Inside Dara
คุยกับผู้ชายหลากอารมณ์ผ่านคำคม'โทนี่ รากแก่น'

นักแสดงหนุ่มตี๋อินเทรนด์สุดฮอตที่หลายคนรู้จักเขาในนามของลูกชายของราชินีหมอลำอย่าง บานเย็น รากแก่น จนอาจเรียกได้ว่าเป็นใบเบิกทางครั้งแรกในการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง กระทั่งชื่อของ โทนี่ รากแก่น กลายเป็นที่รู้จัก เพราะความหล่อ น่ารัก ขี้เล่นเป็นกันเอง รวมถึงความสามารถทางการแสดงที่พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไร้ข้อกังขาว่า ทำไมหนุ่มคนนี้ถึงมัดใจสาวๆ จนอยู่หมัด วันนี้ "บันเทิง คมชัดลึก" และรายการ "ซุปตาร์ในดวงใจ" ทางช่อง คมชัดลึก ทีวี ไม่พลาดที่จะคว้าตัวมาสัมผัสกับตัวตน หนุ่มอารมณ์ศิลปิน พร้อมผลงานละครซิทคอมเรื่องใหม่ "รักจัดเต็ม" ทางช่อง 3

ซิทคอมเรื่องแรก
งานละครซิทคอมเรื่อง "รักจัดเต็ม" เป็นอย่างไรบ้าง

เรียกว่าเป็นซิทคอมเรื่องแรกของผม เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มาก เพราะเรื่องราวจัดเต็มเหมือนชื่อเรื่อง เป็นเรื่องราวความรักของคู่แต่งงานที่ใช้ชีวิตร่วมกัน จะพูดถึงความเป็นจริงในสังคม ทั้งในเรื่องของเซ็กส์ ที่จะนำเสนอออกมาในลักษณะเป็นคำพูดที่ให้นำไปคิดต่อ มากกว่าเป็นภาพออกมาให้เห็น ไม่ได้ล่อแหลม สะท้อนสังคมสมัยนี้ที่กลัวการแต่งงาน จริงๆ เรื่องนี้มีรูปแบบความรักที่หลากหลาย

คาแรกเตอร์เป็นอย่างไรบ้าง

เรื่องผมเล่นเป็นเป๊ะ ซึ่งเขาจะเป็นคนที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงานหรือฐานะ แต่จะมีปัญหาในการนอนกรนดังมาก และเขาเชื่อว่าการนอนกรนดังจะส่งผลถึงการมีเซ็กส์ของเขา กลัวจะทำให้เซ็กส์เสื่อม ซึ่งเป็นความเชื่อของตัวละครตัวนี้ แต่ผมไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า (หัวเราะ) ฉะนั้นเป๊ะจะไม่เคยนอนหลับสนิทกับผู้หญิงสักคนเดียว เพราะกลัวจะเผลอกรน แต่กับผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยคือ ซาร่า เล็กจ์ เป็นคนเดียวที่รับการนอนกรนดังของเขาได้ ทำให้เขานอนหลับสนิทและสบายใจมากที่อยู่กับผู้หญิงคนนี้ เลยเลือกที่จะแต่งงานกัน

กดดันไหมกับการมาเล่นซิทคอมเรื่องนี้

ค่อนข้างเครียด เพราะอย่างแรกเลยมันเป็นซิทคอม และเป็นซีรีส์ จะยาวประมาณหนึ่ง ผมเป็นคนไม่ชอบที่จะต้องทำอะไรซ้ำๆ ทำเป็นประจำ เพราะเราเป็นคนขี้เบื่อ เราเลยรู้สึกว่าต้องทำอะไรที่สนุกตลอดเวลา และสนุกทุกครั้ง แต่เรื่องนี้ต้องถ่ายทุกอาทิตย์ ทำให้เราต้องหาอะไรสนุกๆ อยู่เรื่อย อีกอย่างคือเรื่องบทด้วย บทนี้ค่อนข้างแตกต่างจากที่เคยได้รับ ส่วนใหญ่เราจะได้บทนิ่งๆ ตลกบ้างนิดหน่อย แต่อันนี้บ้าก็บ้าเลย ทุกอย่างจะต้องโอเวอร์แอ็กติ้งไปประมาณหนึ่ง เพราะว่ามันเป็นซิทคอม

เรื่องเล่าจาก "โทนี่"
ถ้าให้เลือกระหว่าง ละคร หนัง ละครเวที ชอบการแสดงแบบไหนมากที่สุด

อย่างละครเวที มันค่อนข้างหนักสำหรับผมไปหน่อย มันเหนื่อยมากในเรื่องการซ้อม กว่าที่จะเจอตัวตนที่เราแสดงได้ต้องใช้เวลาเยอะ แต่พอสำเร็จ และได้เจอตัวตนของตัวละคร ได้เจอบรรยากาศแสงไฟ และเสียงตอบรับในทันที มันเป็นอะไรที่ขนลุก สุดยอดมาก แต่ถ้าให้เลือก ผมชอบภาพยนตร์มากที่สุดเพราะผมรู้สึกว่ามันเป็นศูนย์รวมของศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาพ ไฟ มุมกล้อง โลเกชั่น องค์ประกอบต่างๆ เรื่องของการแสดง บรรยากาศ และการแสดงออก ที่ผมรู้สึกว่ามันมีความจริงในสิ่งที่เล่นมากกว่าละคร มากกว่าละครเวที

"โทนี่" เป็นคนหนึ่งที่ได้ทำงานมาหลายแบบทั้ง ช่างตัดผม อาร์ตไดเรกเตอร์ นายแบบ นักแสดง ฯลฯ อันไหนที่รู้สึกว่าใช่ตัวเรามากที่สุด

เป็นเรื่องที่ตอบยาก ผมเป็นคนที่ชอบศิลปะโดยรวม อย่างเพื่อนๆ เวลาที่เขาซื้อคอนโดใหม่ บ้านใหม่ เขาจะเรียกเราไปช่วยออกแบบตกแต่งบ้านให้เขา คือผมอยากจะบอกว่าอะไรที่เป็นศิลปะ การตัดผมก็เป็นศิลปะ การแสดงก็เป็นศิลปะ หรือหากวันหนึ่งผมจะไปนั่งเขียนบท ผมก็ชอบนะ อย่างก่อนหน้านี้ผมมีเรื่องที่อยากเขียน คือเรื่องของการใช้ชีวิตที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย ตอนสมัยไฮสคูลก็มาเล่าให้แดน (วรเวช ดานุวงศ์) ฟัง แดนชอบบอกให้เขียนบทมาเลย จะเอาไปทำเป็นหนังได้ เขียนได้มาประมาณ 14 ตอนแล้ว และก็พักไป เนื่องจากทำงานเยอะ ซึ่งสำหรับผมการเขียนบทก็คือศิลปะอย่างหนึ่ง เรียกว่าทุกงานที่ผมมีโอกาสได้ทำ คือ ชอบหมด เพราะมองว่าทุกอย่างมันคือศิลปะ

เล่าถึงชีวิตที่อยู่ที่เมลเบิร์น ว่ามีประสบการณ์ดีๆ และประสบการณ์ไม่ดีอะไรบ้าง

ประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่ผมได้ไปเรียนที่นั่น คือการได้เจอคนดีๆ ผมถือว่าผมเป็นคนโชคดีที่ไปอยู่ที่นั่นได้เจอแต่คนดีๆ ชีวิตวัยรุ่นที่อยู่นอกสายตาผู้ใหญ่ อาจมีเหลวไหล เที่ยวเตร่บ้าง แต่เพราะผมเป็นคนรักดี และได้เจอแต่คนดีๆ ทำให้เราพากันไปในทางที่สร้างสรรค์ ส่วนเป็นเรื่องแย่ๆ ผมว่ามันเป็นที่ตัวผมเอง ในเรื่องของการเรียน เพราะเราใช้เวลาในการเรียนที่นั้นนานกว่าคนอื่นๆ แต่ผมบอกเลยว่าผมไม่เคยคิดที่จะย้อนเวลากลับไป เพื่อตั้งใจเรียน มุ่งมั่นกับการเรียนอย่างเดียว เพราะบางทีการที่ผมเดินอ้อม เสียเวลาบ้าง แต่ทำให้ผมได้เจอคนดี ได้ประสบการณ์ที่ดีมาเก็บเป็นความทรงจำมาถึงวันนี้

เห็นว่าการเรียนนานๆ ที่นั่น ทำให้ "โทนี่" เจอประสบการณ์อึ้งกับคุณแม่มาแล้ว

ใช่ คือเรื่องเกิดจากว่า เวลาเราสนใจอะไรอย่างหนึ่ง เรามุ่งมั่นอยู่กับสิ่งนั่นสิ่งเดียว แล้วพอเราไม่ชอบ เบื่อ เราก็หันไปทำอย่างอื่น แม่ถามว่าทำไมเรียนนานจัง เราอธิบายไปว่ามันไม่ผ่าน แม่ก็เข้าใจ แม่ให้กำลังใจว่าไม่เป็นไรเอาใหม่ ตอนแรกแม่ชิลๆ แต่มีอยู่วันหนึ่งขับรถไปด้วยกัน มีผม มีแม่ และพี่สาวอีก 2 คน คุยกันเรื่องนี้ แม่ผมไม่เคยว่า ไม่เคยด่า แต่แม่ผมร้องไห้ใส่เลย ผมอึ้งช็อกเลย แถมแม่ยังบอกว่าเงินที่ส่งให้ผม ใช้พอไหม ทั้งที่ผมเอาเงินไปเที่ยวเสเพลหมด มีขอเงินเพิ่มเอาไปเที่ยวอีก แต่แม่ยังห่วง กลัวเราอยู่แล้วลำบาก คือจากตอนนั้น ผมรู้เลยว่าแม่ดีมาก ยิ่งเห็นเขาร้องไห้ เพราะจริงๆ เขารู้ความจริงกับการที่เราใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นมาบ้างแล้ว เราเลยปรับเปลี่ยนตัวเอง

ชีวิตของการเป็นลูกคนดังอย่าง บานเย็น รากแก่น ทำให้ชีวิต "โทนี่" เป็นอย่างไรบ้าง

ตอนเด็กๆ ครูจะถามว่าผมเป็นอะไรกับคุณบานเย็น รากแก่น ผมจะบอกว่าเป็นลูก ครูทุกคนจะดูแลผมดี และจะบอกว่าคุณแม่เก่ง คุณแม่สวย ในใจลึกๆ ผมภูมิใจในตัวคุณแม่ผมในระดับหนึ่ง แต่อีกใจผมก็จะรู้สึกมีปมด้อยนิดๆ ว่าทำไมเราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เพราะพ่อแม่เรามีหน้าที่ที่ต้องทำ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปมด้อย แต่เป็นเหมือนเครื่องเตือนสติ เราว่าเราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เราต้องดูแลตัวเองให้ได้

มุมมองความรัก
ความรักของ "โทนี่" ในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

คนจะบอกว่าความรักตอนนี้เป็นสีชมพูไหม ถ้าผมเปรียบความรักกับสี ผมมองความรักของผมตอนนี้เป็นสีเขียว เพราะว่ามันเป็นธรรมชาติ ความรักของผมตอนนี้ เป็นความรักที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ และดำเนินไปโดยธรรมชาติ ความรักของผมไม่ได้มีการเร่งรีบ ไม่มีการบังคับจิตใจ ไม่มีการกดดัน มันเกิดขึ้นเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งมันก็มาโป๊ะตรงที่ว่าเรารู้สึกดี ความรักแบบธรรมชาติที่ผมพูดถึงคือความจริง ความจริงของความรู้สึก ความจริงของสิ่งที่เราเสนอ เราพูดทุกๆ อย่างจากความจริงทั้งหมด

เวลา "โทนี่" มีความรักจะเป็นอย่างไร

เวลาผมมีความรัก ผมจะไม่เฟคว่าผมจะเป็นสุภาพบุรุษจะดูแลเธออย่างดี เราจะดีกับเธอที่สุด แต่เราจะบอกเขาเลยว่าช่วงแรกของการคบกัน เราดีแน่นอน ช่วงโปรโมชั่น ช่วงหลง แต่หลังจากนี้เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่โปรโมชั่นจะหมด และถ้าถึงวันนั้น ถ้าไม่มีความสุขกันแล้ว ให้บอกเราตรงๆ เราเปิดใจกันเลย เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เราเองก็ผ่านความรักมาเยอะ

กับสาวคนใหม่ "หลิน" ในเวลานี้สถานะความสัมพันธ์เรียกว่า "แฟน" ได้ไหม

บองตรงๆ ว่าเรียกว่าแฟน เราให้เกียรติผู้หญิง ก็เขินเหมือนกันที่พูดเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เราไม่ได้ใช้คำว่า "แฟน" แต่กับหลิน เรารู้สึกดีจากการที่ว่าเรามีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ดีมากเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรามีแต่เพื่อนผู้ชาย จนจะเบี่ยงเบนทางเพศแล้ว แต่มีเพื่อนผู้หญิงคนนี้เข้ามา มันดีมาก เขาน่ารัก แต่เรื่องนิสัยใจคอหลังจากนี้ว่าจะเป็นยังไง ตอนนี้เราอยู่ในช่วงศึกษากัน เขาเป็นคนตลก ไม่ได้มีภาพนางแบบเก็กสวยเลย ซึ่งเราชอบบรรยากาศสนุกสนานอยู่แล้ว เราเลยรู้สึกดีที่อยู่กับเขา

ได้เปิดมุมมองต่างๆ ของผู้ชายคนนี้ แล้วรู้เลยว่าทำไมทุกคนถึงหลงรัก "โทนี่ รากแก่น"


ชื่อจริง : โทนี่ รากแก่น
ชื่อเล่น : โทนี่
เกิด : 21 มกราคม พ.ศ. 2525
การศึกษา : ปริญญาตรี ด้านการโฆษณา จาก R.M.I.T University (Royal Melbourne Institute of Technology) ประเทศออสเตรเลีย
ผลงานที่ผ่านมา : บิ๊กบอย, สุดเขตสเลดเป็ด, ส.ค.ส.สวีทตี้, ฤดูที่ฉันเหงา, โลมากล้าท้าฝัน, ตะวันฉายในม่านเมฆ , ฟาร์มเอ๋ยฟาร์มรัก, ละครเวทีมนตร์ดําคอมเพล็กซ์ ฯลฯ
ผลงานปัจจุบัน : ซิดคอมรักจัดเต็ม