Inside Dara
ซาร่าAF อึดอัด! กว่าจะมาฮาในThe Mask Singerเคยโดนสั่งห้ามบางเรื่อง

กลับมาดังเปรี้ยงอีกครั้ง ซาร่า นลิน โฮเลอร์ หรือ ซาร่า AF หวานใจ เต้ย ธโนทัย กับการเป็นกรรมการในรายการดัง The Mask Singer หน้ากากนักร้อง แต่กว่าจะมีวันนี้ ซาร่า ต้องติดสัญญากับทางจีน ถึง 3 ปี โดนสั่งต้องเรียบร้อย เล่นมุกอะไรต้องได้รับอนุญาต วันนี้เจ้าตัวเปิดใจกับ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ว่าสุดโล่งที่ได้กลับมาเป็นตัวของตัวเอง

Mask Singer

“ซาร่าเพิ่งกลับมาจากจีนได้ประมาณเกือบ 2 ปี พอหมดสัญญาที่จีนก็เริ่มที่จะหางานเองก็เหมือนเป็นฟรีแลนซ์ ผลงานตอนนี้ฝากติดตามด้วยนะคะ พิธีกร แล้วก็มีละคร พอเราทำงานอย่างเต็มที่ แล้วผู้ใหญ่เห็นว่าเราทำงานแล้วเราสนุก ก็เลยมีโอกาสต่างๆ ที่เข้ามา

การรับงานเองทำให้เรารู้สึกว่าเราสามารถที่จะจัดระบบของเราเองได้มากขึ้น หลังจากตอนที่เราอยู่กับสัญญาไม่รู้ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง รอบริษัทป้อนงานให้กับเรา พอหมดสัญญาปุ๊ปก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะทำได้หลายอย่าง ไปได้หลายทาง ก็เลยมีงานเข้ามาเยอะขึ้น

จริงๆ แล้ว บอกตรงๆ ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้เป็นตัวเองเท่าไร (หัวเราะ) คือได้ทำอะไรที่เขาป้อนให้ทำ แล้วตอนนั้นอาจจะยังเด็กด้วย ยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเราทำอะไรได้หลายอย่าง หนูก็เลยเป็นเด็กเรียบร้อยไป

ตอนอยู่ ไอมี่ (วงเกิร์ลกรุ๊ปจีนที่ซาร่าเป็นสมาชิก) ยิ่งเรียบร้อยใหญ่เลย โดนบริษัทห้ามเป็นตัวเอง ต้องคีฟคาแรกเตอร์ จน 3 ปีที่อยู่ตรงนั้นอึดอัดนะ พอกลับมาปุ๊ปเราเหมือนองค์ลง (หัวเราะ) เป็นตัวเองแล้วรู้สึกว่า เฮ้ย เราไม่จำเป็นต้องสวย ไม่จำเป็นต้องเป็นนางเอก ไม่ต้องเป็นเหมือนคนอื่นเขา เพราะว่าการที่เป็นตัวเราแหละที่จะทำให้คนอื่นรักเรา”

เสียดายโอกาสตอนอยู่ที่จีนไหม?

“หนูว่าโอกาสที่ดีแล้วที่หนูได้ไปอยู่ 3 ปีเนี่ย ถ้าเกิดจะให้อยู่ตลอดชีวิตมันก็ไม่ใช่ 3 ปีสำหรับหนู หนูว่าอิ่มตัวมากเลย เพราะว่าเราได้เรียนรู้การทำงานที่นู่น ได้ภาษาจีนกลับมา ได้คอนเนกชั่น ได้เพื่อน คือเต็มที่สำหรับหนูแล้ว”

ยากไหมที่จะไม่ต่อสัญญากับทางจีน?

“จริงๆ ก็ไม่ยาก เพราะว่าทั้งวงก็คิดเหมือนกัน ว่าอยากไปทำอะไรของตัวเองมากกว่า เพราะว่าการที่เราไม่ได้เป็นตัวเองมากมันก็เลยรู้สึกทำงานแล้วไม่มีความสุข สุดท้ายพอเราเริ่มมีความสุขกับการที่ตัดสินใจแบบนี้ มันก็เลยทำให้มีงานเข้ามาเยอะขึ้น

คือหนูไม่ได้คิดอะไรเลยว่าจะต้องไปโกอินเตอร์ หรือต้องดัง หรือต้องมีงานเยอะ ทุกอย่างอยากทำด้วยความเต็มที่จริงๆ โดยส่วนตัวแล้วก็มีความฝันที่จะมีงานมาเอาเราเอง แต่ถ้าเกิดอนาคตมีงานให้โกอินเตอร์ เราก็ไม่ปฏิเสธ แต่ถ้าเราได้ดังที่นี่ก่อน มันก็น่าจะภูมิใจมากกว่า”

วงการบันเทิงจีนกับบ้านเรามีอะไรแตกต่างกันบ้าง? “คือตอนนั้นที่ไปปี 2010 ยังไม่มีวงเกิร์ลกรุ๊ปเลย พวกเราคือเป็นวงแรกในประเทศเขาเลยที่เป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่นู่น มันค่อนข้างใหม่มาก แล้วเราเหมือนไปบุกเบิกให้เกิร์ลกรุ๊ปเกิดขึ้นมา หลังจากนั้นวงการร้องเพลง วงการบันเทิงพัฒนาขึ้น

แต่ในเรื่องของการทำงานแล้วเนี่ย ที่เมืองไทยสนุกตรงที่รีแลกซ์มากขึ้น สบายมากขึ้น อาจเป็นเรื่องของวัฒนธรรมแหละ เพราะว่าคนไทยรักสนุก แต่ถ้าคนจีนเนี่ยเราจะไปเล่นมุกอะไรจะต้องมีกระบวนการทางการคิดของเขาเยอะนิดนึง บางมุกก็ห้ามเล่น ซึ่งก็ค่อนข้างแตกต่างกัน แต่ก็โอเค ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปในทุกอย่าง".