Inside Dara
สาวน้อยขี้อายสู่เส้นทางมายากว่าจะมีวันนี้ของ“มิว-นิษฐา”

เข้าฉายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับภาพยนตร์เรื่องแรกจากค่าย “จีดีเอช 559” อย่าง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” ที่ได้ผู้กำกับมากฝีมือ อย่าง “โต้ง” บรรจง ปิสัญธนะกูล และ การโคจรมาพบกันของพระเอกร้อยล้าน “เต๋อ” ฉันทวิชช์ ธนะเสวี กับนางเอกสาวตาหวาน “มิว” นิษฐา จิรยั่งยืน ที่ได้มาประเดิมเล่นภาพยนตร์เป็นครั้งแรกให้กับเรื่องนี้ และหน้าบันเทิง “คม ชัด ลึก” ได้คว้าคิวนางเอกของเรื่องอย่างมิวมาพูดคุยกัน

“แฟนเดย์...แฟนกันแค่วันเดียว”
ครั้งแรกกับการเล่นหนัง และบทบาทในเรื่องนี้

ในเรื่องนี้ มิว รับบทเป็น “นุ้ย” สาวออฟฟิศ ซึ่งพี่โต้งเขาพยายามปรับลุคมิว ไม่ให้เป็นสาวหวานเรียบร้อยนะ ความแปลกใหม่ให้มิวได้เล่น ซึ่งที่ผ่านมาได้ลองหลายแบบเลยจนมาลงตัวกันที่ ลองให้มิวสวมวิญญาณกะเทยดู ซึ่งปกติแล้วมิวจะเป็นคนนิ่งมากๆ เลยได้ลองเล่นในเลเวลนี้ มีจริต มีความกล้า เล่นหูเล่นตามากขึ้น มีความกวน ดี๊ด๊า และดูร่าเริงตลอดเวลา ซึ่งตัวละครนุ้ย ภายนอกเขาจะสดใสร่าเริง แต่ภายในใจเขาจะตรงกันข้ามเสมอ มีปมเรื่องความรักที่ต้องการคนที่รักนุ้ยจริงๆ ยิ่งนุ้ยเศร้ามากแค่ไหนการแสดงออก ก็จะร่าเริงมากเท่านั้น มันยากเหมือนกันนะกับบทนี้ ส่วนการถ่ายทำเรื่องนี้ เราไปถ่ายทำกันที่ญี่ปุ่น และนี่ก็คือหนังเรื่องแรกของมิวด้วย มันก็มีความรู้สึกตื่นเต้น ท้าทาย เหมือนเราต้องปรับตัวให้เข้ากับทีมงานใหม่ๆ ด้วย บวกกับการไปถ่ายทำที่ญี่ปุ่น มันก็ยากนะ ด้วยอากาศ นักท่องเที่ยว การทำงานต่างออกไปจากการเล่นละครไปเลย

พูดถึงพระเอก อย่าง “เต๋อ” หน่อย

การทำงานกับพี่เต๋อ มันสนุกมากนะ เขาเป็นคนตลก และคอยสร้างความสนุกสนานในกองถ่ายด้วยนะ อย่างบางครั้ง ถ่ายอยู่แล้ว ทีมงานเราก็มีเหน็ดเหนื่อย จากการถ่ายทำ ที่ติดต่อกันหลายๆ วันเนอะ เพราะเราใช้โลเกชั่นที่ญี่ปุ่นเรื่องเวลาต่างๆ ก็ต้องครอบคลุมให้ได้มากที่สุด แล้วเวลาดึกๆ คือเราก็ถ่ายกันทั้งวันเช้ายันมืด แบตร่างกายหนูก็จะหมด พี่เต๋อเขาก็จะเข้ามาปลุก เข้ามาชวนเล่น ทำให้เราได้มีแรงมีพลังไปถ่ายต่อ เขาน่ารักมากๆ

การได้มาร่วมงานกับค่ายหนัง ผู้กำกับ และพระเอกที่การันตีรายได้กว่าร้อยล้าน

กับค่ายจีดีเอช 559 ได้ร่วมงานกับพี่โต้ง พี่เต๋อ กับคำว่าเป็นค่ายหนัง ที่การันตีรายได้ร้อยล้าน สำหรับมิวเอาจริงๆ ยอมรับว่าหวังนะ ตอนแรกๆ อยากจะเป็นนางเอกร้อยล้าน เอ๊ะ! มันก็ดีนะ แต่พอเราได้มาร่วมงานกับพี่ๆ เขาจริงๆ พอถ่ายทำเสร็จ เรารู้สึกได้เลยว่างานทุกอย่างมันออกมาดีมากๆ ทำให้ความคาดหวังแรก ว่าจะต้องเป็นนางเอกร้อยล้าน มันหายไป เพราะเราไม่ได้สนใจจุดนั้นแล้ว มิวพอใจกับผลงาน ที่มันออกมามากๆ และเราก็ตั้งใจ ทีมงานก็ตั้งใจ เลยข้ามจุดเรื่องรายได้ต่างๆ ไป แล้วไปโฟกัสที่ แค่คนดูเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วชอบก็พอแล้ว เพราะบทกว่าจะเขียนออกมาได้ ใช้เวลาถึงสองปีนะ ถามว่าคำพ่วงที่ว่ามิวนางเอกร้อยล้านเราคิดยังไง คือบอกแล้วมันไม่ได้สำคัญอะไร ถ้าได้มามันก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิตของมิวแล้ว แค่อยากให้คนดูได้มีความสุขกัน

หนังเข้าฉายแล้วอยากบอกอะไรคนดูไหม

คือหนังเรื่องนี้ เป็นแนวใหม่เนอะ พล็อตเรื่องหนังแบบนี้หาได้ยากนะ ในวงการหนังไทย มิวก็อยากให้ทุกคนมาดูกัน สำหรับทีมงานทุกคน ตั้งแต่ผู้กำกับ นักแสดง เบื้องหน้า เบื้องหลัง จวบจนไปถึงตากล้อง ทุกคนมีแรงใจที่จะทำหนังเรื่องนี้ออกมาให้สำเร็จ ทุกคนรักและทุ่มเทในการทำงานทุกวินาที เพราะฉะนั้นดูเถอะ จะไม่ผิดหวังนะ

ละครจ่อคิวแน่น
ตอนนี้กลายเป็นนางเอกคิวฮอตไปอีกคนแล้ว

มิวก็กำลังถ่ายทำละครเรื่อง รากนครา ของพี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง) กับ เพชรกลางไฟ ของค่ายทีวีซีน แต่ละเรื่องบอกเลยว่าเหนื่อยมากๆ ทั้งสองเรื่องนี้ โลเกชั่นหลักส่วนใหญ่จะเป็นต่างจังหวัดทั้งหมดเลย เรื่องเพชรกลางไฟ นี่กำลังจะปิดกล้อง ส่วนรากนครา ก็เริ่มถ่ายทำกันแล้ว สำหรับเรื่องรากนคร ตอนแรกมิวคิดว่ามิวต้องพลิกมาเล่นร้ายจริงจัง แต่พอมาเล่นจริงๆ บทของมิวคือ มิ่งหล้า เป็นคนที่คิด และถูกปลูกฝังมาว่าเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด ความคิดของตัวละครตัวนี้เลยมีความพยายามต่างๆ มากกว่าผู้อื่น

4 ปีที่ผ่านมา ถามว่าเป็นยังไงบ้าง มิวว่ามันเป็นชีวิตที่เหนื่อยเหมือนกันนะ แต่มิวว่าทุกช่วงชีวิต มันก็เหนื่อยหมดแหละ ตอนที่ทำงานตรงนี้ ก็นึกถึงชีวิตในมหาวิทยาลัย ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ก็นึกถึงตอนเรียนมัธยม มันก็จะนึกถึงย้อนไปเรื่อยๆ แต่เราก็แค่ทำมันตรงนี้ให้ดีที่สุดไป

ทุกวันนี้การทำงานในแต่ละวันเป็นอย่างไรบ้าง

มีเหนื่อยบ้างนะ ช่วงนี้บางวันจะเป็นคิวโปรโมทหนังด้วย คิวก็จะวางแบบยาวๆ 7 วันเต็ม ถามว่าเราแบ่งเวลายังไง ก็เอาเท่าที่ได้ ที่ไหว ถ้าเสร็จงานเร็ว ก็จะชวนครอบครัวไปทานข้าวกันบ้าง หรือไปกับเพื่อนๆ บ้าง แต่ช่วงนี้มิวไม่ค่อยว่างหรอก ชีวิตมิวจะวนๆ ตื่นเช้า กลับบ้านดึก นานๆที ที่จะมีวันได้พักผ่อนจริงๆ วันว่างจริงๆ ส่วนมากช่วงนี้ มิวก็จะหาวันหยุดจากเวลาที่ออกกองถ่ายต่างจังหวัด จะมีช่วงที่คิวว่างๆ ก็จะออกไปหาของอร่อยเดินเที่ยวได้บ้าง เอาเวลาจากตรงนั้นเลย เพราะช่วงนี้ออกกองถ่ายบ่อยมาก

การที่มาเป็นนักแสดง ต้องมีได้ และเสีย คิดอย่างไรกับคำนี้

สำหรับมิวเห็นด้วย เพราะว่า ชีวิตตรงนี้มีทั้งได้ และก็เสียไปด้วย การเข้ามาเป็นนักแสดงในวงการบันเทิง ทำให้เรามีชื่อเสียง มีรายได้ หาเงินได้เอง มากกว่าอาชีพอื่นๆ แต่มันเต็มไปด้วยสิ่งที่ต้องแลกกลับไป คือชีวิตส่วนตัว ก็อาจจะหายไปบ้าง ช่วงเวลาพักผ่อน อย่างวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดต่างๆ เราไม่มีวันว่างเลย ทุกวันนี้ ขึ้นอยู่กับตารางงาน หนูก็เคยคิดนะว่า ชีวิตส่วนตัวของมิวจริงๆ เคยคิดไว้ว่าอยากจะหายไป และทิ้งทุกอย่างไป ต่างประเทศสักแป๊บหนึ่ง เหมือนไปชาร์จแบตร่างกาย แต่ทุกวันนี้ ยังทำไม่ได้ก็เป็นเพียงแค่ความฝันอยู่

เส้นทางของสาวดีไซเนอร์
เรียนจบ ด้านแฟชั่นดีไซน์ มาจะมีโอกาสเห็นแบรนด์เสื้อผ้าของมิวบ้างไหม

ถามว่ามีโอกาสมั้ย คืออยากทำอยู่นะ แต่มิวยังไม่มีเวลาว่าง ที่จะได้ทำในจุดนั้นเลย คือมีความคิดอยากจะทำเป็นแบรนด์ขายแบบเล่นดู ไม่ได้ตั้งใจจะทำเป็นร้านใหญ่โตอะไร เหมือนเอาสิ่งที่เราได้ร่ำเรียนมา สี่ปีในมหาวิทยาลัยมาใช้ และมิวหวังว่ามันจะเป็นจริง อาจจะทำใส่เองก็ได้ ในอนาคต

ตัวตนของนางเอกตาหวาน
คิดว่า “มิว” เป็นคนแบบไหน

มิวเป็นคน ที่มีความเป็นตัวเอง มีความคิดของตัวเอง เพราะมิวไม่สามารถ ที่จะเป็นอย่างที่คนอื่นบอกได้ตลอดเวลา มิวอาจจะมีช่วงเวลาเป็นของตัวเองบ้าง บางช่วงที่ทำงานเยอะๆ หนูจะเป็นประเภทที่ต้องการ การพักผ่อนสูงมาก ชอบนอน มีบางครั้งอาจจะงอแงบ้าง แต่ถึงเวลาทำงาน มิวก็จะเป็นคนที่เรียกกำลังใจทำตัวเองให้พร้อมรับมือกับการทำงานได้เรื่อยๆ เพราะมิวมองถึงความสำเร็จของงานที่จะออกมา มันเชื่อมโยงกับความเต็มที่กับทุกงานของมิว จะมาอ่อนแอ ปวกเปียก ไม่ได้เลย

คติประจำใจเปลี่ยนชีวิต

ของหนูเชยมากๆ เลยนะ หนูยึดคำคำ นี้ไว้เลยว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” แต่คำนี้มันใช้ได้ผลสำหรับมิวมากๆ เพราะบอกตรงๆ ว่า มิวไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง ตั้งแต่เด็กเป็นคนที่ไม่กล้าจะแสดงออกอะไรเลย มิวหนีทุกอย่าง ไม่ชอบการที่จะมาเป็นจุดเด่นอะไรเลย ไม่กล้าแสดงออก เข้าขั้นขี้อายมากๆ ซึ่งมิวก็งงเหมือนกันนะว่า ทำไมมิวถึงได้มาอยู่ตรงนี้ได้ (หัวเราะ) แต่มันก็มีจุดเปลี่ยน ที่ได้มีโอกาสมาแคสโฆษณาตัวหนึ่งแล้วได้ จุดนี้เลยทำให้มิวได้มายืนตรงนี้ แต่ความขี้อาย ก็ยังมีอยู่ในตัวนะ แต่แค่จะกล้าทำอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น เพราะมิวจะคิดเสมอว่า งานคือหน้าที่ ที่ต้องทำ มิวคิดว่าตัวมิวเอง เป็นนักแสดงที่ขี้อายมากๆ เลยนะ ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ที่เขาพร้อมจะทำนะ ถ้าเกิดอยู่ๆ หากมิวลุกขึ้นมาเต้นๆ มิวก็ไม่ทำนะ ทุกวันนี้อย่างการร้องเพลง หรือเต้นบ้าง มิวก็จะคิดว่ามันคืองานที่เราทำได้

เช็กหัวใจสาวขี้อาย
ความรักตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ก็เหมือนเดิมปกติเลยกับคนเดิมๆ นั่นแหละ (ยิ้ม) มิวไม่ได้หวาน ไม่ได้อะไร คุยกันมาแบบเพื่อน คบมา 7 ปีแล้ว ทุกอย่างก็เหมือนเดิม เรื่องสถานะทุกอย่าง มันก็คงที่มาโดยตลอด ด้วยความที่เราไม่ใช่สายหวาน แต่จะคุยกันทุกเรื่อง เข้าใจกันทุกเรื่อง แต่จะไม่ใช่แนวตัวติดกันหวานแหววตลอดเวลา แต่จะรับรู้ความเคลื่อนไหวกันตลอด สำหรับ 7 ปีที่ผ่านมาถือว่านานมากๆ นะ

มุมมองความรัก

มิวว่าความรักมันคือความเข้าใจกันและกันของคนสองคนนะ มิวคิดว่าที่มิวคุยกับเขาคนนั้นได้นาน มันเป็นเพราะความเข้าใจกันมากๆ และเขาก็เข้าใจชีวิตเรา และถือว่าโชคดีมากๆ นะ กับความรักของมิว คือมันไม่ใช่ความลับหรืออะไร แต่มิวไม่อยากให้โฟกัสในจุดนั้นมากกว่า ไม่ได้อยากเปิดเผยว่าคนนี้นะแฟนมิว และฝั่งเขาเองก็คิดเหมือนกันกับมิว เขาไม่เล่นโซเชียล เป็นคนที่อยู่กันแบบเข้าใจกันและกันเท่านั้นเลย

นี่แหละคือตัวตนของ “มิว” นิษฐา

..........................
เธอคนนี้คือ นิษฐา จิรยั่งยืน
ชื่อเล่น “มิว”
เกิดวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2533
จบการศึกษา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาการออกแบบแฟชั่นที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ผลงานที่ผ่านมา ละคร ชาติพยัคฆ์ / ตามรักคืนใจ
ผลงานปัจจุบัน ภาพยนตร์ เรื่อง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว