Inside Dara
‘เคน-ภูภูมิ’ ผู้ชายขี้อาย ที่ยังต้องการพิสูจน์ตัวเอง!

หากเอ่ยถึงพระเอกหนุ่มมาดนุ่มที่พร้อมละลายหัวใจสาว ๆ ทั้งประเทศ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของหนุ่ม “เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ” อย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะสวมบทบาทไหน หนุ่มเคนก็ต้องเป็นที่จับตามองแทบทุกครั้ง ล่าสุดกับบทบาทละครแนวคอมเมดี้เต็ม ๆ เรื่องครั้งแรกของหนุ่มเคนใน “ดาวเคียงเดือน” ที่หลายคนเอ่ยปากชม และทำให้ชื่อของหนุ่มคนนี้ยิ่งเข้าไปอยู่ในหัวใจของใครหลาย ๆ คนมากขึ้น วันนี้หนุ่มฮอตหนุ่มฮิพ ขอนัดหนุ่มเคนพูดคุยถึง มุมมองแนวคิดที่มีต่อวงการบันเทิง รวมถึงเรื่องสาว ๆ ที่หนุ่มเคนมีข่าวอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ถูกมองว่าเจ้าชู้ เรื่องราวเป็นยังไงอย่าพลาดบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้

“วงการบันเทิง”
ตอนนี้เคนอยู่ในวงการมากี่ปี แล้วมองวงการยังไง?

“ประมาณ 3 ปีกว่า เกือบ 4 ปีแล้ว จริง ๆ มาถึงตอนนี้ผมมองวงการบันเทิงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จากตอนแรกที่เราอาจจะมองแค่ตัวเราเองคนเดียว ไม่ได้มองถึงอนาคตว่ามันจะเป็นอย่างไร การวางตัวยังไงให้อยู่ในวงการได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้ผมว่าเราจะมองได้เองและโตไปตามอายุ ประสบการณ์ครับ คือมันทำให้เราคิดได้ว่าเราจะใช้ชีวิตยังไงต่อไป แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามายังไงบ้าง ซึ่งพอเราโตขึ้นมันจะคิดได้เอง และมีมุมมองที่กว้างมากขึ้น”

มีจุดไหนในการแสดงที่เราต้องการพัฒนาอีก?

“มีเยอะครับ เราก็ต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ เพราะบทบาท และตัวละครแต่ละเรื่องจะไม่เหมือนกัน มันเหมือนมีจุดที่เราไม่เคยเล่นมาก่อน ในแต่ละเรื่องจะมีจุดใหม่ ๆ มาให้เราทำการบ้านตลอด เราก็ต้องเรียนรู้กันไป คือผมเป็นคนไม่ปิดใจในการเรียนรู้ ผมเปิดรับทุกคนที่สอนที่บอกเรา เพราะว่าทุกคนมีประสบการณ์ ทุกคนเป็นครูเราได้หมด แม้แต่เพื่อนก็สอนเราได้ เพราะประสบการณ์ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน อย่างตอนแรกจุดด้อยของผมที่มองเห็นคือ การใช้น้ำเสียง คือผมจะพูดไม่ค่อยชัด พูดเสียงลอย ซึ่งเราก็ค่อย ๆ ปรับมาเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ฝึกมาเรื่อย ๆ มันก็ดีขึ้น ในช่วงหลัง ๆ เราก็พยายามเตือนตัวเองตลอดว่าเริ่มแรกเราพูดไม่ชัด เราก็ฝึกพูดให้ช้าลง แล้วก็เน้นคำมากขึ้น ผมว่ามันก็ช่วยได้นะ การที่เราเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ มันก็ดีไปอีกแบบ มันทำให้การทำงานง่ายขึ้น”

“ฝันของเคน”
จริง ๆ การเป็นนักแสดงเป็นความฝันตั้งแต่เด็กเลยไหม?

“ไม่ครับ ผมว่ามันเป็นโชค อย่างที่เขาบอกกันว่ามันอยู่ที่ดวง คนเราไม่ได้เป็นกันได้ทุกคนสำหรับอาชีพนักแสดง อย่างผมเข้าวงการมาได้ เพราะว่าไปดูหนังที่เอสพานาด แล้วก็ไปเจอผู้ช่วยพี่เอ-ศุภชัย จากนั้นก็ได้มาเป็นนักแสดง ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าโชคดีจังเลย แค่นี้ก็ได้เป็นแล้ว ไม่เหมือนคนที่ประกวดเกือบทุกเวทีแต่ยังไม่ได้เป็น ซึ่งแรก ๆ ผมก็ยังไม่ได้มองว่าตรงนี้มันสำคัญ เพราะด้วยความที่เราเข้ามาง่าย เราเลยไม่ได้ใส่ใจ คือเราเข้ามาในอายุที่มันอยู่ในวัยรุ่น คือมหาวิทยาลัยปี 1 ซึ่งเป็นช่วงที่แบบสุดเหวี่ยงของเรา มันก็อาจจะมีอะไรที่ตามใจตัวเองไปบ้าง ผิดพลาดไปบ้าง มันก็ค่อย ๆ ปรับไปตามประสบ การณ์และช่วงอายุของเรา ยิ่งเราอยู่วงการนาน เราก็จะยิ่งได้เห็นอะไรเยอะขึ้น มันเหมือนว่าเราทำงานตรงนี้ เราได้เจอผู้คนหลากหลาย ซึ่งเราก็มีโอกาสได้เรียนรู้จากคนหลากหลายอาชีพเช่นกัน ซึ่งมันก็เป็นการเรียนรู้ที่ไวกว่าคนอื่น และได้อะไรเยอะกว่าคนอื่น ๆ ด้วย”

ตัวตนจริง ๆ ของเคนเป็นยังไง?

“จริง ๆ ผมเป็นคนสนุก ๆ เฮฮา ชอบแกล้ง บางทีที่ผมออก งานแล้วอาจจะเงียบ ๆขรึม ๆ เพราะผมเป็นคนที่ตื่นเต้นและขี้อายมาก ก็จะเกร็งจนบางทีอาจจะดูขรึม ๆ เพราะผมไม่รู้ว่าจะต้องยังไงต่อไป บางทีก็ไม่ได้คิดมาก่อน ไม่รู้ว่าจะต้องแสดงต่อสาธารณะยังไง เลยทำให้คนอื่นมองผมว่าเป็นเงียบ ๆ ยิ่งตอนเด็ก ๆ ของผมจะเป็นคนขี้อายมาก งานโรงเรียน การแสดงบนเวทีนี่ไม่เอาเลย ซึ่งมันแตกต่างกับตอนนี้ที่ผมต้องมาเป็นนักแสดง มาสวมบทบาทต่าง ๆให้คนอื่นดู ก็ต้องปรับตัวเยอะมาก ตอนแรกเครียดจนแทบจะร้องไห้ และคิดว่าทำไมการแสดงมันยากขนาดนี้ มันคืออะไรกันแน่ ไม่เข้าใจ ผมก็มีไปเรียนแอ๊คติ้ง มาบ้าง แต่การแอ๊คติ้งกับการเข้ากองมันคนละอย่างเลย ก็เครียดสุด ๆ เพราะผมงงว่าทำไมหันมาแล้วเราพูดเลยไม่ได้ เราต้องรอกล้อง ยืนบังกล้องคนอื่นไม่ได้ มันเป็นอะไรที่ผมว่ามันต้องเรียนรู้ครับ มันต้องเจอเอง จะแค่เรียนในห้องไม่ได้ มันต้องมาออกกองจริง ๆ เจอสถานการณ์จริง มันถึงจะเข้าใจมุมกล้องและการทำงานต่าง ๆ คือเราต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าเน้นทฤษฎีครับ”

ณ ตอนนี้ถือว่าเราประสบความสำเร็จหรือยัง?

“ผมก็มาไกลเกินกว่าที่ตัวเองคิดไว้ มาไกลมาก ๆ ไม่รู้กี่เท่า อย่างตอนแรกที่เข้ามาเรารู้สึกว่าจะทำตรงนี้ไม่ได้ จนผ่านมาก็ได้เรียนรู้อะไรต่าง ๆ เยอะมาก มันก็ไม่นึกว่าตัวเองจะมาถึงตรงนี้ได้ นึกว่าจะแค่ 2 ปีก็คงจะเลิกแล้ว ตอนแรกคิดแบบนี้จริง ๆ ซึ่งผมไม่รู้ด้วยว่าความสำเร็จสูงสุดของอาชีพนักแสดงมันต้องไปถึงจุดไหน คือผมไม่ได้คิดไว้ตั้งแต่แรก แต่ได้ทำงานมาจนถึงทุกวันนี้ก็ดีใจแล้วครับ ถือว่ามาไกลจริง ๆ ก็จะทำให้ดีที่สุดต่อไป”

“ผู้หญิงของเคน”
เรื่องสาว ๆ เป็นยังไงบ้าง?

“ก็ยังโสดครับ คนที่คุย ๆ อยู่ก็เป็นเพื่อน ศึกษากันไปก่อน เพราะเราเองก็ยังไม่พร้อมจริง ๆ ขอโสดไปแบบนี้ดีกว่า แต่ถ้าถามถึงสเปกของผมจริง ๆ มันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา คือผมว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ทำโน่นทำนี่ให้สวยได้ ซึ่งผมว่าความสวยเดี๋ยวนี้ก็ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน มันก็ต้องดูไปเรื่อย ๆ จะเน้นในส่วนของนิสัยมากกว่า ซึ่งมันก็ค่อนข้างยากสำหรับอาชีพนี้เหมือนกันที่เราจะไปดูใครคนหนึ่งอย่างจริงจัง ยิ่งตอนนี้ทำงานเยอะมันก็ยากที่จะไปศึกษาใคร ผมก็อยากจะทำหน้าที่ตรงนี้ของเราให้ดีก่อน และผมก็เพิ่งจะ 22 เองถือว่ายังเด็กมาก ขอสนุกกับการทำงานไปก่อนดีกว่าครับ”

เคนมีข่าวกับสาว ๆ ตลอดเลย กลัวคนมองเจ้าชู้ไหม?

“คือเรื่องนี้ผมว่ามันอาจจะเกี่ยวกับที่เราอยู่ในช่วงวัยรุ่นและใช้ชีวิตแบบที่เราไม่ได้คิดว่าเราเป็นดารามากไปหน่อย ซึ่งช่วงนั้นมันก็ไม่ได้คิดจริง ๆ เพราะมันอยู่ในช่วงมหาวิทยาลัย ปี 1 ปี 2 ก็เที่ยวอยู่กับเพื่อน ๆ และเราก็ทำตัวปกติ แต่บังเอิญเราเป็นคนที่คนอื่นรู้จักแล้ว ตอนนี้ผมก็เลยปรับตัวมาตามอายุ พอเริ่มโตขึ้นก็เริ่มคิดได้มากขึ้น มีการวางแผนชีวิต วางแผนจัดการว่าเราโตแล้วเราจะทำอะไรบ้าง ซึ่งทุกคนพอโตแล้วจะเปลี่ยนความคิดไปในทางที่มันกว้างขึ้นด้วย ส่วนข่าวที่คนจะมองผมเจ้าชู้ ก็ชินแล้ว ตอนนี้เบาลงไปเยอะ แต่ผมโชคดีตรงที่ไม่ค่อยคิดมาก อะไรที่มันแย่ก็อย่าทำ เราก็ปรับมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วครับ”

สุดท้ายแล้ว ฝากผลงานกับแฟน ๆ หน่อย?

“เร็ว ๆ นี้ก็จะมีกลกิโมโน ที่กำลังถ่ายทำกันอย่างเต็มที่ ก็อดใจรอสักนิด ส่วนคอนเสิร์ตกิฟท์มีไฟท์ คอนเสิร์ตเด็กเอ ก็เตรียมความพร้อมไปได้บ้างแล้ว ตื่นเต้นมาก ๆ เพราะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ แล้วเราต้องทำให้ดี เพื่อให้แฟน ๆ เห็นมุมอีกมุมหนึ่งของเรา ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ”

แหม...เรียกว่าล้วงลึกหมดไส้หมดพุงของหนุ่มเคนกันเลยทีเดียว งานนี้แฟน ๆ ก็เป็นกำลังใจและรอดูผลงานของหนุ่มเคนต่อ ๆ ไปด้วยนะจ๊ะ