Inside Dara
“ณัฏฐ์” จบดราม่า! ฉะนักข่าว วิตกจริตข้อหาทำร้ายร่างกายแฟนเก่า

“ณัฎฐ์” ยอมรับเฮิร์ต เลิก “น้อยหน่า” รัก 4 ปี หวังแต่งสุดท้ายล่มสลาย บอกถึงจะเจ็บแต่ไม่ตาย โทษตัวเองไม่มีเวลาให้ วอนสื่อเห็นใจอย่าจี้ถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม รับวิตกจริตข้อหาทำร้ายร่างกายแฟนเก่า

ถูกถามจี้ใจหลังมีกระแสข่าวว่า “ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” เลิกรากับหวานใจ “น้อยหน่า สิริผกา กรรณสูต” เพราะชอบลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย งานนี้ทำเอานักแสดงหนุ่มเก็บอารมณ์ไม่อยู่ โพสต์ไอจีฉะเดือดผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่งเลยทีเดียว ล่าสุด หนุ่มณัฏฐ์ เผยว่า เคลียร์กันจบแล้ว ส่วนตนไม่ติดใจเอาเรื่อง เข้าใจต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แต่วอนขอความเห็นใจอย่าถามจี้ในสิ่งที่ไม่ควรถาม

“ก็ผ่านไปแล้วมีการขอโทษกันแล้วก็ถือว่าจบไป จริง ๆ แล้วผมก็อยากจะพูดว่าคือนักแสดงกับผู้สื่อข่าว ก็ถือว่าเป็นน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า เราก็อยู่คู่กันอยู่แล้ว ถ้าไม่มีนักแสดงนักข่าวก็ไม่มีข่าวทำถูกไหมครับ แล้วถ้าไม่มีนักข่าวเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมอยากจะบอกว่าบางทีมันมีคำถามที่เรารู้สึกว่าถามเราแล้วความสัมพันธ์ที่ต้องเลิกกันไปมันเฮิร์ตอยู่แล้วละครับ จริง ๆ บางทีผมไม่อยากให้ไปจี้ประเด็นอื่นครับ คือ ถามผมได้ผมไม่ได้มีปัญหา คือ อยากให้ให้เกียรติกันนิดหนึ่ง คนเราก็อยู่ด้วยกันในวงการมาสักพักหนึ่งแล้ว เห็นหน้าเห็นตากันมาแล้ว มีอะไรเราก็ถามก็ตอบตรง ๆ เราไม่ได้จะบ่ายเบี่ยงประเด็นอะไร เพียงแค่ว่าพอเราพูดไปแล้วเรารู้สึกว่าเราเคยพูดเคยขอไว้แล้วว่าอย่าพูดประเด็นนี้ กลับกลายเป็นมีประเด็นนี้ขึ้นมาเราไม่สบายใจ แล้วเราก็ไม่อยากให้ฝ่ายหญิงเขาไม่สบายใจด้วยครับ”

“เหมือนตอนแรกเขาจะไปขอสัมภาษณ์ที่สตูดิโอแล้ว แล้วผมบอกว่ามันไม่ใช่ประเด็นนี้แน่นอนคือเราเลิกกันด้วยดีไง แล้วเราก็ไม่อยากให้มีประเด็นนี้เข้ามา เพราะเดี๋ยวมันจะกลายเป็นว่าพ่อแม่เขาจะคิดยังไงกับผม แล้วผู้หญิงจะเสียชื่อเสียงหรือเปล่า คือ ตัวเราค่อนข้างชินกับข่าวในวงการบันเทิง แต่ว่าเขาจะไม่ค่อยชิน ถ้าเกิดพ่อแม่เขาโดนเพื่อน ๆ ถามมาผู้ใหญ่ถามว่าเป็นยังไงเห็นว่าลูกหลานเลิกกันไปแล้วเป็นอย่างโน้นอย่างนี้จริงหรือเปล่า เขาก็จะไม่สบายใจไง ซึ่งผมไม่อยากให้มันมีอะไรเกิดขึ้น เพราะเรากับครอบครัวเขารู้จักกันมาตั้งนานแล้ว คุณปู่กับคุณย่าผมก็รู้จักกับตระกูลของน้อยหน่า ก็เลยไม่อยากให้มีอะไรไปพาดพิงที่มันไม่ดีก็แค่นั้นเอง”

“เลยบอกว่าจริง ๆ ถามอะไรก็ได้มีบอกหลังไมค์กันแล้วว่าประเด็นนี้มันไม่ใช่นะอย่าพูดเลย แล้วมาพูดอีก มันก็เลยไม่โอเค มันก็แค่นั้นเองครับ แต่เขาขอโทษผ่านทางไอจีแล้ว ซึ่งผมก็โอเค ผมถือว่าก็ได้ขอโทษแล้ว ซึ่งมันก็พอแล้วไง ผมก็ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดอะไรก็คือจบกันไปแค่นั้น ยังไม่ได้เจอกันครับ ก็เข้าใจว่าเขาทำหน้าที่เขา เพียงแต่ว่าถ้ามันไม่ได้มีการพูดคุยมาก่อนผมจะไม่โกรธเลยนะ แต่นี่คือพูดคุยกันมาก่อนแล้ว แล้วมาถามประเด็นเดิมอีกซึ่งเราได้ตอบคำถามนั้นไปแล้วหลังไมค์ ก็เลยกลายเป็นว่า เอ้ย…มันไม่ควรถาม มันไม่ใช่ประเด็นนี้อยู่แล้ว ไม่ต้องโทร.มาขอโทษหรอกครับไม่เป็นไร แค่นั้นก็พอแล้ว ผมไม่ได้ซีเรียส”

“จริง ๆ ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ว่าเราไม่สบายใจฝ่ายหญิงเขาจะคิดยังไง แล้วเราเองหลัง ๆ ก็ไม่ได้คุยกับเขาแล้วเราก็รู้สึกว่าอยากให้เขามีความสุข ไม่อยากให้เขามากังวลในสิ่งที่ตามมาหลังจากที่เลิกกันนะครับ คบกันมา 4 ปีผมก็คาดหวังอยู่แล้ว คนเรามันคบกันมานานเหมือนใกล้ที่จะถึงที่หมายแล้ว แต่มันกลายเป็นว่าทุกอย่างมันล่มสลายไปหมด ผมก็โอเคนะ เราโตแล้วเราผ่านอะไรมาเยอะ ถามว่าผมโอเคไหมผมโอเค แต่ผมไม่อยากให้มาจี้จุดเรื่องอื่นที่มันไม่ใช่ประเด็นไง คือถาม ถามได้ในประเด็นที่มันมีแค่นั้นก็พอแล้ว”

บอกเป็นความผิดตัวเองทำรักล่ม รับเจ็บแต่ไม่ตาย ชีวิตต้องไปต่อ

“คุยครับคุย แล้วเขาก็ขอบคุณมากที่ช่วยออกมาแก้ แล้วก็ออกมาพูดแบบนี้ให้ เพราะเขาเองไม่ได้มีโอกาสเจอสื่ออยู่แล้ว เขาไม่ใช่คนในวงการบันเทิง เราก็ไม่อยากให้มีปัญหาอะไรไปถึงเขา ไม่อยากให้เขาเจอสื่อตามนั่งสัมภาษณ์ แล้วเขาเป็นคนขี้อายด้วยก็เลยให้มันจบแค่นี้ดีกว่า”

“คนที่สนิทกับผมจะรู้อยู่แล้วว่าผมกับน้อยหน่าคบกันมา ผมแทบจะไม่ทะเลาะกันเลยนะ คบมา 4 ปี นับครั้งได้ว่ามีปัญหาอะไรกันบ้าง เพียงแต่ว่ามันเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์จริงๆ ผมพูดตรงๆ นะ หลังๆ ผมออกกำลังกายเยอะ เยอะจนรู้ตัวว่ามากเกินไป ถ้าจะโทษใครคือโทษผมดีกว่า คือผมอาจจะไม่มีเวลาให้เขามากพอ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็รู้แล้วว่าชีวิตเราต้องการอะไรเรามุ่งไปทางไหน และเขาก็รู้ว่าเขาต้องการอะไร ในเมื่อมันไปกันไม่ได้ มันก็ดีกว่าที่จะต้องแต่งงานกันไปแล้วก็เลิกกันเหมือนหลายๆ คู่ ถามว่าผมเจ็บไหมก็เจ็บ (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ตายครับ ชีวิตมันก็ต้องอยู่ต่อไป"

เผยมีความสุขได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ถึงเวลามองหารักครั้งใหม่

“สภาพจิตใจตอนนี้ดีครับ แฮปปี้ดี มีความสุขก็ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ แล้วเขาก็ได้ทำในสิ่งที่อยากทำโดยที่ไม่ต้องมานั่งกังวลคิดถึงอีกฝ่าย ซึ่งบางทีมันเหมือนกับว่าทางเดินของเราสองคนมันแยกกันไปแล้ว ถ้าสมมติจะมายื้อดึงดันกันต่อไป มันก็มีแต่เจ็บกับเจ็บครับ จะทิ้งเรื่องความรักไปอีกนานแค่ไหนผมว่าเรื่องพวกนี้มันตอบไม่ได้นะ คือบทมันจะเข้ามามันก็เข้ามา แม้แต่กระทั่งตัวเอง ตอนที่ผมเริ่มคบกับเขาเราก็ไม่ได้คิดที่จะคบกันเป็นแฟน แต่ว่าเราก็เริ่มต้นคบกันแบบเพื่อน เพียงแต่ว่าพอเริ่มคบกันไปเราก็รู้สึกว่าเออเขาน่ารักดี สบายใจที่จะคบกับกัน เราก็เลยพัฒนาขึ้นมา แต่ว่าตอนนี้ถ้าถามว่าพร้อมเปิดใจหรือยังก็คงยังไม่ได้มองเรื่องความรัก ตอนนี้ถ้ามีเวลาทำงานก็อยากทำให้เต็มที่ไปเลยครับ”