ลิลลี่ โต้กลับ ปู ลั่นถ้าหน้าด้านพูดมาก็ยกหนี้ให้ ฟ้องมาก็ฟ้องกลับ
เรียกว่าเรื่องราวบานปลายไม่จบง่ายๆ สำหรับกรณีที่ ปู มัณฑนา หิมะทองคำ ถูกหาว่ายืมเงินคนไปหลายรายแต่ไม่คืน ก่อนที่ ปู และ หาญส์ หิมะทองคำ สามี จะออกมาแถลงโต้เดือด และไปร่วมรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และมีช่วงหนึ่งที่พูดว่า ลิลลี่ เหงียน ดาราสาวชาวเวียดนาม เป็นคนพามิจฉาชีพมาเจอ และทำให้ต้องเสียเงินไป 5 แสนบาท
อีกทั้งยังหาว่านางแบบสาว ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี ไม่มีงานทำ และเป็นคนที่เสนอเรื่องดอกเบี้ยในการยืมเงิน อีกทั้งยังบอกว่าไม่รู้จักกับ อ้อม หนึ่งในผู้เสียหาย โดยบอกว่าไม่รู้จักใครนอกจาก ลูกหมี-ลิลลี่
ล่าสุด ลิลลี่ พร้อมด้วย ลูกหมี กับ อ้อม ผู้เสียหาย รวมถึง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และ ทนายกุ้ง 2 ทนายความของคดีดังกล่าว ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องนี้ ณ สำนักงานทนายคลายทุกข์ ซ.รามอินทรา 52/1
โดย ลิลลี่ เหงียน กล่าวว่า ได้ดูตอนที่พี่ปู มัณฑนา กล่าวว่าตนได้พามิจฉาชีพเข้ามา ทำให้สูญเสียเงิน 500,000 บาท ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง คนที่เสียเงินคือตน เพื่อที่จะช่วยเขา เริ่มต้นคือคนที่เขากล่าวอ้าง ว่าเป็นมิจฉาชีพ ตนรู้จักพี่ ก. ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง และแลกไลน์คุยกัน แต่ไม่ได้สนิทสนม
จนเมื่อเดือนที่แล้ว พี่ปูได้แจ้งว่า พี่ปูถูกโกงที่ดิน 100 ล้านบาทและเครียดมาก เลยชวนลิลลี่ไปทานข้าวที่ทองหล่อ แต่ตนนัดพี่ ก. แล้ว พี่ปูเลยบอกว่างั้นชวนพี่คนนี้มาทานข้าวด้วยกัน พอไปร้านอาหาร พี่ปูก็ได้พูดเกี่ยวกับกรณีถูกโกงที่ดิน แล้วพี่ ก. ก็เสนอที่จะช่วยพี่ปูเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน วันนั้นเป็นพยานให้พี่ปูได้ พี่ ก. บอกเดี๋ยวจะช่วย จะไม่เสียเงินอะไรใดๆ
แต่พอวันรุ่งขึ้นพี่ ก. โทรมาบอกว่าผู้ใหญ่พร้อมที่จะช่วย พี่ปูก็นัดไปเจอร้านอาหารอิตาเลียน ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนที่ไปร้านอาหารญี่ปุ่น พี่ ก. บอกว่าไม่ต้องเสียเงินใดๆ แต่พอคุยที่ร้านอาหาร พี่ ก. บอกว่าต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กับผู้ใหญ่ 400,000 บาท ตนกับพี่ปูบอกกับพี่ ก. ว่าขอยุติการดำเนินการ เพราะตอนนี้พี่ปูไม่มีเงิน แล้วตนไม่สามารถช่วยพี่ปูได้ แต่พี่ ก. บอกว่า พูดกับผู้ใหญ่แล้ว มันเสียคำพูดไม่ได้ แต่เราไม่โอเคที่จะต้องจ่ายเงิน
แต่วันนั้นจู่ๆ พี่ ก.โอนเงินจากบัญชีส่วนตัวไปให้ผู้ใหญ่ที่จะช่วยพี่ปู ตนกับพี่ปูก็งง พอขอดูสลิปก็ให้ดูแป๊บนึงแต่ไม่ส่งสลิปมาให้ และบอกว่าที่ช่วยเพราะรู้จักตน ไม่ใช่พี่ปู แต่ช่วยไปขนาดนี้แล้ว ตนก็ต้องช่วยพี่ปูด้วย พี่ ก. ก็พยายามเอาเงินจากตนเพื่อช่วยพี่ปู ตนก็โชว์เงินในบัญชีว่าเหลือเงิน 250,000 บาท เขาก็คะยั้นคะยอให้ช่วยพี่ปู 1 แสนบาทเพื่อการันตีให้พี่ปู แต่ตนไม่มีเงินจริงๆ แต่เขาพูดจนให้ตนโอนเงินไปให้พี่ ก. วันนั้นก็เสียเงิน 1 แสนบาทเพื่อช่วยพี่ปู เขาบอกว่าจะรีบดำเนินการ วันศุกร์จะคืนเงินให้
แต่พอโอนแล้ว เขาไม่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จ และเลื่อนไปเรื่อยๆ แล้วเขาพูดกับพี่ปูว่าต้องคืนเงินให้พี่ ก. 4 แสนบาท แต่วันนั้นเราให้ 1 แสนบาท และเขาโอนเงินไปแล้ว เขาบอกว่าวันศุกร์จะทำงานแล้วเสร็จ ถ้าได้โฉนดที่ดินมา พี่ปูก็จะเอาโฉนดที่ดินฉบับนี้ไปค้ำประกันกับผู้ใหญ่ของเขาที่จะให้เงินพี่ปู 100 ล้าน แล้วหักเงิน 4 แสนบาทไป แต่ก็ดำเนินการไม่แล้วเสร็จ
คนที่เสียเงินคือตน พี่ปูไม่ได้เสียเงินสักบาทเดียว ที่พี่ปูบอกว่าเสียเงิน 5 แสนไม่เป็นความจริง หลังจากนั้นอีก 1-2 วันลูกเข้า รพ. ตนต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปจ่ายค่าประกันลูกชายและคุณแม่ แต่พี่ปูก็มาขอยืมเงิน 70,000 บาท เดี๋ยวคืนให้ตอนเย็น เพราะจะเอาเงินนี้ไปทำสัญญาเพราะได้งานแล้ว และจะคืนให้เลย แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 2-3 สัปดาห์แล้วยังไม่ได้เงินคืน รวมเป็นเงิน 170,000 บาท
ก่อนจะโชว์หลักฐานเป็นแชตไลน์ต่างๆ พร้อมทั้งบอกว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่รู้จักพี่ปูผ่านรุ่นพี่ที่สนิทกัน ซึ่งพี่ปูบอกว่าจะพาเข้าวงการไปเจอผู้ใหญ่ที่ช่อง 7 เผื่อใครเมตตา แต่วันรุ่งขึ้นพี่ปูโทรมาขอยืมเงิน จะเอาเงินไปลงทุน ยืมไปให้เพื่อนของเขา แต่เขาจะค้ำประกันให้ ตนไม่เคยเชื่อว่าเพื่อนเขายืม แต่ตนก็ปิดหูปิดตา ก็โอนให้ 5 แสนบาท ไม่กี่วันต่อมาก็มาขอยืมเพิ่ม 3 แสนบาท รวมทั้งหมด 8 แสนบาท ตนก็โอนให้
พอผ่านไปเกือบปีก็ไม่เคยได้เงินจากพี่ปู จนตอนที่ถูกเอิร์ก เลเดอเรอร์ โกง ตนก็ไปทวงกับพี่ปู เขาก็บอกว่ารอก่อน วันที่ทวงได้คือวันที่ 16 พ.ย. 2022 พี่ปูบอกว่าเพื่อนแม่จะจ่ายดอกเบี้ย หุ้นทำธุรกิจไว้ ตนบอกพี่ปูว่าเคยบอกแล้วว่าตั้งใจให้ยืม เอาแค่ต้นก็พอ ไม่เอาดอกเบี้ย แต่เขาเป็นคนเสนอมาให้ตนเอง ที่ผ่านมาเขาโทรยืมเงินตลอด แต่ตนยังไม่ได้เงินคืนเลยไม่ได้ให้ยืมเพิ่ม จนกระทั่งมาเจอกรณีเงิน 170,000 บาท
ตอนที่เขาติดหนี้ตน 8 แสนบาท กว่าตนจะได้เงินคืนเป็นปี โดยคืน 1 แสนบาทหลังผ่านไปเกือบปี และคืนอีก 1 แสนบาทเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้เหลือที่เขาต้องคืน 6 แสนบาท และเงินก้อนใหม่อีก 70,000 บาท ส่วนอีก 1 แสนบาท ให้กับคนที่เขากล่าวอ้างว่าเป็นมิจฉาชีพ
ถามว่าอยากให้อีกฝ่ายรับผิดชอบยังไง ลิลลี่ กล่าวว่า อยากให้เขามาอธิบาย มาขอโทษ ไม่ชอบที่ตนจริงใจไปแล้ว แต่พี่ปูมาทำร้ายจิตใจ ตนไม่โอเค ตอนนี้ไม่สนใจกับเงินที่เขาเป็นหนี้ตน 670,000 บาท หลายปีที่ผ่านมาโดนโกง 100 ล้าน ตนยังไม่สนใจเลย กับแค่เงิน 670,000 บาท ถ้าพี่หน้าด้านพอโดยที่ไม่ต้องพูดให้มันยืดเยื้อ เพราะตนเบื่อกับคำว่าเดี๋ยวก่อน ตนทวงหนี้คนไม่เก่ง ไม่งั้นคงไม่เสียเงินมากขนาดนั้น ถ้าพี่หน้าด้านก็พูดมาเลย ตนยกหนี้ให้ ถือว่าทำบุญและออกไปจากชีวิตตนซะ
ตอนนี้เงินในกระเป๋าตนเกลี้ยง แต่ตนให้เลย ตนคงจะได้บุญกลับมา และหวังว่าบุญจะส่งให้พี่มีดวงตาเห็นธรรมบ้าง ถ้าตรงไหนพูดไม่จริง พี่หนุ่ม โหนกระแส ต้องเข้าแล้ว พี่กล้าพูดความจริงเรื่องตนหรือเปล่า ถ้าฟ้องมาก็ฟ้องกลับ ไม่รับคำขอโทษใดๆ รับเป็นเงินสดเท่านั้น ยอมรับว่าโกรธ เสียใจ ไม่ยุติธรรมกับตน พร้อมจะไฝว้ ถ้าคำพูดตนไปสะกิดทำให้พี่ปูกับพี่หาญส์เสียใจก็ขอโทษ
ส่วนพี่ ก. ที่พี่ปูอ้างว่าเป็นมิจฉาชีพ ตอนแรกตนก็เข้าใจแบบนั้น แต่เราอาจเข้าใจผิดก็ได้ ตนก็ไม่รู้และขออภัย แต่เขายืนยันว่ามีเจตนาดีที่จะช่วย และเขามีหลักฐานว่าเขาจะช่วย แต่ทางพี่ปูไม่เอาเอง ซึ่งตนไม่รู้เรื่องนี้ ซึ่งคนที่พี่ปูอ้างว่าเป็นมิจฉาชีพ ตอนนี้เขาคืนเงินให้ตนครบหมด 1 แสนบาท แต่พี่ปูยังไม่คืนเงินเลย
ด้าน ลูกหมี รัศมี เสริมว่า หลังตนแถลงข่าว พี่ ก. โทรหาตน และเล่าว่าเขาเจอพี่ปู เขาอยากจะช่วยขายโฉนดที่ดินที่ฝากขาย แต่ทาง ก. ให้พี่ปูได้แค่ 3 ล้าน ตอนแรกพี่ปูโอเคที่ 3 ล้าน แต่ 2 ล้าน ก. จะโอนให้ลูกหมีเพื่อจะได้จบ และส่วนต่าง 1 ล้านเขาจะโอนให้เลย ในแชตพี่ปูนัดเขาแล้วแต่เขาไม่มา พี่ปูไม่รับความช่วยเหลือและปฏิเสธเขา พี่ปูเลื่อนตลอด
และยืนยันว่า ตนไม่เคยคิดดอกเบี้ย มีแต่เขานำเสนอ และการที่พี่ปูไปออกรายการและพูดด้อยค่าตน หาว่าตนไม่มีงานก็ไม่เป็นไร พี่ปูก็หมิ่นประมาทเหมือนกัน สิ่งที่พูดหลักฐานมันก็มี ทำอะไรรู้แก่ใจ แต่ก็ยังมาพูดแบบนี้ มันก็ไปกันใหญ่ ยืนยันว่าถ้าเขาฟ้องมาก็ฟ้องกลับ เรื่องยอดเงินมันก็ไม่ตรงกัน วันนั้นถ้าจะหักดอกที่เกินมาก็เหลือ 1.8 ล้านบาท แล้วทีมไกล่เกลี่ยขอให้เหลือ 1.4 ล้านบาท ซึ่งตนก็คิดเหมือนลิลลี่ว่า 1.4 ล้านก็ได้เพื่อจะได้จบไป
ถามว่าเขาติดต่อมาไหม ลิลลี่ บอกว่า ไม่มีวี่แวว ตนก็เลยยกให้ เพราะตนขยะแขยงคนแบบนี้ ต้องเอาออกจากชีวิตไปจะได้ไม่ปวดหัว แต่ถ้าเขาคืนเงินก็เอาเพราะเป็นเงินตน อีกทั้งเล่าว่า วันที่ตนจะแถลงข่าว พี่ปูบอกว่าอย่าไปได้ไหม เดี๋ยวจะหาเงินมาให้ 170,000 บาท ตอนแรกปฏิเสธ แต่ตอนนั้นไม่มีเงิน เลยโทรกลับไปบอกว่าได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เงิน
ในขณะที่ อ้อม ผู้เสียหายที่ถูก ปู มัณฑนา ยืมเงิน กล่าวว่า ได้ดูในรายการแล้วมันมีคำพูดหนึ่งที่เขาบอกว่าไม่รู้จักใครเลยนอกจากพี่ลูกหมีกับลิลลี่ แต่ถ้าเขาใช้คำว่าได้คุยกันแต่ไม่เคยเจอกันก็โอเค แต่เขาขอเจอตลอด แต่ตนปฏิเสธเขาเอง และมีหลักฐานว่าเขาและสามีเขาพยายามติดต่อตนตลอด แต่ตนกับสามีปฏิเสธ การที่เขาพูดแบบนี้คนจะมองตนยังไง เขาบอกสรุปไม่รู้เป็นหนี้จริงหรือเปล่าที่ไปยืนตรงนั้น ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าหนี้จริงๆ ใครจะไปยืน
ก่อนจะยืนยันว่าเขาก็เสนอว่าเขาจะโอนเงินให้ตน 120,000 บาท วันนั้น ซึ่งก่อนมีคดีความ เขาบอกว่าเขายืมเงินไปทำคอลลาเจน ใช้คำว่าปันผลและแบ่งกำไร แต่ตอนหลังๆ อยู่ดีๆ เขาใช้คำว่าดอกเบี้ย เราก็งงว่าทำไมช่วงหลังเขาใช้คำว่าดอกเบี้ย พอมาเกิดเรื่องก็เข้าใจว่าเขาน่าจะเตรียมมาให้เป็นว่าจ่ายดอกเบี้ย ซึ่งเขาเสนอให้เอง
วันนั้นเขาโอนเงินให้ตน 120,000 บาท และบอกว่าจะโอนให้เป็นดอกเบี้ย เพื่อไม่ให้มาแถลงข่าว แต่อ้อมก็ไม่ได้รับปากว่าถ้าได้รับเงินแล้วจะมาหรือไม่มา เขาโอนให้เอง และทุกครั้งที่เขาเอาเงินอ้อมไป พอถึงกำหนดคืน เขาไม่โอนต้นมาคืน เขาบอกว่ายังเก็บเงินไม่ได้ ขอแบ่งกำไรให้ก่อน เป็นแบบนี้ทุกครั้ง จนตอนหลังตนบอกว่าอยากได้เงินทุนคืน ก็เอาเงินไปเข้าเช็คก็เด้ง 3 ใบ เป็นเงิน 1,160,000 บาท และที่ไม่มีเช็ค 3 แสนบาท
ที่ตนไปก็คือรอเขาติดต่อกลับมาว่าจะคืนเงินเมื่อไหร่ พอเห็นเขาแถลงข่าววันนั้น สามีบอกว่าเขามีเงินนะ ก็รอคำตอบว่าเขาจะโอนเงินคืนเมื่อไหร่ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ พอดูรายการก็เห็นว่าเขาไม่รู้สึกผิดอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น และโทษเจ้าหนี้ว่าทำให้เสียชื่อเสียง ก็ไม่รอไกล่เกลี่ย ตนมาวันนี้เพื่อยืนยันว่าไม่ไกล่เกลี่ย ให้ทนายกุ้งดำเนินการฟ้องคดีฉ้อโกงแล้ว
ถามว่ามีใครได้เงินคืนบ้างหรือยัง ลูกหมี บอกว่า เท่าที่ดูจากเจ้าหนี้คนอื่นๆ โทรมา ทางพี่ปูและพี่หาญส์เริ่มไปเคลียร์ทีละคน ตอนนี้เลยลดลง รายอื่นๆ อีกเยอะเขาไม่อยากมาออก เพราะเป็นผู้ใหญ่ คนในวงการ คนนอกวงการ เขาไม่อยากแจ้งความ มันเป็นแบบนี้ เลยเป็นเหตุผลให้ประชาชนทราบว่าทำไมตนถึงออกมาแถลงข่าว ตอนที่แถลงข่าวทราบแค่ 4 คน แต่พอเกิดเรื่องมันสะเทือนหมด ส่วนวันที่ 16 ก.ค. ที่มีนัดกัน ก็คุยกันกับทนายว่าเราอดทนกันมายาวนานแล้ว ถ้าเขาทำแบบนี้อยู่ ตนก็ไปต่อได้.
