Inside Dara
‘หมาก-คิม’เคียงข้างฝ่าอุปสรรคด้วยรักและผูกพันรับวันวาเลนไทน์

นับเป็นคู่รักที่ถูกจับตามองมากที่สุด สำหรับคู่ของ "หมาก-ปริญ สุภารัตน์" กับ "คิม-คิมเบอร์ลี่ แอน โวเทมัส" เหตุทั้งคู่ต้องเผชิญกับมรสุมข่าวถาโถมอย่างหนักหน่วง ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ในการเปิดเผยความสัมพันธ์ ดังนั้นเพื่อให้เข้ากับเทศกาลแห่งความรักในครั้งนี้ ทางหน้าบันเทิง นสพ. "คมชัดลึก" เลยต้องพาทั้งคู่มาเปิดเผยถึงมุมมองความรักที่มีต่อกัน รวมไปถึงการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ในวันที่ต่างฝ่ายต่างพบเจอปัญหาและอุปสรรคมาพร้อมๆ กัน และถามไถ่ถึงอนาคตด้วยว่าวางแผนกันไปถึงไหนแล้ว

จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์
ความประทับใจที่มีต่อกันและกัน

คิม : คิดว่าความประทับใจมันค่อยๆ มานะ (ยิ้ม) เราอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่ที่เรายังไม่โต แล้วเราก็ค่อยๆ โตมาเป็นผู้ใหญ่ เราก็รู้ว่าเส้นทางในวงการบันเทิงนี้ เรามีเขามากกว่าครึ่งเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าเราถ่ายละครกับเขามา 5 เรื่องแล้วนะ (หัวเราะ) ซึ่งเราก็จะเจอกันทุกปี 5 ปีซ้อน คิมรู้ว่าปัญหาอะไรก็โดนไปด้วยกัน เขาทำอะไร เราก็โดนลากมาด้วย แม้แต่ว่าเราทำอะไรผิด เขาก็โดนลากมาด้วย (หัวเราะ) ซึ่งบางครั้ง มันก็ไม่เกี่ยวกับเขา แต่เขาก็โดนด้วย เราสองคนก็เลยต้องเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน จนมันกลายเป็นความผูกพัน แล้วเขาก็โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ด้วย คุยกันรู้เรื่องมากขึ้นด้วย

หมาก : คงเริ่มจากความสนิท เราเล่นละครเรื่องแรกด้วยกัน ตอนนั้นไม่ได้คุยอะไรกันมาก พอมาเรื่องที่สองที่สามที่เล่นคู่กัน ทำให้เราได้รู้จักกันเพิ่มขึ้นทีละทีละนิด และช่วงเวลาทำให้เราเรียนรู้กันมากขึ้น ทำให้เราได้พูดคุยกันมาจนถึงวันนี้ ซึ่งวันนี้เรียกว่าเขาเป็นผู้หญิงคนเดียว ที่ผมสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง

เป็นคู่ที่ผ่านเรื่องต่างๆ มาด้วยกันเยอะมาก

คิม : คิมไม่ได้กดดันเลย ที่ความรักของเราจะถูกจับตามอง เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่มาคู่กันอยู่แล้ว และคิมเองก็ทำใจไว้ได้อยู่แล้ว และนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนจับตามอง ต้องบอกว่าคิมไม่ค่อยใส่ใจอะไรที่เป็นข่าว เพราะเรารู้ตัวเราดีสุด อะไรที่เป็นลบ แล้วเราจะไปอ่านทำไม อะไรที่คนนั้นคนนี้พูดถึงเรา คิมเชื่อว่าสักวันพวกเขาก็จะรู้ว่าเราเป็นอย่างไรนะ ตัวตนที่แท้จริง เราพูดอะไรไม่ได้อยู่แล้ว รอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเอง ถึงจะบอกว่าไม่เครียด แต่มันก็มีบ้างนะ (ยิ้ม) มันก็มีนิดหนึ่งแหละ เราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งนะ แต่ว่าเมื่อมันไม่ใช่ความจริง แล้วมันก็จะหายไปเอง

หมาก : เราเจอเรื่องต่างๆ มากมายมาด้วยกัน มันทำให้ผมเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของเรามาก และเป็นอะไรที่สำคัญมากจริงๆ นะ เพราะถ้าพูดกันตรงๆ ช่วงเวลาที่เราผ่านด้วยกันมา เป็นช่วงเวลาที่เจอแต่เรื่องหนักๆ ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เป็นช่วงที่สอนอะไรเราเยอะมาก และช่วงเวลานั้น ผมมีเขาคอยอยู่ข้างๆ คอยเป็นกำลังใจ คอยปลอบใจ คอยให้คำปรึกษา ช่วงเวลานั้นเหมือนเป็นบทพิสูจน์อีกอย่าง มันทำให้เราเห็นค่าความสัมพันธ์ของกันและกัน และผมอยากจะรักษาความสัมพันธ์แบบนี้ไว้ให้นานๆ และให้นานที่สุด

เรื่องลับๆ หรือความโก๊ะของอีกฝ่ายที่คนอื่นไม่รู้

คิม: (หัวเราะ) มีนะเยอะแยะไปหมดเลย (นึก) คิดไม่ออกเลยจริงๆ นะ ที่สามารถพูดออกสื่อได้ มันมีแต่เรื่องอุบาทว์ๆ นะ (หัวเราะ) ถ้าเล่าเสียภาพไปเลยแน่ๆ แต่ความโก๊ะของเขาคือ เขาเป็นคนที่พูดไปเรื่อย (หัวเราะ) คิดอะไรออกก็พูดออกมา คิมจะถามบ่อยมาก ที่พูดมาเพื่ออะไรเนี่ย (หัวเราะ) เขาชอบเป็นแบบนี้

หมาก : คิมเป็นคนแสบมาก แสบกว่าผมอีกบอกเลย และก็เป็นคนขี้บ่นมาก บ่นนั่นบ่นนี่ บ่นจุกจิก บ่นให้เรารำคาญ คือเขาแค่อยากที่จะได้ยินเราให้กำลังใจ ว่าไม่เป็นไร ทุกอย่างผ่านไปแล้ว หรือบางทีก็แค่อยากชวนหาเรื่อง คือเราสองคนเป็นประเภทลิ้นกับฟันมากกว่า ชอบทะเลาะกัน เหน็บๆ แหย่ๆ กัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบที่ว่าต้องการกำลังใจมากกว่า เพราะเรื่องที่เขาบ่นก็จะเป็นเรื่องชีวิตประจำวันที่เจอมา

สองคนนี้ใครโรแมนติกมากกว่ากัน

คิม: คิมว่าน่าจะเป็นคิมมากกว่านะ ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชายด้วยนะ คือเขาผู้ชาย ผู้ชาย แมนดิบ ไม่ค่อยคิดอะไร จำอะไรไม่ค่อยจะได้ (เน้นเสียง) แต่ว่าเขาเป็นผู้ชาย ไม่เคยเห็นเขาโรแมนติกตอนไหนนะ ส่วนที่เขาทำเซอร์ไพรส์สั่งดอกไม้มาจัดให้ในงานวันเกิด เรียกว่าเซอร์ไพรส์แหละ จริงๆ ไม่ใช่เขานะที่เป็นคนมาบอกให้ออกไปดูข้างนอก แต่เป็นพี่สาวของคิมแทน ที่เรียกคิมออกไปดูข้างนอก คิมเดินไปดู โอ้ สวยมากเลย แล้วทุกคนก็บอกว่า พี่หมากทำให้ เป็นคนจ้างมาแต่งให้ คิมก็อ๋อเหรอ ส่วนพี่ หมาก ก็พยักหน้ารับเฉยๆ แค่นี้ แต่สิ่งที่ทำให้มันก็ดูโรแมนติกนะ เพราะเขาไม่ใช่คนที่โรแมนติกเลย เขาเป็นคนขี้อาย ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ซีนแบบนี้จากเขา ถึงบอกว่าคิมจะโรแมนติกกว่า แต่ก็ยังไม่มีซีนทำให้เขาเลย (หัวเราะ)

กับวาเลนไทน์นี้ล่ะ มีแผนการอย่างไรบ้าง

คิม : ยังไม่รู้จะอย่างไรเลยนะ (หัวเราะ) ไม่รู้เลย เพราะว่าทำงานทุกวัน ถ่ายละครทุกวันเลย ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอนะ เจอกันน้อยลง ถึงเจอกันน้อยลง แต่เราไม่ค่อยทะเลาะกันนะ เพราะว่าถึงจะทำงาน แต่เราก็มีเวลาถามไถ่ ซึ่งกันและกันนะ ทานข้าวหรือยัง เราก็คุยกันเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ว่าไม่จำเป็นต้องเจอก็ได้

หมาก : ตอนนี้ไม่มีนะ แต่เราได้หยุดวันวาเลนไทน์ด้วยกัน ก็อาจจะได้ไปทำอะไรด้วยกันสักอย่าง

สรุปความสัมพันธ์
ถ้าให้จำกัดความ สถานะของ "หมาก-คิม" ในตอนนี้เรียกว่าอะไร

คิม: เราเป็นเพื่อนกันมานานมากแล้ว และถ้าวันหนึ่งมันไม่ใช่ เขาไปเจอคนที่ใช่ เราเองก็เหมือนกัน เราก็ยังอยากเป็นเพื่อนกัน คงยังใช้คำว่ากำลังศึกษาดูใจกันอยู่แหละ(หัวเราะ) จริงๆ เราก็บอกความจริง เท่าที่เราพูดได้ ไม่เกี่ยวกับข่าวที่ผ่านมา แค่ไม่อยากเปิดขนาดนั้น ทุกอย่างมันชัดเจนที่การกระทำ ความสัมพันธ์แบบนี้ เขาเหมือนเป็นพี่ชาย เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด เราสามารถระบายอะไรก็ได้ แล้วก็เหมือนเป็นคนในครอบครัวของเรา

หมาก : สำหรับผม สถานะของคิมเรียกว่าคนสำคัญ คนพิเศษที่สุดในตอนนี้ (เขิน)

ในมุมมองของคิมกับผู้ชายคนนี้ ที่รู้จักกันมา 5 ปี

คิม: เขาโตขึ้นมาเยอะมาก คงเป็นเพราะช่วงชีวิตที่เขาเจอมรสุมอะไรมากมายเข้ามาใช้ชีวิต คิดอะไรได้มากกว่าที่คิด เมื่อก่อนอะไรก็ตามที่เขามากระแทกจิตใจเขา เขาก็จะออกมาเลย ไม่ไตร่ตรองก่อน ว่าอะไรควรหรือไม่ควร ตอนนี้เขาคิดมากขึ้น คิมก็จะบอกเขานะ เราก็ต้องช่วยๆ กัน ไม่ใช่ว่าเราเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น เรายังต้องการให้มีคนมาบอกมาเตือนเรา ซึ่งเขาทำหน้าที่ของเขาได้ดีเลยนะ เขาโตขึ้นเรื่อยๆ

อะไรที่ทำให้ "คิม" พิเศษกว่าคนอื่นในความรู้สึกของหมาก

หมาก : ผมว่ามันเป็นเรื่องของระยะเวลาที่เรารู้จักกัน และเราได้เจออะไรมาพร้อมๆ กัน เจอเหตุการณ์อะไรต่างๆ มาพร้อมกัน เจอกระแสทั้งร้ายทั้งดีมาด้วยกัน ซึ่งเราก็ช่วยพาและประคับประคองกันไปจนมาถึงวันนี้ เราผ่านอะไรมาด้วยกัน เวลาอยู่กับคิม ผมไม่ต้องคิดอะไรเลย แค่ว่าอยู่กับเขาแล้วเห็นเขายิ้ม เราก็สบายใจอย่างบอกไม่ถูกแล้ว และถ้าเวลาที่เราทำให้เขาเสียใจ มันทำให้เรารู้สึกแย่กว่า เวลาเราเสียใจเองอีก

อนาคตต่อจากนี้
มองอนาคตในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไว้อย่างไง

คิม : ตอนนี้มันก็โอเคนะ เพราะว่าเรายังต้องทำอะไรเยอะมาก อย่างเช่น ต่างคนก็ต่างเรียนอยู่ งานก็เยอะมากมายที่ต้องทำ ให้มันเป็นไปแบบนี้ไปก่อน คู่เราไม่คาดหวัง เราไม่รู้หรอกว่าอนาคตมันจะเป็นอย่างไรต่อไป

หมาก : เอาจริงๆ ผมยังไม่ได้มองอนาคตไว้มากเท่าไหร่ แต่แค่ผมคิดว่า ถ้าอนาคตเราเจอปัญหาอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นปัญหากับคนอื่น หรือเราสองคนมีปัญหาด้วยกันเอง เราก็จะมองย้อนกลับไปว่า ก่อนหน้านี้เราเจอปัญหาอะไรด้วยกันมาบ้าง และเราผ่านมาด้วยการ มีกันและอยู่ข้างๆ กันอย่างไร ถามว่าถ้าอนาคตมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดไว้ แต่ผมไม่เสียใจเลย เพราะวันนี้ผมให้ความรู้สึกกับเขาเต็มที่แล้วมากๆ และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ

ในวันนี้เรียกว่า "หมาก-คิม" เป็นคนที่ใช่ของกันและกันได้ไหม

คิม: (นึก) ก็น่าจะใช่นะ ถ้าพูดถึงตอนนี้ แต่ว่าในอนาคตมันอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ คิมไม่รู้จริงๆ เพราะว่าถ้าพูดถึงวินาทีนี้ก็ใช่นะ มันก็น่าจะมาจากความผูกพัน ทุกครั้งที่เรามีปัญหา เขาเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เรา และทุกครั้งที่เกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ เหมือนมีเขาอยู่ด้วยตลอด เขาเป็นกำลังใจที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา

หมาก: เรียกว่าใช่สิ แต่ผมไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม มันเป็นความรู้สึก มันเป็นทุกอย่าง

การที่มี "คิม" อยู่ข้างๆ มีความสุขแค่ไหน

หมาก : ถ้าคะแนนเต็ม 10 ผมก็ให้ 10 อะ (ยิ้มเขิน) มีความสุขมาก แค่นั้นแหละ

การันตีว่าอ่านจบ หลายคนคงนอนจิกหมอนในความหวาน!!