Inside Dara
สะเทือนใจมาก “นุ้ย” ลั่นไม่ขายผัว เอาเรื่องในมุ้งมาพูด! ถามหาความยุติธรรม ภาพลักษณ์ 10 ปี พังพินาศ

“นุ้ย สุจิรา” เสียความรู้สึก รายการโปรโมตข่าวเกินจริง ขายผัว ไม่ทำการบ้าน 2 ปี - ไล่สามีไปซื้อกิน ยันไม่เคยพูด พ้อสภาพจิตใจครอบครัว “ปอนด์” เปราะบาง เพิ่งเสียอากง ยังมาช้ำกับข่าวซ้ำอีก ด้านแม่ผัวส่งข้อความมาต่อว่า ถามหาความยุติธรรม ภาพลักษณ์ 10 ปี พังพินาศ แอบแย้มกำลังจะมีลูกคนที่ 2 รอชัวร์แล้วจะบอก

มารับหน้าที่พิธีกรในงาน The Dish Foodival อร่อย…ร้านแตก สยามแควร์วัน งานนี้ “นุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์” เลยขอเปิดใจกรณีกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านั้น หลังจากที่ได้ไปให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีรายการหนึ่งถึงเรื่องบนเตียง บอกไม่ได้ทำกิจกรรมกับสามี “ปอนด์ ชยพล หลีระพันธ์” มา 2 ปี และใจป้ำยอมให้สามีซื้อกิน ซึ่งนุ้ยเผยว่าการโปรโมตดังกล่าว ทำให้กระทบครอบครัวตนอย่างจัง

“มันเป็นอะไรที่เราตกใจ เหมือนกับที่ทุกคนเห็นข่าวแล้วตกใจ ถ้าพูดถึงในรายการ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือการล้อเล่นในรายการ ถ้าไม่ได้ดูในรายการ แล้วอ่านเป็นตัวอักษรเขาคิดว่าจริงจัง แต่โดยบุคลิกของนุ้ยแล้วคงไม่เอาเรื่องในครอบครัว หรือว่าปัญหาที่มันเกิดขึ้นในครอบครัว ไปคุยในรายการเป็นรูปแบบวาไรตี้สนุกสนาน นุ้ยว่าเราคุยกันในเรื่องของคนที่แต่งงานแล้ว น่าจะคุยกันในแนวหยอกล้อกุ๊กกิ๊กมากกว่า ในรายการเขาถามว่าดูแลลูกขนาดนี้ ทำงานขนาดนี้ แบบนี้ก็ไม่มีเวลาดูแลสามีเลยใช่มั้ย เราก็บอกว่าไม่มีหรอก 2 ปีแล้ว”

พ้อพาดหัวข่าวเปลี่ยนชีวิต ยันไม่เคยพูดคำไล่สามีไปซื้อกิน และไม่เคยคิดจะหย่า

“น่าจะเป็นคำที่ถูกจำกัดความขึ้นมา เพราะโดยส่วนตัวนุ้ยไม่พูดคำนั้นอยู่แล้ว นุ้ยไปออกรายการนี้รายการเดียว พาดหัวข่าวเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนจริงๆ อย่างที่นุ้ยลงในอินสตาแกรมส่วนตัวว่าสำนักข่าวหนึ่งบอกว่า นุ้ยเผยถึงชีวิตครอบครัว เคล็ดลับขาเตียงแข็งแรง บอกว่านุ้ยคิดจะหย่าสามี ไม่คิดที่จะมีกิจกรรมบนเตียง อีกอันบอกว่านุ้ย ให้สามีไปซื้อกิน อีกอันหนักกว่าบอกว่าสามีนุ้ยไปซื้อกินแล้ว นี่รายการเดียวแต่แตกหัวข้อได้เยอะมาก มันคงเป็นความเข้าใจผิดเป็นทอดๆ นุ้ยไม่คิดว่าจะเลิกกับสามี ทุกครอบครัวมีปัญหาอยู่แล้ว เราต้องคุยกัน แต่เรื่องซื้อกินไม่ได้ออกมาจากปากนุ้ยอยู่แล้ว แต่มีการแซวกันว่าไม่ได้ดูแลกันแบบนี้ นุ้ยเคยแซวปอนด์ว่า ก็ต้องหาสวยๆ นะ แต่ถ้าเขาไปจริงๆ ก็รอบาปกรรมตามสนองแล้วกัน”

บอกแม่ผัวส่งข้อความมาหา ทำไมคุยเรื่องส่วนตัวออกสื่อ ส่วนปอนด์เองก็เครียด

“แม่ปอนด์มีส่งข้อความมา ว่าทำไมไปคุยเรื่องส่วนตัวแบบนี้ ด้วยบุคลิกนุ้ยถ้าคนที่อ่าน แล้วรู้สึกว่านุ้ยพูดแบบนี้ คุณคิดถูกแล้ว เพราะนั่นไม่ใช่บุคลิกเรา นุ้ยไม่ได้คิดพูดเรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องจริงจัง เรื่องในบ้าน เรื่องในห้องนอน ไม่ควรมาพูดกันจริงจัง แค่เอามายอกล้อให้เรียกรอยยิ้มกันได้ แต่ไม่คิดเลยว่าการที่เราพูดอย่างนั้น มันจะมีข้อความ มีการตัดต่อรูปนุ้ยตาปรือก็ถือว่าเรียนรู้กันไป เดี๋ยวนี้เราก็ต้องระวังมากขึ้น”

“ปอนด์เขาไม่สบายใจ กระแสที่ออกมา มันเป็นข่าวคาว มีคนเข้ามาต่อว่าเรา คนที่เขาไม่เข้าใจ บางทีคนเขาก็อ่านแค่พาดหัว เขาไม่ได้ฟังจากปากเราจริงๆ เขาก็ถามว่านุ้ยเป็นอย่างไรบ้าง นุ้ยบอกว่ามัวแต่ยุ่งกับการเลี้ยงลูกไม่ได้เห็นกระแสข่าว แต่มีผลกระทบ คือ มีผู้ใหญ่ทุกท่านมาหา แล้วก็มาขอนัดเจอ ถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า คือ พูดเหมือนครอบครัวนุ้ยมีปัญหา แต่ครอบครัวนุ้ยไม่มีปัญหา ผู้ใหญ่เขาเป็นห่วงหน้าตาเขาซีเรียส นุ้ยก็บอกว่าเข้าใจว่าเดียวนี้เพื่อต้องการเรียกยอดไลก์ มันต้องเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น”

แก้ไขอะไรไม่ได้ ข่าวถูกแพร่ไปแล้ว รับเสียความรู้สึกรายการ ตอนแรกบอกจะติดต่อโปรโมตโรงเรียน แต่กลับมาโปรโมตเรื่องครอบครัวที่มันไม่เป็นความจริง

“มีโทร.ไป มีส่งข้อความไป พี่เขาก็โทร.กลับมา นุ้ยก็บอกว่าไม่สบายใจ และเสียความรู้สึก ที่ตอนแรกติดต่อไปเพื่อพูดคุยเรื่องโรงเรียน ไปโปรโมตโรงเรียน แน่นอนว่ามีการแตะเรื่องครอบครัว เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าแค่แตะเล็กๆ น้อยๆ แต่พอข้อความที่ออกมาเป็นเรื่องของครอบครัวเป็นหลัก ที่มันไม่เป็นจริง เราเสียความรู้สึกตรงนี้ เราอยู่เป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่น่าจะเกิดความเข้าใจผิดตรงนี้ขึ้นได้ ทางรายการเขาก็ขอโทษ แต่ข่าวมันถูกแพร่กระจายไปมากมายแล้ว มันทำอะไรไม่ได้”

เผยเป็นคนถูกกระทำ สงสารครอบครัวสามีเพิ่งสูญเสียอากง ยังต้องมาช้ำเจอข่าวแบบนี้ ย้ำภาพลักษณ์สร้างมา 10 ปี ถูกทำลายเพราะยอดไลก์ยอดแชร์ 1 ครั้ง มันยุติธรรมแล้วเหรอ!

“ภาพเราเปลี่ยนไปเลยเหรอ คงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะยอมให้ผู้ชายคนไหนไปผิดศีล เพราะครอบครัวของนุ้ย เป็นครอบครัวที่ถือศีลห้า นุ้ยก็แค่รู้สึกว่าอยากวิงวอนคนที่ทำ ว่าเราเป็นผู้ถูกกระทำ เขาไม่รู้หรอกว่าช่วงอาทิตย์ที่ผ่านครอบครัวปอนด์ เขามีความเปราะบางทางจิตใจ เขาเพิ่งเสียอากงไป และพอทันมีเรื่องนี้มาอีก นุ้ยไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เจาทำเพื่อผลประโยชน์อะไรของเขาก็ตาม ว่า มันสร้างผลกระทบให้กับครอบครัวหนึ่งขนาดนั้น ถึงได้ถามกลับไปว่ามันเปลี่ยนภาพลักษณ์ของนุ้ยไปเลยเหรอ และภาพลักษณ์ที่นุ้ยสร้างมา 10 กว่าปี เขามาทำลายเพียง 1 ครั้งแค่ยอดไลก์ยอดแชร์ มันยุติธรรมกับนุ้ยเหรอ นุ้ยก็ได้แต่ทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนุ้ยก็หวังคนที่เข้าใจเราผิดเขาก็จะกลับมาเข้าใจเราเท่านั้นเอง

“นุ้ยว่าเราอยู่ตรงนี้ เราต้องสตรอง ทั้งครอบครัวนุ้ยและครอบครัวปอนด์ สำหรับครอบครัวนุ้ย คือโชคดีที่เราอยู่ตรงนี้มานาน เขาค่อนข้างที่จะเข้าใจ เขาผ่านอะไรกับเรามาค่อนข้างเยอะ และครอบครัวปอนแม้เขาจะอยู่ในช่วงการสูญเสีย แต่เขาก็เข้าใจว่าเราเหนื่อย เราทุ่มเทกับลูก แต่เขาก็ไม่คิดว่าการที่เราทุ่มเทกับลูกแล้วจะถูกแปลความหมายว่าเราไม่สนใจสามี แล้วก็เอาสามีออกมาขาย ซึ่งมันไม่ใช่ บางทีเขียนถึงนุ้ย นุ้ยไม่ว่านะ แต่อย่ามายุ่งกับหมูน้อยของนุ้ย ปอนด์เขาเป็นคนไม่คิดร้ายกับใคร อย่าไปทำร้ายเขา อย่าไปคิดว่าเขาเป็นคนซื้อกิน มันแค่เกิดจากการพูดหยอกเย้าขึ้นมา”

ย้ำไม่เคยคิดจะหย่า และไม่คิดเอาเรื่องบนเตียงมาปรึกษาในรายการ เป็นแค่จังหวะแซวเล่นกัน ยันสามีไม่เคยนอกลู่นอกทางไม่เคยซื้อกิน

“บอกเลยว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ต้องทำความเข้าใจว่าในยุคนี้การแข่งขันอาจจะสูง แต่เวลาอ่านข่าว อย่าอ่านแค่พาดหัวข่าว หรืออ่านเนื้อข่าวตรงนั้นก็ไม่ได้ แต่ต้องดูด้วยว่าดาราคนนั้นเขาอยู่วงการนี้มาเป็นยังไง และสิ่งที่นุ้ยจะเคลียร์ว่านุ้ยไม่เคยหย่ากับปอนด์ และการที่เราไปพูดในรายการคือทุกครอบครัวมีปัญหา แต่ไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงอะไรถึงจะหย่า อย่างแรกคือนุ้ยไม่คิดจะหย่า และไม่ได้คิดว่าจะเอาเรื่องบนเตียงมาปรึกษาในรายการอยู่แล้ว แต่มันเป็นจังหวะที่เราแค่พูดแซวเล่น อีกหนึ่งเรื่องการที่จะอนุญาตให้ปอนไปซื้อกินนั้น ปอนก็ไม่ได้พูด มันเป็นการแซวเล่นๆ เป็นอำสามีเล่นๆ ปอนไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น เขาไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง”

ถูกจับตากำลังป่องลูกคนที่ 2 บอกเวลาจะพิสูจน์ว่าไม่ได้ทำกิจกรรมบนเตียงเรื่องจริงหรืออำ

“เรื่องนี้เราต้องรอ ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งที่นุ้ยพูดเล่นในรายการเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ว่ากิจกรรมบนเตียงเราไม่ได้เอามาพูดซีเรียสอยู่แล้ว ทุกคนก็ต้องถือเคล็ดว่าทุกอย่างชัวร์แน่นอน ให้มันแน่นอน แต่ถามว่าอยู่ในแพลนว่าจะมีลูกคนที่สอง แต่ก็ต้องรอดู (อยากได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย?) ผู้หญิงเรามีแล้ว เราอยากได้ผู้ชาย เรื่องพุงอย่าโฟกัส เพราะก่อนหน้านี้ก็มีคนทักมาโดยตลอด เพราะคนมีลูกมาแล้ว ก็ยังมีการตกค้างมาจากคนแรก ทักมาตั้งแต่ลดาคลอดจนลดาขวบครึ่งก็ยังโดนทัก และถ้ามีความแน่ชัดก็จะแจ้งให้คนทราบอีกที”