ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง นักแสดงสาวที่เข้าวงการมาด้วยการแจ้งเกิดในภาพยนตร์แนวเฉพาะกลุ่ม หญิงรักหญิง และด้วยความสามารถที่โดดเด่นทำให้วันนี้ ออม ก้าวเข้าสู่วงการละคร และยังได้รับความไว้วางใจจากนักแสดงรุ่นพี่อย่าง “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ให้ขึ้นแท่นนางเอกในซีรีส์เรื่อง ฟูลเฮ้าส์ ที่กำลังออกอากาศทางช่องทรูและเรียกว่าได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีมากในเวลานี้ ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงเนื้อหอมของวงการขึ้นมาอีกคน และเท่านั้นยังไม่พอ ออม สุชาร์ เตรียมออกอัลบั้มของตัวเองอีกต่างหาก มากมายความสามารถขนาดนี้ โลกสีสวยของเราวันนี้จึงขอยกพื้นที่ตรงนี้ให้เธอ เพื่อที่เราจะได้รู้จักเธอมากขึ้น
ตอนนี้ฟูลเฮ้าส์ ได้รับกระแสตอบรับดีมาก ข่าวว่าในยูทูบคนเข้าไปดูหลายแสนแล้ว?“ค่ะ พอละครออกมา ตอนนี้มาทักเยอะ กระแสตอบรับเยอะมาก ดีกว่าที่คิดไว้ เพราะว่าก่อนหน้านี้พอมีข่าวออกมาว่าจะทำ ก็มีกระแสว่าของเขาดีอยู่แล้วจะเอามาทำอีกทำไม มีหลายคนเตรียมด่าเรา เตรียมอคติกับเราเยอะค่ะ แต่พอละครออกมาคนได้ดูแล้ว หลายคนบอกว่าชอบ สนุกจังเลย ได้อีกรสชาติหนึ่งต่างจากเกาหลี และบอกไม่เหมือนกันเลยเนอะ แล้วเขาก็อินไปกับตัวละครเราก็ดีใจที่เขาชอบ”
“ใช่ค่ะ ต้องขอบคุณป๋าดัน (หัวเราะ) ขอบคุณค่ะ ที่ไว้ใจให้เราได้เล่นละครที่เป็นฟอร์มใหญ่ของเขาเลยถึง 2 เรื่องด้วยกัน ขอบคุณที่เชื่อมั่นในตัวเรา”
กับทางช่อง 3 ออมเองยังไม่ถึงนางเอก ตรงนี้มีการพูดคุยหรือว่าขอกับผู้ใหญ่มั้ย?“ไม่มีการขออะไรค่ะ ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ค่ะ และด้วยพื้นฐานออมเองก็เป็นนักแสดงอิสระอยู่แล้ว และออมเองก็มีสัญญาใจกับทางช่อง 3 ก็คือเหมือนเราทำงานกับเขามานาน อาจจะไม่ได้เล่นละครยาวเยอะ จะเป็นซีรีส์อะไรมากกว่า ตรงนี้ไม่ได้น้อยใจอะไรนะคะ เพราะเราเองก็รู้อยู่ว่าเขามีเด็กในสังกัดที่เขาต้องผลักดันเด็กเขาอยู่แล้ว มันเป็นอะไรที่เราเข้าใจได้เลย เราก็เหมือนทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่มากกว่าถ้ามีงานมีบทที่จะให้เราเล่นเข้ามา คือเราเองก็ไม่ได้ว่าจะต้องเป็นฟรีทีวีเท่านั้นที่จะเล่นนะ แต่ตอนนี้มีช่องทางที่หลากหลายยิ่งขึ้นที่จะทำให้เราได้เลือกมากยิ่งขึ้นว่างานไหนน่าสนใจ”
วิธีการเลือกรับงาน ออมเป็นยังไง?“ออมก็จะดูโปรดักชั่น ดูบท ดูทีมงาน บางทีทีมงานเราไม่คุ้นเคยแต่บทดีจังเลย ก็อยากจะทำ”
จำเป็นมั้ยว่าจะต้องเป็นตัวหนึ่ง ตัวสอง?“จริง ๆ ก็ไม่จำเป็นนะคะ แต่เราขอแค่บทนั้นมีตัวตน มีเป็นบทที่ไม่ใช่มาแป๊บ ๆ แล้วก็หายไป อันนั้นไม่รู้ว่าจะเล่นไปทำไม ในส่วนตัวออมนะ ออมเลยอยากจะเลือกบทที่เราสามารถพัฒนาตัวเองได้และรู้สึกว่าเล่นแล้วเราฟิน ความรู้สึกแบบนี้มันจะเป็นความรู้สึกภูมิใจจังเลยงานนี้ฉันทำ ไม่ต้องเป็นนางเอกก็ได้ ขอแค่ได้ทำเราก็มีความสุขแล้ว”
“ช่วงนี้หนังยังไม่มีเลยค่ะ คือแบบช่วงนี้อยู่ในช่วงการคุย ๆ เลือก ๆอยู่ค่ะ ยังไม่สรุปอะไรเลย”
จะว่าไป ชีวิตออมก็มาไกล จากหนังเรื่อง เยส ออร์ โน จนมาตอนนี้มาเป็นนางเอกซีรีส์แล้ว?“มันก็คือเรื่อย ๆ มาทีละสเต็ปไม่ได้แบบดังข้ามคืน ออมก็ทำงานมาเรื่อย ๆ เริ่มจากที่ไม่มีใครรู้จักเลย จนมาวันนี้พี่ ๆ ทุกคนรู้จักถึงแม้ว่าไม่ได้ดังมาก แต่ก็ยังมีผลงานให้ทุกคนจดจำได้”
คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วยังในวันนี้?“ก็ไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดตรงไหนกับคำว่าประสบความสำเร็จ มันยากมากเลยกับคำนี้ ออมก็มองแค่ว่าวันนี้เราอายุเท่านี้ เราทำอะไรบ้างก็คิดว่ามันก็คุ้มแล้ว
“คิดไม่ออกเลยค่ะ แต่จริง ๆ เราก็มีธุรกิจของที่บ้านอยู่ ก็คงไปช่วยที่บ้าน หรือไม่ก็อาจจะไปทำแนวเบื้องหลังก็ได้”
ขอถามเรื่องความรักบ้าง ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?“เมื่อก่อนหน้านี้มีคนคุยค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีเลยจริง ๆ ส่วนมากก็จะอยู่กับเพื่อน งาน ครอบครัว คือหลายคนถามว่าเลือกเยอะเหรอ จริง ๆ ออมว่าทุกคนก็เลือกอยู่แล้วนะ แล้วตอนนี้ออมเองก็รู้สึกแฮปปี้กับชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้นะ แต่ถามว่าอยากมีแฟนมั้ยก็อยาก อยากมีคนดี ๆ เข้ามาในชีวิต แต่สมัยนี้หายากนะ”
คำว่าคนดีของเราเป็นแบบไหน?“ดีก็แบบ 1 ไม่มีพันธะ ไม่ใช่ว่าแบบมาคุยกับเราแล้วก็แอบคุยกับคนอื่นด้วย อย่างนี้เขาเรียกว่ามีพันธะแล้วนะ แค่ข้อนี้ก็ยากแล้ว เพราะว่าคนส่วนใหญ่สมัยนี้ไม่ชอบคุยกับใครคนเดียว เหมือนสื่อมันเยอะช่องทางมันเยอะ หยอดนิดหยอดหน่อยไปทั่ว แล้วอีกเรื่องคือ ความจริงใจ อันนี้สำคัญค่ะ และที่สำคัญอีกอย่างคือ ต้องรับที่เราเป็นเราได้ด้วย ซึ่งออมว่าต้องใช้เวลาค่ะ ตอนนี้ก็อยู่เฉย ๆ ไป เดี๋ยวถ้าถึงเวลาเขาก็จะมาเอง ออมเชื่อเรื่องพรหมลิขิตค่ะ
ได้ข่าวว่าออมเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงเหมือนกันนะ?“หลาย ๆ คนบอกว่าออมเข้าถึงยาก แต่ออมว่าไม่นะ อย่างคนในกองถ่าย เวลาไปถามว่าออมเป็นคนยังไง ส่วนมากจะบอกว่าออมเข้าใจยาก เข้าถึงยาก จริง ๆ ไม่นะ อาจจะเห็นว่าออมนิ่ง เพราะว่าเวลาไปกองออมจะตั้งใจทำงาน ใช้สมาธิ เวลาอยู่ในกองถ่ายจะไม่ค่อยเล่น ออมเป็นคนซีเรียสกับงานมาก บางทีก็รู้ตัวว่าตัวเองซีเรียสกับงานเกินไปจนลามไปถึงส่วนอื่น เช่นแบบเวลาถ่ายกันเสร็จแล้วก็อยากจะไปดูว่าเขาตัดกันยังไง ออกมาสวยมั้ย คือออมเป็นแบบนี้ อยากจะให้งานออกมาดีที่สุด”
นี่ถ้ามีแฟนคงจะจริงจังมากนะ?“คงจะทำให้แบบพอดี ๆ ค่ะ ไม่ถึงกับว่าติดแฟนมาก เพราะว่าเราต้องทำงานด้วย”
ออมมีสเปกหรือเปล่า?“ออมไม่ได้เลือกอะไรเยอะมากนะคะ ไม่จำเป็นต้องหุ่นดีมีซิกแพ็ก เอาแค่ไม่เตี้ยกว่าออมก็พอแล้ว (หัวเราะ) ถ้าเตี้ยกว่าออมไม่ไหวนะ”
“อยากให้ความรักของออมเหมือนหนังเรื่อง วอด ดรีม เมคัม ออมว่าหนังเรื่องนี้มันสื่อถึงเรื่องทุกข์ เรื่องสุข ของการอยู่ด้วยกัน มันคือความรักที่รัก จริง ๆ ที่หาไม่ได้จากไหน มันเริ่มต้นด้วยพรหมลิขิต และจบลงด้วยความยั่งยืน ดูแล้วออมรู้สึกมาก ๆ เลยนะกับหนังเรื่องนี้”
จริง ๆ แล้วออมเป็นคนที่จีบยากหรือเปล่า?“ไม่นะ ออมเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่ยาก แต่ถ้าจริงใจและกล้า ๆ เข้ามา ออมก็คุยนะ ไม่ได้ปิดตัวเอง เพราะออมจะเป็นคนที่รักตัวเองนะ อย่างเวลาออมโกรธใคร ณ เวลานั้น อาจจะโกรธอยู่จริง แต่พอแป๊บหนึ่งออมก็จะลืมแล้วว่าโกรธ คือเหมือนร่างกายมันจะลบข้อมูลทิ้งไปเองเลย อะไรที่ทำให้เราทุกข์ เราจะไม่จำเลย บางทีเจอเพื่อนที่แบบวันก่อนโกรธเขาอยู่ 3 วันผ่านไปทักเขาเฉยเลยลืมไปแล้วว่าโกรธเพื่อนอยู่ ออมจะไม่จำอะไรที่ทำร้ายตัวเอง ก็ปล่อยวางไปค่ะ ไม่แบกอะไร เพราะฉะนั้นออมจะไม่ปิดกั้นตัวเองในเรื่องความรัก ไม่ได้กลัวเสียใจหรือว่าเข็ดอะไรค่ะ ถ้าเจอคนเข้ามาแล้วเป็นคนดีออมก็คุยค่ะ”
ตอนนี้ออมโฟกัสอะไรมากที่สุด?“งานค่ะ ตอนนี้ออมตั้งใจในเรื่องงาน ในเรื่องการพัฒนางาน คือไม่ใช่ว่าเครียดกับการไม่มีงาน แต่เครียดกับการทำอย่างไรให้งานเราพัฒนา ออมอยากพัฒนาตัวเองและวงการด้วย อยากเป็นส่วนหนึ่ง อย่างงานละครของพี่อนันดา ออมว่ามันแปลกมากสำหรับวงการไทยที่ซื้อซีรีส์เกาหลีมาแล้วทำ เคเบิลด้วยนะ คนก็จะบอกว่าจะมีคนดูเหรอ แต่ออมว่าแนวทางในการทำงานของเขาใหม่ เขามีละติจูดที่ดี ออมว่าวงการเราต้องมีคนแบบนี้เยอะ ๆ นะ แล้วออมเองก็อยากจะทำงานกับเขา อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของวงการที่ทำให้วงการบันเทิงเรามีคุณภาพขึ้น”
“ค่ะ ออมจะอินกับงานและคนที่ทำงานด้วยจริง ๆ เวลาอยู่กองเราจะสนุกสนานกันมาก และออมไม่ใช่แบบพอทำงานเสร็จแล้วแยกย้ายกันไป เราจะมีแบบพอถ่ายละครเสร็จ ละครจะออกอากาศแล้วเราก็จะนัดกันมานั่งดูละครตอนแรกด้วยกัน เหมือนเรามานั่งลุ้นด้วยกัน มันอบอุ่นนะออมว่า”
อนาคตจะเป็นผู้จัดกับเขาบ้างมั้ย?“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เพราะรู้ว่าตัวเองยังไม่มีอะไรให้ดูน่าเชื่อถือ ขอสะสมประสบการณ์ไปก่อน ส่วนอนาคตก็ยังไม่รู้แต่ก็อาจจะนะ”
“ใช่ค่ะ มันเป็นอะไรที่เราเองก็อยากจะทำ เพราะว่าที่ผ่านมาออมร้องเพลงประกอบละครเรื่องโน้นเรื่องนี้มาหลายเพลง แล้วพอวันนี้เราจะมีเพลงของตัวเอง ก็แอบมีตื่นเต้นนิดหนึ่งในวันที่ เข้าห้องอัดเพราะว่ามันจะเป็นเพลงของเราเองแล้ว ส่วนเพลงที่ทำดนตรีมีโยก ๆ หน่อย แนวบิดร็อกทำกับค่ายอิกไนท์เรสคอร์ด ออมเป็นศิลปินคนแรกของค่ายเลย นะ (หัวเราะ) พอดีพี่เจ้าของค่ายเขาอยากจะทำค่ายเพลง ก็จีบ ๆ กันสุดท้ายพี่เขาก็เรียกมาคุย ก็ตกลงปลงใจกันได้ ตอนนี้ก็ทำเสร็จไป 2 เพลง แต่เพลงที่ทำจะเป็นแบบทำไปแก้ไป พัฒนากันไปเรื่อย ๆในห้องอัด
ส่วนแนวหรือว่าสไตล์ทั้งการแต่งตัวหรือว่าแนวเพลง จริง ๆ เราเป็นนักแสดงนะ เราก็อยากจะยึดการเป็นนักแสดง แต่การร้องเพลงเราก็อยากจะลองทำ เลยคิดว่า การทำเพลงของออมจะไม่ได้ออกมาเป็นแบบศิลปินจ้าหรอก ออมก็ยังคงเป็นออมนี่แหละ เรารู้สึกว่าการเป็นศิลปินจะต้องมาสร้างคาแรกเตอร์ให้จดจำมาก ๆ มันไม่เหมาะกับออมนะออมว่า เพราะว่าออมอยากจะเป็นแบบนักแสดงที่มีคาแรกเตอร์ที่พร้อมจะเปลี่ยนไปได้เรื่อย ๆ เพื่อให้คนดูจำแบบใดแบบหนึ่งในตัวละครนั้น ๆ
แต่ออมว่างานเพลงจะเป็นอีกงานที่ทำให้ออมได้เปลี่ยนตัวเองนะ ออมรู้สึกว่าออมกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง มันเป็นงานที่อยากจะทำ และพอทำงานเสร็จเราจะได้รู้ว่าเราชอบมั้ย เราทำได้มั้ย ตรงนี้เลยอยากจะฝากถึงแฟนคลับว่า เป็นกำลังใจให้ด้วยนะ เพราะว่าเป็นอีกงานที่ตั้งใจทำมาก ๆ
นอกจากงานเพลงแล้วปีนี้ตั้งใจจะทำอะไรอีกหรือเปล่า?“ปีนี้คิดไว้ว่าจะรับงานให้น้อยลงจากปีที่แล้วเพราะว่าอยากเที่ยว ตั้งใจว่าจะไปนิวยอร์กสักเดือนหนึ่ง ออมไม่เคยไปฝั่งโน้นเลย ส่วนมากจะอยู่แถบเอเชีย ก็ตั้งใจไปกับน้องและผู้จัดการ อยากจะลองไปใช้ชีวิตดู เพราะว่าที่ผ่านมาไม่ได้หยุดเลย ทำงานยาว แล้วมันรู้สึกเหนื่อย ปีนี้เลยขอว่าจะไปชาร์จแบตหน่อย แต่จริง ๆ อยากจะไปเรียนต่อเหมือนกัน ขอแม่เอาไว้ อาจจะไปเรียนคอร์สสั้น ๆ นะถ้าจะไป แต่เป็นแค่แพลนในอนาคตนะ ยังไม่สรุปอะไรเลยค่ะ ขอทำงานเพลงให้ออกมาดีที่สุดก่อน เรื่องเที่ยวเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที”
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012