Inside Dara
ดีเจดังเคยป่วย ไบโพลาร์ ห่วง เสก โลโซ เตือนคนดูไลฟ์อย่ายุให้ฆ่าตัวตาย

จากกรณีที่ เสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดังทำการไลฟ์สดในเฟซบุ๊กข้ามวันข้ามคืน พร้อมทั้งพูดจาพาดพิงถึงบุคคลอื่น จึงทำให้หลายคนเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสก ถึงได้มีพฤติกรรมแบบนี้

งานนี้ดีเจเคนโด้-เกรียงไกรมาศ พจสุนทร จึงได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้โดยโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของตนเองถึงพฤติกรรมของนักร้องชื่อดังว่า นี่คืออาการป่วยเป็นไบโพลาร์ โดยดูได้จากที่เสกพูดได้เรื่อยๆ โดยไม่นอน มันคืออาการของโรค และยังบอกว่าตนเข้าใจแต่ก็ไม่ได้เข้าข้าง ซึ่งข้อความที่เคนโด้โพสต์มีเนื้อหาดังนี้

"รีรันอีกรอบเรื่องพี่เสก ถือเป็นการทำความเข้าใจเรื่องไบโพลาร์ ทำไมพี่เสกไม่นอน พูดได้เรื่อยๆ ไม่หยุด #อาการของโรคล้วนๆครับ #เข้าใจไม่ได้เข้าข้าง

ผมพูดเต็มปากว่าพี่เสกป่วยจริง เพราะได้โทรคุยกับทนายส่วนตัว แกรักษามาสามปี แต่ที่ยังไม่หายเพราะแกไม่มีวินัยในการรักษา ของพวกนี้ต้องพยายามมากพอสมควร ยาครึ่งนึง จิตบำบัดครึ่งนึง พี่เสกแกไม่มีทั้ง 2 ยาก็ขาด วินัยก็ไม่มี สาเหตุคือไม่ใช่พี่เสกผู้ป่วยก็ดำเนินชีวิตตามขั้นตอนของโรค แมเนียระยะคึกคักมากปกติ คือระยะนี้แหละ เจ้าโปรเจกต์ สมองแล่น ขนาดโดนจับยังยิ้มหัวเราะ (คุณคิดว่ามันปกติรึ)

ออกจากคุกก็จะไปซื้อที่ดิน ตรรกะไม่มีแล้ว นี่คืออาการของโรคล้วนๆ ปัจจุบันไลฟ์สดไม่หลับไม่นอน พูดมาก พูดตลอดเวลา มันคืออาการแมเนียล้วนๆ พี่เสกขาดผู้ดูแล ผู้ป่วยจะหายปัจจัยหลักๆ คือผู้ดูแล ผู้ดูแลเขามีโรงเรียนให้เรียน แม่ผมก็เรียนเพราะต้องดูแลลูกที่เป็นไบโพลาร์ถึงสองคน! บางคนเถียงก็ใช้ยานี่จนหลอนเป็นบ้า แยกส่วนกันนะครับ ยามีส่วนกระตุ้นอาการไบโพลาร์มาก พี่เสกคือผู้ป่วยที่ยังคงใช้ยา (อันนี้ประมวลตามข่าวที่ตรวจเจอ)

พูดเรื่องไบโพลาร์มานาน พูดกี่ครั้งก็เป็นเรื่องใหม่ แต่กว่าสองล้านคนที่เป็นผู้ป่วยจิตเวชที่เข้าระบบรักษาตามข้อมูลกรมสุขภาพจิต กลุ่มนี้และญาติไม่ต้องอธิบายกันแล้วว่า พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกเรา ผัวเรา เมียเรา

ตอนแรกก็ไม่เข้าใจแบบที่สังคมไล่พี่เสกไปตาย ผมก็เคยโดนไล่ไปตาย เพราะผมก็เกเรไม่ต่างพี่เสก แต่โชคดีไม่เคยใช้ยา กินแต่เหล้า กินเพียวเป็นขวด หรือจนกว่าคุณจะเป็น ญาติคุณจะเป็น คุณถึงจะเข้าใจว่า #โรคมีส่วนทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจริง

มันปวดร้าวมาก สำหรับผู้ป่วยทางจิตเวช บางคนฆ่าพ่อแม่ เอาปืนยิง(จิตเภท) เพราะมีคนกระซิบว่าให้ไปสังหารถ้าไม่ทำพ่อแม่จะตกนรก สมองมันเพี้ยนไปหมดแล้ว หูแว่ว ภาพหลอน พอเกิดเหตุการณ์สังคมก็รุมด่า ไอ้ชั่ว ไอ้เลว สัตว์นรกมาเกิด คือเขาไม่ได้ทำ พอเอาเขาไปรักษาอาการภาพหลอน หูแว่วหาย คุณคิดดูว่าเขาจะปวดร้าวเพียงใด #อย่าเพิ่งตัดสินคนด้วยความไม่เข้าใจหรือเข้าข้างคนเพราะรู้ไม่มากพอ

ผมเคยเป็นไม่ต่างจากพี่เสก และคนเป็นไบโพลาร์ทุกคนตอนแมเนียก็มีพฤติกรรมรุนแรงต่างกันออกไป เราควบคุมตัวเองไม่ได้หรอก เพราะเคมีในสมองเป็นแบบนั้น #สมองมันเป็นนายเรา ผู้ดูแลต้องวางแผนการรักษากับจิตแพทย์ ยิ่งรักษาช้าความเสียหายยิ่งมากขึ้น

สุดท้ายถ้าพี่เสกลงสู่ขั้วซึมเศร้า มันไม่ใช่แค่ยิงปืนขึ้นฟ้าน่ะสิ ศิลปินต่างชาติก็จบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายมาแล้วหลายคน #เคิร์ตโคเบน #เอมีไวท์เฮ้าส์

ผมไม่อยากใช้คำว่าให้โอกาส ผมไม่อยากใช้คำว่าเห็นใจ เพราะจะไปให้โอกาสและสงสารทำไมเพราะพฤติกรรมมันก็ชั่วจริง #ผมขอคำว่าเข้าใจแค่นี้พอเข้าใจจะนำไปสู่การให้แก่ผู้ป่วยจิตเวชในทุกๆโรค #เข้าใจแล้วจะไม่ตีตราบาป #เข้าใจนำสู่การช่วยเหลือ #เข้าใจสร้างสังคม #เราจะเข้าใจกันและกัน

คำว่าเข้าใจผมว่ามันใช้ได้กับหลายๆ อย่างในชีวิตเลยครับ คุณคงไม่มีความสุขหรอกถ้าคนที่คุณบอกสมควรตาย แล้วเขาตายในวันรุ่งขึ้น แม่บางคนด่าลูก มึงไปตายที่ไหนก็ไป แล้วลูกไปตายจริง หรือชาวเน็ตรุมไล่พี่เสกไปตาย

ผมไม่เชื่อว่าคุณจะปรบมือโพสต์ว่า ดีจัง โคตรดีใจ ตายแล้วว้อยย ผมไม่มีทางเชื่อว่าคุณจะรู้สึกจริงอย่างที่คุณโพสต์ ไม่มีทางจริงๆ เพราะวันนึงถ้าคุณเกิดความเข้าใจ มันจะไม่เป็นแบบนี้ #ไม่ไล่ใครไปตายเพราะมันแค่อารมณ์มันไม่ใช่ความรู้สึกจริง

ขอบคุณที่อ่านจนจบ จากใจอดีตผู้ป่วยไบโพลาร์รับการรักษาอย่างจริงจัง พ.ศ. 2555 จนถึงปัจจุบัน เคนโด้ 4 มกราคม 2561

ซึ่งหลังจากที่เคนโด้โพสต์เรื่องนี้ ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ และแชร์ข้อความดังกล่าวไปในโลกโซเชียลมากมาย".