Inside Dara
กวาง ฟ้ารุ่ง เผยนิสัย พิ้งกี้ สาวิกา เปลี่ยนไปหลังออกจากเรือนจำ

หลังจากที่นักแสดงสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากเรือนจำ โดยทนายได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเป็นเช็คจำนวนเงิน 5 ล้านบาท และ พิ้งกี้ ได้ออกมาเพียงคนเดียวเท่านั้น หลังจากที่เจ้าตัวเข้าไปอยู่ในเรือนจำนานกว่า 3 เดือน ในคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D

และเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา พิ้งกี้ และทนายความได้เดินทางมาศาล พร้อมยื่นคำร้องต่อศาล ขอความกรุณาศาลมีคำสั่งอนุญาตปลดกำไล EM เนื่องจากความสะดวกในการรับงานแสดง ก่อนที่เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา พิ้งกี้ ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่ออย่างเป็นทางการครั้งแรก เพื่อมาร่วมบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง กุมาร

ล่าสุด กวาง ฟ้ารุ่ง เพื่อนสนิทของ พิ้งกี้ สาวิกา ที่คบกันมากว่า 10 ปี ได้ออกมาพูดถึงเพื่อน หลังจากจากที่ออกจากเรือนจำ โดยบอกว่า พิ้งกี้ นั้นเปลี่ยนไปเป็นอีกคน

พิ้งกี้เขาน่ารัก หรือดียังไง เราถึงมั่นใจที่จะเปิดเผยและอยู่เคียงข้างเขา?

"พิ้งกี้เป็นเพื่อนกันมา 10 กว่าปีแล้ว เราผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทุกข์หรือสุข เขาไนซ์กับเราตลอดแล้วเขาซัพพอร์ตเรา เวลาเรามีเรื่องทุกข์เขาก็คุยกับเรา เวลามีความสุขเราก็แชร์กัน มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนยาวนาน"

ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่ เราซัพพอร์ตเพื่อนเต็มที่เลย?

"กวางว่าอันนี้มันคือหน้าที่ของเพื่อน เพื่อนที่ดี เราเป็นเพื่อนที่จิตวิญญาณ เหตุการณ์ที่แฮปปี้มีความสุข เราก็อยู่ด้วยกัน แต่คำว่าเพื่อนจริงๆ คือตอนที่อยู่ด้วยกันคือตอนที่ทุกข์ที่สุด แล้วกวางก็เลือกตรงนั้น"

ก่อนที่กวางตัดสินใจโพสต์ข้อความ ตอนนั้นกวางได้คิดไหมว่า ถ้าเราคิดไปแล้ว เราจะโดนกระแสแบบไหน และเชื่อว่ากวางรู้ว่าต้องโดนทัวร์ลง แต่กวางก็เลือกทำแบบนั้น เพราะอะไร?

"ใช่ กวางมองเรื่องความสัมพันธ์เป็นอันดับ 1 แล้วยิ่งเรามีครอบครัว เรามีลูก เราตระหนักถึงความรักและความสัมพันธ์มากๆ พอคนที่ใกล้ชิดกับเรา ที่เรามีทุก มีสุขร่วมกัน แล้วคนข้างๆ เขาเป็นทุกข์ทำไมเราต้องมานึกถึงด้านอื่นเหรอ กวางรู้สึกว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือครอบครัวของเราก่อน คนใกล้ชิดของเราก่อน นั่นคือสิ่งที่สำคัญมากๆ นั่นหมายความว่ากวางเลยไม่ได้นึกถึงตัวเองว่าเราจะต้องกลัวอะไรไหม"

ช่วงนั้นก็เครียดมากเหมือนกัน เครียด เพราะโดนทัวร์ลงหรือเพราะสงสารเพื่อน?

"สงสารเพื่อน มันค่อนข้างจะช็อก ก่อนที่เรื่องอะไรก็ตามกี้ก็มาที่บ้าน 2 วัน เขาก็จะมาเล่นกับน้องอารยา"

ก่อนที่จะขึ้นศาลถูกไหม?

"ใช่ ก็มาเล่นที่บ้าน มีความสุขร่วมกัน พอมีข่าวมาปุ๊บ ตอนแรกกวางคิดว่าข่าวปลอมหรือเปล่า แต่พอมาเจอตอนนั้นมันเป็นความจริง ก็เครียดมากเลย แล้วก็มีไปตามข่าวทุกอย่าง ตามหาความจริงว่ามันเป็นยังไง เราไปที่ศาลด้วย คือรู้ว่ามันอาจจะไม่ได้คำตอบอะไรใดๆ แต่คือแบบจะต้องทำยังไงให้เราแบบรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"

ได้มีโอกาสถามน้องไหม?

"คือถ้าช่วงนั้นไม่ได้คุยกันแล้ว เพราะว่ามันเกิดเหตุการณ์พร้อมกันหมดที่ทุกคนได้ทราบ"

แต่พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นทางศาลก็อนุญาตว่ามีบุคคลแค่ 10 คนเท่านั้นที่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยม แล้วกวางเป็นคนเดียวในวงการบันเทิงที่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมน้อง กวางรู้สึกยังไงบ้าง?

"ตอนแรกที่เราจะรู้ว่าเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ได้มันต้องใช้เวลา ต้องเขียนรายชื่อ ใจเราคิดอยู่แล้วว่า เธอต้องเขียนชื่อเราลงไปนะ"

คนที่เขียนคือคนข้างในใช่ไหม?

"ใช่ค่ะ คนข้างนอกไม่สามารถที่จะแจ้งได้ ต้องเป็นคนข้างในที่เขาจะเลือกให้เข้าพบได้ ไม่ได้โฟกัสเลยว่าเราจะเป็นคนเดียวหรือไม่ เพียงแต่เรารู้สึกว่าเราจะทำยังไงให้เพื่อนเรามีกำลังใจ และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตเขา"

ที่เจอเขา เขาบอกอะไร เขาพูดอะไรกับเราบ้าง?

"ส่วนมากมันเป็นการให้กำลังใจกันมากกว่า ว่าเดี๋ยวทุกอย่างจะต้องผ่านพ้นไปด้วยดี แล้วเราเองดูแลหน้าที่ที่รับซัพพอร์ตจากเพื่อนๆ เพราะเพื่อนๆ จะรู้ว่าพอเราได้เจอก็จะมีการฝากข้อความแล้วก็ส่งจดหมาย มีรูปแนบให้เขาเพราะว่าเราสามารถส่งให้เขาได้

แล้วบอกถึงความเป็นไปว่าเป็นยังไง แต่ส่วนมากเราจะรับฟังมากกว่า เพราะว่าคนที่เป็นทุกข์เขาอยากจะพูด อยากจะระบาย เพียงแค่เจอหน้าเราปุ๊บ เขาก็รู้สึกแล้วว่าเขามีกำลังใจ แล้ววันหนึ่งก็ได้แค่ครั้งเดียวที่เจอกัน"

เห็นบอกว่าในบทสนทนาน้องจะพูดแต่เรื่องเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าเป็นห่วงตัวเอง แต่ในมุมพวกเราทุกคนเป็นห่วงน้อง?

"ใช่ๆ กวางยังพูดกับเขาเลยว่ายูโฟกัสกับตัวยูก่อนนะ แต่พอไปถึงปุ๊บเขาก็จะมีความเป็นห่วงคนอื่น งานเป็นยังไงบ้าง งานที่ค้างคา แล้วเขาก็พูดถึงภาวะที่เกิดขึ้นว่าด้านในมันเป็นแบบนั้น แบบนี้ เป็นปรัชญาออกมาเลย"

ในขณะที่ห่วงคนอื่น แต่ตัวเองก็ทุกข์อยู่ แต่สิ่งที่เขาห่วงที่สุดคืออยากให้กวางไปติดต่องานที่เรารับค้างไว้ โดยเฉพาะงานที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ เหมือนเราถ่ายเสร็จก็รับเงินมา แต่เหมือนน้องบอกอยากจะคืนเงินก้อนนั้น เพราะไม่สามารถทำงานให้เขาได้ จริงไหม?

"เอาเป็นว่ากี้ตั้งแต่ไหน แต่ไรแล้ว เขาเป็นห่วงคนอื่นเสมอ อันนี้เป็นจุดเด่นของเขาเลย เขาไม่เคยคิดถึงตัวเขาเลย เขาเก็บตัวเองตลอด เวลาทำอะไรให้คนอื่นแฮปปี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเขารู้สึกว่าเขาทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ได้

เพราะฉะนั้นเขายินดีที่จะคืนเงินให้ เขาเป็นห่วงคนอื่นเสมอ เขาทำอะไรได้ที่ซัพพอร์ตคนอื่นเขาจะทำ แม้ตัวเองอยู่ในนั้น บางทีเราฟังเรารู้สึกว่า โอ๊ย ก็เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่รู้ว่าแม้กระทั่งที่เขาอยู่ ณ ตรงนั้นแล้ว เขายังเป็นแบบนั้น ซึ่งถ้าเป็นหลายๆ คน อาจจะไม่รู้สึกที่จะต้องทำ"

อย่างล่าสุดก็มีข่าวว่า มีคนแอบอ้างว่าเป็นผู้จัดการของพิ้งกี้ ไปเอาเงินค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ของพิ้งกี้มาแล้วเรียบร้อย อันนี้กวางได้มีโอกาสรับรู้เรื่องนี้บ้างไหม?

"รับรู้ตามข่าว อย่างที่บอกตั้งแต่สมัยไหนแล้ว พิ้งกี้เป็นคนทำอะไรเอง ดูแลตัวเองมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์การรับงาน อันนี้เขาจะดูแลตัวเอง แต่มีผู้ช่วยของเขา ซึ่งคนนี้เป็นผู้ช่วยเฉยๆ เพราะฉะนั้นเขาดูแลตัวเองมาตลอด"

ในความเป็นจริงแล้วพิ้งกี้ไม่ได้มีผู้จัดการส่วนตัว?

"เท่าที่เห็นเขาดูแลตัวเองมาตลอดเลย"

ทางนั้นเขาให้เงินมาแล้ว แต่เงินก็ไม่ถึงน้อง?

"กวางก็ไม่แน่ใจ เป็นเรื่องของเขาที่เกิดขึ้น แต่ก็คิดว่าเป็นไปตามที่เราทราบกัน"

กวางได้คุยกับพิ้งกี้ส่วนตัวไหม?

"มีเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น แต่เราก็ไม่ได้ไม่แตะมาก เพราะเป็นเรื่องของเขา ที่เขาต้องมาจัดการตรงนี้ แต่อย่างที่บอกกวางเห็นเลยว่าทุกอย่างเขาทำด้วยตัวเอง รับงาน พิจารณางานด้วยตัวเอง"

ครั้งแรกเลยที่เราได้ยินว่าเขาจะได้ออกมา เรารู้สึกยังไงบ้าง?

"ร้องไห้เลย เพราะว่าทุกๆ ครั้งที่ไปเราใช้พลัง มันเหมือนคนที่อยู่เคียงข้างเราแล้วเป็นทุกข์ ต่อให้เรามีความสุขยังไง ตอนนั้นกวางไปต่างประเทศหนึ่งเดือนก็ยังคิดถึงตลอด แล้วพอวันที่เขาจะได้ออกมาก็รู้สึกว่าดีแล้วก็แฮปปี้"

เจอกันได้พูดคุยอะไรกันบ้าง หลังจากที่น้องได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว?

"พิ้งกี้นี่คือ ถ้าเขามาแล้วเขาจะทำเลยคือเล่นกับลูกสาว แทบไม่ได้คุยเลย คือเขาคิดถึงหลาน เขาอยากเห็นหน้าอารยา เขาชอบความสดใส พอมาถึงเรารู้แล้ว บางทีเราไม่ต้องคุยกันเลย เขามาแล้วเขามาเล่นกับหลาน ส่วนมากจะเป็นแบบนั้นมากกว่า"

เห็นว่าพิ้งกี้เองตอนที่ออกมามีความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่เห็นได้ชัดด้วย?

"เติบโตขึ้น เติบโตทั้งภายใน คิดว่าสิ่งที่เขาเจอ แล้วเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชัน เรียกว่าอัปเกรดเวอร์ชันเลย สมัยก่อนเราคิดว่าพิ้งกี้เป็นแบบนี้ พอมันผ่านจุดตรงนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปเลย วิธีคิดที่ดีขึ้น เราเห็นการเปลี่ยนแปลงตรงนี้เรารู้สึกว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี"

น้องร้องไห้บ้างไหม?

"ร้องอยู่แล้วค่ะ กวางอยู่ข้างนอกขับรถบางทีคิดถึงเขาปุ๊บก็ร้อง ร้องเพราะอัดอั้น เพราะมันมีหลายสิ่งหลายอย่างการเป็นเพื่อนเราก็มองตัวเองเหมือนกันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราทำหน้าที่เพื่อนได้ดีหรือยัง เราดูแลคนรอบข้างได้ดีหรือยัง เราก็ย้อนกลับมาเหมือนกัน"

อีกจุดหนึ่งที่น้องเขาแคร์มากๆ คือคนที่อยู่รอบๆ ตัวเขาจะคิดยังไงกับเขา?

"กี้เป็นคนห่วงอยู่แล้วว่า ทุกคนจะคิดยังไงในสิ่งที่มันเกิดขึ้น แต่เวอร์ชันใหม่ของเขา เขาคงเริ่มเข้าใจแล้วว่ามันก็ต้องเดินทางต่อ".