Inside Dara
ก้าวแรกที่สดใสของนาเอกหน้าใหม่‘มิลลี่-นิกกี้’

เพิ่งออกอากาศไปสำหรับละครเรื่อง "บ้านศิลาแดง" ของค่าย "โพลีพลัส" ที่เปิดปรากฏการณ์ใหม่ให้ละคร "ฝาแฝด" โดยการนำพี่น้องฝาแฝดตัวจริงมาเปิดซิงขึ้นแท่นนางเอกน้องใหม่ หลายคนคงสงสัย และอยากรู้จักกับสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม อย่าง "มิลลี่" คามิลล่า และ "นิกกี้" นิโคล กิตติวัฒน์ สาวสวยลูกครึ่ง "ไทย-เยอรมัน" ประกบพระเอกสุดฮอต "วี" วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ และ "เติ้ล" ธนพล นิ่มทัยสุข วันนี้ "บันเทิง คมชัดลึก" จะพาไปรู้จักกับตัวตนของสองนางเอกสาวหน้าใสให้มากยิ่งขึ้น

ปรากฏการณ์นางเอก "ฝาแฝด"

เล่นละคร "บ้านศิลาแดง" บทบาทแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง

มิลลี่ : มิลลี่จะรับบทเป็น "พรเพ็ญ" คาแรกเตอร์จะเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน เรียบร้อย ยอมคนและเป็นคนอดทน

นิกกี้ : รับบทเป็น "เพ็ญพร" บทจะแตกต่างจากมิลลี่ เป็นคนที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก มีนิสัยออกแนวฝรั่งนิดหนึ่ง จะกล้าแสดงออก กล้าพูด สู้คนและไม่ยอมคน มีความตลกบ้าง ออกจะห้าวนิดหนึ่ง

ยากมั้ยกับการเล่นละครครั้งแรก

นิกกี้ : ยากเป็นบางครั้ง ต้องปรับตัวบ้าง และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปด้วย

มิลลี่ : ด้วยความที่เป็นละครเรื่องแรกของเรา ทำให้เราต้องเจอกับอะไรใหม่ๆ เจอบทที่เราไม่ชิน และไม่เคยทำ ก็ถือว่ายากนะ

อยากให้พูดถึงพระเอกทั้งสองคน อย่าง วี กับ เติ้ล ได้ร่วมงานกันเป็นอย่างไรบ้าง

นิกกี้ : นิกกี้จะเล่นคู่กับพี่วี พี่วีเป็นกันเองมาก ไม่ได้กดดันเรา ทำให้หนูรู้สึกสบายใจ ที่ได้เล่นกับพี่วี ถามว่าพี่วีแกล้งเยอะมั้ย มีแกล้งบ้าง ตลกๆ อย่างพี่วีรู้ว่าหนูเป็นคนพูดเร็ว จะแกล้งพูดเร็วตาม ทำให้หนูรวน ยิ่งพูดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมอีก

นิกกี้เจอวี ครั้งแรกเกร็งมั้ย

นิกกี้ : ช่วงแรกเกร็งมากเลย แต่พอได้ทำงานด้วยกันไปเรื่อยๆ พี่วีน่ารัก เป็นกันเองกับหนูมาก เลยทำให้ไม่รู้สึกเกร็งแล้ว

มิลลี่ : มิลลี่เล่นคู่กับพี่เติ้ล พี่เติ้ลจะคอยช่วยมิลลี่ตลอด เราไม่เคยเล่นละครมาก่อน ซึ่งเวลาเล่นละครจะต้องมีการสบตากับคนที่เราพูดด้วยบ่อยๆ แล้วมิลลี่จะเขิน เวลาที่กล้องต้องอินเสิร์ชหน้ามิลลี่ พี่เติ้ลจะคอยหลบให้ เพราะเขารู้ว่าเราเขิน ไม่กล้าสบตาเขานานๆ

ทำไมมิลลี่ ถึงไม่กล้าสบตากับเติ้ล

มิลลี่ : หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) คือมันรู้สึกเกร็งไปหมดเลย ยิ่งในละครต้องสบตากันนานมาก ทำให้หนูยิ่งเขิน ไม่ชินเลย แต่พี่เติ้ลช่วยเยอะมากเลย คอยบอกและสอนตลอด ช่วยแนะนำเรื่องมุมกล้อง เพราะเราจะไม่ชินกับการยืนหลบมุมกล้อง พี่เติ้ลจะช่วยบอกว่าให้ยืนตรงนี้นะ เพราะหนูจะเป็นคนเผลอยืนผิดเอง

สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับทั้งสองคน

นิกกี้ : สิ่งที่ยากที่สุด คือเรื่องการปลอมตัว ต้องปลอมตัวเป็นฝรั่ง (หัวเราะ) เราต้องพูดเป็นฝรั่งพูดไทยไม่ชัด ซึ่งความจริงหนูพูดไม่ชัดอยู่แล้ว แต่ต้องทำให้ไม่ชัดอีกแบบหนึ่ง รู้สึกว่ายากมาก หนูเครียดอยู่แล้ว แต่วันนั้นน้านิด (อรพรรณ วัชรพล) เข้ามาช่วยกำกับการแสดงด้วย ก็ผ่านไปด้วยดี บางทีเราก็กดดันตัวเอง เพราะว่าเราพูดไม่ค่อยชัด และพูดเร็วด้วย กดดันตรงเวลาเราตื่นเต้นจะยิ่งพูดเร็ว

มิลลี่ : ในเรื่องเราต้องโดนกระทำตลอด คงเป็นพวกซีนดราม่า โดนทำร้ายจิตใจ นักแสดงที่เล่นด้วยส่งอารมณ์มาแรงมาก เราต้องรับและส่งกลับไป แต่บางทีมันยาก และกดดันมาก ก่อนจะเล่นเราไม่รู้ว่าต้องทำยังไง มิลลี่เครียดมาก แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี

คาดหวังมากน้อยแค่ไหนกับละครเรื่องนี้

นิกกี้ : คาดหวังว่าอยากให้ออกมาดีที่สุด เท่าที่เราจะทำได้ เพราะว่าเราพยายามทำเต็มที่มากที่สุดแล้ว

มิลลี่ : เหมือนกันเลยนะ คาดหวังไว้ว่า แค่ขอให้มีคนชอบละครของเรา ดูแล้วสนุก แต่เราต้องเข้าใจว่า นี่เป็นละครเรื่องแรก ถ้าจะมีคนติชมเข้ามา เราโอเคและยอมรับได้ เพื่อจะเอามาปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นด้วย

ความเหมือนที่แตกต่าง

ชีวิตจริงมี มิลลี่ กับ นิกกี้ มีความคล้ายกับตัวละครหรือเปล่า

มิลลี่ : ไม่เหมือนทั้งหมด แต่มีความคล้าย เพราะเพ็ญพร ก็เหมาะกับนิกกี้ ส่วน พรเพ็ญ ก็เหมาะกับมิลลี่ ตัวจริงเท่าที่คนเห็น จะบอกว่ามิลลี่จะเรียบร้อยกว่า ส่วนนิกกี้จะซนกว่า

นิกกี้ : นิกกี้จะชอบเล่นกับเพื่อน ชอบอยู่กับเพื่อน ทำตลกๆ กับเพื่อน แต่มิลลี่จะนิ่งๆ เงียบๆ บ้าง

ใครเป็นพี่ ใครเป็นน้อง

มิลลี่ : มิลลี่เป็นพี่ นิกกี้เป็นน้อง

นิกกี้ : เราเกิดห่างกัน 9 นาที

เพื่อนๆ มีการดูเราออกยังไง เพราะมิลลี่ กับ นิกกี้ เหมือนกัน

นิกกี้ : เพื่อนๆ แยกออกทุกคนเลย ถ้าดูดีๆ หน้าเราจะไม่เหมือนกันเลย อย่างในกองถ่ายก็แยกกันออกนะ

มิลลี่ : แต่ถ้าคนเจอแรกๆ จะพูดว่าเราเหมือนกัน แต่ถ้าอยู่ด้วยกันสักพักจะแยกออกเลย

โอกาสสำคัญ

รู้สึกอย่างไรที่เป็นนางเอก "ฝาแฝด" ที่มาเล่นละคร

นิกกี้ : นิกกี้รู้สึกดีใจนะ เราได้รับโอกาสได้เป็นนางเอก และเล่นละครฝาแฝดด้วย มันอธิบายไม่ถูก บางคนกว่าจะมาเป็นนางเอกก็ยาก แต่เราได้รับโอกาสนี้ต้องขอบคุณมาก

มิลลี่ : เป็นความรู้สึกที่ดีมาก เราไม่เคยมีผลงานมาก่อน แต่ผู้ใหญ่ไว้วางใจ เราต้องขอบคุณน้านิด (อรพรรณ วัชรพล) ด้วยที่ให้บทแบบนี้กับเรามา

เคยคิดมาก่อนมั้ยว่า จะได้มาเล่นละคร

นิกกี้ : ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเล่นละคร ได้เป็นนางเอกเรื่องแรก แต่ก็ชอบการแสดงมาก เพราะในชีวิตจริง เราคงไม่ได้มาทำอะไรแบบนี้ ได้ประสบการณ์และสนุกมาก ทุกคนในกองนิสัยดีหมดเลย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ที่เล่นละครเรื่องแรก แล้วได้มาเจอกองถ่ายน่ารักแบบนี้

มิลลี่ : มิลลี่คิดว่าเป็นอะไรที่สุกมาก แต่ช่วงแรกเรากังวลว่าจะทำได้มั้ย แต่พอเราได้มาทำจริงๆ ไม่มีวันไหน ที่มิลลี่รู้สึกเบื่อ หรือคิดว่าไม่อยากเล่นแล้ว มันไม่มีเลย แอบใจหายด้วยซ้ำไปที่ละครใกล้จะปิดกล้องแล้ว เหมือนเราแอบผูกพันกับคนในกองถ่าย ไม่ว่าจะเป็นช่างผม ช่างไฟ ผู้กำกับ

ครอบครัวรู้สึกอย่างไรบ้างกับละครเรื่องแรก

มิลลี่ : คุณแม่ก็โอเคนะ แต่อาจจะคอยติว่าตรงไหนยังทำไม่ดี

นิกกี้ : ครอบครัวจะเห่อมาก เพราะเป็นละครเรื่องแรกของหลาน ป้าๆ จะตื่นเต้น เวลาเราเห็นตัวเองในทีวีก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน เพราะเราไม่เคยเห็นแบบนี้

เรื่องสัญญา เห็นว่าแต่ละคนเซ็นคนละสังกัด

นิกกี้ : นิกกี้จะเซ็นกับโพลีพลัส

มิลลี่ : มิลลี่เซ็นกับช่อง 7

ทำไมผู้ใหญ่ถึงจับเราเซ็นสัญญาคนละที่

นิกกี้ : เหมือนเราเซ็นสัญญาแยกกันมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะตอนแรกนิกกี้ไม่ได้เซ็นกับช่อง 7 แต่นิกกี้ได้ไปเซ็นกับน้านิด

มิลลี่ : มิลลี่ไปแคสติ้งนักแสดงของช่อง 7 แล้วได้ เลยมีการเซ็นสัญญากับทางช่อง 7 ซึ่งนิกกี้ไม่ได้ไปแคสด้วย

"แม่แต้ม" รุ่งนภา กิตติวัฒน์ เป็นนางแบบทำงานในวงการมาก่อน แนะนำอะไรบ้างไหม

นิกกี้ : คุณแม่เคยเล่นละครมาบ้าง จะแนะนำว่า อารมณ์ต้องเป็นยังไง มีบอกเหมือนกันว่าเราเล่นละครเสียงแข็งไปนะ

มิลลี่ : คุณแม่จะสอนเรื่องการวางตัว บอกว่าเวลาเจอผู้ใหญ่ต้องไหว้ ให้ไหว้ทุกคน และต้องรู้จักกาลเทศะ

ชีวิตวัยเรียน

มิลลี่กับนิกกี้เป็นลูกครึ่งเยอรมัน ได้รับวัฒนธรรมทั้ง 2 แบบ

นิกกี้ : คือรับวัฒนธรรมทั้งสองแบบก็จริง แต่เวลาเจอใคร จะได้ยินคนพูดว่า นิกกี้กับมิลลี่ไทยมาก แต่ถ้าดูภายนอกอาจจะมีความเป็นฝรั่ง แต่ส่วนใหญ่คนจะบอกว่าพวกเราไทยมาก

มิลลี่ : ถ้าเทียบกับคนที่เป็นฝรั่งจริงๆ ก็ถือว่าเราไทยมาก อาจเป็นเพราะว่าเราเรียนโรงเรียนไทยมาตั้งแต่เด็ก แค่เกิดที่เมืองนอก คือที่ฮ่องกง และอยู่จนถึง 7 ขวบ ก่อนจะย้ายมาอยู่เมืองไทย

ทั้งสองคนเรียนโรงเรียนอินเตอร์หรือเปล่า

มิลลี่ : เคยเรียนตอนอนุบาล แต่ตอนเข้า ป.1 ก็เรียนโรงเรียนปกติ เรียนที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

นิกกี้ : ตอนอยู่บ้านก็จะพูดภาษาอังกฤษ แต่อยู่กับเพื่อนก็พูดภาษาไทย

เรียนที่วัฒนาวิทยาลัย แสดงว่าได้อยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่เด็ก

นิกกี้ : ใช่ อยู่จนจบ ม.6 เลย

มิลลี่ : ตอนนี้เราเพิ่งขึ้นมหาวิทยาลัย อยู่ปี 1 เรียกว่าต้องปรับอะไรหลายอย่างในชีวิต เพราะปกติเราอยู่โรงเรียนประจำ ที่วัฒนาจะไม่ให้ใช้เครื่องมือติดต่อสื่อสาร ชีวิตจะเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่มิลลี่ชอบนะ ถือว่าวัฒนาเป็นโรงเรียนที่ดี

ต้องมีกรอบมั้ยอยู่โรงเรียนประจำ

นิกกี้ : มีนะ แต่เป็นกรอบที่โอเค ทำให้เรารู้ว่าถ้าเราไปอยู่ในโลกภายนอกต้องวางตัวยังไง สอนให้เราสามารถอยู่คนเดียว และปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ และเพื่อนที่วัฒนาถือว่า เราสนิทกันมาก เป็นเพื่อนที่หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว

มิลลี่ : คุณแม่ก็อยากให้เรียนโรงเรียนประจำ เหมือนอยากให้เราไปฝึกระเบียบวินัยด้วย เราเรียนที่วัฒนาตั้งแต่ ป.1 จนถึง ม.6 ก็จริง แต่ใช้ชีวิตอยู่โรงเรียนประจำที่นั่น แค่ตอน ม.1 ถึง ม.6 ซึ่งก็ถือว่านานมากนะ ใช้ชีวิติอยู่โรงเรียนประจำ 6 ปี เรียกว่าอยู่โรงเรียนมากกว่าที่บ้านอีก

ค้นหัวใจสองสาว

มิลลี่กับนิกกี้มีความรักกันบ้างหรือยัง

มิลลี่ : ตอนนี้ยังไม่มีใครเลย สาบานได้ (ยิ้ม) เพราะว่าเราอยู่โรงเรียนประจำมา 6 ปี และเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยเอง

นิกกี้ : ไม่มีเหมือนกัน เพราะในโรงเรียนก็เป็นโรงเรียนหญิงล้วนด้วย ไม่ได้เจอใครเลย จบมาเราก็ต้องมาเล่นละครอีก ไม่ค่อยมีเวลา ส่วนใหญ่จะอยู่กับเพื่อนๆ มีเวลาว่างก็อยากไปเจอเพื่อนแล้ว

สเปกผู้ชายในฝันเป็นแบบไหน

นิกกี้ : คือนิกกี้ชอบจัสติน บีเบอร์ เรียกว่าบ้าจัสตินมาก

มิลลี่ : เอาจริงๆ มิลลี่ไม่ค่อยมีสเปก แต่ถ้ามีผู้ชายที่เราคิดว่าหล่อ จะเป็นดาราฝรั่งที่เราคิดว่าเขาหล่อดี หรือดาราไทยก็มีบ้าง แต่ไม่มีสเปกจริงๆ ว่าเป็นยังไง ถ้าใครคุยมาแล้วเป็นคนดี ก็คงโอเค ขึ้นอยู่กับว่าเราเข้ากับเขาได้มั้ย หรือเราชอบเขาหรือเปล่า

สองสาวใหม่แกะกล่อง น่ารัก สดใส สมวัย จริงๆ จ้า

ชื่อ : คามิลล่า (พี่) - นิโคล (น้อง) กิตติวัฒน์

ชื่อเล่น : มิลลี่-นิกกี้

เกิด : 22 กันยายน 2538

การศึกษา : อนุบาลที่ฮ่องกง ประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (bas) British American Studies

ผลงานที่ผ่านมา : โฆษณาแสนสิริ The Base Phuket ถ่ายนิตยสาร แพรว, ดิฉัน, อิมเมจ, Cheeze, Volume ฯลฯ

ผลงานปัจจุบัน : ละคร บ้านศิลาแดง