Inside Dara
'จุ๋ย' ตกใจคนเม้าท์แรงภาพขี่หลังจับหน้าอก 'พุฒ'

จุ๋ย วรัทยา ตกใจคนวิจารณ์แรงภาพขี่คอจับหน้าอกดีเจพุฒ พุฒิชัย เผยทางนิตยสารขอโทษตนที่เลือกรูปนี้มาลงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รับฝ่ายชายคือคนเดียวที่คุยด้วยแต่ไม่เร่งรีบเรื่องความรัก เมินมีเพจแอนตี้โจมตี-ไม่คิดตามหาตัวคนทำ

กลายเป็นเรื่องเม้าท์แรงไปเรียบร้อย หลังมีภาพแฟชั่นนางเอกหน้าคม จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา ขี่หลังดีเจหนุ่ม พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน ในนิตยสารเล่มหนึ่ง แถมด้วยชอตเด็ด จับหน้าอกของพุฒอีกด้วย งานนี้บรรดาขาเม้าท์เลยวิจารณ์กันสนั่นถึงความสนิทสนมของทั้งคู่ที่แลดูจะมากเกินคำว่าคู่จิ้นในจอรึเปล่า โดยเฉพาะฝั่งสาวจุ๋ยเองก็งานเข้าหนักถึงขั้นมีคนทำเพจแอนตี้เจ้าตัวซะแล้ว เรียกว่าตอกย้ำกระแสโจมตีสาวจุ๋ยในโลกไซเบอร์ที่มีมาได้พักใหญ่อีกด้วย ได้เจอจุ๋ยมาร่วมงานแฟชั่นโชว์เปิดตัวคอลเลกชั่นประจำฤดูหนาว "โพเอม" ที่ศูนย์การค้าเกษร พลาซ่า เลยให้เจ้าตัวเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว

ซึ่ง จุ๋ย เผยถึงกรณีภาพขี่หลังจับหน้าอก ดีเจพุฒ ที่เป็นประเด็นร้อนในเวลานี้ว่า "คือทางหนังสือได้มีการมาขอโทษแล้วที่ดูไม่ดี คือโจทย์ที่เราได้รับคือเล่นๆ กันไปทำยังไงก็ได้ให้สนุก เพราะแสงก็จะหมด ฝนก็ตั้งเค้ามาแล้ว ก็ต้องทำทุกอย่างให้มันรวดเร็ว แต่ก่อนหน้านี้เคยถ่ายเล่มนี้มาแล้วแต่ก็ไม่เคยต้องมาเครียดขนาดนี้ แต่พอวันหนึ่งที่มันมีความดังเกิดขึ้นมาทำให้ทุกอย่างมันเซ้นซิทีฟไปหมด" ตอนเห็นภาพตกใจแล้วคิดว่ามันจะเป็นประเด็นขนาดนี้ไหม? "ก็ตกใจนิดนึงว่าหนังสือเลือกภาพนี้เลยเหรอ คือมันเป็นภาพเล่นๆ กันในการทำงานมากกว่า แล้วมันก็ไม่ได้แตะลงไปจริงๆ เพียงแต่ภาพมันอาจจะดูใกล้มากแต่มันไม่ได้แตะลงไปจริงๆ" พอภาพออกมาเราซีเรียสไหม? "ซีเรียสไหม ก็ให้มันเป็นกระแสวิจารณ์ไป เราทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะภาพมันออกมาแล้วแต่ว่าครั้งต่อไปหนังสือเขาก็ขอโทษแล้วแหละ ครั้งต่อไปเขาจะดูแลให้ดีกว่านี้ เขาก็ทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เราเองก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่ามันจะเกิดผลอะไรแบบนี้" แสดงว่าไม่ได้คุยกับทางหนังสือก่อน? "คือทุกอย่างมันเร็วมาก เราก็ไม่ได้พรูฟ ไม่เห็นว่าเขาจะเอาอะไรมาลงบ้าง คือมันไม่ได้ลงแค่หนังสืออย่างเดียว ดันลงไอจีด้วย คือถ้ามันมีแค่ในหนังสือมันจะไม่กว้างขนาดนี้ แต่นี่ลงไอจีแล้วแฟนคลับก็เร็วมาก เราก็ต้องยอมรับทุกอย่างกับผลที่มันเกิดขึ้น" แต่ภาพเหมือนมันสื่ออะไรออกมาสักอย่าง? "ไม่นะ คือไปดูเลยพระ-นางไม่ว่าจะเรื่องไหนก็แล้วแต่ขี่คอไหม ขี่หลังไหม (ยิ้ม)" แต่ดูเหมือนมันจิ้นกันเกินไป สนิทกันมาก? "(หัวเราะ) ยอมรับว่าสนิทกันจริงๆ คือจุ๋ยเองไม่ได้สนิทกับนักแสดงชายทุกคน ถามว่าสนิทไหม เราสนิทกันมาตั้งแต่ฝันเฟื่องแล้ว"

ล่าสุดพุฒบอกว่าพร้อมถ้าเกิดมันจะมีการพัฒนาความสัมพันธ์? "(หัวเราะ) คืออนาคตมันคือสิ่งที่เราสองคนไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมา แต่คือ ณ ปัจจุบัน พุฒเป็นเพื่อนที่ดีและนิสัยดี ทัศนคติในการคุยดี ฉะนั้นง่ายมากที่จะคุยกับพุฒ ดังนั้นความรู้สึกดีๆ ที่จุ๋ยกับพุฒมีให้กันมันมีอยู่แล้ว แต่เรื่องของความรักจุ๋ยไม่ได้เร่งรีบกับมันมาก เรารู้สึกว่าให้มันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ปัจจุบันมันพัฒนามาจากความเป็นเพื่อน ก็ให้ความเป็นเพื่อนนี่แหละค่อยๆ ทำให้เราได้คุยกัน แล้วจุ๋ยสนิทกับพี่ๆ นักข่าวอยู่แล้ว ถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้นมาจริงๆ วันหนึ่งจุ๋ยจะมายืนแมนๆ ตรงนี้แล้วบอกว่าจุ๋ยเจอคนที่ใช่แล้ว" เรียกว่ากำลังศึกษากันอยู่ได้ไหม? "คือศึกษาก็ไม่ได้เพราะเรารู้จักตัวตนกันมาตั้งแต่ฝันเฟื่อง ไม่ได้กั๊กอยู่แล้ว นิสัยพุฒเห็นยังไง จุ๋ยก็ทำให้เห็นตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ เพราะว่าไม่ได้แอ๊บมาตั้งแต่แรก" มันเข้าใกล้คำว่าใช่หรือยัง ทุกวันที่เราเรียนรู้กันมา? "เข้าใกล้คำว่าใช่หรือยัง (หัวเราะ) ขอใช้เวลานิดนึงได้ไหมคะ แหม (ยิ้มเขิน)" แต่ที่เราคุยกันคือเราก็พร้อมที่จะพัฒนาไปจนถึงจุดนั้น? "คือถ้าในอนาคตมันสามารถเปลี่ยนไปได้ อันนี้เราก็ไม่สามารถที่จะบอกได้แต่ ณ ปัจจุบันก็เป็นคนที่คุยด้วยเยอะที่สุด" ทั้งจุ๋ยและพุฒไม่ได้ปิดกั้นกันและกัน? "ไม่ได้ปิดกั้น คือต้องบอกว่าเราโสดแล้วทั้งคู่นะคะ แล้วจุ๋ยโสดมาจะปีนึงแล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะปีนึงแล้ว เพราะตอนที่จุ๋ยเลิกสื่อไม่ได้รู้ทันที จุ๋ยเลิกมาก่อนหน้านั้นแล้วค่อยมารู้ ดังนั้นจุ๋ยมีระยะเวลาในการโสดมานานมากแล้ว" พุฒคือคนเดียวที่คุยอยู่ด้วยไหม? "ค่ะ (ยิ้ม) เอาจริงๆ จุ๋ยไม่ค่อยคุยกับใครค่ะ" พุฒค่อนข้างซัพพอร์ตเรา? "พุฒรู้ไงว่าจุ๋ยเป็นคนยังไง พุฒรู้ว่าจุ๋ยนิสัยแบบไหน แล้วพุฒก็รู้ว่าจุ๋ยเป็นคนยังไงเพราะว่าจุ๋ยกับพุฒเหมือนรู้จักกันมาตั้งแต่ฝันเฟื่อง แล้วจุ๋ยก็ไม่เคยเก๊ก ไม่เคยทำตัวเป็นแบบผู้หญิงแบบว่ารอผู้ชายคนหนึ่งมาชอบ จุ๋ยทำตัวแบบเพื่อนแล้วก็แมนๆ ให้เขาเห็นคือเขารู้อยู่แล้วว่าจุ๋ยเป็นคนยังไง"

ล่าสุดมีเพจแอนตี้เราเกิดขึ้น? "จุ๋ยว่าเป็นนักแสดง การเข้าใจโลก เข้าใจชีวิตเป็นเรื่องที่สำคัญในการอยู่ตรงนี้ ฉะนั้นในเมื่อจุ๋ยเข้าใจโลก เข้าใจชีวิตแล้ว จุ๋ยจะเฉยๆ กับมันมากและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อะไรที่มันไม่จริงมันก็ไม่จริงอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์ บางทีเราก็ต้องดูด้วยว่าสิ่งที่พูดมันมาจากคำหยาบคายไหม อคติหรือเปล่า เหตุผลในการเขียนมันใช่ไหม เพราะบางครั้งบอกว่าสมัยก่อนจุ๋ยใส่กระโปรงเรียบร้อย แต่จริงๆ คือตอนนั้นจุ๋ยถ่ายที่วัดพระแก้ว ทำงานในวัง จะมาใส่สปอร์ตแขนกุดก็ไม่ได้ถูกไหม ดังนั้นเหตุผลต่างๆ ที่เขียนมามันไม่ใช่ เราอยู่วงการบันเทิงก็ต้องทำให้บันเทิงซะ ไม่ต้องไปเครียดกับทุกเรื่องมองให้มันเป็นเรื่องธรรมดา เราก็ใช้ชีวิตของเราตามปกติ จุ๋ยไม่ได้เกร็งหรืออะไรเลยนะ แต่คนก็จะบอกว่าทำไมไม่ลงรูปคู่กับพุฒ คือจุ๋ยจะลงเฉพาะเป็นงานเท่านั้น อย่างที่บอกว่าตอนในฝันเฟื่อง เราเซตเลยว่าเราจะลงอาทิตย์ จันทร์ อังคาร เพราะละครมาวันจันทร์-อังคาร แต่เราลงวันอาทิตย์ด้วย เพราะเป็นเรื่องแรกของช่องวันเราต้องช่วยพี่เจี๊ยบ แล้วเราเป็นพระ-นางคู่แรก เป็นละครเรื่องแรกเพราะฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่เราต้องโปรโมต การลงไอจีของจุ๋ยมันจะเป็นเรื่องของกาลเทศะ เรื่องงานที่เราโปรโมต จะสังเกตได้ว่าจุ๋ยกับพุฒจะมีแค่เรื่องงานและถ่ายแฟชั่นเท่านั้น เรื่องส่วนตัวก็จะมีแค่วันเกิดแค่นั้น ซึ่งวันเกิดปีที่แล้วก็ไปไม่มีปัญหาอะไร แต่ปีนี้กลับมีปัญหาขึ้นมาทันที ดังนั้นจุ๋ยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่แล้วแต่ว่าตอนน้ันจุ๋ยทำงานแล้วจะต้องโปรโมตหรือเปล่า" พุฒให้กำลังใจบ้างไหมเพราะเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้? "ให้กำลังใจเต็มที่ค่ะ เอาจริงๆ พอมีเรื่องนี้มันทำให้พุฒคุยกับจุ๋ยทุกวัน จริงๆ ก่อนหน้านี้ไม่ได้คุยทุกวัน แต่พอมีเรื่องนี้เขาต้องคุยกับจุ๋ยทุกวันเพราะอยากจะให้เราสบายใจ ซึ่งจุ๋ยบอกพุฒเลยว่าจุ๋ยสบายมาก จุ๋ยเข้มแข็งมาก"

จะหาตัวคนทำไหม?"จุ๋ยว่าแฟนคลับเขาคงรู้กันว่าเป็นใคร แต่เราไม่รู้นะว่าเป็นใคร โดยส่วนตัวรู้สึกว่าบางเรื่องเราไม่ต้องรู้ดีกว่า ไม่จำเป็นต้องรู้ เรารู้ว่าสาเหตุของเรื่องมันมาจากไหน ดังนั้นจุ๋ยว่าเรื่องอะไรที่เราสมควรให้ราคาหรือเรื่องที่เราควรให้ความสนใจน่าจะเป็นเรื่องงานมากกว่า แค่นี้เราก็เต็มที่แล้ว แค่เรื่องงานเราก็เหนื่อยมากแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ให้มันเป็นเรื่องแห่งความบันเทิงแล้วกัน ให้มันผ่านไป ใครที่พูดไม่จริงมันก็คือไม่จริง แต่สิ่งที่สำคัญคือสื่ออย่าไปให้ความสำคัญมากนัก อะไรที่มันไม่จริงถ้าเราเอาไปนำเสนอมันก็ไม่ดี จุ๋ยแคร์สื่อมากกว่าว่าพี่ๆ น้องๆ รู้สึกยังไง" เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของเราใช่ไหม? "มันทำให้เห็นใจกันมากกว่า แต่ต้องบอกว่าเราสบายมากนะ ต้องบอกว่าจุ๋ยเข้ามาในวงการ 13 ปี ถือเป็นครั้งแรกที่เจอเหตุการณ์แบบนี้" เสียใจไหม? "ไม่ แต่มันทำให้จุ๋ยเข้มแข็ง ทำให้เราเหมือนมีเรื่องใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต ทำให้เราเข้มแข็ง ทำให้จุ๋ยให้อภัยคนได้ทั้งๆ ที่คนเหล่านั้นมาว่าเราไม่ดีหรือใช้คำหยาบคาย ทุกเรื่องไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่" ถือว่าเชื่อมสัมพันธ์ให้สนิทกันมากขึ้นใช่ไหม? "ทำให้คุยกันมากขึ้น แล้วก็เห็นอีกด้านของแต่ละคนว่ามีความคิดความอ่านยังไง" แต่เขาก็เข้าข้างเราเต็มที่ มีการบล็อกไอจีคนที่มาว่าเราด้วย? "เรื่องบล็อกไอจีจุ๋ยว่าเรามีพื้นที่ส่วนตัวของเรา ดังนั้นในพื้นที่ส่วนตัวจุ๋ยว่าเราก็อยากให้คนมีมารยาทกับเรา จุ๋ยว่าเป็นกับนักแสดงทุกคน เราอาจจะเจอที่เป็นต่างชาติมาว่า คนไทยมาว่า เขาเป็นคนโรคจิต เราจะเอาเขาไว้ทำไม ถ้าอยากจะมาดูเราก็ต้องมีมารยาท".