Inside Dara
“นุ่น สุทธิภา”อึดอัดมานาน ตอบตรงเป็นคนไม่ตอแXลไม่แย่งผัวใคร!

เปิดใจพร้อมน้ำตา “นุ่น สุทธิภา” อึดอัดมานาน ตอบตรงเป็นคนไม่ตอแXล ไม่แย่งผัวใคร น้อมรับคนหาว่าดอกไม้สีทอง งานนี้หลายคนสนใจหนักมาก...

หลังมีข่าวดรามามือที่ 3 “นิกกี้-ก้อย” จนทำให้ทั้งคู่เลิกกัน งานนี้ “นุ่น-สุทธิภา คงแนวดี” ขอสัมภาษณ์จัดเต็มแบบหมดเปลือกกับรายการแย่งซีน ทางยูทูบช่อง 8 ในทุกคำถามที่แฟนรายการอยากรู้ แบบ NON-STOP ด้วย...

นุ่น เผยว่า “เรื่องกระแสตอนที่ไม่มีสติคือ ตอนที่ได้รับสายโทรศัพท์ว่า มีคนปั่นเราอยู่นะ อย่าตกใจนะ เราก็แบบอะไร ไม่รู้เรื่อง นั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่ ไม่รู้เรื่องจริงๆ และเราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง ไม่มีอะไร เราไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต เราคิดว่าไม่มีอะไร คนก็คงอิน ดูแล้วอิน เราก็ไม่รู้ว่าเราจะดีใจ หรือเสียใจดี เราจะเสียใจที่คนด่า หรือดีใจว่า อ๋อ กูแสดงสมบทบาท เราก็คิดว่าคงเป็นวัฏจักรวงการบันเทิง เป็นปกติ รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็กตอนอาม่าโทรฯ มา ที่บ้านโทรฯ มาแบบว่า เนี่ยเหล่าอี๊ถามแล้วนะ อี๊ใหญ่โทรฯ มาถามบอกว่า มันมีข่าวอะไรกัน จริงๆ เราเป็นคนไม่ค่อยพูด และไม่อยากพูดอยู่แล้ว เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องของเรา การที่ใครมีปัญหาอะไรกันที่เป็นข่าว เราไม่ได้เกี่ยวด้วย คือมันไม่ได้เกี่ยวด้วยจริงๆ พอที่บ้านเราถาม คนที่เราแคร์ถาม เราเลยรู้สึก โอเค เราแจงหน่อยว่ามันไม่มีอะไร คือด้วยความที่เวลาคิดน้อย เราก็ไม่ค่อยได้นอน และถูกคนกรอกหู แต่ว่าคือสุดท้ายแล้ว เราก็ไม่โทษคนอื่น เพราะเป็นที่ตัวเราเอง เพราะเราเป็นคนลงเอง เป็นคนแจงเอง”...

“ที่เราแจงว่าเป็นพี่น้อง ก็เป็นพี่น้องจริงๆ เรื่องจริงไม่มีอะไรในกอไผ่เลย คือแห้งมาก ไม่มีอะไรเลย แหวกเข้าไปไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เพราะว่า เรื่องจริงกับพี่นิกกี้อย่างนี้ เราไม่มีเรียกว่าเป็นน้องสาว เราเรียกว่าเราเป็นน้องชายด้วยซ้ำ เพราะทุกวันนี้เราก็เรียกมันว่าลูกพี่ หรือเราคุยกันลูกพี่ว่าไง ลูกพี่จะถ่ายอะไร และเราก็คอยซัพพอร์ต ผลักดันกัน ประเด็นเลยคอนเทนต์แต่ละอันที่มันออกไปเนี่ย มันก็เป็นของช่องพี่นิกกี้ทั้งหมดเลย ส่วนของช่องนุ่น นุ่นก็แบบมันคนละแนวกัน จริงๆ เราเป็นคนให้เกียรติพี่เรา เพราะพี่เราเป็นคนให้โอกาสเราหมดทุกอย่าง ลูกพี่เราเนี่ย เราก็แบบอะไรก็แล้วแต่ลูกพี่เลย ก็แล้วแต่เขา เราก็รู้อยู่ว่าช่องเขาเนี่ย คอนเทนต์ประมาณไหน คาแรกเตอร์ไหนให้คนได้ดูกัน ที่คนดูแฮปปี้ และมีความสุขอะไรแบบนี้ค่ะ เราเข้าใจก็ช่วยกันผลักดัน มึงอยากได้แบบนี้ใช่ไหม โอเคกูเล่นให้ได้ ตอนแรก คือไม่มีเลย เพราะว่าเป็นเอฟซีที่ดูช่องมาตั้งแต่เริ่ม เขาก็เลยจะรู้ว่าอะไรคืออะไร แบบที่มาที่ไป เรารู้จักกันมามากกว่า 5 ปี อยู่ค่ายเดียวกัน ผู้จัดการเดียวกันอะไรแบบนี้”

“ต้องบอกว่าไง ถามว่าเราก็มีการเคยคุยกับพี่นิกกี้ไหม ประมาณว่า มึงเคลียร์ยัง มึงเอาดีๆ นะ กูขี้เกียจไปมีปัญหานะเว้ย เราก็จะคุยแมนๆ พูดตรงๆ เราเป็นคนไม่ตอแหลแม่ ตรงๆ แบบนี้ดีกว่า เขาก็บอกว่าเคลียร์แล้ว ไม่มีอะไร ตอนมีดราม่าพี่นิกกี้ก็มีโทรฯ มาว่าอย่าตกใจนะ เราก็แบบว่า อะไรพี่ มีอะไรเหรอ ไม่รู้เรื่อง นั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่ เขาก็บอกมีคนกำลังระอุอยู่นะตอนนี้ในทวิตเตอร์ เราก็ยังไม่รู้เรื่อง เราก็ถามแล้วมึงเป็นไง โอเคหรือยัง คุยกันตามประสา เราก็รู้ว่าเขาอยู่ในช่วงสภาพจิตใจไม่ดี เราก็แบบว่ามึงเป็นไง มึงง้อหรือยัง ถามแต่เรื่องเขา เราก็ไม่ได้สนใจ คือเราไม่คิดว่ามันแรงขนาดนั้นที่โพสต์อย่างที่บอก จริงๆ เราเป็นคนไม่พูด แบบไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปพูด แต่พอคนที่เราแคร์โทรฯ หา อาม่าโทรฯ มา หรือญาติผู้ใหญ่โทรฯ มา เขาเหมือนแบบไม่สบายใจ ซึ่งอาม่าเราอายุ 80 เราก็ไม่อยากให้เขามานั่งไม่สบายใจเพราะเราเนอะ (เสียงสั่น น้ำตาคลอ) เราก็เลยแจง แต่ว่าเราอาจไม่ได้คิดอะไรเยอะ ให้มันถี่ถ้วน เพราะเวลาเรามีน้อย และเราเป็นคนตรง และมันหลายๆ อย่าง อยู่ๆ มันก็มาเหมือนสึนามิ เราก็เลยตกใจ ก็ไม่โทษใคร โทษตัวเอง”...

นุ่น เล่าต่อว่า “เรื่องดีเอ็มมาหาเราแตกเลย มีคนมาด่าเยอะ ซึ่งพอเรามานั่งมีสติ เราก็ถอยออกมาดู สิ่งที่เขาด่าคือ มันไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตเรา มันคือตัวตนที่เราเป็นคอนเทนต์ สมองมันก็กลับไปอันเดิมอีก หรือว่าเราประสบความสำเร็จในด้านการแสดง คนอินกับเรามากเลย (หัวเราะ) เรื่องการรับมือถ้าบอกว่าไม่รู้สึกเลย มันก็โกหกเนอะแม่ ด้วยความที่เราไม่เคยมีดรามา เราก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เราก็เหวอ ช็อก มึนๆ งงๆ แบบมันเกิดอะไรขึ้นว่ะ แล้วทำไมต้องด่า และรุนแรงกันขนาดนี้เลยเหรอ ฟีลเหมือนเราโดนรุม เราก็ผู้หญิงเนอะ ต้องให้ใครจะว่าเราอย่างไร พื้นฐานเราก็เป็นชะนีคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ร้องไห้เป็น จริงๆ มันแอบเป็นภาพย้อนกลับไปสมัยตอนเราเด็กที่ถูกบูลลี่เรื่องเสียงด้วย เหมือนฟีลเดียวกัน เหมือนตอนที่เราโดนรุมอะไรแบบนี้ (เสียงสั่น) ฟีลเดียวกันที่เรารู้สึก เรื่องลืมโทรศัพท์จริงๆ มันเป็นสิทธิของเขาที่จะด่าเราเคารพสิทธิของเขาอยู่แล้ว มันจริง ไม่จริงอยู่ที่ตัวเรา ตัวเรารู้ แต่พอเราเข้าไปเสพอ่านเยอะๆ มันเริ่มขยาดโทรศัพท์ตัวเอง ตอนนั้นพอมีเรื่องเราไปต่างประเทศพอดี ไปสิงคโปร์มา รู้ตัวอีกทีอยู่บนเครื่องบิน ลืมโทรศัพท์ไว้บนรถ (หัวเราะ) ลืมไว้ที่ไทย มันก็เป็นข้อดีที่เราไม่ได้เอาไป ก็ได้พักผ่อน ได้คิดว่าคนที่เขาด่าเราเขาก็เป็นทุกข์กับเรา มั้นก็เป็นเรื่องของเขาที่เป็นทุกข์ ซึ่งเรารู้ตัวเราดีคะ”...

“นุ่นกินยาคลายเครียดค่ะ ปกติเราเป็นคนคิดมากอยู่แล้ว แต่คนจะเห็นเราเวลาอยู่ในรายการต่างๆ จะไม่เห็นในแง่ที่เราเป็นคนคิดมาก คิดเยอะ เราก็มีมุมที่อ่อนแอ และไม่อยากพรีเซนต์ตรงนี้ออกไป อยากจะเป็นคนที่มีเอเนอร์จีแบบนี้ที่ทุกคนเห็นออกไป เพราะว่าเราอยากเป็นพลังงานบวกให้คนที่ดูเรา เพื่อนๆของฝั่งเขาวิจารณ์ หนูรู้สึกว่า หนูผิดหวัง และก็มันเป็นเรื่องของเขา เขามีสิทธิแสดงความคิดเห็น มันเป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับหนู เขาจะมีทัศนคติอย่างไร มันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับหนู ถ้าให้หนูยืนยันคือเราไม่ได้แย่งผัวใคร เราไม่ได้เป็นมือที่ 3 ใคร คือคนเรา เรารู้ไงว่ามนุษย์เป็นอย่างไร มีหลากหลายอารมณ์ เราก็รู้ว่าโอเค บางคนชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ เราก็รับรู้แค่นั้นคือ มันเป็นสิทธิของทุกคนที่ใครจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็ได้ ทุกวันนี้บางที เราก็ต้องมองบวกไง พอเรามองบวกปุ๊บ โอเคเปลี่ยนมาเป็นความบันเทิง วันนี้ฉันจะลงอะไร เหมือนเป็นเกมปัญหาเชาว์ทุกวันนี้ แบบว่าถ้าวันนี้กูลงรูปนี้นะ กูจะต้องโดนด่าว่าอะไรเอ่ย แล้วกับเวิร์บทูเดาเอา ล่าสุดแบบรูปที่มีดอกไม้สีเหลืองอยู่ข้างหลัง เราก็วันนี้กูโดนแน่ ดอXทอง ชัวร์”

“ส่วนรูปให้อาหารหมาไปทำบุญค่ะ (หัวเราะ) วันนั้นเราไปหล่อพระที่ปทุมฯ และเราก็ไปนครปฐมต่อ เราก็เนี่ยเดี๋ยววันนี้ให้อาหารหมาเสร็จเราก็ไปหล่อพระกันต่อนะอะไรแบบนี้ค่ะ เรื่องเอ็มวีอรัชพร ก้อยแท็กทุกคนยกเว้นเรา ถามว่ารู้สึกอะไรไหม ไม่รู้สึกค่ะ เพราะว่าไม่ได้สนิทกันอยู่แล้ว ที่เขาตั้งแง่กับเรามันก็เป็นเรื่องของเขา เพราะสำหรับหนู หนูมูฟออนแล้ว และหนูพร้อมจะไปต่อ พร้อมทำงานต่อ หนูยังมีคนข้างหลังที่หนูคอยเลี้ยงดู ดูแล แท็กไม่แท็กหนูไม่ได้เงินนะแม่”...