Inside Dara
‘นุ่น’ใช้ชีวิตให้มีความสุข สนุกกับการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ :

ตอนนี้กลายเป็นนางเอกเนื้อหอม หลังจบละครดราม่าทางช่อง 7 เรื่อง “เพลิงเสน่หา” สาวมากฝีมือ ‘นุ่น’ วรนุช ภิรมย์ภักดี ก็มีละครต่อเนื่องเรื่อง “เกมรักเอาคืน” ทางช่อง GMM 25 ทันที

โดยได้ร่วมงานกับนักแสดงที่ไม่เคยประฝีมือ มาก่อน อย่างหนุ่ม ‘บีม’ กวี ตันจรารักษ์ และสาว ‘แพท’ ณปภา ตันตระกูล พร้อมพระเอกใหม่ ‘จอส’ เวอาห์ แสงเงิน

★ เรื่องนี้ถูกใจอะไรถึงรับเล่น?

นุ่น – “นุ่นรู้สึกโครงเรื่องสนุกดี บวกกับไม่ได้รับละครยาวมาเกือบ 2 ปี ที่หายไปนานเพราะยังไม่มีเรื่องไหนที่อยากเล่น แต่เรื่องนี้อ่านแล้วสนุก อยากเล่น ดูสนุกและมีความสมัยใหม่”

★ เท่าที่เห็นบทเรื่องนี้แซ่บมาก?

นุ่น – “สำหรับนุ่นไม่ใช่ละครแซ่บ มันเป็นละครความรู้สึก ละครความรัก คนอื่นอาจมองไม่เหมือนนุ่น ในฐานะที่เล่นเรารู้สึกว่าไม่ใช่ละครแซ่บ แต่ด้วยบทบาทอาชีพทำให้คนรู้สึกว่ามันแซ่บ ซึ่งอาชีพของพระเอกเป็นเด็กไซด์ไลน์ อาจจะไม่มีใครเอามาเล่น เลยรู้สึกว่าแซ่บ กับเรื่องนี้นักแสดงทุกคนไม่เคยร่วมงานด้วยกันมาก่อนเลย ยกเว้นผู้กำกับฯ คือ ป้าโอ๋ (กฤษฎา เตชะนิโลบล) ส่วนกับพี่บีมไม่เคยร่วมงานเลย กับจอสเองถือว่าเป็นน้องใหม่มากๆ กับแพท-ณปภา ก็ไม่เคยร่วมงานกัน เวลาที่เราได้ทำงานในที่ใหม่ๆ กับเพื่อนใหม่ๆ ก็ได้อะไรใหม่ๆ การเรียนรู้ของเราไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้ถ่ายทำยังไม่ถึง 3 เดือนเลยค่ะ คือนุ่นต้องรอให้ปิดละครของช่อง 7 (เพลิงเสน่หา) ก่อน ถึงจะมาถ่ายเรื่องนี้ เพราะมันเป็นคิวเดียวกัน”

★ เจอพระเอกน้องใหม่อีกแล้ว เด็กที่สุดไหม?

นุ่น – “โดนัท-ภัทรพลฒ์ อายุ 20 ตอนที่ถ่ายเพลิงเสน่หานะ ส่วนจอสอายุ 25 แต่ก็เด็กกว่านุ่นเยอะ เกินรอบ (หัวเราะ) เป็นปกติ ด้วยคาแร็กเตอร์เขาต้องเป็นเด็กด้วย มันไม่ต้องทำอะไรมากมาย เขาเองก็รู้หน้าที่ของเขา ป้าโอ๋คอยบอกว่าตัวละครต้องการอะไร แต่ตัวเขาจะยากนิดหนึ่ง เพราะตัวละครมันไกลตัวเขามากๆ”

★ ในฐานะรุ่นพี่เราได้เทรนอะไรน้องบ้าง เพราะต้องเข้าฉากกับเขาบ่อย?

นุ่น – “เรื่องเทรนคงไม่ได้เทรนอะไรมาก ให้ความคุ้นเคยกับเขาดีกว่า เขาจะได้ไม่เกร็งเรา ชวนคุยชวนเล่น เพื่อให้เขารู้สึกว่าเราไม่ได้ดุ กับทุกๆ คนนุ่นก็จะใช้วิธีนี้ ซึ่งเวลาเล่นกับนุ่น จอสเขาก็เกร็ง อย่างเวลาฉากเลิฟซีน นุ่นอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงหัวใจเต้นตึกๆ (หัวเราะ) แต่ไม่ได้แซวเขาตอนนั้น แต่ก็ได้ยินอยู่ข้างๆ บทเขายากแล้วก็ยาว คือทุกคนเลย บทยากหมดเลย”

★ รับบทเจ๊ดันอีกแล้ว?

นุ่น – “ครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็นเด็กใหม่มาก่อน นุ่นมองว่าเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีแบบนี้ คือเราต้องยอมรับว่าตอนนี้โลกมันเปลี่ยน อะไรต่างๆ ก็เปลี่ยน นุ่นยังรู้สึกว่าโชคดีที่ยังมีงานให้ได้เล่น ได้รับอยู่ ต้องบอกว่าตั้งแต่เราแต่งงานก็ตีศูนย์ไปแล้วแหละ โชคดียังมีงานละคร ยังมีบทใหม่ๆ แล้วเหมือนวงการบันเทิงก็เปิดรับอะไรใหม่ๆ มากขึ้นด้วย ก็เลยทำให้เราสนุก มันก็รู้สึกว่ายังมีที่ยืนให้เรา”

★ กับแพท-ณปภา ล่ะ อันนี้ต้องประชันบทบาทกันพอสมควร?

นุ่น – “ไม่เคยร่วมงานด้วยเลย แต่ก็เห็นผลงานของเขา เขาเป็นคนเล่นละครเก่งอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง คือทุกคนมาถึงก็สวมบทบาทของตัวเอง แล้วน้องแพทก็ต้องเลี้ยง เรซซิ่งด้วย เขาก็เอาน้องมาเลี้ยงที่กอง ทุกคนตั้งใจทำงาน แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องชีวิต บทยาวมาก ทุกคนต้องมีสมาธิ ส่วนกับพี่บีมเล่นด้วยไม่ยาก เพราะเขาส่งอารมณ์มาให้เราเยอะเหมือนกัน เวลาที่จะเล่นฉากหนักๆ เราก็จะจับมือกันสร้างกำลังใจให้กัน”

★ หลังๆ คนมองว่านุ่นยอมเล่นเลิฟซีนที่หนักขึ้น?

นุ่น – “ไม่หนักนะ แต่ด้วยภาพอาจจะดูเป็นอย่างนั้น ก็จะบอกหลายๆ คนว่าอยากให้โฟกัสเรื่องการแสดง เรื่องราวของตัวละคร พอทีเซอร์ออกมาทุกคนก็จะบอกโอ้โห! ทำไมเรื่องนี้จูบขนาดนี้ เราก็บอกว่าเดี๋ยวๆ สต๊อป แล้วก็เพลย์นะ แล้วก็กด แล้วก็ฟิต แล้วก็อ่ะดู (หัวเราะ) คือภาพที่ออกมาแบบนั้นต้องยกความดีให้ป้าโอ๋ ผู้กำกับฯ และตากล้องที่เขาช่วยดู คือบางทีมันไม่ต้องเล่นอะไรเยอะแยะ มันก็ทำให้ผู้ชมสนุกได้ และรู้สึกมีส่วนร่วมไปกับละครได้ ต้องบอกว่าผู้กำกับฯ เขาเก่ง พี่โอ๋เขาอยากเล่นเองกับจอส (หัวเราะ)”

★ คนจับตาในเรื่องเลิฟซีน เรื่องนี้เยอะไหม?

นุ่น – “ไม่เยอะ แต่เป็นฉากที่อยู่ด้วยกัน คนดูดูแล้วจะรู้สึกยิ้มๆ แต่จะจิ้นมั้ยอันนี้นุ่นตอบไม่ได้ ต้องให้คนดูเป็นคนตัดสิน”

★ นอกจากเรื่องนี้มีถ่ายเรื่องอะไรอีก?

นุ่น – “มีของพีพีทีวี เรื่อง วุ่นรักนักข่าว อันนั้นก็ใกล้ปิดกล้องแล้ว คือตอนนี้ทำงาน 5 วัน”

★ ช่วงหลังไม่ค่อยเห็นรับละคร 2 เรื่องพร้อมกัน?

นุ่น – “มันเป็นจังหวะค่ะ พอดีวุ่นรักนักข่าว ของพีพีทีวี ตอนแรกนุ่นบอกไม่มีคิว เพราะปกตินุ่นไม่รับงานเสาร์อาทิตย์ ก็ให้คิวได้แค่พฤหัสบดีกับศุกร์ ถ้าทางกองโอเคเราก็โอเค เพราะเรื่องนั้นไม่ได้เป็นดราม่าหนัก เป็น ผู้ประกาศข่าว เล่นคู่กับพี่แอนดริว (เกร้กสัน) ซึ่งเรื่องนี้นักแสดงงานเยอะกันหมดทุกคน”

★ นานๆ รับที แต่ก็มาพร้อมกันหลายเรื่องเลย?

นุ่น – “มันชอบมาแบบนี้ ไม่รู้จะทำยังไง มันเป็นจังหวะ อย่างเรื่องศรีอโยธยา 2 ของทรูโฟร์ยู จริงๆ ถ่ายจบนานมากแล้วก็มาออนตอนนี้ แล้วออนพร้อมกัน จันทร์-อังคาร ทั้ง 3 ช่อง แต่อย่างที่บอกนุ่นดูที่บทเป็นอย่างแรก เราเป็นนักแสดงอิสระก็อยากเล่นอะไรที่อยากเล่นจริงๆ แต่พอจบ 2 เรื่องนี้แล้ว ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องไหนต่อ เพิ่งปฏิเสธไป 2-3 เรื่อง”

★ เตรียมจะพักผ่อนที่ไหนไหม หลังปิดกล้อง?

นุ่น – “ไปค่ะ ตอนนี้ต้องการพลังมาก ต้องชาร์จ จะไปลี่เจียง ประเทศจีน ตอนแรกละครจะปิดกล้องเดือนพ.ย. แต่อาจจะเลยไปบ้าง ก็วางแพลนเที่ยวไว้แล้ว เราก็บอกว่าไม่รู้นะ จะไปแล้วเดี๋ยวจะกลับมาถ่ายต่อ คือที่เลือกไป ลี่เจียงเพราะเคยไปมาแล้วครั้งนึง เป็นหน้าร้อน แต่ครั้งนี้อยากไปหน้าหนาว ไปธรรมชาติเลย ไม่มีช็อปปิ้ง คือนุ่นวางแผนไว้ว่าเราจะมีเที่ยวประจำปีเป็นทุกเดือนกุมภาพันธ์ แต่อันนี้จะเป็นไปๆ มาๆ แล้วแต่จังหวะค่ะ”

★ เวลาที่มีคนคาดหวังกับงานแสดงเรากดดันไหม?

นุ่น – “ไม่เลย จะดีหรือไม่ดีอะไรยังไงอยากให้คนดูเป็นคนตัดสิน แต่เราก็ทำให้ออกมาดีที่สุด รับผิดชอบในสิ่งที่เราทำ คืองานมันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำอยู่แล้ว และมันก็มีหลากหลายองค์ประกอบที่ทำให้ละครเรื่องนึงประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่เราคนเดียว”

★ วางแผนกับงานในวงการไว้อย่างไรบ้าง?

นุ่น – “นุ่นตอบไกลๆ ไม่ได้เลย เพราะนุ่นไม่เคยวางแผนอะไรไกลขนาดนั้น ถ้ายังมีคนมองเห็นเราอยู่ และมีบทดีๆ ให้เราเล่นก็ยังเล่นอยู่ แค่นั้นเอง นุ่นยังสนุกกับการเล่นละคร ยังสนุกกับการทำงาน ยังสนุกกับการมีบทใหม่ๆ ได้เจอคน ได้ทำงานกับคนใหม่ๆ มันก็เหมือนกับการที่เราได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ใหม่ๆ ค่ะ”

★ อยากลองงานเบื้องหลัง อย่างผู้จัด หรือผู้กำกับฯ หรือไม่ก็แอ๊กติ้งโค้ชไหม?

นุ่น – “เป็นไม่ได้หรอก เพราะนุ่นไม่ได้เก่งขนาดนั้น แล้วมันต้องใช้เวลาทุ่มกับมัน ต้องมีเวลาประชุมทำนี่นั่นหลายอย่าง ไม่ใช่ออกกองอย่างเดียว มีคนถามเรื่องนี้เยอะมาก ผู้กำกับฯ หรือแอ๊กติ้งโค้ช นุ่นไม่เก่ง เราอาจจะเล่นละครนาน ไม่ได้หมายความว่าเราจะสอนคนอื่นได้ เรื่องเทคนิคการสอนการแสดงต้องให้คุณครูที่เขามีความชำนาญสอนดีกว่า แต่ถ้าเผื่อเล่นละครด้วยกันเราก็อาจจะมีแนะนำได้บ้าง คือนุ่นสอนเป็นขั้นเป็นตอนไม่เป็น”

★ งานบันเทิงก็ดีงานธุรกิจก็รุ่งเช่นกัน?

นุ่น – “ทำควบคู่กันไปค่ะ กับธุรกิจเรียกว่าค่อยๆ โตดีกว่า กับงานแสดงและงานธุรกิจเราต้องให้ความสำคัญทั้งหมด แต่ช่วงนี้ก็จะเหนื่อย เลยขอพักก่อน ซึ่งธุรกิจของนุ่นตอนนี้หลักๆ จะเป็นครีมวอร์ร่า มีครีม มีกันแดด เร็วๆ นี้จะออกโปรดักต์ใหม่เป็นแผ่นมาสก์หน้า และมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ซึ่งแต่ละตัวกว่าจะได้มาต้องใช้เวลา เพราะทุกชิ้นมันคือหน้าตาเรา ตัวเรา ต้องใส่ใจทุกโปรดักต์ มันเลยไม่ง่าย ส่วนร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นของคุณต๊อด (ปิติ) แต่ก็เหมือนกันเนอะ ของต๊อดก็เหมือนของเรา (หัวเราะ) เข้าไปช่วยพีอาร์มากกว่า”

★ เรื่องของความรักบ้าง ดูแลกันอย่างไร?

นุ่น – “ตอนนี้ต๊อดเองเขาก็ยุ่งมากเรื่องร้านอาหาร เขาเพิ่งเข้าไปถือหุ้นซานตาเฟ่ แล้วเขาก็มีแข่งรถ ตีแบดฯ วิ่ง กิจกรรมกับเพื่อนๆ ผู้ชาย เวลาครอบครัวลงตัว”

★ เสาร์อาทิตย์คือเวลาของเรา?

นุ่น – “แล้วแต่ค่ะ ของเราบ้าง ของเพื่อนบ้าง เพราะวันเสาร์บางครั้งคุณต๊อดไปงานต่างจังหวัด มีแข่งรถ แล้วปีนี้นุ่นไม่ได้ไปเชียร์เพราะถ่ายละคร เสาร์อาทิตย์เป็นเวลาพักค่ะ”

★ ทุกครั้งจะมีแต่คนถามจะมีลูกไหม?

นุ่น – “ก็จะได้คำตอบเหมือนเดิม ว่าทุกวันนี้ใช้ชีวิตมีความสุขค่ะ มีการวางแผนระยะยาวด้วยกัน เราเอาแค่ทำวันนี้ให้มีความสุข”

★ มีวิธดูแลตัวเองอย่างไร?

นุ่น – “นุ่นดูแลตัวเองมาก อายุมากขึ้นแล้วเราเล่นละครบางวันก็มีร้องไห้เยอะ ตาก็โรย ช้ำ นุ่นโดนละครแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่ว่าจะไม่โทรม แต่เวลาที่เลิกจากงานเราก็ออฟทุกอย่าง ไปเที่ยวก็เป็นการชาร์จพลัง เวลารับบทหนักๆ ไม่มีติดกลับบ้าน พอสั่งคัตทุกอย่างก็เอาออก แต่จะมีเรื่องกายภาพที่มันปวดคอ เพราะเราควบคุมข้างในไม่ได้ ต้องมีการนวดให้คลายตัว ใส่ส้นสูงเดินเยอะๆ ก็ปวดเมื่อยก็มีวิธีการเคลียร์ของเรา ส่วนเรื่องหน้าตานุ่นให้ความสำคัญไม่แพ้อย่างอื่น เพราะหน้าตาคือเครื่องทำมาหากิน ช่วงไหนทำงานเยอะก็ให้ความสำคัญเยอะไปด้วย คนทักว่าทำไมดูตาบวม ก็มันร้องไห้ อย่างเรื่องนี้โทรม เพราะร้องไห้เยอะ บทเป็นอย่างนั้น”

★ เวลาออกไปข้างนอกบ้าน เราต้องแต่งหน้าแต่งตัวตลอดไหม?

นุ่น – “เราก็เป็นนุ่น-วรนุช คนธรรมดา มีแต่งหน้าบ้างนิดหน่อย ทาครีม ทากันแดด เหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่นุ่นมาสก์หน้าทุกวัน ยิ่งถ่ายละครเยอะๆ นุ่นจะเอาน้ำแข็งประคบหน้า ตอนเด็กๆ เอาน้ำแข็งแช่ในอ่าง แล้วก็เอาหน้าจุ่มเลย ความเย็นมันช่วยจริงๆ นะ สมมติตื่นตี 5 ก็ลุกขึ้นมามาสก์หน้าก่อน 12 นาที แล้วค่อยอาบน้ำ วิธีนี้ทำตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆ ก็ชอบมาสก์หน้า แต่ตอนนี้พออายุมากขึ้นด้วย ตอนเด็กว่าบทหนักแล้ว แต่ตอนนี้หนักกว่า ร้องไห้เหมือนกัน แต่ร้องคนละแบบ เด็กก็ร้องแบบเด็ก พอเราโตขึ้นมีความรับผิดชอบในอาชีพและหน้าที่มากขึ้นเรื่องมันก็หนักขึ้นตาม อายุ ตามเรื่อง บางทีก็มีคิดนะว่าทำไมมันหนักจัง”

★ ทุกครั้งจะมีแต่คนถามจะมีลูกไหม?

นุ่น – “ก็จะได้คำตอบเหมือนเดิม ว่าทุกวันนี้ใช้ชีวิตมีความสุขค่ะ มีการวางแผนระยะยาวด้วยกัน เราเอาแค่ทำวันนี้ให้มีความสุข”

★ มีวิธดูแลตัวเองอย่างไร?

นุ่น – “นุ่นดูแลตัวเองมาก อายุมากขึ้นแล้วเราเล่นละครบางวันก็มีร้องไห้เยอะ ตาก็โรย ช้ำ นุ่นโดนละครแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่ว่าจะไม่โทรม แต่เวลาที่เลิกจากงานเราก็ออฟทุกอย่าง ไปเที่ยวก็เป็นการชาร์จพลัง เวลารับบทหนักๆ ไม่มีติดกลับบ้าน พอสั่งคัตทุกอย่างก็เอาออก แต่จะมีเรื่องกายภาพที่มันปวดคอ เพราะเราควบคุมข้างในไม่ได้ ต้องมีการนวดให้คลายตัว ใส่ส้นสูงเดินเยอะๆ ก็ปวดเมื่อยก็มีวิธีการเคลียร์ของเรา ส่วนเรื่องหน้าตานุ่นให้ความสำคัญไม่แพ้อย่างอื่น เพราะหน้าตาคือเครื่องทำมาหากิน ช่วงไหนทำงานเยอะก็ให้ความสำคัญเยอะไปด้วย คนทักว่าทำไมดูตาบวม ก็มันร้องไห้ อย่างเรื่องนี้โทรม เพราะร้องไห้เยอะ บทเป็นอย่างนั้น”

★ เวลาออกไปข้างนอกบ้าน เราต้องแต่งหน้าแต่งตัวตลอดไหม?

นุ่น – “เราก็เป็นนุ่น-วรนุช คนธรรมดา มีแต่งหน้าบ้างนิดหน่อย ทาครีม ทากันแดด เหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่นุ่นมาสก์หน้าทุกวัน ยิ่งถ่ายละครเยอะๆ นุ่นจะเอาน้ำแข็งประคบหน้า ตอนเด็กๆ เอาน้ำแข็งแช่ในอ่าง แล้วก็เอาหน้าจุ่มเลย ความเย็นมันช่วยจริงๆ นะ สมมติตื่นตี 5 ก็ลุกขึ้นมามาสก์หน้าก่อน 12 นาที แล้วค่อยอาบน้ำ วิธีนี้ทำตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆ ก็ชอบมาสก์หน้า แต่ตอนนี้พออายุมากขึ้นด้วย ตอนเด็กว่าบทหนักแล้ว แต่ตอนนี้หนักกว่า ร้องไห้เหมือนกัน แต่ร้องคนละแบบ เด็กก็ร้องแบบเด็ก พอเราโตขึ้นมีความรับผิดชอบในอาชีพและหน้าที่มากขึ้นเรื่องมันก็หนักขึ้นตาม อายุ ตามเรื่อง บางทีก็มีคิดนะว่าทำไมมันหนักจัง”