Inside Dara
คุณแม่ "น้ำชา ชีรณัฐ" รีเทิร์นจับไมค์ไม่ทิ้งความแซ่บ เป็นศิราณีให้เพื่อนๆ

สวยเฉี่ยวสไตล์ "คุณแม่สายแซ่บ" อย่าง Namcha หรือ น้ำชา-ชีรณัฐ ยูสานนท์ นักร้องสาว-นักแสดงเสียงเพราะ สังกัด วอร์นเนอร์ มิวสิค ประเทศไทย ได้ปล่อยเพลงให้แฟนๆหายคิดถึงกัน กับซิงเกิลใหม่ “Mascara (มาสคาร่า)” เป็นเพลงเศร้าเคล้าน้ำตา ที่หยิบแรงบันดาลใจจากเพื่อนๆที่มาปรึกษาความรักจนทำให้เจ้าตัวกลายเป็น “ศิราณี” ให้เพื่อนๆ ทั้งชีวิตครอบครัวสุดแฮปปี้ ยิ่งมีน้องน้ำทะเล ทายาทหัวแก้วหัวแหวนมาเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์ กลายเป็นชีวิตที่ลงตัวแต่ทำให้เจ้าตัวเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลย

ก่อนที่จะไปพูดคุยงานเพลง “Mascara (มาสคาร่า)” สาวน้ำชา มาเยือน “มาลัยไทยรัฐ” อวดหุ่นลุคสวยแซ่บ ที่สาวๆด้วยกันเห็น “หุ่นแม่” ถึงกับว้าวุ่นหนักเลย! ยอมใจในความทุ่มเทฟิตหุ่นจนกลายเป็นสาวไซส์ S มาพร้อมแฟชั่นสวยฟาดๆ จากแบรนด์หรูดูแพง ทั้งแบรนด์ Vatanika (ชุดสีแดง), Vickteerut (ชุดสีดำ) และ Meli.melo.official (ชุดสีขาว) สไตลิสต์ : S.spritenarakza, ผู้ช่วยสไตลิสต์ : ปวริศา ภูนุช และช่างภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต

จากนั้นน้ำชาเล่าถึงที่มาที่ไปของซิงเกิลมาสคาร่าที่ทุกคนสงสัยทำไมต้องเป็น “มาสคาร่า” ซึ่งน้ำชาเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า “ในเนื้อเพลงไม่มีท่อนไหนใช้คำว่ามาสคาร่าเลยค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นมาสคาร่าบวกเพลงอกหัก เป็นซิมโบลิคอย่างนึงที่สื่อให้ถึงความอกหัก นึกถึงผู้หญิงร้องไห้แล้วมาสคาร่าเลอะหน้า เป็นเพลงอกหัก จะเลิกแต่เลิกไม่ได้ ชาได้ไอเดียมาจากเพื่อนๆ เพราะเพื่อนชอบปรึกษาปัญหาความรักกันเยอะ ชอบคนนี้มากแต่เป็นไปไม่ได้” ตอนนี้น้ำชามีครอบครัวอบอุ่นแต่มาร้องเพลงอกหักแบบนี้ กลัวคนจะเข้าใจผิดมั้ย “สมัยเด็กๆเป็นวัยรุ่นเวลามีความรักจะมีอารมณ์แบบนี้ทุกครั้งเวลาเลิกก็จะแบบเลิกไม่ได้ เลิกไม่จริง เวลาทำเพลงเราต้องอินกับตัวเรื่อง วิธีหยิบจับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงมาสื่อ ถ่ายทอดออกมาเป็นเพลง การถ่ายทำมากกว่า”

นอกจากเสียงร้องที่มีความแปลกหู แต่กลับมีเสน่ห์อย่างลงตัวแล้ว น้ำชา ยังเล่นเอ็มวีเอง “อินเนอร์” มาเกินร้อย คนฟังก็พลอยอิ๊น อินเพลงไปจนบางคนแอบปาดน้ำตาด้วยซ้ำ “ใช่ค่ะ ชาเล่นเอ็มวีเอง ได้ใส่ชุดครุยด้วยค่ะ ก็เหมือนเด็กอายุ 19-20 ย้อนวัย ตอนแต่งตัวก็ส่องกระจก คิดในใจเอาอยู่ไหมเนี่ย วัยเราก็อายุ 35 แล้ว พอกลับมาใส่ชุดนักศึกษาก็โอเนอะ รู้สึกกลับมาเด็กนิดหน่อย (หัวเราะ)” แถมลุคตัดผมสั้น หน้าเด็กลง “พยายามดูแลตัวเองจัดเต็มมาก”

เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังคลอดในเรื่องของการดูแลตัวเองจริงจังกับการออกกำลังกายมาก “ก่อนหน้าที่ตัดสินใจมีลูก ชากลัวอ้วนมาก กลัวเปลี่ยนไป อย่างที่ชาเคยเห็น ทุกคนมีลูกแล้วทุกอย่างดร็อปลง ชาเลยรู้สึกไม่ได้ เราต้องเป็นตรงกันข้ามให้ได้ ก่อนท้องจะเริ่มออกกำลังกาย ขนาดตอนท้องอยู่ยังวิ่งเหยาะๆ วิ่งไม่หยุดเลย ออกกำลังกาย เล่นพิลาทิส คุมอาหารมากขึ้นเพราะเดี๋ยวนี้มันไม่เหมือนเดิม ตอนเด็กๆทานอะไรไม่อ้วน แต่ตอนนี้พอทานอะไรตื่นมารู้สึกเนื้อทำไมเยอะขึ้น คือเกิดจากความกลัว” เท่าที่ดูไลฟ์สไตล์ในไอจี น้ำชาออกกำลังกายหนักมาก “จริงๆอาทิตย์ละ 3 วันแต่ชาทำมาสม่ำเสมอเลย ทำมาเกือบ 3 ปี ยกเว้นอาทิตย์คลอดน้ำทะเลจนคุณหมอบอกว่าให้หยุดออก กำลังกายก่อน 1 เดือน เลยหยุดเพราะไม่อย่างนั้นแผลฉีก (หัวเราะ) หลังครบ 1 เดือน ชาออกกำลังกายเลยเพราะเราติดออกกำลังกายไปแล้ว”

กับตอนนี้กลายเป็นศิราณีให้เพื่อนๆรู้สึกยังไงบ้าง “ความรู้สึกเหมือนเห็นพวกเขาอยู่ในช่วงวัยรุ่น แต่เราผ่านจุดวัยรุ่นมาแล้วแต่เพื่อนๆยังไม่ผ่านจุดนั้นมา คือชีวิตชาเปลี่ยนไปมาก พอแต่งงานไม่เท่าไหร่ แต่พอมีลูกทุกอย่างเปลี่ยน เหมือนโตขึ้นแบบมากๆ ทุกๆอย่างเลยค่ะ เมื่อก่อนจะเป็นไม่สนใจ ไม่แคร์ เป็นฟีลเด็กที่มีอารมณ์ชัดเจน มีความใครบวกมาพร้อมบวกถ้าเราไม่ผิด ถ้าหากหาเรื่องเราก่อน ตอนเด็ก อารมณ์ฟีลนั้น พอโตขึ้นจะค่อยๆเบา ค่อยๆ เปลี่ยน ใจเย็นขึ้นมาก ตอนนี้ปล่อยวางอะไรที่ไม่ถูกต้องก็แล้วแต่เลย ชารักลูก (น้องน้ำทะเล) ในทุกๆมุมของเค้า อยากได้เด็กเรียบร้อยๆ แต่ลูกเป็นเด็กไม่เรียบร้อยก็โอเคไม่เป็นไร เขาเพิ่งอายุ 1 ขวบกว่าๆ มีเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตอนนี้เป็นเด็กซนๆ เสียงดัง เวลาเห็นเขาทำอะไรเรามีความสุขหมดเลย” ถือว่าหลงลูกมากขนาดไหน “หลงมากค่ะ นั่งมองหน้าลูกทุกวัน คนเพ้อ นั่งมอง เล่นเท้านี่นั่น หอมทั้งตัวเลยทุกส่วน รักมากรักที่สุดค่ะ”

หลงรักลูกเบอร์นี้ ทำให้น้ำชาคิดอยากมีลูกเพิ่มอีกสักคนมั้ย “ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ ยอมรับมีการคุยกับสามี (ดร.วาว-ดิลกะลัทธ พิพัฒน์) ว่าจะเอายังไงดี เพราะว่าแอบต้องรีบตัดสินใจเพราะตอนนี้ชาก็อายุ 35 แล้ว เขาบอกผู้หญิงเลย 35 มีความเสี่ยง มีความไม่สมบูรณ์เกิดขึ้นเยอะก็เลยต้องคิดหนักๆ ยังไม่ทราบเลย ก็ถามตัวเองอยู่ งานก็อยากทำเพราะรักการทำงานมาก ไม่เคยอยู่เฉยทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ” ต้องเรียกว่าน้ำชา เป็นคนนึงที่เจอสารพัด “ดราม่า” เจอข่าวหนักๆ แต่ก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง ก็เลยต้องถามตรงๆอะไรทำให้เรารับมือกับดราม่าต่างๆได้ “การปล่อยวางนั่นแหละ ปล่อยวางทุกสิ่งที่เราไม่เข้าใจปล่อยวางทุกสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ คนไม่ชอบเราควบคุมไม่ได้ หรือคนที่ตัดสินใจบางอย่างเพื่อที่ทำให้เราเจ็บปวด เราก็ควบคุมไม่ได้ พอเรารับความรู้สึกนั้นมาแป๊บนึงแล้วเราก็ปล่อยมันไป ยิ่งปล่อยไว เป็นสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตเราก็เลยผ่านมาได้ เกิดเรื่องปุ๊บเรานิ่งแล้วเราหันไปทำอย่างอื่นที่เรามีความสุข เข้ามาผ่านไป เหมือนปลาแซลมอนว่ายทวนน้ำไปเรื่อยๆ เป็นฟีลนั้น ว่ายน้ำทวนน้ำไปเรื่อยๆ แล้ววันนึงน้ำมันสงบเอง โฟกัสตอนนี้ทุกอย่างคือลูก อันดับหนึ่ง”

จะว่าไปน้ำชาบ้าพลังมากๆ โดยเฉพาะการทำงาน เอาจริงนะ ทำงานเหมือนคนร้อนเงินยังไงไม่รู้ “มีแต่คนบอก (หัวเราะ) ชาก็บอกจะคิดแบบนั้นก็ได้นะ ตอนนี้เรามีแรงทำก็ทำไปก่อน เดี๋ยวพออายุเยอะก็ไม่มีแรงทำอะไรแล้ว ชามีความสุขที่ได้ทำงานอย่างที่บอกเป็นคนที่หยุดทำงานไม่ได้ ทุกบาททุกสตางค์มีค่า เห็นชาทำงานขนาดนี้แต่ชามีเวลาอยู่กับลูกเยอะมาก ทำงานไปด้วยดูลูกด้วย ชาจะไปเรียนกับลูกทุกครั้งที่ลูกไป แทบไม่มีครั้งไหนที่เราไม่ไหว ตารางชีวิตลูกมาก่อน ยกเว้นเรามีงานที่สำคัญมากๆ จริงๆก็อาจจะต้องไปทำงานก่อนค่อยกลับมาเจอลูก” เมื่อถามว่าพอน้ำชาทำงานเยอะๆแบบนี้ สามีมีเอ่ยปากร้องขอให้หยุดนิ่งๆบ้าง “ไม่เลยค่ะ (หัวเราะ) ไม่มีมุมนั้น เขาเป็นคนชิลๆ อยากทำอะไรทำ ของชาการที่เราจะอยู่ด้วยกันเรียกว่าต้องปล่อยให้ชาทำงานไป”

ความสวีตหวานล่ะทุกวันนี้ ยังหวานเหมือนตอนเป็นแฟนกันมั้ย “เหมือนเดิมค่ะ แต่คู่เราเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่แรก ไม่ได้มีอะไรหวือหวา เป็นสิ่งที่เราต้องการ นั่นคือสิ่งที่ดีมากๆ เสมอต้นเสมอปลาย วันเกิดกินข้าวกันง่ายๆ ไม่ต้องอะไรใดๆ ไม่ต้องให้มันเว่อร์ ผ่านมาหมดแล้ว สุดท้ายชั่วโมงที่มีความสุขได้ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้นอยู่บ้าน อยู่กับคนในบ้าน อันนี้คือที่สุดแล้ว”.

สไตลิสต์ : S.spritenarakza

ผู้ช่วยสไตลิสต์ : ปวริศา ภูนุช

ช่างภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต