Inside Dara
“อ่ำ” เปิดใจรับผิดทำครอบครัวพัง! ไม่ปิดกั้น “จอย” มีรักใหม่

“อ่ำ” เปิดใจเคลียร์ ย้ำตนทำผิดพลาดจนครอบครัวล่ม วอนเห็นใจครอบครัว อย่าซ้ำเติมให้เจ็บปวด บอกหย่าตั้งแต่ 12 พ.ค. แต่ไม่รู้จะออกมาประกาศอย่างไร ตอนนี้ก้าวข้ามความเจ็บปวด ไม่ปิดกั้นหาก “จอย” จะมีคนใหม่เพราะไม่นานก็ตายจากกัน ส่วนประเด็นมือที่สามขอตอบครั้งเดียวในรายการ “ต๋อย ไตรภพ”

ยังเป็นประเด็นที่แฟนๆ ต่างให้ความสนใจไม่น้อย สำหรับกรณี “อ่ำ อัมรินทร์ นิติพน” เตียงหัก หย่า “จอย อัจฉรียา อังคสุวรรณศิริ” ปิดฉากชีวิตคู่ที่ใช้ร่วมกันมาถึง 12 ปี ด้านอ่ำประกาศขายบ้านขายรถ ส่วนจอยก็พัวพันคดีมือที่สามจนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในอินเตอร์เน็ตจนเจ้าตัวเครียดจัด ล่าสุดอ่ำก็ได้ออกมาเปิดใจ พร้อมขอความเห็นใจให้กับครอบครัวของตน ส่วนเหตุผลต่างๆ ขอเคลียร์ในรายการของ “ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์” แค่รายการเดียวเท่านั้น

“คือเรื่องผมกับครอบครัวผ่านไปนานแล้วครับผม แต่ผมก็ไม่ได้มีโอกาสได้มานั่งบอกใครให้ได้เข้าใจทุกคนว่าเออเราแยกทางกันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้แยกกันแบบว่า ไม่ได้ตัดขาด ยังมีความผูกพันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เดี๋ยวคงได้ชี้แจงกันต่อไปในรายการพี่ต๋อย (ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์) นะครับ ขอตอบในรายการแล้วกันนะครับว่าเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นมาเนี่ยมันเกิดมานานแล้ว ทางกฏหมายเนี่ยก็มีการหย่ากับคุณจอยแล้วครับผม”

“เพราะฉะนั้นเรื่องที่อยากจะฝากพี่ๆ สื่อมวลชนไปให้ถึงหูใครที่เป็นห่วงอยู่นะครับว่าเอ๊ะ…เรื่องอะไรกันแน่ ก็คือขอเก็บไว้ในรายการพี่ต๋อยแล้วกัน แต่คือเรื่องมันผ่านไปแล้วก็อยากให้เข้าใจกันว่าเรื่องมันเกิดขึ้นนานแล้ว แต่ตอนนี้ในกระแสสังคมที่สื่อสารกันแล้วก็อยากจะสนุกสนานกับการที่เห็นเรื่องเรามันสนุกนักนะฮะ ก็เลยเอามาเมนต์ เอามาวิจารณ์กันนะครับ ยังไงก็ฝากขอความเห็นใจกันหน่อยนะครับ”

ย้ำเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังหย่าจอยมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ เพราะเป็นอิสระต่อกัน

“เรื่องมันไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณนะครับ คงไม่ทราบหรอกว่ามันเจ็บ มันสาหัสขนาดไหนสำหรับครอบครัวของเรา แต่ครอบครัวของเราน่ะผ่านมันมาแล้ว เราก้าวข้ามผ่านมาหมดแล้ว แต่พวกคุณยังติดอยู่ในห้วงของการที่อ้าสนุกสนานกันอยู่เลย เรื่องมันไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณๆ คงไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บขนาดไหน มันแย่ขนาดไหน”

“แต่ก็อยากจะฝากไว้ก็แล้วกันนะครับว่า เรื่องมันผ่านไปแล้วๆ ก็คุณจอยก็มีสิทธิ์ มีโอกาสทุกอย่างในความเป็นตัวคุณจอยที่อยากจะทำอะไร ที่ไหน แบบไหน เป็นอิสระกัน ผมเองก็มีความเป็นอิสระมากขึ้นในการทำงาน”

“ลูกก็ได้เห็น แอลลี่ก็ได้เห็นว่าพ่อเปลี่ยนไป เข้าใจอะไรมากขึ้น ปัญหาอะไรที่มันเกิดขึ้นมานั้นก็ขอเรียนให้ทราบกันในรายการของพี่ต๋อยแล้วกันครับผม”

เผยหย่าตั้งแต่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนไม่รู้จะบอกคนอื่นอย่างไรถึงประเด็นเตียงหัก ส่วนประเด็น จอยนอกใจตั้งแต่เดือนมีนาคม ตนขอไปชี้แจงทีเดียวในรายการของต๋อย ไตรภพ

“หย่ากันไปเมื่อวันที่ 12 พฤษภา นานมาแล้ว เพราะฉะนั้นที่คุณกล่าวหาอะไรกันอยู่เนี่ยครับผม ก็พยายามทำความเข้าใจนิดนึงแล้วกันครับว่าเรื่องมันไม่ใช่อย่างที่คุณกล่าวหา เพียงแต่ว่าผมไม่ได้ออกมาบอกกันแค่นั้นเอง ไม่รู้จะมาบอกยังไง อยู่ดีๆ มาตั้งโต๊ะบอกกันว่าเราหย่ากันแล้วอะไรอย่างนี้ ดูแล้วมันก็ยังไงๆ อยู่นะครับผม”

“มีการขุดคุ้ย ตั้งประเด็นว่าทางคุณจอยมือที่สาม อันนั้นหลังจากครับผม คือครอบครัวเราเนี่ยมีอะไรยังปรึกษากันอยู่ตลอดครับผม แล้วก็ยังมีความห่วงใย มีหน้าที่รับผิดชอบเหมือนกันตลอด นั่นคือเป็นพ่อ เป็นแม่ เลี้ยงดูลูก ยังไงก็ต้องดูแลความรู้สึกกันต่อไป กระแสที่ว่าคุณจอยนอกใจตั้งแต่เดือนมีนา คือมันมีเรื่องอะไรเดี๋ยวผมคุยในรายการพี่ต๋อยแล้วกันครับ เพราะว่าถ้าเกิดพูดไปมันก็มากเรื่องมากความอีกครับ คุณถามเดี๋ยวพี่ต๋อยก็ต้องถาม เดี๋ยวใครก็ต้องถาม เดี๋ยวผมตอบผิดไป พลาดไปจากคำตอบไปวันนี้ เดี๋ยวก็หาว่าผมโกหกอะไรกันอีกครับผม”

“สุดท้ายแล้วไม่ใช่เรื่องอะไรมือที่สามหรอกครับผม มันเรื่องส่วนตัวของผมเองแหล่ะครับผมที่ผิดพลาดไป ผมยอมรับในความเป็นหัวหน้าครอบครัวครับ ยังไงเราก็ต้องออกมารับผิดชอบ คนที่จะไป หรือว่าจะมีอย่างที่คุณว่า มันก็ต้องมาจากเหตุของผมนะฮะ ไม่งั้นอยู่ดีๆ เขาไม่ได้ไปอย่างงั้น ไม่ได้เกิดเรื่องราวอะไรอย่างงั้นหรอกครับ มันเกิดที่ผม แต่เดี๋ยวเรื่องยังไงเดี๋ยวผมชี้แจงให้ฟังแล้วกันนะครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แล้วก็เรื่องมันผ่านไปแล้วๆ ก็อยากให้สบายใจ อย่าเอาเรื่องผมมาคิดให้มันทุกข์ใจเลยครับ ๆไปคิดเรื่องบ้านเมือง ทำมาหากินอะไรกันยังดีกว่านะฮะ"

บอกข้ามความเสียใจไปแล้ว ตอนนี้สบายใจแม้ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว ย้ำยังเป็นคนรักกันบนโลกใบนี้

“มันผ่านไปแล้วครับ มันเลยข้ามคำว่าเสียใจไปแล้วครับผมตอนนี้มันก็สบายใจนะครับ แล้วก็ดีใจที่ได้มีโอกาสที่มีความรู้สึกดีๆ อย่างนี้ ไม่เคยมีความรู้สึกดีๆ อย่างนี้กันเลย ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาเลยตั้งแต่เกิดน่ะฮะ จริงๆ นะครับมันสบายใจจริงๆ หน้าที่ก็คือผมยังเป็นพ่อของแอลลี่ คุณจอยเป็นแม่ของแอลลี่ เราเป็นคนรักกันอยู่ครับ คนรักกันในบนโลกนี้ที่รักกันอยู่ ไม่ได้ใช้สามี-ภรรยา”

“กระแสวิจารณ์ต่างๆ มันมีผลกระทบกับลูก แล้วก็คุณจอยนะครับ ผมก็เลยต้องขออนุญาตกับพี่ต๋อย ขอได้ไปแถลงกับพี่ต๋อย แล้วก็ให้พี่ต๋อยเป็นสื่อกลางนะครับเพียงรายการเดียวนะครับที่จะให้ชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดอย่างนี้ครับผม ก็ประมาณนั้น ไม่มีอะไร เวลาแอลลี่ไปโรงเรียนจะมีคนถาม ช่วงแรกๆ มันก็ต้องเศร้าอ่ะนะ เศร้าบางทีอาจจะไม่ได้เศร้าเรื่องของผมก็ได้ อาจจะเป็นเศร้าไม่สบายใจเพราะว่าผมเป็นอะไรอยู่หรือเปล่า อะไรตอนนั้น ผมเครียดอะไรอยู่ไหม ยังมีปัญหาอะไรอยู่ไหมที่ยังไม่เข้าใจช่วงนั้นก็ได้ คุณต้องระบุระยะเวลามา ผมจะได้รู้อาการผมว่าผมเป็นอะไรอยู่ตอนนั้น แต่ตอนนี้ผมหาย ผมสบายใจนะครับผม แล้วก็หลุดพ้นกันมาแล้วนะครับ ข้ามผ่านกันมาแล้วก็อยากให้ทุกคนผ่านๆ เรื่องนี้ไป เดี๋ยวเราชี้แจงให้ฟังกันอีกทีในรายการพี่ต๋อย”

ย้ำเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายมีคนใหม่ได้ เพราะเดี๋ยวก็ตายจากกันอยู่แล้ว

“จากนี้ถ้าใครจะมีคนใหม่ โอ๊ยให้มันมีเถอะ สบายๆ กันครับ ชีวิตหนึ่งจะมานั่งจมนั่งทุกข์อะไรกันนักหนา เดี๋ยวก็ตายกันหมดแล้วเนอะ อย่าไปเครียด"

ส่วนประเด็นขายบ้านขายรถ อ่ำได้ชี้แจงว่าเป็นเพราะจะไปอยู่บุรีรัมย์เนื่องจากที่นั่นมีสนามแข่งรถ และมีธุรกิจที่อยากทำ หลายคนก็เข้ามาด่าตน ก็อยากจะชี้แจงว่าเอาเงินที่ขายไปซื้อคอนโดใกล้บ้านจอย จะได้มีเวลาขับรถไปรับส่งลูก ส่วนเรื่องขายรถเป็นเพราะสู้น้ำมันไม่ไหว อยากลดภาระ

นอกจากนี้ ยังได้ฝากบอกนักเลงคีย์บอร์ดที่เข้ามาวิจารณ์ครอบครัวตนจนเสียหายว่าใครอยากสนุกกับเรื่องคนอื่นที่ลำบากหรือทุกข์ใจ ก็ให้ระวังหัวเตียงเอาไว้ ขอบคุณทุกกำลังใจและขอโทษที่ครอบครัวไม่ได้ดั่งใจ แต่ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงของตนมีอะไรดีกว่าที่เป็นอยู่มากกว่าตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน โอกาสคืนดี บอกว่ามีทุกคน ส่วนวันพ่อปีนี้แอลลี่จะมาอยู่กับตน และจะชวนจอยมาไหว้พระที่บ้าน เพราะเพิ่งทำห้องพระใหม่ ยังไงความผูกพันก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้