Inside Dara
"ซาร่า" ยอมรับเป็นคนอัดคลิปเสียงทะเลาะ "ไมค์" ภาพอัลตร้าซาวด์แค่หยอกเล่นวันโกหก

ซาร่า ออกมายอมรับแล้วว่าคลิปเสียงหลุดทะเลาะกับ ไมค์ ตนเองเป็นคนอัดเอง แต่ไม่ใช่เป็นคนปล่อยเพราะไม่ใช่ผลดี นอกจากนี้ยังรับว่าภาพอัลตร้าซาวด์โพสต์ลงไอจีวันที่ 1 เม.ย. รับไม่ใช่ภาพท้องตัวเองแต่เล่นในวัน April Fool's Day เท่านั้น

ต้องบอกว่าเป็นประเด็นที่ฮือฮามากสำหรับคลิปเสียงหลุดของ ซาร่า คาซิงกินี กำลังทะเลาะกันผ่านทางโทรศัพท์กับ ไมค์ พิรัชต์ โดยยอมรับเจ้าตัวได้ยอมรับผ่านรายการครอบครัวบันเทิง ทางช่อง 3 โดยบอกว่าคลิปดังกล่าวเป็นคนอัดไว้เอง แต่ไม่ใช่เป็นคนปล่อย เหตุผลทีอัดเพราะจะเก็บเป็นหลักฐานที่ใช้ในชั้นศาลเท่านั้น เพราะสังเกตว่า ไมค์ พูดจาไม่เหมือนเดิม พร้อมกับบอกไม่ได้เป็นคนปล่อยแน่นอนเพราะไม่ได้เป็นผลดี

นอกจากนี้ ซาร่า ยังได้เผยอีกว่าภาพอัลตร้าซาวด์นั้นเป็นตนเองเป็นคนโพสต์ลงไอจีริง แต่เป็นการเล่นสนุกในวัน April Fool's Day เท่านั้น เพราะภาพอัลตร้าซาวด์คือภาพของเด็กแฝด แต่ตนเองท้อง น้องแม็กซ์เวลล์ จริงๆ ตอนนี้ตนเองมีลูกสองคนคือ น้องแม็กซ์เวลล์ กับ น้องเอมมิลี่

ส่วนเรื่องของ วาดิม พ่อของ น้องเอมมิลี่ ยังคุยกันอยู่แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องแต่งงานแล้ว แต่จะเป็นการพูดคุยว่าจะบินมาเมืองไทยหรือเปล่า ยืนยันว่ายังคงคุยกันเหมือนเดิม ส่วนเรื่องแชทที่ วาดิม เข้าข้าง ไมค์ อันนี้ไม่ทราบนะคะ แต่เขาไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ เขาแค่ถามว่าทำไมมันเป็นเรื่องใหญ่จัง

วาดิม ไม่เคยบอกให้ตรวจดีเอ็นเอเพราะเขารับรู้ว่าเราท้องและดูแลกันมาตั้งแต่แรกแล้ว และส่วนของใบแจ้งเกิดยังไม่ได้ระบุว่าใครเป็นพ่อของ น้องเอมมิลี่ เพราะตอนคลอด วาดิม บินไปทำงานต่างประเทศ แต่ทั้งหมดค่อยไปแจ้งระบุทีหลังได้

หนังคนละม้วน ความจริงจาก วาดิม คบ ซาร่า แค่ 3 เดือน แต่ถูกบอกเลิก

หลังจากที่เมื่อวานนี้ วาดิม แฟนหนุ่มฝรั่งของ ซาร่า คาซิงกินี ได้โพสต์ไอจีสตอรี่รูปลูกสาวน้องเอมมิลี่ ลงในไอจีของตัวเอง ยิ่งเป็นการยืนยันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่หลายคนสงสัย ล่าสุด วาดิม ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมของตัวเองอีกครั้ง โดยมีข้อความว่า

"สวัสดีทุกคน อันดับแรก ผมขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนผมในสถานการณ์ไม่คาดฝันและสับสนอลหม่านนี้ ผมเขียนจดหมายนี้ขึ้นเพื่อเคลียร์บางอย่างให้ชัดเจน ไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือหลอกลวง

ผมเดตกับ ซาร่า คาซิงกินี แค่ 3 เดือน ในช่วงระหว่าง ต.ค. 62 - ม.ค. 63 ขณะที่มาทำงานที่กรุงเทพฯ เราคุยกันเรื่องแต่งงาน แต่ในความเป็นจริงความสัมพันธ์เราไม่อาจไปได้ไกลกว่าการเดตทั่วไป เธอบอกเลิกผมด้วยตัวเธอเองเมื่อ ม.ค. 63 และผมต้องยอมรับมัน ผมบอกลากรุงเทพฯ ในทันที และเราไม่ได้พูดคุยกันเลยตั้งแต่นั้นมา

ใครก็ตามที่จงใจกระทำการชั่วร้ายอย่างไม่มีเหตุผลและไร้ศีลธรรม (รวมถึงการแต่งเรื่องปลอมๆ ปล่อยข่าวลือโคมลอย ทำลายชื่อเสียง และคุกคามผม) ขอแจ้งให้ทราบชัดว่า ผมพร้อมจะใช้มาตรการที่รุนแรงกว่านี้ ขอบคุณที่อ่านครับ!".