Inside Dara
‘น้ำหวาน’ มุ่งตามฝัน สำเร็จได้ต้องพยายาม

อย่างที่เราทราบกันว่าการที่คนจะตัดสินใจโหวตเลือกผู้เข้าแข่งขันประกวดร้องเพลงเวทีต่าง ๆ ของบ้านเรา ส่วนใหญ่น้ำหนักไปฝั่งหนุ่ม ๆ ซะมากกว่า แต่ในปีนี้เวทีประกวดร้องเพลง เคพีเอ็น มิวสิค อวอร์ด ครั้งที่ 23 ผู้ชนะเลิศรับรางวัลถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีนี้คือ น้ำหวาน-พรพรรณ มนชะติน สาวน้อยวัย 21 ปี จาก จ.ชลบุรี งานนี้ “ดาวต่างมุม” เลยนัดพูดคุยเบา ๆ กับสาวน้ำหวานถึงเส้นทางการตัดสินใจมาประกวดร้องเพลงจนได้แชมป์ว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบ ยากมากแค่ไหนเป็นแรงบันดาลใจน้อง ๆ ให้ก้าวไปตามฝันกันต่อจ้า

จุดเริ่มต้นที่ตัดสินใจมาประกวดร้องเพลง?

“หนูเป็นคนชอบร้องเพลงตั้งแต่ ป.6 ประกวดมาตลอด ร้องเพลงลูกทุ่ง เพลงป๊อป สากล แล้วตัดสินใจจะทำยังไงก็ได้เพราะเราอยากเข้าวงการบันเทิง เริ่มจากการประกวดร้องเพลงก่อน จากงานวิชาการ มาระดับภาค และระดับประเทศ แล้วก็มาประกวดในกรุงเทพฯ แต่เราดูการประกวดของเคพีเอ็นมานานแล้วก็อยากมามากค่ะ แต่การร้องเพลงเรายังไม่เก่งมาก เวทีเคพีเอ็นเป็นเวทีที่ศักดิ์สิทธิ์มากอย่างที่เราทราบกันดี ที่สำคัญต้องร้องเพลงสากลซึ่งเราต้องฝึกให้เป๊ะก่อน จากนั้นจึงตัดสินใจเข้ามาประกวดเคพีเอ็นครั้งนี้ค่ะ เวทีอื่นเราก็เคยลองแต่ไม่เคยเข้ารอบลึก ๆ เลย จนมาเคพีเอ็นเข้ามาได้ลึกขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าจะได้แชมป์เลย คิดแค่ว่าติด 10 คน ก็โชคดีมากแล้วค่ะ”

ที่ผ่านมาเราผ่านเวทีประกวดมามากแค่ไหน ?

“ตั้งแต่เด็กมา ประมาณ 30 กว่าเวทีได้ค่ะ (หัวเราะ) เดินสายไปหมด นี่ขนาดไม่ได้นับงานวัดนะคะ มีไปแคสติ้งละคร โฆษณาบ้างแต่ไม่เคยได้เลย แต่เรามีความตั้งใจ ชอบด้านนี้จริง ๆ ตั้งแต่ร้องเพลงมา ขนาดว่าเรียนสายวิทย์-คณิต แต่ไม่เคยคิดจะเป็นด้านอื่นเลย ถ้าไม่ได้เป็นดารานักร้องจะไม่เป็นอย่างอื่นเลย อาจเป็นเพราะตอนอนุบาลครูให้เราไปเต้น ร้องเพลง เราชอบมีคนชื่นชมเรารู้สึกมีพลัง มีความสุขมาก พอเริ่มโตขึ้นได้เป็นนางรำ ได้เต้นมาเรื่อย ๆ ก็ยิ่งใช่เลยตัดสินใจว่าเราจะเดินทางเส้นนี้ให้ดีที่สุด ครอบครัวเต็มที่มาก คุณพ่อคุณแม่ขับรถพาไปประกวดตลอด คุณพ่อคุณแม่จะมั่นใจในตัวหนู เราเริ่มประกวดร้องเพลงตั้งแต่อายุ 12 ขวบ มีรายได้บ้าง เขาก็ดูแลตลอด เวลาไปงานแต่ง งานบวช งานเกษียณอายุหนูก็จะไปร้องเพลง คุณแม่ก็พาไปตลอด ที่ผ่านมาเราเองก็ไม่เคยทำให้เขาเสียใจมีแต่ทำงานให้ครอบครัว จนมาชนะเคพีเอ็นทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็มีความสุขมากค่ะ ประกวดมาเยอะไม่เคยท้อและถอยเลย แค่คิดเฉย ๆ ว่าเพราะอะไรถึงไม่ประสบความสำเร็จทั้งที่ประกวดหลายเวทีแล้ว ถ้าไม่ได้เคพีเอ็นเวทีนี้ก็ยังจะไปประกวดเวทีอื่นต่อไปหรือกลับมาเคพีเอ็นอีกแน่นอน เพราะใจเราหวังเล็ก ๆ เราน่าจะได้บ้าง ไม่เคยโทษว่าเราไม่เหมาะ แต่คิดเสมอว่าเราไม่ได้เพราะอะไร ไม่ดีจุดไหนเอาข้อด้อยมาพัฒนาเพื่อให้เขาเลือกเราในครั้งหน้า”

ส่วนมากผู้ชายจะเป็นแชมป์มากกว่าผู้หญิง รู้สึกยังไงที่เราคว้าแชมป์ได้?

“หนูว่ามันชัดเจนนะคะ เรารู้สึกว่าสัปดาห์แรกยังเฉย ๆ แต่สัปดาห์ต่อมาเราก็ดูพัฒนาดีขึ้นบ้าง ตอนซ้อมก็ทำให้มาตรฐานมันดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเต็มที่เพื่อคะแนนโหวตที่ประชาชนเขาให้เรา แล้วผู้หญิงทุกเวทีจะชนะยากมาก ผู้ชายไม่กรี๊ดผู้ประกวดหญิง ส่วนผู้หญิงก็จะกรี๊ดผู้ประกวดชายมากกว่าเนอะ แต่เราโชคดีมากจริง ๆ ที่คนดูชอบเรา เราไม่คิดว่าจะได้ สุดท้ายพอเราได้ก็เพราะประชาชนเลือกเราที่เสียง จริง ๆ แล้วหลายคนให้กำลังใจ ต้องขอบคุณทุกกำลังใจ เราเข้าไปอ่านเว็บไซต์เหมือนกัน คนบอกชอบเราที่เสียงร้อง ก็อยากให้ติดตามกันต่อไป ซ้อมร้อง ซ้อมเต้น แล้วหวังว่าจะมีผลงานออกมาให้ติดตามเร็ว ๆ นี้ค่ะ”

คลื่นลูกใหม่เข้ามาเยอะกลัวหรือเปล่า?

“การประกวดร้องเพลงมีตลอดทุกปี คนเก่งก็เยอะมาก เราต้องซ้อมอย่างหนักทุก ๆ ด้าน ถ้าไม่อยากมาเร็วไปเร็วก็ต้องคอยกระตุ้นตัวเอง ถ้าเราอยู่กับที่ก็เหมือนถอยหลังและคนอื่นจะเดินไปข้างหน้าและจะอยู่ในวงการนี้ได้ไม่นาน อีกอย่างเราจะต้องไม่เปลี่ยนไปตามเวลา จะต้องเป็นคนร่วมงานกับใครก็ได้ ตั้งใจ ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบเต็มที่กับงานที่เขาจ้างก็น่าจะอยู่ในวงการได้อีกนานค่ะ”

การเรียนเป็นอย่างไรบ้าง?

“ตอนนี้น้ำหวานเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยบูรพา คณะภูมิศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ค่ะ คนละทางกับร้องเพลงเลย เพราะเราเรียนสายวิทย์-คณิต มาเลยเลือกสายนี้ คนละแนว แต่ถือว่าเราได้ความรู้จากด้านนี้ต่อยอดต่อไปในอนาคตก็โอเคค่ะ”

ตัวตนเราเป็นยังไง ดูภายนอกดูสุขุมนะ ?

“ดูข้างนอกเป็นแบบนั้น แต่ถ้าอยู่กับเพื่อนจะคนละเรื่องเลยค่ะ เฮฮา สนุกสนาน เรามีหลายมุม ถ้าทำงานจะจริงจัง พอสบาย ๆ ก็จะเป็นเด็กกะโปโลมาจากต่างจังหวัดเลย”

วงการนี้ให้อะไรกับเราบ้าง?

“ให้เราได้รู้มากกว่าที่เรารู้ เราเป็นแค่เด็กประกวดร้องเพลงที่ต่างจังหวัด คิดแค่ว่าจะทำยังไงให้คนฟังรู้ว่าเราร้องเพลงเพราะ แต่ตอนนี้รู้แล้วไม่ใช่แบบนั้น เพราะศิลปินที่ดีต้องทำยังไงก็ได้ให้คนฟัง ฟังเพลงเราแล้วมีความสุขมันต่างกันนะคะ ตอนนี้พอเข้ามาทางนี้ทางเคพีเอ็นสอนให้เราเป็นศิลปินที่มีความเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ทำให้คนฟังมีความสุขด้วย พยายามให้เราเรียนแอ๊คติ้ง ร้องเพลง และเรียนเต้น ให้อะไรกับชีวิตเรามาก ต้นปีหน้าจะมีผลงานเพลงให้ฟังแน่นอน เดี๋ยวจะเริ่มเข้าห้องอัด งานละคร งานการแสดงกำลังซ้อมเพิ่มเติม ก็หวังว่าจะได้รับโอกาสบ้างค่ะ หนูอยากเล่นบทร้าย มันดูท้าทายฝีมือเพราะเราเป็นคนนิ่ง ๆ ถ้าลองไปร้ายน่าจะสนุกและพัฒนาฝีมือต่อไปได้ค่ะ”

เรื่องความรักเป็นยังไงบ้างมีคนคุยหรือยัง?

“ก็มีคุยอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้ก็จริงจังกับเรื่องงาน แต่ถ้ามุมมองความรักของหนู ยังมองว่ารักคือสิ่งที่สวยงาม คือความเสียสละ ถ้าเขารักเราก็ต้องเสียสละได้หมด แต่ถ้าเขาไม่รักเราเขาจะไม่พยายามทำอะไรเพื่อเรา ถึงแม้เราจะดีแค่ไหน คนนี้ก็ให้กำลังใจ ช่วยเหลือกันไป ความเข้าใจของเรามันต้องมีแต่เขาอาจจะกังวลนิดหน่อยกับการทำงานในวงการ ต้องเจอคนเยอะด้วยแต่ก็ต้องพูดคุยกันให้เข้าใจ ก็คุยแบบเพื่อนไป รู้สึกสบายใจไม่กะเกณฑ์ แต่ที่เรายอมเล่าให้ฟังเพราะมองว่าความรักเป็นเรื่องปกติ เขาเองก็เป็นคนดีจริง ๆ เป็นเพื่อน เป็นคนที่คอยให้คำปรึกษาที่ดี เป็นความรักที่ดีก็น่าจะบอกดีกว่าค่ะ”

สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามให้กำลังใจเราตั้งแต่เริ่มประกวดบ้าง?

“น้ำหวานขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบ ได้รู้แล้วคำว่าแฟนคลับเป็นยังไง เวลามีคนมารักเราเพิ่มมันรู้สึกดีมาก ขอบคุณทุก ๆ อย่าง ทุกกำลังใจจริง ๆ แล้วก็อยากให้ติดตามผลงานเพลงด้วยเร็ว ๆ นี้แน่นอน แล้วจะเป็นน้ำหวานคนเดิมแบบนี้ตลอดไปไม่ให้ทุกคนผิดหวังสมกับทุกคนรักเราค่ะ”

ใครที่กำลังอยากจะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง อ่านบทสัมภาษณ์สาวน้ำหวานจบแล้วคงมีกำลังใจสู้ไม่น้อย และเราเชื่อว่าสักวันความพยายามของคุณจะพาคุณประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคตเหมือนสาวน้ำหวานแน่นอนค่า...สู้สู้.