต้องต่อสู้ขนาดนี้”
“เราเลยอยากบอกคุณแอน ทุกครั้งที่เจอกัน คุณแอนปล่อยตัวสบายๆ ทำงานให้สนุกๆ ไม่ต้องตอบโต้สื่อ มันคือความรู้สึกมากกว่าคำว่าเพื่อน คือความรู้สึกว่าพร้อมจ่าย เราอยากซัพพอร์ตเพราะเค้ามีของดี เค้ามีทิศทางดี และเค้าเก่ง แต่เหมือนพวกขยะจะลอยมาหาเขาอยู่เรื่อย ก็อยากให้เค้าทิ้งไปบ้าง”
คุณแอน 180 ล้านบาท เอาไปทำอะไรต่อ?
แอน จักรพงษ์ – “เอาไปดำเนินการทางธุรกิจต่อ ถือได้ว่าเป็น 120 กว่าประเทศทั่วโลกที่ชำระเข้ามา ถือเป็นรายรับบริษัทที่มีกระบวนการ นำไปขยายงานต่อ และชำระสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ”
บอสณวัฒน์จะเข้าไปเจ้าของ MU ใหญ่ หรือเปล่า?
บอสณวัฒน์ – “เราไม่คิดไปไกลขนาดนั้น ไปทีละสเต็ป ถ้าเราคอเปอร์เรตกันแล้วทำให้เกิดผลดีทั้งคู่ มันก็อาจเป็นไปได้ในอนาคต แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไร แต่สำหรับเรื่องเจ้าภาพ ก็ได้คุยกันในเบื้องต้น อยู่ระหว่างการศึกษา เพราคุณแอนเองมีความคิดค่อนข้างชัดเจน ที่พูดเรื่องประเทศไทย การท่องเที่ยว ดังนั้น อะไรที่เราซัพพอร์ตได้ เดี๋ยวเราต้องไปคุยอีกครั้งหนึ่ง”
เป็นไปได้ไหมที่ MGI จะเป็นเจ้าภาพจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส?
บอสณวัฒน์ -“ถามว่าเป็นไปได้ไหม ก็ต้องตอบว่า เป็นไปได้นะครับ แต่ไม่ได้ตอบว่าเป็นไปแล้วนะ”
แอน จักรพงษ์ – “เราคนไทยด้วยกัน ตอนนี้ เรามองกันอย่างเดียวว่า จะทำยังไงให้ประเทศยิ่งเจริญขึ้นไป เฉพาะปลายปี รายรับไหลมาเทมาในเรื่องของการท่องเที่ยว เพราะเสาเข็มของประเทศคือการท่องเที่ยว”
“พอเรามีอีเว้นต์ใหญ่ระดับโลก มันคือบิวตี้โอลิมปิก เวลาเข้ามาได้ท่องเที่ยว ได้ซื้อของ ได้ใช้บริการโรงแรม ร้านอาหาร ตั๋วเครื่องบิน เราได้เงินกันหมดเลย ถ้ามีโอกาส คนไทยด้วยกันเองจับมือทำก็ยิ่งมีความน่าภาคภูมิใจ ถ้าเปรียบเทียบ เราทำงานด้านกันเองก็มีความภาคภูมิใจมากกว่าต่างชาติ”
ถ้าไทยเป็นเจ้าภาพ ณวัฒน์จะทำไหวไหม?
บอสณวัฒน์ – “ถ้าคุณแอนอยากให้ทำ เราก็ยินดีจะทำ ซึ่งตอนนี้ผมช่วยดูโน่นดูนี่ให้ แต่ไม่เป็นเรื่องเป็นราว เพราะเป็นบริษัทตลาดหลักทรัพย์ทั้งคู่ เพราะทำแล้ว ผู้ถือหุ้นต้องมีความสุข เราต้องตัดสินใจด้วยตัวเลข และผู้ดูแลความเสี่ยงซึ่งกันและกัน เราต้องรับผิดชอบผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัท ถ้ามันดีเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ มันวินกันไปหมด เราจะได้เห็นภาพนั้นเช่นกัน”
เงื่อนไขการเป็นเจ้าภาพประกวดมิสยูนิเวิร์สคืออะไร?
แอน จักรพงษ์ – “คือความทรหด การเป็นเจ้าภาพทรหดมากบินมาทั่วโลก 130 ประเทศ คือ ความทรหด คือการลงทุน คือเน็ตเวิร์กกิ้ง และต้องมีประสบการณ์ ทีมงานสำคัญมาก มันเป็นโอลิมปิกของโลกทางด้านความงาม”
เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง?
บอสณวัฒน์ – “เราใช้เพลงใหม่ โดยใช้ออริจินัลมาจากเวที MU ใหญ่ และมาปรับให้เข้ากับคนไทยมีเครื่องดนตรีไทน สิ่งที่ชัดเจน ทุกคนไม่ต้องกังวล มิสแกรนด์คือคนบ้า เอะอะโวยวาย และเอ็นจอยกับทุกๆ คน แต่ยูนิเวิร์สต้องสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น อาจสนุกเหมือนคนปกติได้ แต่ต้องมีการคีพบางอย่างอันไม่เหมาะสม”
“เรื่องโชว์ เราไม่เน้นเต้น เราเน้นเดิน เน้นพูด หรือการตอบคำถามให้มากขึ้น เพื่อให้ดูว่าใครสามารถดำรงอยู่ในภาวะคับขัน หรือต้องเจอคำถามที่ไม่รู้มาก่อน เพราะเราต้องการคนที่ไปซัพพอร์ต MU ที่สามารถไปอินสไปร์คนอื่น และไม่มีใครมาชักใยอยู่เบื้องหลัง ไม่มีระบบภาค”
“ยังมีระบบไลฟ์ขายของ เพราะเราดำเนินการ เวทีไหนบนโลกใบนี้ไม่ต้องมาเลียนแบบผม ทุกเวที หลายเวทีเงียบไป หลายเวทีเจอปีละครั้ง ไม่มีบริบทอะไรมากมาย เพราะเศรษฐกิจของเวทีนั้นๆ ไม่ได้กล่าวล่วงใคร ต้องขออภัยไว้ก่อน เราได้คุยกันตรงกัน คุณแอนยังขายของ ทุกวันนี้ ถ้าคุณแอนยังขายของทุกคนต้องซื้อ ถ้ารักณวัฒน์ ต้องรักคุณแอนด้วย เดี๋ยวเราจะไลฟ์ด้วยกัน เราไลฟ์ขายของให้ยูนิเวิร์ส ไลฟ์ขายของให้ยูนิเวิร์สให้ MGI”
ในยุคของ MGI จะมีนางงามจักรวาลไหม?
บอสณวัฒน์ – “ผมพูดตรงๆ ผมจะไม่ใช้แฮชแท็กมง 3 จากนี้เป็นต้นไป ผมใช้คำว่า การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพื่อมุ่งตรงประกวดมิสยูนิเวิร์ส เพราะการที่เรามาบอกว่า เราจะได้มง 3 มันกดดัน และผมว่า สักวันต้องมีคนได้มง เป็นไปไม่ได้ที่เลื่อนลอยไป 100 ปี เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่ว่า เมื่อถึงเวลาอันสมควร มันลอยมาเอง ตามคุณสมบัติครบถ้วน”
“มันก็กลายเป็นเรื่องซ้ำซาก ผิดหวัง และเป็นวลีซ้ำซ้อนอยู่ร่ำไป แต่ใครจะเรียกผมไม่ว่า แต่ทางบริษัท พยายามหลีกเลี่ยงการทำสิ่งนี้ เพื่ออยากได้มง 3 เท่านั้น แต่เราอยากให้การเจริญเติบโต ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่เก่ง หากินบนลำแข้งตัวเอง และเป็นสตาร์ดวงใหญ่ๆ อันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
ความคาดหวังการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์
แอน จักรพงษ์ – “โปรดักชั่น และการเตรียมการของบอสที่มีหมด และความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดประกวดนางงามอย่างแท้จริง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่หายาก หลายประเทศอาจเป็นเอเจนซี่ หรือช่องโทรทัศน์ คนที่มีความเชี่ยวชาญอย่างนี้ต้องส่งเสริม เค้าทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่บริบทของความเป็น MUT ก็เป็นบริบทจักรวาล แค่มอบโจทย์สำหรับคนที่พร้อม ย่อมได้เสมอ”
“สำหรับมง 3 ทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์กติตา มีกรรมการไว้ และเชิญผู้ทรงเกียรติมา และที่สำคัญมีบริบทที่เป็นวิธีการให้คะแนนของจักรวาลที่ส่งมอบกันมา ดังนั้น ต้องเคารพในกฎกติกา”
การหา MUT เน้นอะไร?
บอสณวัฒน์ – “ทุกอย่างใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน ต้องอยู่ในสัญญษ และต้องทำตามองค์กรมิสยูนิเวิร์สทุกอย่าง”
จะมีโอกาสทำงานกับน้องๆ ที่ได้มงปีก่อนๆ ทำงานร่วมกับณวัฒน์ได้หรือไม่?
บอสณวัฒน์ – “ไม่ได้ติดขัดอะไร ไม่มีอะไรกีดกั้นอะไรมากมาย ส่วนเรื่องอำลาตำแหน่ง ยังไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น ขออนุญาตปรึกษาอีกครั้ง”
มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ยุค MGI ต้องมีอะไรพิเศษ?
บอสณวัฒน์ – “ความสวยที่มีมูลค่าจริง เมื่อจบจากจักรวาลการประกวด ชีวิตต้องมีเงิน และเติบโตต่อได้จริง ไม่ว่าตำแหน่งนั้นจะจบลงที่ท็อปไหน แต่กลับมาต้องมีงานหามรุ่งหามค่ำ นั่นคือความสำเร็จของเราและของนางงาม สมมติ ปีนี้ได้มง ปีที่เหลือไม่มีความหมายเลยเหรอ”
“เมื่อจบภารกิจจักรวาล คุณต้องเป็นดวงดาวดวงใหม่ให้ได้ สวย ครบเครื่องทุกอย่าง เพราะทุกคนคอยดูผลลัพธ์ ผมจะไม่ทำให้คุณแอน และองค์กรยูนิเวิร์สต้องเสียหน้า ถึงเรื่องการจัดการ และวิธีการจัดงาน”
มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนแรกของณวัฒน์ต้องเป็นอย่างไร?
บอสณวัฒน์ – “ต้องมีความเป็นบิวตี้ควีน ความคาดหวังกับผม ไม่รู้สึกกดดัน”
แอน จักรพงษ์ – “พูดจากใจจริง อยากเห็นผู้หญิงไทยๆ จริงๆ ที่มีความสามารถขึ้นสู่เวทีอินเตอร์ มีความฉลาด สวยและมั่นใจจริงๆ แต่รู้จักถ่อมเนื้อถ่อมตัว ทำงานได้ เข้ากับองค์กรได้ เทรนได้ มีสัมมาคารวะ ทำงานด้วยกันได้ดีอย่างราบรื่น และปีนี้เป็นปีของประเทศไทย อยากได้คนพรีเซ้นต์ผู้หญิง แผ่นดินสยาม มาปุ๊บ เห็นเลยว่า แผ่นดินสยามสวยงามจังเลยผู้หญิงคนนี้ อาจเป็นคนใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในสื่อเลย”
บอสณวัฒน์ – “เราก็รับหมดตามคุณสมบัติตามที่ MU ออแกไนเซชั่นกำหนด แล้วปีนี้เราเป็นเจ้าภาพ เราต้องพรีเซ้นต์ในการประกวด เราต้องพรีเซ้นต์การนำเสนอประเทศ อย่างน้อย คุณสมบัติเบื้องต้น ภาษาอังกฤษต้องพอสื่อสารได้ เราต้องบอกเค้าให้รู้เรื่อง เราจะไปไหน จะทำอะไร ต้องคุยภาษาอังกฤษกันเยอะๆ อย่างอื่นไม่ติด”
ที่ผ่านมาเราไม่บาดหมางกันเลยใช่ไหม?
แอน จักรพงษ์ – “แอน มีอะไรเหรอคะ”
บอสณวัฒน์ – “เอาสาระแรงๆ ชัดๆ ไม่มีอะไร เพื่อนฝูงอาจมีงอนบ้าง อะไรบ้าง คุยๆ หยุดๆ แต่พอคุณแอนมาทำสายงางงาม เราก็คุยกันเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้คุยเรื่องมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จนเค้าเปิดบิทกันจากเม็กซิโก เราคุยกันในฐานะคนรู้จักกัน ก็เลยมาถึงวันนี้ ไม่มีอะไรหรอกครับ เรารักกัน”
“ตั้งแต่รู้จักกันมาถึงวันนี้ เราก็ช่วยเหลือแชร์ความคิดประสบการณ์ อะไรที่ซัพพอร์ตกันได้ ก็แชร์กันได้ อย่างน้อยๆ เขาก็เป็นเบอร์ 1 ของโลก ผมสะใจนะที่เอามาจากคนต่างชาติได้ ก็ต้องดูนะ คนต่างชาติอย่ามายุ่งวุ่นวายมากนะ”
สถานการณ์ JKN เป็นอย่างไรบ้าง?
แอน จักรพงษ์ – “ตอนนี้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูแล้ว ก็ดีค่ะ สวยค่ะ พร้อมเดินหน้าต่อ ดีใจที่ตัวเองเคลียร์บ้านใหม่ จัดทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง”...
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012