Inside Dara
หัวใจพองโต "โม" อินเลิฟ นักเรียนนอก

ใครๆ ก็มองว่าเธอติสต์ "โม-มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ" แท้จริงแล้ว เธอคือนางเอกโลกสดใส ตัวเล็ก แต่เติบโตทั้งฝีมือในการแสดงและความคิดในการมองตัวเองและสิ่งรอบตัว

ขยับเท้าออกจากเซฟโซน จาก “นางเอกช่องวัน” ออกมาเป็นนักแสดงอิสระ ด้วยหัวใจที่ลุกโชนอีกครั้ง โม หวังเพียงแค่ “ได้พิสูจน์ฝีมือ” ในโลกกว้าง ประเดิมผลงานแรกกับช่อง 3 ในละคร “Teeใครทีมันส์” แสดงร่วมกับพระเอก นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ และ อเล็กซ์ เรนเดลล์ นักแสดงฝีมือดีคับคั่ง โม สอบผ่านฉลุย ละครจบไปแล้ว แต่เสียงตอบรับพูดถึง บท “มิตตา” ที่โมได้รับว่าเป็นตัวละครที่มีสีสัน ชื่นชมในบทบาทที่ โม เผย “ดีใจที่คนชอบงานของเรา ดีใจที่คนรอดูบทบาทของโมกับช่อง 3 สิ่งที่โมคิดว่าน่าสนใจ สำหรับละครเรื่องแรกนี้คือไม่ค่อยมีใครกล้าทำละครที่เกี่ยวกับกีฬาจริงๆ สามารถเอากอล์ฟเป็นเส้นเรื่องเล่าละคร บทบาทของโมมีสีสัน โชคดีที่คนที่ร่วมแสดงด้วยทำให้เราค่อนข้างกระตุ้นตัวเอง ให้มีแพสชันและสนุกในทุกวัน”

ตอนนี้ โม เซ็นสัญญากับช่อง 3 ถามว่า การมาอยู่ช่อง 3 เป็นมิชชันใหม่ที่ท้าทายพิสูจน์ฝีมือมั้ย? “โมไม่ได้คิดขนาดนั้น การแข่งขันเป็นเรื่องปกติ เราแค่พัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด ทำผลงานออกมาให้ดี เราแค่ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุดก็พอ ส่วนถ้าคนจะมองว่ามาจากคำว่า นางเอกช่องวัน เหมือนมาเริ่มใหม่ที่ช่อง 3 ยึดติดตรงนั้นมั้ย โมเฉยๆ รู้สึกว่าเราโตแล้ว พอเราใช้ชีวิตไปประมาณนึง เราได้ทำงานเยอะเราไม่ค่อยรู้สึกตรงนั้น ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะมานั่งให้ตัวเองเป็นทุกข์ แค่อยู่กับปัจจุบัน มีความสุขกับสิ่งที่เราทำดีกว่า สิ่งที่โมคาดหวังจากการแสดงคือ โมอยากได้ยินคำว่าเล่นดีจังเลย สนุกจังเลย นั่นคือรางวัล ความสำเร็จของโมคือการที่คนยอมรับในการแสดงของเรา เวลามีคนชื่นชมมันเป็นกำลังใจที่เราอยากทำงานทุกชิ้นออกมาให้ดี เพราะเราไม่อยากทำให้คนผิดหวัง”

“โม” ไม่เคยหยุดใฝ่รู้ เรียนการแสดงเพิ่มตลอด ได้ไปเรียนการแสดงเพิ่มถึงอเมริกาในคอร์สสั้นๆ โม เผย “อยากรู้ว่าเค้าอยู่กันยังไง วิธีสอน วิธีเรียน แค่เป็นคนชอบที่จะเรียน สำหรับโมการเรียนแอ็กติ้งไม่มีที่สิ้นสุด เป็นศาสตร์ที่เจาะลึกไปหลายแขนง ทั้งเรื่องสมาธิ การสังเกตคน โมมองว่าเราต้องหาอะไรไปเรื่อยๆ ถ้าเราอยู่กับอะไรเดิมๆทุกวัน ไม่ได้เปิดโลกใหม่ๆเราก็อาจจะลืมตัวและย่ำอยู่กับที่ ชอบจนคิดถึงว่าอยากเป็นครูสอนแอ็กติ้งแต่อยากเรียนให้มั่นคงก่อน เพราะมีความลึกซึ้งไม่ใช่แค่การแสดงแต่มันละเอียดอ่อน มันคือการเข้าไปในจิตใจคน”

สรุปตัวตน โม เป็นคนชอบเจอคนใหม่ๆ ทดลองอะไรใหม่ๆออกไปเรียนรู้ว่าคนอื่นเค้าอยู่กันยังไง สิ่งที่ได้มาไม่ใช่เรื่องเรียนอย่างเดียว แต่ทำให้เห็นว่าเราไม่ได้เป็นใครเลย เราไม่ได้เก่งอย่างที่เราคิด เราเป็นแค่ฝุ่นเล็กๆของโลกใบนี้ ดีที่เราค้นพบความรู้สึกนี้ มันก็ดึงตัวเองกลับมาว่าทุกอย่างมันไม่จีรัง...ตัวเธอเล็ก แต่สมอง ความคิดเธอใหญ่! ปีนี้มีละครใหม่ 2 เรื่อง รอชมกันได้

ชอบเปิดโลกใหม่ หลายคนเลยมองว่า โม เป็นสาวติสต์ ติดใจการเที่ยว โม ยอมรับว่าเป็นคนชอบเดินทางบ่อยๆ การได้ไปเห็นอะไรใหม่ๆ คือความสุข จนถึงกับมีเฟซบุ๊กแฟนเพจ “MOMON happygirl” และทำรายการ “MOMON HappyGirl” ในช่องยูทูบ hubsub_ official พาเที่ยว มากิน ในสไตล์ของโม

ตั้งแต่เข้ามาวงการใหม่ๆหลายคนจับตา นางเอกหน้าใสคนนี้ว่ามีความเป็นตัวเองสูง หน้านิ่ง เป็นสาวติสต์ โม เปิดใจอธิบายตัวตนว่า “ตอนเข้าวงการใหม่ๆไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจตัวเอง ไม่เข้าใจคนอื่นว่าทำไมเค้าต้องทำอย่างนั้น เมื่อก่อนเป็นคนคิดเยอะ ขี้อาย เราอาจจะแสดงออกไม่เป็น ก่อนหน้านี้ที่คนมองว่าเราเป็นคนขวางโลก ตอนนี้เรามามองอย่างเข้าใจว่าคนเราเค้าคิดแบบนั้นก็ปล่อยเค้าไป เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ เราก็เปลี่ยนที่ตัวเอง เข้าใจคนอื่นมากขึ้น โตขึ้น เลือกอยู่แบบไหนให้เรามีความสุข”

เรื่องความรัก “โม” เปิดหัวใจกับรักครั้งนี้ที่มีหนุ่มนักเรียนนอกนามสกุลดัง “คฑา โอสถานุเคราะห์” รักที่เกิดขึ้นในการเดินทาง มองอะไรเข้าใจคล้ายๆกัน ชอบอะไรคล้ายกัน ผ่านช่วงเวลามีรักระยะไกล เพราะฝ่ายชายเรียนอยู่อเมริกาแต่วันนี้กลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว โม กลับมองว่าไม่ต่างกัน เพราะต่างคนต่างใช้ชีวิตเหมือนเดิม ทำหน้าที่ของตัวเอง ดูแลกันห่างๆอย่างห่วงๆ โม ชื่นชมที่ฝ่ายชายเป็นคนน่ารัก มีมุมมองชีวิตหรือทัศนคติดี วิธีคิดต่อครอบครัว ต่อชีวิตที่น่ารัก ใส่ใจครอบครัว จน โม ได้ซึมซับคบกันยิ่งพากันไปในทางที่ดีขึ้น

ส่วนรักครั้งนี้จะไปไกลแค่ไหน โม ตอบว่า “ไม่ได้คาดหวัง ทุกคนอยากให้ความรักดีอยู่แล้ว แต่โมแค่รู้สึกว่าเราอยู่กับปัจจุบันอยู่กับความจริงให้ดีก่อน เพราะถ้ามีการคิดไปไกลถึงอนาคตไปไกล แล้วถ้ามันไม่เป็นไปตามคาดหวังมันจะเสียใจมาก โมว่ามันคือเรื่องจริงสำหรับทุกเรื่องที่จะไม่คาดหวัง และโมเองยังไม่ได้คิดไปถึงจุดมีครอบครัวเพราะเป็นคนชอบทำงานมาก”.