Inside Dara
ดาวดวงใหม่ส่องแสงในเวที 'เดอะสตาร์8'

ฝ่าฟันจากคนมีฝันกว่า 2 หมื่นคนจนมาเป็น 8 คนสุดท้าย ของ “เดอะสตาร์ 8” โดยหนุ่มๆ สาวๆ ทั้ง 8 คน ประกอบด้วย "โดม" จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม "ฮั่น" อิสริยะ ภัทรมานพ "เฟรม" ศุภัคชญา สุขใบเย็น "แคน" อติรุจ กิตติพัฒนะ "สต๊อป" วริษฐา จตุรภุช "สมายด์" โสรญา ฐิตะวชิระ "ฮัท" จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร และ "แกงส้ม" ธนทัต ชัยอรรถ วันนี้ "บันเทิง คม ชัด ลึก" จะขอแกะเกลาสาวๆ หนุ่มๆ ดาวดวงใหม่เหล่านี้มาพูดคุยกันหน่อย เพราะแต่ละคนราศีออร่าความเป็นสตาร์จับกันแบบสุดๆ

เริ่มต้นที่หนุ่มคนแรก "โดม" ที่พกพาเอาเสียงที่ฟังแล้วเคลิ้มมาทำให้สาวๆ ได้ใจอ่อนกันก่อนเลย ซึ่ง "โดม" ได้บอกถึงความฝันที่อยากจะมาเป็นเดอะสตาร์ว่า จริงๆ แล้วตนติดตามดูรายการนี้มานานแล้ว และชอบในรูปแบบของรายการ โดย "โดม" ยังบอกว่าถึงเสน่ห์ของตัวเองว่าเป็นคนที่อารมณ์ดี

"ผมว่าเสน่ห์ของผมอยู่ที่ความสดใส อารมณ์ดี อบอุ่น ยิ่งถ้าได้ร้องเพลงช้าๆ ซึ้งๆ ผมเชื่อว่าผมจะถ่ายทอดอารมณ์ให้คนฟังรู้สึกดีได้ ซึ่งส่วนตัวผมเองเป็นคนชอบเพลงในแนวป็อบ และอาร์แอนด์บี ผมจะพยายามที่จะร้องเพลงให้ดีที่สุด" โดมกล่าว

ด้านหนุ่ม "ฮั่น" หมายเลข 2 ได้เล่าว่า เมื่อก่อนตนอยากเป็นนักร้อง และได้มาทำงานที่แกรมมี่ในฐานะของแดนเซอร์ มันทำให้ได้เห็นอะไรมากขึ้น เมื่อหมดสัญญาเลยอยากที่จะทำความฝันของตัวเองอีกครั้ง และเมื่อได้รับโอกาสจึงอยากที่จะทำอย่างเต็มที่ ยิ่งเห็นว่าเวทีเดอะสตาร์สร้างรุ่นพี่หลายๆ คน จนมีชื่อเสียง เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ ตนเลยอยากที่จะมายืนในจุดนั้น

"เรื่องเสน่ห์ของผม ผมว่าอยู่ที่ลีลาในการเต้น ที่ผมเชื่อว่าจะทำให้ทุกๆ คนสนุกไปกับการเต้นของผมได้ ส่วนนิสัยโดยส่วนตัวผมเป็นคนขี้เล่น แนวเพลงในแบบที่ผมชอบคือจะเป็นเพลงที่ดนตรีมีจังหหวะ หรือเพลงที่มีความหมายลึกซึ้ง" ฮั่นเผย

มาถึงสาวสวยคนแรก "เฟรม" หมายเลข 3 ที่บอกถึงความฝันที่อยากเป็นนักร้อง อยากร้องเพลงให้ผู้คนได้ฟัง และอยากมาตามหาฝันในรายการเดอะสตาร์ เพราะอยากที่จะประสบความสำเร็จในเวทีนี้เหมือนพี่ๆ ในรุ่นก่อนๆ

"เฟรมว่าเสียงแหบๆ ของเฟรมจะเป็นเสน่ห์ทำให้ทุกคนชอบได้ และหน้าตาที่เรียบร้อย ซึ่งอาจจะดูขัดกับเวลาร้องเพลงคงทำให้คนสนใจในตัวเราก็ได้ ซึ่งเฟรมเป็นคนชอบเพลงเกือบทุกแนวเลย แนวป็อบ อาร์แอนด์บี จะชอบเป็นพิเศษ" เฟรมบอก

หนุ่มคนต่อมา "แคน" หมายเลข 4 หนุ่มที่ประกวดเวทีนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ทำให้เขาได้เข้ามาในรอบ 8 คนสุดท้าย หนุ่ม "แคน" บอกว่าตนได้รู้รายการ "เดอะสตาร์" ด้วยกันครอบครัวมานานแล้ว ซึ่งตลอดเวลาก็จะคิดว่าถ้าเราได้มีโอกาสเข้าในรายการนี้ ครอบครัวก็คงดีใจ เพราะตนอยากที่จะได้ร้องเพลงให้ครอบครัวได้ฟัง

"ผมเป็นคนสบายๆ ง่ายๆ เข้าถึงได้ ผมว่าตรงนี้อาจเป็นเสน่ห์ ที่ทำให้หลายคนได้รู้จักตัวผมมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องของแนวเพลง ด้วยนิสัยส่วนตัวผมเป็นที่ยิ้มง่าย ผมเลยชอบเพลงที่มีความหมายบวก เพลงที่ฟังแล้วยิ้มได้ เพราะผมเองก็อยากร้องเพลงแล้วทำให้คนยิ้มตามไปด้วยเหมือนกัน"แคนพูดพร้อมรอยยิ้ม

สาวคนที่สอง "สต๊อป" ที่มีดีกรีเป็นน้องสาวของ "ต้น" แชมป์เอเอฟ 8 ซึ่งต้องบอกว่าเป็นใบเบิกทางที่ดี แต่สาวคนนี้ได้เผยว่าตนและพี่ชายมีความฝันที่จะเป็นนักร้องมาด้วย ร้องเพลงมาด้วยกันตลอด เมื่อพี่ชายได้แชมป์จากเวทีนักล่าฝัน ตนเลยอยากมาร่วมชิงในเวที "เดอะสตาร์" แทน

"สำหรับสต๊อปแล้วมองว่าตัวเองเป็นของแปลกใหม่ เป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง แนวเพลงที่ชอบคือแนวอาร์แอนด์บี และฮิพฮอพ ซึ่งเราเชื่อว่าเราจะสร้างความแปลกใหม่ให้กับคนดูได้" สต๊อปบอก

คนต่อมาเป็นสาวน้อยน้องเล็กคนสุดท้องของเวทีนี้ นั่นคือ "สมายด์" หมายเลข 6 ที่มีความฝันแบบเล็กๆ น่ารักว่า "อยากเป็นสมายด์ เดอะสตาร์" สาวน้อยคนนี้บอกกับเราว่าฝันที่อยากมีนามสกุลเดอะสตาร์มานานแล้ว และเมื่ออายุครบ 15 ปีก็ขอเดินตามฝันด้วยการมาประกวดในรายการนี้ทันที

"หนูไม่รู้ว่าเสน่ห์ของหนูอยู่ตรงไหน แต่หนูถามพี่ม็อบ (ทีมงานเอ็กแซกท์) พี่เขาบอกว่าเสน่ห์ของหนูอยู่ที่ความสดใส ร่าเริง และเป็นธรรมชาติ อ๋อแล้วก็เป็นตัวของตัวเอง (ยิ้ม) แนวเพลงที่ชอบคือแนวป๊อป ป๊อปอะไรหนูก็ชอบทั้งหมดเลย" สมายด์ตอบอย่างน่ารัก

มาถึงหนุ่มคนต่อมา "ฮัท" หนุ่มที่มีความฝันอยากที่จะมาประกวดเวทีนี้ เพราะเวทีนี้ไม่ได้สร้างแค่การเป็นนักร้อง แต่ยังผลักดันให้มีความสามารถในด้านต่างๆ ในวงการบันเทิง ทั้งการแสดง การเป็นพิธีกรด้วย ส่วนเสน่ห์ของหนุ่มคนนี้อยู่ที่ความสนุกสนาน ชอบเอ็นเตอร์เทน และชอบเพลงแนวป๊อป ร็อก

ปิดท้ายที่หนุ่มคนสุดท้าย "แกงส้ม" ที่ดูจะเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดกับการเข้าประกวด เพราะ "แกงส้ม" เคยเข้าประกวดมาแล้วหลายเวทีด้วยกัน ซึ่งหนุ่มคนนี้ให้เหตุผลว่าฝันอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็ก และอยากที่เรียนรู้งานในวงการให้ครบทุกแขนง ซึ่ง "แกงส้ม" พูดถึงเสน่ห์ของตนเองว่าเป็นคนง่ายๆ สบายๆ มีความเป็นตัวของตัวเอง ตลก ใครที่ได้รู้จักจะต้องมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆ เข้า

งานนี้รักใคร เชียร์ใคร ก็ตามลุ้นให้กำลังใจพวกเขาได้ในการประกวด "เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว 8"

10ปีทีเด็ด 'พลอย'พริ้ง อึ๋มเขย่าใจ!

พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ พร้อมโชว์เซ็กซี่ หนุ่มต้าร์ไม่ปิดกั้นกดไฟเขียว แถมด้วยเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดให้ พลอย ได้โชว์สัดส่วนสมวัยสาวได้ตามสบาย คนถ่ายสบายใจ คนดูก็สบายตา!

พลอย เกริ่นไว้แต่เนิ่นๆแล้วว่าเดือน มี.ค.นี้มีเซอร์ไพรส์ จะจัดใหญ่โชว์หวือในชุดว่ายน้ำ ชุดวาบหวามให้ดูปีละครั้ง และครั้งนี้ พลอย ยกให้เป็นการถ่ายแบบที่เซ็กซี่ในรอบ 10 ปีของเธอ ความงดงามของ พลอย ไปเบ่งบานโดดเด่นกลางธรรมชาติ ทรายขาว น้ำทะเลใส ทำให้ พลอย หลงใหลงานชิ้นนี้สุดๆช่างภาพ วสันต์ ผึ่งประเสริฐ พา พลอย ไปพริ้งเพริศ แชะกันแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ชีวิตนี้นอกจาก พลอย ดีใจที่ได้ใกล้ชิด “แฟน” เธอก็กรี๊ด...ด แบบสุดเสียงที่ได้ทำงานแบบใกล้ชิดโขดหิน น้ำทะเลสาด ทรายกระเด็น สวยธรรมชาติที่สุดประทับใจ พลอย

เธอเลยประกาศเลยว่า “ปีนี้ขอนิตยสาร “ดิฉัน” เล่มเดียว” ถึงจะถ่ายกันกลางทะเล แต่เจอ พลอย สลัดผ้าใส่ชุดบิกินี อกอวบอูม ก้นกลมกลึง สมสัดส่วน เห็นแล้วชวนมองเสน่ห์นางเอกสาวไทยสมัยนี้ ร้อนแรงแซงหน้ากว่าความรู้สึกไหนๆ พลอย เปิดตัว มีรักก็เปิดปาก ตอนนี้รัก ดร.ต้าร์ มากมายมหาศาล แต่ “พลังแฟนคลับ” ไม่ได้ลดน้อยลง

แฟนคลับฝ่ายสาวๆอยากสวยและเป็นสาวทรงเสน่ห์เหมือน พลอย ส่วนแฟนคลับฝ่ายหนุ่มๆก็อยากจะอิจฉา ดร.ต้าร์ ที่ได้ครอบครอง “สาวสวย ทรงเสน่ห์” แบบผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว

ช่วงนี้ พลอย นิ่ง เพราะรักสงบ ชีวิต พลอย เธอรักใครรักจริง ตอนนี้ พลอย ยกตำแหน่งเจ้าของหัวใจเธอ ให้ ดร.ต้าร์–นาวิน ต้าร์ ครอบครอง คู่นี้รักหวานตั้งแต่เริ่มคบ พิสูจน์รักด้วยครั้งนึง ต้าร์ เคยเรียนอยู่อเมริกา ระยะทางห่างไกลแสนไกล แต่รักยังหวาน ต้าร์–พลอย ประคองรักย่นระยะทางรอเวลา ต้าร์ กลับเมืองไทย กลับมาโกยสตางค์รับงานคู่ กลายเป็น “คู่รักเสริมดวง” โชว์หวานรับทรัพย์เข้ากระเป๋าตุง

พลอย เป็น “ดาวดัง” ที่หมอดูหลายสำนักอยากจะทายดวงชะตา บ้างก็ว่า พลอย–ต้าร์ ไม่ใช่คู่กัน แต่เธอก็อาศัยความหวานกลบข่าวลือ มีแต่ พลอย โชว์สัดส่วนแบบเดี่ยวไม่เอี่ยวกับ ต้าร์ ก็เลยถูกลือว่า พลอย กลัวอาถรรพณ์ภาพคู่ เลยงดถ่ายหวือ เพราะหวั่นความสัมพันธ์สะดุด ของแบบนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ มีหลายคู่ฝืนดวงควงแขนลงขันรับงานคู่ ทำธุรกิจร่วมกัน บางทีร้านยังไม่ทันเปิด เลิกกันซะแล้ว เก็บกระเป๋าเคลียร์เงินกันแทบไม่ลงตัว พลอย ไม่เคยพูดว่า “หวั่นอาถรรพณ์ภาพคู่” แค่สังเกตดูว่า พลอย ค่อนข้างระวังตัวอาจจะเพราะ วัย 30 ยังแจ๋ว อยากมีรักที่ชัดเจน เพราะ พลอย ก็ฝันไกลถึงวันวิวาห์

ดร.ต้าร์ เลยถูกมองเป็นหนุ่มใจแม่น้ำ อนุญาตให้ พลอย ร่วมงานกับ “แฟนเก่า” โดม–ปกรณ์ ลัม ในละครเรื่อง “รักไม่มีวันตาย” ค่ายโพลีพลัส เพราะ ต้าร์ เชื่อมั่นจากคำพูด พลอย ที่ชัดเจนว่า “ชีวิตจริงรักได้ตายไปแล้ว” พลอย ลิงโลด เพราะช่วงนี้รักรุ่ง งานฉลุย ถึงขนาดขาเม้าท์คอยนั่งนับงานอีเวนต์โชว์ตัว งานละคร หรืองานพรีเซ็นเตอร์ เยอะขนาดนับ “รายได้” ร่วม 100 ล้าน แต่ พลอย ปฏิเสธ เธอพูดซะน่าสงสารว่า “ทำงานหาเงินในส่วนที่เราควรจะได้ ไม่ได้ขนาดเป็น 100 ล้าน”

รายได้จะกี่ล้าน กี่แสน พลอย คงไม่สน ชีวิต พลอย เกิดมาเพื่อตามหา “รักแท้” มาเติมเต็ม เพื่อให้โลกใบเดิมที่เงียบเหงาของ พลอย สดใส และซาบซ่าส์ เพราะมี ต้าร์ มาร่วมเคียงข้าง

ประสบการณ์รักที่ผ่านมา ทั้งรักดี รักชั่ว มั่วๆกันไป ทำให้ พลอย ได้เห็นค่าเวลาอยู่กับ ต้าร์ เพราะวินาทีนี้โลก พลอย เป็นสีชมพู ต้าร์ คอยเข้าใจ อารมณ์รักหวานที่บันดาลสุข ทำ พลอย คิดไกล อยากจะฝากรัก ฝากใจ ฝากตัวให้ ต้าร์ ดูแลตลอดกาล!

ชีวิตนักแสดงของ ป๊อก - ปิยธิดา ที่ไม่ใช่ดารา

ใครจะคิดว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ วันหนึ่งเธอจะกลายมาเป็นดาวดังของวงการบันเทิง “ป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก” ปัจจุบันอายุ 36 ปี มีผลงานละครมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง แต่ที่หลายคนยังจำได้ดีคือ บทบาทของ ดร.วิกันดา ในละครเรื่อง “เมียหลวง” ที่สาวป๊อก ถ่ายทอดความรู้สึกและอารมณ์ของตัวละครที่ชื่อ ดร.วิกันดา ออกมาได้อย่างน่าประทับใจจริง ๆ ซึ่งไม่บ่อยครั้งนักที่เธอจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อแบบเป็นเรื่องเป็นราว เพราะไม่ค่อยมีเวลานั่นเอง ล่าสุดพอมีโอกาสเจอ “สาวป๊อก” ขณะอยู่ในกองถ่ายละครซีรีส์ ก็เลยอดที่จะเข้าไปคุยด้วยไม่ได้ ซึ่งเธอก็โอเค (ยิ้มหว้าน...หวาน) ก็รู้สึกเกรงใจเธอเหมือนกัน เพราะรู้มาเธอมีคิวถ่ายละครทั้งวัน พอพักเบรกก็เลยรีบจัดซะ!!

ช่วงนี้ทำไมไม่ค่อยเห็นมีงานแสดงเลย? “ก็มีละครกำลังถ่ายทำ 4 รุ่น 4 วุ่น เดอะซีรีส์ ออกอากาศ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา สองทุ่มสี่สิบ ทางช่อง 9 และภาพยนตร์เรื่อง Together นอกนั้นก็มีรับงานโชว์ละครเวทีเล็ก ๆ ตามงานจ้างต่าง ๆ ก็ออกงานกับพี่ตั๊กและน้อง ๆ ที่รู้จักกันใช้ชื่อกลุ่มองศาศิลป์ ตั้งมาได้ 4 ปีแล้ว ก็มีคนตีกลอง, นักดนตรีนางรำ อะไรอย่างเนี้ย ฝากติดตามผลงานของป๊อกกับพี่ตั๊กด้วย และกลุ่มองศาศิลป์ด้วยนะคะ”

มาถึง ณ วันนี้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จกับการที่ได้ชื่อว่าเป็นนางเอกอีกคนหนึ่งของวงการฯหรือยัง “ตัวเองรู้สึกพอใจนะคะกับการที่ได้เป็นนางเอก เพราะตามมาตรฐานเราได้เล่นมาแทบจะทุกรูปแบบแล้ว แต่ในความคิดของคนอื่น เราไม่รู้ว่าเค้าตั้งมาตรฐานไว้แค่ไหน ก็แล้วแต่จะคิด แต่ป๊อกพอใจและมีความสุขกับอาชีพนักแสดงค่ะ”

มีงานอื่นในวงการบันเทิงที่ “ป๊อก” อยากจะทำอีกมั้ย? “รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบและเชี่ยวชาญศาสตร์การแสดงอย่างเดียว ส่วนงานเบื้องหลังก็มีสนใจ คิดไว้เหมือนกัน อยากเป็นครูสอนแอ๊คติ้ง จะได้ช่วยติวน้อง ๆ แต่คิดว่าตัวเองยังมีความรู้ไม่มากพอ เลยขอสะสมประสบการณ์อีกหน่อย ยอมรับว่าไม่ได้มีความรู้เรื่องกล้อง ไม่ชอบจัดการธุรกิจ หรือจัดการกองถ่าย คือเป็นคนชอบศาสตร์ของการแสดง ที่มาเป็นนักแสดงเพราะเรารักในการแสดงจริง ๆ และถนัดอยู่อย่างเดียว ถ้าเป็นไปได้คงเป็น ครูสอนแอ๊คติ้งนี่แหละ เหมาะกับเราที่สุดแล้ว”

รู้สึกอย่างไรกับอายุการทำงานของนักแสดงในยุคนี้ ที่ค่อนข้างจะสั้น หากเปรียบกับนักแสดงในสมัยก่อน อย่างเช่น นางเอกยุคนี้บางคนอายุยังไม่ถึง 30 ก็ถูกผู้จัดฯจับไปเล่นบทแม่ซะแล้ว “คิดว่าเดี๋ยวนี้ละครแต่ละเรื่อง มีวิธีเลือกนักแสดงหลากหลายนะ ทั้งเรื่องของการตลาด และบทบาทที่ได้รับ ให้ใกล้เคียงตัวแสดงมากกว่าที่จะสนใจเรื่องอายุ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ มักถูกปลูกฝังว่า นางเอกจะต้องเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยและเป็นคนดีที่สุดในเรื่อง ได้คู่กับพระเอก นั่นคือนางเอก แต่จริง ๆ แล้วความรู้สึกป๊อก บทนางเอก เป็นบทผู้หญิงที่แสดงนำหลักในการเล่าเรื่องทั้งหมด บางครั้งอาจจะไม่ต้องเป็นคนดีเสมอไปก็ได้ ซึ่งก็มีให้ได้เห็นอยู่เรื่อย ๆ แต่จะได้รับบทนางเอกหรือรับบทไหนก็แล้วแต่ ป๊อกว่าจะทำยังไงให้อยู่ในวงการบันเทิงได้นานดีกว่า ซึ่งนอกจากความสามารถ รูปร่างหน้าตาแล้ว การวางตัวให้เหมาะสม เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันค่ะ”

บุคลิกเป็นคนเรียบ ร้อย อยากรู้จัง! จริง ๆ “ป๊อก” เป็นยังไง? “หลายคนคิดว่า ป๊อกเรียบร้อยมาก จริง ๆ แล้ว ไม่เรียบร้อยเลยค่ะ คิดว่าตัวเองอยู่ในระดับปกติ ที่คิดว่าเรียบร้อย คงเพราะจากเด็กโตมาเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะให้ลุกขึ้นมาวิ่งเล่น ซุกซน คงจะไม่ได้แล้ว ก็จะนิ่ง ๆ ขึ้น แต่ก็เป็นคนมองโลกในแง่ดีนะ อารมณ์ดีด้วย เข้ามาชวนคุยสนุกสนานได้ปกติ แต่ก็จะไม่ถึงกับหลุดไปติ๊งต๊อง คือถ้าไม่สนิทกันจริง ก็จะเฉย ๆ เงียบ ๆ ค่ะ”

ขอถามเรื่อง “ตั๊ก-นภัสกร มิตรเอม” แฟนหนุ่มหน่อยนะจ๊ะ ขอย้อนนิดนึง...คบกันมากี่ปีแล้ว? “10 ปีแล้วค่ะ” (ยิ้มหวานเชียว) เขาเป็นผู้ชายในแบบที่วาดฝันไว้หรือเปล่า? “ตลอดเวลาที่ได้คบกัน คิดว่า พี่ตั๊กนี่ใช่เลย ดีกับเราทุกอย่าง ดูแลเราเสมอต้นเสมอปลาย เป็นสุภาพบุรุษ อำนวยความสะดวกทุกประการ ทั้งเราเอ่ยปากและไม่เอ่ยปากเค้าก็เทคแคร์เรา เหมือนพระเอกของเรา เป็นสิ่งที่พี่ตั๊ก มอบให้ คือป๊อกเป็นคนไม่มีสเปก ที่ผ่านมาก็เปิดโอกาสกับคนที่เข้ามาแล้วศึกษากัน ไม่ได้มีกฎปิดกั้นว่าต้องอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งพอเจอพี่ตั๊กแล้วก็ใช่เลย คนนี้ ก็คบกันมาเรื่อย ๆ เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่เคยรู้สึกอึดอัด ไม่เคยมีคำนั้น และก็คงไม่มีใครรับเราได้เท่ากับพี่เค้าอีกแล้ว”

เป็นคู่รักคนดัง ที่ไม่เคยมีข่าวเสียหายเลย มีวิธีประคับประคองความรักอย่างไร? “เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองพิเศษกว่าใคร ถึงแม้ว่าเรามีอาชีพเป็นนักแสดง หรือเป็นดาราอย่างที่ใคร ๆ ชอบเรียก แต่เราไม่ใช่ดารา ก็เพราะคิดอยู่เสมอว่าเราเป็นคนธรรมดา ใช้ชีวิตธรรมดา ไม่ได้เป็นเซเลบ เราเป็นนักแสดงเพราะเราชอบศาสตร์ของการแสดงจริง ๆ ไม่ได้เป็นนักแสดงเพราะอยากเป็นดารา ก็เลยทำให้ทุก ๆ อย่างที่เราทำเป็นเรื่องธรรมชาติ มันเลยไม่ใช่เรื่องยากที่จะไปทานข้าวทานก๋วยเตี๋ยวข้างทาง เดินห้าง เพราะเราคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ เลยไม่ค่อยมีข่าว ส่วนเรื่องประคับประคองความรัก คงเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนไม่วุ่นวาย ไม่เรื่องมาก ไม่มีข้อแม้มากมาย เลยไม่มีปัญหากันซึ่งก็มีพื้นฐานมาจากความเข้าใจกันของเราค่ะ”

“ป๊อก” เป็นคนขี้หึงรึเปล่า และตั๊กล่ะ...ขี้หึงมั้ย “ไม่ค่อยนะคะเพราะพี่ตั๊กไม่เคยทำให้อยู่ในข่ายเสี่ยงที่ต้องรู้สึกว่าเราต้องหึง แต่ก็เคยมีหึงบ้างเล็กน้อย ก็จะออกอาการนิ่ง ๆ เงียบ คือเริ่มไม่พอใจ บรรยากาศแบบเย็น ๆ นั่นแหละใช่เลย ส่วนพี่ตั๊กเท่าที่ดูไม่ขี้หึงนะ แต่ถ้าหึงก็จะเงียบเหมือนกัน ต้องคอยจับปฏิกิริยาของเค้า แต่พื้นฐานเราแคร์กันอยู่แล้ว โตกันขนาดนี้ ดูก็รู้ว่าคนไหนอยู่ในระดับเพื่อน น้อง หรือยังไง เรื่องนี้เราเข้าใจกัน ตัดปัญหานี้ทิ้งไปได้เลย ไม่ใช่ปัญหาของคู่เราแน่นอน” ได้ยินมาว่าหลังแต่งงาน ป๊อก กับ ตั๊ก ไม่อยากมีลูกเป็นเพราะอะไร “จริง ๆ แล้วอยากค่ะ รักเด็กนะ เห็นเด็กทีไรก็จะเข้าไปเล่นด้วย แต่ด้วยความจำเป็น ภาระรับผิดชอบ เลยคิดว่าเอาไว้ก่อนดีกว่าค่ะ เพราะยังอยากทำการแสดงต่อไป ถ้ายังไม่มีลูก จะทำงานได้คล่องตัวกว่า ไม่ต้องกังวลด้วยค่ะ”ดูเหมือนป๊อกเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง เวลาส่วนตัวจริง ๆ ชอบทำอะไร “ถ้าไม่ได้ทำงานแสดงหรือทำงานกับกลุ่มองศาศิลป์ ก็จะออกกำลังกาย พักผ่อนอยู่บ้านสบาย ๆ ใช้ชีวิตธรรมดามาตลอด แต่ช่วงนี้ก็จะตระเวนศึกษาหาข้อมูลพวกของแต่งบ้านเพราะบ้านยังไม่สวย อยากมีบ้านสวย ๆ และกำลังทำบ้านอยู่ด้วยค่ะ”

ชีวิตคนเราย่อมมีทั้งสุขและทุกข์ น้อยคนนักที่จะไม่เจอปัญหาในชีวิต เวลาป๊อกเจอปัญหา...มีวิธีแก้ไขยังไง เผื่อจะเป็นแง่คิดให้กับคนอื่น “เวลาเกิดปัญหา อยากให้มองไปที่คนที่ช่วยคิดได้ ปรึกษาได้ คือคนเราคิดคนเดียวไม่ได้ดีไปทุกเรื่องหรอก คนอื่นจะให้มุมมองที่บางทีเราคาดไม่ถึงแล้วนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ ส่วนเรื่องแฟน ถ้ามีปัญหาก็อยากให้ห่างกันบ้าง ให้เวลากับตัวเองได้คิดทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด และถ้าคิดไม่ตก ก็หาคนที่ไว้ใจได้มาเป็นที่ปรึกษา เป็นวิธีที่ได้ผลดีเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งป๊อกก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน สำคัญที่สุดต้องมีสติค่ะ”

เป็นผู้หญิงที่น่ารักอ่ะ!! นี่ถ้าเป็นผู้ชายจะรีบไปสู่ขอตัดหน้า “ตั๊ก-นภัสกร” เลยนะเนี่ย รักนะจุ๊บ ๆ