Inside Dara
มิว ตกใจ แฟนคลับทุ่ม 21 ล้าน เพื่อรางวัลคู่จิ้นแห่งปี

วันที่ 26 ต.ค. ที่ อาคารสยามบรมราชกุมารี สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก ได้จัดกิจกรรม Meet&Greet sharity การกุศล Little Miracle presents Happiness Live with Mew&Gulf โดยงานนี้ได้มีคู่จิ้นขวัญใจสาววาย มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ และ กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ อาสามารับหน้าที่เป็นสะพานบุญบอกต่อโครงการดีๆ

ซึ่งหลังจบงาน มิว ศุภศิษฏ์ ได้ให้สัมภาษณถึงเรื่องที่แฟนคลับทุ่มเงินให้ตนเอง 10 ล้านบาท และให้ กลัฟ 11 ล้านบาท เพื่อให้ได้รางวัล คู่ขวัญหรือคู่จิ้นแห่งปี 2020 พร้อมทั้งชี้แจงถึงสาเหตุจะไม่รับงาน Top Spender หรืองานที่แฟนคลับต้องใช้เงินจ่ายสูงเพื่อให้ได้ใกล้ชิดตน

ถามถึงคนโหวตเงินให้ 10 ล้านบาท รู้สึกอย่างไรบ้าง

“อย่างแรกเลย รู้สึกขอบคุณมาก รู้สึกขอบคุณที่สนับสนุนเรา ให้กำลังใจและเชียร์เรา แล้วก็ขอบคุณในความตั้งใจของทุกๆ คนด้วยที่ตั้งใจโหวตมาเพื่อผม ให้ผมได้รางวัล และอีกอย่างหนึ่งก็รู้สึกว่าไม่อยากให้มีแบบนี้ เพราะคิดว่าเอาเงินส่วนนี้ไปสนับสนุนผมในด้านอื่นๆ ได้ อยากให้มาสนับสนุนผมด้วยตัวผมเอง แล้วก็รู้สึกว่ามันสามารถเอาไปทำอะไรอย่างอื่นได้อีกในหลายๆ อย่างครับ”

เริ่มแรกที่เราได้ยินเรื่องยอดบริจาคเราตกใจไหม

“ตกใจมากจริงๆ ทั้งตกใจด้วยดีใจด้วย แล้วมันก็มีหลายๆ ความคิด หรือว่าในโอกาสหน้ารู้สึกว่าขอแล้วกัน ไม่อยากรับแบบนี้อีก โอกาสนี้มันผ่านไปแล้วขอบคุณมาก”

เราก็รู้สึกเสียดายกับยอดเงินที่แฟนคลับมาโหวตให้เราเหมือนกัน

“ถามว่าเสียดายมั้ย ถ้าในอนาคตคงเสียดาย เพราะว่าเรายังไม่เคยพูดไง แต่ว่าตอนนี้ไม่เสียดาย เพราะว่าทุกคนทำเต็มที่ให้ผม”

แต่ถ้ามองในอีกมุมคือแฟนคลับซัพพอร์ตเรามากใช่หรือเปล่า

“จริงๆ ขอบคุณเป็นอันดับแรกเลย เพราะว่าทุกคนตั้งใจสนับสนุนมากจริงๆ”

ของเรา10ล้าน คู่ของเรา11ล้าน รวมเป็น 21ล้าน

“คือเยอะมากๆ (ยิ้ม) ตกใจมากจริงๆ ขนลุกตอนรู้ยอด”

ใจจริงถ้าเป็นไปได้ อยากนำเงินส่วนนี้ไปทำอะไร

“อันนี้ผมไม่รู้เหมือนกัน มันเป็นเงินในส่วนของแฟนคลับ แล้วไม่รู้เหมือนกันว่าเขาสามารถเอาไปสนับสนุนในด้านไหนได้บ้าง แต่ว่าน่าจะเอาไปทำอย่างอื่นโอเคกว่า”

แล้วอย่างวันนั้นที่มิวออกมาไลฟ์พูดไปแล้ว แฟนคลับเข้าใจแค่ไหน

“แฟนคลับเขาก็เข้าใจ เขาก็รู้สึกว่าคราวหน้าเราลองมาสนับสนุนที่ตัวผมเองดีกว่า แล้วเรื่องเงินต่างๆ ก็อยู่ที่แฟนๆ แล้วกันว่าเขาจะจัดสรรปันส่วนกันยังไง แต่ว่าที่ผ่านมาแล้วก็ อยากจะขอบคุณมากจริงๆ ไม่เสียดายเลยนะ”

รู้สึกว่าพลังแฟนคลับของเราเยอะยิ่งใหญ่มาก

“เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ (ยิ้ม พร้อมกับยกนิ้วให้2มือ) ยอดจริงๆ ครับผม”

แล้วคิดไหมว่าวันหนึ่งเราจะมาจุดนี้

“ไม่คิดครับ ไม่คิดเลยว่าเขาจะโหวตให้เรารวมกันสองคน 20 กว่าล้านได้ นี่คือเยอะมากเลยครับ เป็นลม”

ยอดเงินประมาณนี้ ถ้าเป็นเราจะเอาไปทำอะไรบ้าง

“โห ทุกคนเอา 21 ล้าน มาให้ผมทำซีรีส์ได้ทั้งเรื่อง งานดีเลยนะจริงๆ 21 ล้าน 12 ตอน ตอนละ 2 ล้าน โปรดั่กชั่นสกิลต่างประเทศเลยนะ”

เป็นผู้กำกับเลยใช่ไหมเนี่ย

“จะเป็นผู้จัดเลยครับผม ในอนาคต”

ได้คุยกับกลัฟไหม เพราะข่าวมันออกมาแบบนี้มันก็จะกลายเป็นดราม่า

“เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยเลย ผมว่าเรื่องนี้เซ้นซิทีฟนะเรื่องนโยบายในการรับงานหรือการใช้เงินต่างๆ เป็นนโยบายของส่วนบุคคลแล้วกัน ก็เลยคิดว่าให้ทางน้องตอบเองดีกว่าเรื่องพวกนี้ ถ้าผมสามารถพูดในมุมของผมได้ ทางเขาก็ต้องให้เขาตอบเอง ให้ทางน้องเขาตัดสินใจเอง”

จะเลิกรับงานพวก Top Spender ใช่ไหม

“ใช่ครับ จริงๆ คือผมยกเลิกการรับงาน Top Spender ประมาณเดือนนึงได้แล้ว แต่ว่างานที่เหลืออยู่ตอนนี้เนี่ย มันเป็นงานที่ค้างอยู่ที่เรารับไปแล้ว ผมมีปัดไปเยอะมากเลยนะครับ อีเวนต์ปัดเต็มเลย พรีเซนเตอร์ก็มีปัดเต็มเหมือนกัน

เพราะเป็น Top Spender เราก็เลยรู้สึกว่ามันรบกวนแฟนๆ ด้วยแหละ อย่างที่บอกไปในไลฟ์ คือขอโทษจริงๆ แล้วก็ขอโทษสำหรับคนที่ชอบงานลักษณะนี้ แต่ว่าเรารู้สึกว่าอยากให้นำเงินส่วนนี้มาสนับสนุนที่ตัวเราดีกว่า”

แล้วแบบนี้จะต้องปรับแผนการรับงานไหม เพราะว่าแฟนที่ชอบงานแบบ Top Spender เขาก็อยากจะใกล้ชิดเรา

“แน่นอน เรามี Golden Ticket สำหรับอัลบั้ม ผมว่าแบบนั้นได้ใกล้ชิดมากกว่าอีก ต้องรอนะครับ เพราะว่างานที่ Golden Ticket ที่จะได้มาไซน์อัลบั้มก็จะเปิดเร็วๆ นี้แล้ว ก็รอติดตามกันด้วยนะครับ ก็จะได้มาเจอกันแบบใกล้ชิดเลย”

เห็นว่าเดือนหน้าจะมีซิงเกิลใหม่ด้วย

“ใช่ครับ จะถ่ายเอ็มวีเร็วๆ นี้ด้วยครับ”

เต้นไหม

“อาจจะมีนิดนึง แบบโยกๆ ซ้อมรอได้เลยครับ แต่ว่าเรื่องแนวเพลงอาจจะยังบอกไม่ได้ อาจจะได้รู้ในทีเซอร์แรกๆ ก็จะสปอยล์แนวเพลงมาครับ ก็รอแล้วกัน ผมไม่อยากสปอยล์เยอะ (หัวเราะ)”

อย่างปลายปีนี้จะมีขึ้นเวทีใหญ่ๆ มีความพร้อมแค่ไหนจะที่จะได้เจอคนอื่นนอกจากแฟนคลับของเรา

“อุ๊ย ท้าทายมากอันนี้ เพราะเรารู้อยู่แล้ว ถ้าเป็นแฟนๆ เราทุกคนก็พร้อมที่จะสนุกกับเรา แต่ว่าคนนอกที่เขาอาจจะไม่เคยรู้จักเราหรือแค่ฟังเพลงเรา เราต้องทำให้เขาเอ็นจอยกับเราในตอนนั้น มันเป็นความท้าทายมากๆ เลย แล้วก็น่าสนุกด้วย”

เรามีการเตรียมตัวอย่างไรที่จะเอาคนอยู่

“ต้องซ้อมครับ ซ้อมหนักมากๆ แล้วก็เลือกลิสต์เพลงด้วย เราจะพอรู้ว่าแต่ละงาน ธีมงานเขาเป็นอย่างไรทิศทางจะไปทางไหน เราก็ต้องดูว่าถ้าเพลงที่ต้องการร้องมากๆ ก็อาจจะเป็นเพลงร็อกเลยหรือจะเป็นเพลงป๊อปให้เราเอามาทำดนตรีเอง

หรือถ้าเป็นงานที่นั่งชิลชิลอาจจะเป็นอาร์แอนด์บีประมาณนี้ครับ เพราะเราก็ไม่สามารถมาร้องเพลงซ้ำได้บ่อยๆ เพราะว่าแฟนๆ มาทุกรอบ เราก็อยากให้ฟังเพลงใหม่ๆ ด้วยก็ต้องทำการบ้านหนักมากๆ เลย ตอนนี้ก็ซ้อมร้องเพลงด้วย ช่วงนี้ก็จะปล่อยเพลงด้วย ก็ต้องซ้อมเพลงใหม่ด้วย”

เวลาขึ้นเวทีก็ต้องมีการเอาเพลงของคนอื่นไปร้องด้วย

“ใช่เราก็จะรู้สึกว่าเราเลือกเพลงนี้มาเพราะเราชอบ หรืออาจจะเลือกมาเพราะอยากให้ทุกคนจอยกัน ก็มีซ้อมเพลงคนอื่นด้วยครับ”

เรื่องลิขสิทธิ์

“เพลงของคนที่รู้จักกันนี่แหละครับ(หัวเราะ) เพื่อนๆ พี่ๆ ก็น่ารักดีเขาก็บอกว่า เอาเพลงไปร้องได้เลยนะ และสุดท้ายขอฝาก วันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ขอเชิญพี่สื่อทุกๆ คนไปงานเปิดตัวซิงเกิลที่ 2 ของผม ผมจัดงานค่อนข้างใหญ่มากๆ ส่วนสถานที่และเวลาที่แน่นอนจะบอกเร็วๆ นี้”

ขอบคุณรูปจากไอจี : mewsuppasit