Inside Dara
ก็อต จิรายุ เบื้องหลังความหล่อร้าย คือผู้ชายที่น่ารู้จัก

ถ้าพูดถึงดาราที่มาแรงช่วงนี้ ต้องบอกว่าฮ็อตกว่าพระเอกก็ดาราหล่อคม ก็อต จิรายุ ตันตระกูล นี่ละค่ะ ไม่ว่าจะบท “ออกหลวงสรศักดิ์” ในละครฮิต “บุบเพสันนิวาส” หรือบท “แสน ราชสีห์” ที่ร้ายกาจในละคร “คมแฝก” หนุ่มก็อตก็แสดงได้ดีเข้าถึงบทบาท จนเป็นที่กล่าวขวัญกันทั้งเมือง และเร็วๆ นี้ยังจะมีละครใหม่อย่าง “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ให้ชมในบทบาทของ “พระยาพิชัยดาบหัก” แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าฮ็อตก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

ในเมื่อสุดฯ มีโอกาสได้พูดคุยกับดารามากฝีมืออย่างก็อต เลยขอล้วงลึกเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขามาให้แฟนๆ ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นเสียหน่อย จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยค่ะ #เรื่องผู้ชายไว้ใจสุดฯ

จุดเริ่มต้นของการเป็นนักแสดงมากฝีมือ

หากย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้ามาเป็นดาราดัง ก็อตเข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นผู้ชนะในโครงการ The Idol Project เมื่อปี 2553 หลังจากนั้นเขาก็เริ่มงานแสดงด้วยการเป็นนักแสดงสมทบในละครหลายเรื่อง ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับบทที่โดดเด่นขึ้น โดยเฉพาะในบทร้าย ที่ก็อตแสดงได้ดีจนกลายเป็นภาพจำของเขาไปแล้ว

และที่สร้างชื่อให้เขาเป็นที่จดจำ ก็มักจะเป็นบทบาทจากละครพีเรียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นละครเรื่อง บางระจัน ชาติพยัคฆ์ และบุพเพสันนิวาส อีกงานหนึ่งที่ทำให้เขาเป็นที่พูดถึงเมื่อช่วงปีที่แล้ว คือการกระโดดไปรับบทนักแสดงสมทบในหนังฮอลลีวู้ดน้ำดี ที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้าร์ อย่างเรื่อง Gold โดยก็อตใช้ชื่อภาษาอังกฤษในวงการว่า Jason Tan

ตัวตนของก็อตเป็นคนอย่างไร

“ผมเป็นคนที่อยากทําให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น อยากยกระดับชีวิตให้เหนือกว่าที่เป็นอยู่ ทุกคําพูดที่ผมพูดออกมา จะทําให้ตัวเองรู้สึกดี เช่น ผมจะไม่พูดว่า ทําไมผู้ใหญ่ไม่ให้โอกาส แต่ผมจะบอกตัวเองว่า วันหนึ่งโอกาสนั้นจะเป็นของเรา ซึ่งเป็นประโยคที่ทําให้ผมรู้สึกบวกมากกว่า เพราะผมรู้ว่า ความรู้สึกของเราจะดึงดูดสิ่งที่เข้ามาให้เป็นแบบนั้น

“ผมเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่อยากจะอยู่บนยอดพีระมิด เพราะเห็นว่าคนที่อยู่ข้างล่างนั้นแร้นแค้น ถึงแม้จะเรียนไม่จบ แต่ผมก็เก่งในแบบของผม ตอนเรียน ม.6 ผมลงเรียนสายอาชีพควบคู่ไปด้วย ทั้งเขียนแบบ ซ่อมคอมพ์ วาดรูป ฯลฯ นอกจากจะค้นหาตัวเองแล้ว ทุกอย่างที่เรียนยังช่วยส่งเสริมแพสชั่นที่ผมรักที่สุด นั่นก็คือการแสดง”

ชีวิตในแต่ละวันของก็อตเป็นอย่างไร

“ทุกวันผมมีตารางชีวิตชัดเจน หลังจากตื่น ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงบ่ายโมง จะทุ่มเทให้ทักษะเบสิกของร่างกาย ทั้งมูฟเม้นต์ ฮาร์ตเรต เสียง และระบบปอด หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจะอ่านบท อยู่กับการแสดง แต่ช่วงที่ถ่ายละครคมแฝก

ผมปรับตารางเป็น ตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงบ่ายสาม ออกกําลังกายที่เกี่ยวกับคมแฝกโดยเฉพาะ แล้วก็วอร์มเสียงด้วย เพราะว่าเรื่องเสียงสําคัญมาก”

อยากรู้ว่าเวลาทำงานก็อตเป็นอย่างไร

“ช่วงที่ต้องเข้าฉาก ผมจะตัดตัวเองออกจากโลกภายนอก แล้วอินอยู่กับคาแร็คเตอร์นั้น อย่างตอนถ่ายบางระจัน คนจะมองว่าผมเครียด จริงๆ แล้วไม่ได้เครียด แต่ผมอยู่ในคาแร็คเตอร์ของผม ซึ่งคนอื่นอาจจะมองว่าบ้า เพราะนักแสดงไทยไม่ค่อยทําตัวแบบนี้กัน”

กับการรับบท “แสน ราชสีห์” ก็อตเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

“ตั้งแต่รู้ว่าจะต้องมารับบทนี้ผมทําการบ้านเยอะมาก ไปศึกษาเรื่องมาเฟียในเมืองไทยว่ามีใครบ้าง คือเราต้องซึมซับเข้าไปในกระดูกก่อน แล้วพอได้บทมาก็กินเข้าไป และกลืนให้หมด นี่คือหน้าที่ของนักแสดง ต้องทําให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด และทุ่มเทกับมัน นอกจากนี้อย่างที่บอก ผมจัดเวลาซ้อมคิวบู๊ที่เกี่ยวกับคมแฝกโดยเฉพาะทุกวัน เพื่อที่จะเข้าใจและเป็นแสน ราชสีห์ ให้สมบูรณ์ที่สุด”

เป้าหมายในชีวิตการเป็นนักแสดงของก็อตคืออะไร

“ผมอยากเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ด ซึ่งเชื่อว่าไปถึงแน่นอน เพราะผมมุ่งมั่นจริงจังมาก และหวังว่าในอนาคตการแสดงของผมจะสร้างประเทศนี้ให้ดีขึ้น ทําให้คนเลิกคิดว่าการแสดงเป็นอาชีพเต้นกินรํากิน แต่อาชีพนักแสดงคือการถ่ายทอดอารมณ์มนุษย์ให้คนดูได้เห็น และซึมซับว่ามนุษย์มีหลากหลาย นั่นคืออาชีพนักแสดงสําหรับผม

“ทุกวันนี้ผมก็ยังคงไปแคสติ้งงานต่างประเทศอยู่เสมอ ซึ่งทุกครั้งก่อนจะไปแคสต์ผมจะเตรียมพร้อมทุกอย่าง แม้กระทั่งว่าเจอผู้กํากับและโปรดิวเซอร์ครั้งแรกจะทักทายเขายังไง จะจากลากันด้วยวิธีไหน จะส่งคําพูดอะไรผ่านสายตาไปบ้าง เพราะผมเคยพลาดมาเยอะ จึงเรียนรู้จากบทเรียนเหล่านั้น นอกจากนี้ผมจะดีไซน์ไปก่อนว่า จะเล่นแบบไหน อย่างผมดีไซน์ไปให้เขา 6 แบบ ยูอยากได้แบบไหน บอกมา ถ้า 6 แบบไม่ชอบเลย ก็จะมี 7 มี 8 ให้เลือกอีก

“แต่กําแพงของผมคือเรื่องภาษา เพราะผมไม่เก่งภาษาอังกฤษ ดังนั้นพอได้สคริปต์มาผมจะให้เพื่อนชาวต่างชาติ 10 กว่าคนอ่านสคริปต์ให้ฟัง แล้วอัดเสียงไว้ เพื่อเอามาฟังซ้ำๆ ให้จําสําเนียงอย่างเดียวเลย ซึ่งทุกครั้งที่ไปแคสติ้งงานต่างประเทศ ผมไม่เคยคาดหวังเลย แต่จะบอกตัวเองว่าต้องเอาให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีปัจจัยหลายอย่างทําให้เราพลาดงานไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องฝึกฝนและเตรียมตัวให้พร้อมที่จะรับโอกาสอยู่เสมอ”

มุ่งมั่นและทุ่มเทขนาดนี้ สุดฯ เชื่อว่าสักวันหนึ่ง แฟนๆ คงได้เห็นหนุ่มก็อตไปโลดแล่นอยู่ในฮอลลีวู้ดแน่นอน ติดตามและเป็นกำลังใจให้อย่างเต็มที่เลยค่ะ