Inside Dara
ออเจ้าดัง ‘เบลล่า’ ละครแรง

"บุพเพสันนิวาส" ฟีเว่อร์! สาวลูกครึ่ง เบลล่า ราณี แคมเปน สร้างปรากฎการณ์ให้แฟนละครทั่วประเทศเฝ้าหน้าจอ รอดูละคร...เหมือนแต่ก่อน มันไม่ใช่เรื่องง่ายในยุคโลก 4.0 แต่ เบลล่า ทำได้ ทำด้วยใจ เธอสะกดใจคนดูซะอยู่หมัด!

ใครจะเชื่อว่าในยุคที่ทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีโลกออนไลน์ แต่ละครพีเรียดเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” เป็นม้ามืด พาคนดูย้อนยุคกลับไปพบความสุขแบบคลาสสิก ออกอากาศวันแรกก็กระแสแรงไปทั่วพระนครและหัวเมือง ดังไกลไปต่างแดน แฟนละครหลายชาติ แปลภาษาไปดูกันไปอย่างสนุก สะกดใจแรก เบลล่า เป็นสาวลูกครึ่งที่สวมชุดไทยได้งดงามมาก สะกดใจต่อมาเธอเล่นบทร้าย (บางตอน) ได้น่าหมั่นไส้สุดๆ อ๋อ! และเธอกระชากวิญญาณนางร้ายในตำนาน กิ๊ก–สุวัจนี ใส่ร่างเธอ ให้กลับมาฟีเว่อร์ ด้วยการแสดงท่าเบะปาก จิกตาโตเท่าไข่ห่าน ดังเป็นพลุแตก ที่สำคัญ เบลล่า เหมือน “นางเอกยอดฝีมือ” เธอบ่มเพาะฝึกการแสดงจนเข้าขั้น ตอนนี้ เบลล่า แสดงอะไร ถึงพริก ถึงขิง ถึงใจคนดู ถึงขั้นดูไปยิ้มไป หลงรัก...ในตัวละครที่ เบลล่า แสดงทุกตัวและทุกตอน เบลล่า ว่า “มีคนเคยบอกไว้ ตอนแอฟ-ทักษอร ดัง ก็อายุ 28 ตอนแต้ว-ณฐพร ดัง จาก “นาคี” ก็อายุ 28 และไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ “บุพเพสันนิวาส” ดังสุดๆ เบลล่าก็อายุ 28 เช่นกัน”...ทุกอย่างรอเวลา จังหวะ และโอกาส พร้อมความตั้งใจ เดี๋ยวรอดู “กรงกรรม” เจมส์จิ–เบลล่า ครั้งนี้ เบลล่า พลิกบทบาทเล่นบท “โสเภณี” มันส์อีกแน่นอน

คนดูยังหลงขนาดนี้ ไม่ต้องคิดถึง เวียร์–ศุกลวัฒน์ เลยว่า จะหลง เบลล่า ขนาดไหน จน เวียร์ ได้ ฉายา #คนอวดแฟน 2018 เขาตามกดไลค์ทุกรูป และตามรัก เบลล่า ในทุกวัน เพราะ เบลล่า น่ารักชะมัดเลย!

“มาลัยไทยรัฐ” ตามไปเปิดใจ นางเอกฮอตในวินาทีนี้ เบลล่า ถึง กระแส “แม่การะเกด” ฟีเว่อร์? เบลล่าว่า “กราบขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบในตัวการะเกดและเกศสุรางค์ มีแต่คนเรียกและพูดภาษาโบราณ ดีใจนะคะ เพราะละครดูได้ทุกวัย ดูแล้วอมยิ้มมีความสุข เป็นละครน้ำดี เศร้าก็มีแต่เศร้าไม่นาน พอเป็นพาร์ต ประวัติศาสตร์ก็น่าติดตาม ตอนอ่านบทรู้สึกสนุก ผู้กำกับ ใหม่-ภวัต เคี่ยวมาก ทุกรายละเอียดเป๊ะมาก ทุกอย่างอยู่ในทีมที่ดี อ.แดง ศัลยา เขียนบทดี พี่หน่องช่วยกันดู ทุกอย่างรอบข้างช่วยกันหมด เราเองคนเดียวก็คงไม่ได้นำพามาถึงขนาดนี้”

จับคู่ โป๊ป–ธนวรรธน์ พากันดัง? “ความจริง พี่โป๊ปเป็นคนขำ เต็มที่มาก แทบตบหัวหนูทุกคน ไม่ได้เป็นคนเงียบๆอย่างที่คนคิด เป็นคู่รับส่งที่ดีมากด้วยอารมณ์จริงใจ”

จังหวะชีวิตที่มาถึงความปังสุดๆ? “ถ้าเรียกตอนนี้ก็ใช่นะคะ ฟีดแบ็กที่เบลเห็นก็อย่างในโลกออนไลน์ ไม่มีใครเรียกเบลล่า เรียก แม่นาย การะเกด ออเจ้า เรียกว่าคอมเมนต์ถล่มทลาย จนอ่านไม่ทัน มันมาในช่วงสั้นๆมาก จนเราคิดว่าจริงรึเปล่าเนี่ย เราคาดเดาไม่ได้ว่าคนดูจะชอบแค่ไหน เราเองก็ไม่กล้าคาดเดาว่าตอนที่เหลือจะเป็นยังไง ขนาดหน้าพี่กิ๊ก- สุวัจนี เบลไม่ได้ดูตัวเองวันนั้น ไม่คิดว่าคนชอบขนาดนี้ คนคงมองว่าเบลไม่ได้ห่วงสวย ซึ่งเรื่องนี้ห่วงสวยไม่ได้จริงๆ เพราะเกศสุรางค์แก่นเซี้ยว และไม่ได้ห่วงว่าการะเกดจะร้ายจนคนเกลียด ทั้งสองตัวคือตัวละครที่เราต้องเป็นให้สุด คาแรกเตอร์ต้องชัด พี่หน่องกับผู้กำกับบอกให้เล่นไปให้สุด เราก็เชื่อมือและเต็มที่”

เล่นบทอะไรก็ปัง เลือกยังไง? “ไม่ได้เลือกนะ เป็นนักแสดงต้องเล่นได้หมด” ประสบการณ์ที่สั่งสมมาช่วยให้พัฒนาตัวเองยังไง? “ที่ชัดๆคือละเอียดขึ้น เวลาอ่านเราไม่ได้อ่านเป็นตัวหนังสือ เราอ่านเป็นความรู้สึกแทน พอเป็นหลายๆบทมันละลายความไม่กล้า ความครีเอต เราไม่ได้เล่นแค่เป็นไปตามกรอบ และเรื่องของอารมณ์ที่เล่นได้หลากหลายขึ้นจากประสบการณ์”

เป็นช่วงที่เผยเสน่ห์ แฟนๆหนุ่มตกหลุมรักเยอะขึ้น? “ยอมรับว่ามีแฟนหนุ่มๆมากขึ้น อาจจะเพราะเราเข้าวงการแรกๆเรายังใหม่ เบลเป็นคนมีทั้งความเรียบร้อยและความซุกซนในตัว พอเราอยู่ในที่ใหม่ๆเราอาจจะวางตัวไม่ถูก พอเวลาผ่านไปอาจจะมั่นใจมากขึ้น อาจจะมีโซเชียลที่ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นและคนเห็นเราในบทบาทต่างๆ”

เป็นช่วงชีวิตที่งานดีและรักสมหวัง ส่งเสริมกันดีมาก เกี่ยวกันมั้ย? “อาจจะเป็นความบังเอิญมากกว่าที่ทุกอย่างมาพร้อมกัน อย่างบุพเพฯถ่ายตั้งแต่ปี 58 แต่ออกมาในช่วงนี้พอดี เบลไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันมั้ย มันมีช่วงทำงาน 7 วันเหนื่อยมากแต่ไม่มีใครรู้ ละครเรื่องนี้มันไม่ง่ายเลย 2 ตัวจัดแสดงคนละแบบคนไม่รู้ มีช่วงเหนื่อย แต่ตอนนี้คนเห็นผลงาน มันก็ชื่นใจ หายเหนื่อยจริงๆ”

ความรักเป็นกำลังใจส่งเสริมเราในด้านไหน? “เวลาเหนื่อยก็มีที่ให้ระบาย บ่นกับแม่ก็เดี๋ยวจะห่วง และบางทีก็เป็นที่ปรึกษา บางฉากเราเครียดกังวลไปหมด พี่เค้าก็บอกว่า “เฮ้ยทำได้ ช่วยบิลด์อัพ”

วางตัวลำบากมั้ยกับช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์กับเวียร์ชัดเจนขึ้น? “ไม่ค่ะ รู้สึกสบายๆ ที่ผ่านมาเบลก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดขนาดนั้น เบลทำงานเยอะมาก เบลเรียนด้วย คนอาจจะไม่รู้ว่าพ่อป่วยด้วย มีหลายอย่างที่เบลต้องรับผิดชอบตอนนั้น เราจะพูดมันก็ไม่ใช่ สิ่งที่สำคัญคือพี่เค้าเข้าใจ และไม่เคยเร่งรัดอะไรเลย ที่ผ่านมาเป็นยังไงทุกวันนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิมสม่ำเสมอ ตอนนี้เบลมีมากขึ้น เรียนจบปริญญาโทที่เป็นเป้าหมายของเบล บางทีเบลไม่โทษคนอื่นหรอก เบลอาจจะสื่อสารไม่ดีเอง บางทีเบลบอกว่าห่าง คือช่วงที่ทำอะไรเยอะมาก คนอาจจะไม่เข้าใจ แล้วแต่คนจะมอง”

ทำงานทุ่มเทตั้งใจแบบนี้ มองตัวเองเป็นเพอร์เฟกชั่นนิสต์มั้ย? “มากค่ะ ก็ใช่นะ รู้สึกว่าถ้าจะทำอะไรก็อยากทำให้มันสุด ให้ดีที่สุด แต่ไม่ถึงขั้นมาเครียดกดดันตัวเอง ทำให้มันดีให้มันสุด เป็นคนวางเป้าหมายในชีวิต เวลามันไม่สมหวังเบลก็ไม่คาดหวัง อย่างบุพเพสันนิวาสตอนเล่น ตอนอ่านบท ทุกคนบอกว่ามันต้องดังแต่เบลจะไม่ฟัง เบลจะรอให้เห็นก่อน เราแค่คิดว่าทำส่วนของเราดีแล้ว”

เบลล่า ไม่ได้แค่ “แสดงเก่ง” แต่เธอ...เก่งที่ “สมอง” และ “สตรอง” ที่หัวใจ เธอเลยมัดใจแฟนละคร และ พี่เวียร์ อยู่หมัด!!