Inside Dara
ผู้บริหารกองประกวด MUT ลั่นไม่คืนเงินรางวัลให้ “น้ำเพชร” เพราะทำผิดกฎใช้สรีระหากิน!

เปิดใจ “ออน ชิชญาสุ์” ผู้บริหารกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ ลั่นไม่ตั้งโต๊ะแถลงข่าวโต้ “น้ำเพชร” เพราะไม่อยากเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก แต่อีกฝ่ายเปิดฉากเริ่มก่อน ฉะหากไม่คืนมงกุฎฟ้องแน่ เผยไม่มีสิทธิทวงเงินรางวัลคืนเพราะทำผิดกฎกองประกวด ยันภาพหลุด “แอลลี่” แค่จูบแฟนไม่ได้แหกขาใช้สรีระหากิน รับเตรียมหามาตรการอุดช่องโหว่การประกวด เปิดใจลาออกจากช่อง 7 มาสานต่องาน “คุณแดง สุรางค์” ปีหน้าลุยเกมโชว์และละครไม่ต่ำกว่า 10 เรื่อง

หลังจากที่ “น้ำเพชร สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ” อดีตรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 ออกมาร่ำไห้ต่อว่ากองประกวดว่าปลดตนอย่างไม่เป็นธรรม แถมยังไม่ให้เงินรางวัลทั้งที่ตนควรจะได้ จนสร้างความอื้อฉาวให้กับวงการนางงามเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารกองประกวดยังไม่มีการออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงใดๆ ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ตามไปสอบถาม “ออน ชิชญาสุ์ กรรณสูต” รองกรรมการผู้จัดการบริษัท จันทร์ 25 จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือสิทธิการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ในงานเปิดตัวรายการ Don’t Lose The Money Thailand เจ้าตัวก็ได้เปิดใจว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของกฎหมายแล้ว เพราะให้ทนายเป็นผู้จัดการยื่นโนติสขอมงกุฎคืนจากน้ำเพชรเรียบร้อยแล้ว ขู่อีกฝ่ายไม่คืนมงกุฎฟ้องแน่ เผยทำผิดกฎแล้วยังจะมาเรียกร้องขอเงินสองแสน

“ตอนนี้เป็นขั้นตอนของทนายที่ไปคุยค่ะ เป็นเรื่องของกฎหมายไปแล้วค่ะ ก็คือเป็นเรื่องของการยื่นโนติสขอมงกุฎคืน ถ้าเขาไม่เอามาคืนก็ต้องมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น ซึ่งเราก็ต้องพิจารณาอีกทีว่าเราจะให้ไปถึงขั้นนั้นหรือเปล่า ถ้าเขาไม่อยากมีปัญหาก็เอามาคืนเถอะ เขาก็เอาไปใช้ทำอะไรไม่ได้ เพราะวันที่เราเรียกเขาเข้ามาเขาก็เซ็นยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้วว่าเขาจะต้องคืน เขาไม่สามารถเอาชื่อของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ไปประกอบอาชีพหรือหางานได้”

“ส่วนที่เขาทวงถามเรื่องเงิน จริงๆ ถ้าพูดตามหลักเขาผิดตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาประกวดแล้วนะ เพราะถ้าดูจากใบสมัครคุณต้องยอมรับว่าคุณไม่เคยทำตามกฎแบบนี้ๆ มา ซึ่งเขาเขียนว่าเขายอมรับว่าเขาไม่เคยทำ แต่ในเมื่อความเป็นจริงแล้วเขาทำ ซึ่งกฎก็มีกำหนดอยู่แล้วว่าถ้ามีผิดข้อไหนคุณก็จะไม่ได้เงินรางวัล แต่สิ่งที่เขาพูดว่าทางกองประกวดรู้ก่อนแล้วว่าเขาเคยถ่ายภาพแบบนั้น ทางเราเพิ่งมารู้ทีหลังนะคะ ซึ่งถ้าเรารู้ก่อน เขาไม่ได้เข้าแม้แต่ 44 คนสุดท้ายด้วยซ้ำ”

บอกกรณี “แอลลี่ พิมบงกช จันทร์แก้ว” ที่มีภาพหลุดจูบกับแฟนเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะไม่ได้ใช้เรือนร่างไปหาเงินในทางพาณิชย์

“กรณีของแอลลี่มันต้องแยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวกับการทำเพื่อการพาณิชย์นะคะ อย่างน้องแอลลี่ที่เขามีภาพหลุดกับผู้ชาย ซึ่งเป็นแฟนเขา แล้วเขาได้สตางค์ไหม หมายถึงว่าเขาได้ใช้สรีระร่างกายเขาหากินหรือเปล่า เราดูในลักษณะอย่างนั้น แต่เราไม่ได้พูดถึงว่าอาชีพพริตตี้เป็นอาชีพที่เสื่อมเสีย คือจริงๆ เรารับได้ที่เขาเป็นพริตตี้ แต่ถ้าเกิดมันเป็นภาพที่หวือหวา หรือเรียกว่าไม่เหมาะสม อันนั้นมันก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง แต่อย่างที่เขาพูดว่าเราดูถูกอาชีพพริตตี้ ออนว่ามันไม่ใช่ เราไม่ได้ดูถูกอาชีพของคนที่ทำงานสุจริตอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ ออนว่าทุกคนตัดสินได้นะ มันไม่ใช่เฉพาะกองประกวดหรอกว่ามันเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม”

“กรณีของแอลลี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ ซึ่งคนที่ออกมาแฉเองก็มีรูปของตัวเขากับแฟนที่หลุดออกมาเหมือนกัน ออนว่าคนที่มันเป็นแฟนกันทุกอย่างมันก็เกิดจากความรัก ซึ่งถ้าเกิดมันไม่ได้ทำน่าเกลียดถึงขั้นอ้าขา กางขาที่ถ่ายเพื่ออย่างนั้นมันก็เนอะ ไม่รู้สิ กับแอลลี่เราก็ได้พูดคุยกัน เขาก็บอกว่าไม่ได้มีอะไร เขาก็บอกว่าเป็นแฟน ซึ่งก็เป็นฝรั่งด้วย แต่เขาก็เลิกกันไปแล้ว แต่ก็ยังคุยกันเป็นเพื่อนอยู่ แต่ถามว่ากลัวไหมว่าจะมีภาพหลุดออกมาอีก เท่าที่คุยกับน้องเขาก็มั่นใจว่าจะไม่มีภาพอะไรที่จะหลุดออกมาแบบนั้นอีก”