Inside Dara
“น้าเน็ก”พิสูจน์ฝีมือด้วยผลงาน 23 ปีในวงการที่ไม่หยุดพัฒนา

ถ้าเอ่ยถึงพิธีกรแถวหน้าของเมืองไทย “น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา” เป็นอีกคนที่คนไทยคุ้นเคยและติดตามผลงานมาโดยตลอด ด้วยเอกลักษณ์หน้าตี๋ ใส่แว่น ผมทำสี ช่างพูดช่างแซวเจ็บ ๆ คัน ๆ อยู่หน้าจอโทรทัศน์มานานถึง 23 ปีแล้ว วันนี้ “ฮันนี่บี” เลยขอนัดแนะน้าเน็กมานั่งคุยสบาย ๆ อัพเดทชีวิตงาน และความรัก ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวเพิ่งปัดฝุ่นรายการ “เกมวัดดวง” ที่แฟน ๆ ชื่นชอบมาออกอากาศอีกครั้งทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 แถมเปิดตัวเด็กปั้น “สไปป์กี้-พัฒนศักดิ์ เรืองจำเนียร” ที่ลีลาความกวนไม่แพ้กันเลยจะเป็นอย่างไรบ้างติดตามเลยจ้า

ทำไมถึงหยิบรายการเกมวัดดวงขึ้นมาทำใหม่?

“เกมวัดดวงเป็นโปรเจคท์ที่เตรียมไว้นานแล้ว หลังรายการหายไป 5 ปี เลยเอาโปรเจคท์นี้มาคุยกับพี่ฉอดก็เห็นดีเห็นงามด้วยเพราะทุกคนคิดถึง แต่ขอปรับให้ใหม่ เพราะเชื่อว่าเกมวัดดวงน่าจะแข็งแรงพอที่จะส่งออกได้เลย สโคปใหญ่มาก ต้องมีกระบวนการที่โชว์ว่าเป็นคนดวงดีจริง ๆ ตั้งแต่ต้องมาสมัครทัน อยู่กับเราทั้งวันได้ ผ่านทุกเกม ในการถ่ายทำจะมีเรื่องราวที่แสดงปาฏิหาริย์มากมายต้องติดตามเพราะมันสนุกมาก”

เกมวัดดวงในครั้งนี้แตกต่างจากเดิมยังไง?

น้าเน็ก : “ปกติเกมวัดดวงเป็นสัปดาห์ ๆ จบ เอาคนมาจำนวนหนึ่งแล้วค่อย ๆ คัดเหลือคนไปชิงเงินล้าน ผมอยากให้มันกลับมาทันสมัยพอที่จะส่งออกไปแข่งกับรายการต่างประเทศได้เลยมีการปรับรูปแบบใหม่ทำเป็นซีซั่น ออกอากาศ 13 สัปดาห์ หาคนดวงดีชิงเงินสด 1 ล้านบาท ด้วยการเดินทางไปหาตัวแทนจาก 4 ภาค มาออดิชั่นสู่รอบสุดท้ายเป็นสูตรอินเตอร์เนชั่นแนลฟอร์แมตกลายเป็นเกมวัดดวง 2015”

พอผู้ชมได้ดูและรู้ว่าพวกเรากลับมาแล้วกระแสตอบรับเป็นยังไง?

น้าเน็ก : “ทุกคนดีใจที่กลับมา ในโลกออแกไนซ์ยังมีเกมสไตล์เกมวัดดวงมาเล่นอยู่ เกมวัดดวงมีองค์ประกอบของเกมโชว์ที่ดี จากประสบการณ์ที่ผมเป็นพิธีกรมา คือต้องเล่นสนุก ดูมัน และขายของช่วยการตลาดได้ดี ซึ่งเกมวัดดวงครบ ต่อให้คุณไม่เล่นก็สนุกได้ เราเลยอยากทำให้ไปเมืองนอกได้ ด้วยการแชร์ในโซเชียลมีซับไตเติ้ลฝรั่งก็ดูเข้าใจ ลงยูทูบปุ๊บไปทั้งโลกแล้วจะเรียกแขก สุดท้ายอยู่ที่ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 จะดีลไปได้ถึงไหนครับ”

แล้ว “สไปป์กี้” มาเป็นพิธีกรคู่ด้วยได้ยังไง?

สไปป์กี้ : “คือผมเริ่มต้นจากเกมวัดดวงในฐานะของเด็กฝึกงานที่แกรมมี่ แล้วก็ทำงานในส่วนของอาร์ตไดเรกเตอร์ ทำพร็อพ 2-3 ปี แล้วก็มาเป็นตากล้องในรายการเกมวัดดวง ซึ่งในทุกภาคส่วนผมได้ซึมซับไอเดีย การทำงานของน้าเน็กเองก็เลยรู้จักกันสนิทกัน ทำกันมาเรื่อย ๆ พอเกมวัดดวงกลับมาอีกครั้งน้าก็เลยชวนผมมาทำงานด้วยเต็มตัวครับ

น้าเน็ก : “สไปป์กี้เริ่มทำงานจากคนเบื้องหลังโตไปเป็นคนเบื้องหน้าเป็นพิธีกรช่องวัน เลยชวนเค้ามาทำงานด้วย เพราะสไตล์เดียวกัน แล้วเค้าเข้าใจเกมวัดดวงมันมีความพิเศษตรงที่ต้องคิด พิธีกรไม่รู้เรื่องเลยไม่ได้ต้องอยู่ทุกขั้นตอน ซึ่งสไปป์กี้มีประสบการณ์ตรงนั้นที่ดีครับ”

ตอนนี้ในการทำหน้าที่เป็นผู้บริหารด้วยก็กำลังเติบโต?

น้าเน็ก : “ในแง่การเป็นโปรดักชั่นเฮาส์คือปี 2555 ที่ตั้งบริษัท เน็ก แอน เดอะ ซิตี้ ทำอยู่ 11-12 รายการ มีทั้งในส่วนที่ผมเป็นผู้ผลิตเอง แล้วก็เป็นส่วนที่รับจ้าง ปัจจุบันขึ้นปีที่ 3 แล้วครับ เติบโตหลาย ๆ ด้าน แรก ๆ ต้องพิสูจน์ตัวเอง เยอะ จนตอนนี้มีแต่ละช่องสนใจซื้อรายการเราไปใช้ ได้ทั้งกำไรและรางวัลก็ถือว่าโอเคแล้วครับ”

บางคนทำเบื้องหลังแล้วจะเริ่มเฟดออกจากงานเบื้องหน้า?

น้าเน็ก : “10 ปีแรกทำงานเบื้องหลัง แล้ว 10 ปีหลังทำงานเบื้องหน้า แล้วหยุดรับงานช่วง 2555 เริ่มกลับมาจริง ๆ ปี 2556 จากนี้จนแก่ผมจะทำสองอย่างเลย เรารู้แล้วความสุขคือการทำงาน ตอนหยุดพักใช้เงินไม่มีความสุขเลย ณ วินาทีนี้ไม่ใช่ทำเพื่อเงินแล้วปัจจุบันคือสิ่งที่ดีที่สุด มันมีสัดส่วนเบื้องหน้าเบื้องหลังแบบพอดีครับ”

อะไรที่ตกตะกอนเห็นชัดด้านนี้?

“คนที่เข้ามาในวงการ เหมือนขี่หลังเสือ ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ล้าสมัยไม่ได้ ไอเดียต้องใหม่เสมอ คู่แข่งเก่ง ๆ เยอะ มีทีวี 30 กว่าช่อง แล้วยังมีรายการที่มาจากเมืองนอกด้วย ต้องพัฒนาตัวเราไม่หยุด ตอนนี้ผมอายุ 46 ปี คิดเรื่องการส่งต่อการทำงานบริษัท วันหนึ่งผมตายขึ้นมาบริษัทก็ต้องไปต่อได้ สไปป์กี้เหมือนไม้ต่อ ถ้าไม่มีผมยังมีเค้าที่มีบุคลิกแบบผม ไม่ได้ก๊อบปี้นะ แต่เป็นการสืบทอดต่อกันมามีความกล้า เป็นธรรมชาติ มีจินตนาการ และใกล้ชิดผู้คนครับ”

รู้สึกเหนื่อย ท้อใจบ้างมั้ย?

“ในการทำงานไม่เคยท้อใจ เหนื่อยเลย แต่ความท้อ เหนื่อยเป็นเรื่องที่คนทั่วไปเผชิญ มันต้องมีวันที่ไม่ไหวบ้าง การปะทะกันของผู้ร่วมงาน จ่ายไปหมุนเงินไม่ทัน ต่อสู้กับฮอร์โมนที่แก่ของเราด้วย ผมก็แค่พยายามผ่านมันไปให้ได้ แต่เนื้อแท้ที่อยู่ในวงการแทบไม่มีเรื่องบั่นทอนจิตใจเลย”

เรื่องความรักของน้าเน็กล่ะเป็นยังไงบ้าง?

“ถึงวัย 46 ปี ผมว่าความรักเรามองมันอีกแบบ รักหนุ่มสาววัยรุ่นก็มองอีกแบบ จนตอนนี้มองว่าเป็นเรื่องของคุณสมบัติ เราอาจจะอยู่กับคนบางคนได้ และอยู่กับบางคนไม่ได้ มีชีวิตคู่รูปแบบเฉพาะไม่ได้คบกันอยู่บ้านเดียวกัน หรือแต่งงานก็ได้ การที่เรามีใครบ้างที่ทำให้รู้สึกดี แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ไห้คนล้อว่าไม่มีใครเอาก็พอ (หัวเราะ) ตอนนี้ที่มีก็เรียบง่ายดีครับ”

คิดจะมีครอบครัว แต่งงาน มีลูกบ้างหรือเปล่า?

“ผมไม่มีคุณสมบัตินั้นเลย บางคนฝันชัดเจนอยากมีครอบครัว มีลูก แต่ผมคิดเลย ทุกวันนี้ทำงาน มีรายได้ มีบ้านที่นอนหลับกลับตี 3 ออกจากบ้าน 7 โมง เลยไม่มีภาพครอบครัว ถามว่าคนของผมเข้าใจมั้ยก็โอเคนะ เค้าไม่คาดหวังอะไรจากผมมาก ผมเป็นแบบนี้คนรอบข้างผมก็จะบอกว่าปล่อยน้ามันไปเถอะเป็นความรักแบบเฉพาะในแบบของเราก็พอแล้ว”

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานเรามาตลอดหน่อย?

น้าเน็ก : “ผมฝากสไปป์กี้รายการเกมวัดดวงเป็นอีกรายการหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นว่าเค้าเป็นทายาทผมได้ เกมวัดดวงกลับมาเพราะคุณผู้ชมจริง ๆ เพราะหลายคนคิดถึงมาก ๆ ก็อยากให้ทุกคนรับชมด้วยความสนุกสนาน ทุกวันเสาร์ บ่าย 3 โมง ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ครับ ผมขอบคุณที่ทุกคนรักและติดตามผมมาตลอดครับ”

ใครที่เป็นแฟนรายการ “เกมวัดดวง” ก็ติดตามให้ครบทุกซีซั่นแล้วก็อย่าลืมให้กำลังใจพิธีกรมากความสามารถอย่าง “น้าเน็ก” และเด็กปั้นที่กำลังพิสูจน์ฝีมืออย่าง “สไปป์กี้” ในทุก ๆ ผลงานด้วยนะคะ.