Inside Dara
กะเทาะเปลือกผู้ชายหลากสีกับวันนี้ของ'อ๊อฟ-ปองศักดิ์'

หากพูดถึงนักร้องคุณภาพอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ "อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์" เข้าไปอยู่ในใจของใครหลายคน กับการเดินทางกว่า 10 ปี บนเส้นทางสายดนตรี ที่เรื่องราวมากมายทั้งช่วงเวลาที่ดีที่สุด และแย่ที่สุด วันนี้นักร้องหนุ่มกลับมาพร้อมเดี่ยวชุดที่ 6 “The Illusion of Love" (ดิ อิลลูชั่น ออฟ เลิฟ) งานนี้เลยไม่พลาดที่จะคว้าตัวศิลปินสุดฮอต มาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิต พร้อมมุมมองของเขาที่เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

10 ปี ทื่ต้องฝ่าฟัน
ชีวิตในการทำงาน ตลอดระยะเวลา 10 ปี ของอ๊อฟก้าวผ่านอะไรมาบ้าง

อ๊อฟผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน มาจากเวทีประกวด "ทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย" ที่ไม่ได้มีโอกาสเป็นนักร้องเลย เราต้องใช้หลายอย่าง ทั้งพรสวรรค์ ร่วมถึงความอดทนต่ออุปสรรคที่เราต้องเจอ เราเจอหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นข่าว หรือการแข่งขันต่างๆ ที่มันไม่ได้เกิดจากการที่เราต้องไปแข่งกับใคร แต่มันเกิดจากเวลา ที่ทำให้เราต้องแข่งกับมัน

อ๊อฟได้อะไรมาบ้าง

เข้มแข็งขึ้น ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่าเราจะสู้กับปัญหาต่างๆ ได้อย่างไร แต่โชคดีตรงที่ว่า ก่อนมาทำงานตรงนี้ เราเคยเจออุปสรรคที่รู้สึกว่าตัวเองแย่ที่สุดในชีวิตแล้ว จนทำให้เรารู้สึกสบายขึ้น เวลามีปัญหาใหม่ๆ เกิดขึ้นกับเรา เพราะทำให้เรามองปัญหาเหล่านั้นว่า เบาไปหมดเลย

เรื่องแย่ๆ ที่ว่าคือเรื่องอะไร

อ๊อฟเคยเดินไม่ได้ กลายเป็นอัมพาตทั้งตัว ป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ เดินไม่ได้เกือบปี ต้องเริ่มหัดเดินใหม่เหมือนเด็ก ไม่คิดว่าตัวเองจะหายจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เหมือนเราใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ

ตอนนั้นมีวิธีคิดอย่างไรที่ทำให้ผ่านมาได้

รู้สึกว่าอยากตาย อยากอยู่แล้ว ที่โรงพยาบาล เราใช้ความพยายามและแรงทั้งหมดที่มีพยุงตัวเองให้เคลื่อนตัวไปยืนอยู่ริมระเบียงเพื่อจะกระโดดลงมา แต่ชั่วขณะหนึ่งกลับมีภาพดีๆ ขึ้นมาในหัว ซึ่งเป็นภาพครอบครัว เพราะช่วงที่อ๊อฟแย่ที่สุดก็มีแต่ครอบครัวที่คอยดูแล และอยู่เคียงข้างตลอดเวลา ภาพนั้นเลยกลายเป็นสิ่งที่เข้ามาฉุดรั้งเราเอาไว้ จนทำให้เราเปลี่ยนความคิดตัวเอง ถ้าวันนั้นอ๊อฟตัดสินใจโดดลงไป คงรู้สึกเสียดายที่จะไม่ได้เห็นตัวเองในวันนี้

หลังจากนั้นชีวิตเป็นอย่างไร

คิดมาโดยตลอดว่า ชีวิตต้องดีขึ้น เราต้องทำให้ชีวิตดีขึ้น คนรอบข้างเราดีที่สุด บ้านเราก็ไม่ได้เป็นคนมีฐานะ ต้องไปยืมเงินคนนั้นคนนี้มารักษา เพราะเป็นโรคที่คนหนึ่งในล้านจะสามารถเป็นได้ ต้องใช้เงินค่ารักษา 4-5 แสนบาท เป็นหนี้ และจากที่เรียนอยู่ก็ต้องพักการเรียนไป เพราะเงินค่าเทอมไม่มี นั่นเป็นจุดที่ทำเรารู้สึกว่าหลังจากที่เราหายแล้ว จะต้องเหลือแต่สิ่งที่ดี ปัจจุบันนี้ความรู้สึกท้อของอ๊อฟน้อยมาก แทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ เพราะอ๊อฟอยู่ด้วยความสุข เวลาทำงานมันเหนื่อยก็จริง แต่เราจะหาเหตุผลของความเหนื่อยให้ตัวเองจนได้ ทำยังไงก็ได้ให้มีความสุข ให้สนุก

ก้าวสู่ความสำเร็จ
วันนี้อ๊อฟมีแต่คนรู้จัก ถ้าให้มองย้อนกลับไปในวันที่ไม่มีใครรู้จักเรารู้สึกอย่างไร

มีบางครั้งที่เรานึกเสียดายเหมือนกัน เสียดายชีวิตปกติที่จะไปไหน อยากทำอะไรก็ทำได้ โดยที่ไม่มีคนสนใจ เพราะอ๊อฟเหมือนมีสองบุคลิกในตัวเอง พอเรามีความคิดในฝั่งมารแบบนั้นเข้ามา ก็จะมีความคิดฝั่งพระเข้าเตือนสติเราว่าในเมื่อเราตัดสินใจจะยืนตรงนี้แล้ว ทำไมต้องมานั่งขวนขวายหาความเป็นส่วนตัว

ตอนนี้ไม่มีความคิดอยากเป็นส่วนตัวอย่างนั้นเลยใช่ไหม

ไม่มีเลย ตอนออกจากบ้านเอเอฟ มาใหม่ๆ คนให้ความสนใจเราเยอะมาก มีแฟนคลับตามกรี๊ด ทุกคนวิ่งมาถ่ายรูป ช่วงแรกๆ เราก็ชูคอ จนนิสัยเสียไป ซึ่งเรายอมรับเลย เพราะตัวอ๊อฟมาจากคนปกติ ที่ไม่มีใครรู้จัก และไม่มีใครเข้าหาเราเยอะขนาดนี้ อยู่ดีๆ ชีวิตพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือก็เลยช็อก แล้วเหลิงกับสิ่งที่เรามี เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นในช่วงเวลาข้ามคืน

อะไรที่มาดึงอ๊อฟกลับมา

คือคำที่แม่สอน คำที่ป๊าบอก บางทีเราแค่ลืมตัวไปว่า เราคือใคร เราเป็นอะไร แล้วเราเคยคิดยังไงตอนที่เรายังไม่มีคนรู้จัก เราแค่ลืมตรงส่วนนั้นไป พอนึกถึงปุ๊บเลยคิดได้ แต่อ๊อฟโชคดีกว่าคนอีกหลายคนที่คิดไม่ได้ เพราะอ๊อฟใช้เวลา 1 ปี ในการคิดได้ อ๊อฟคิดกับตัวเองเสมอว่า ถ้าคนตัวใหญ่คิดให้ตัวเล็กจะดูน่ารัก แต่ถ้าเกิดคนที่ตัวเล็กและคิดว่าตัวเองใหญ่ น่ารังเกียจมากเลย

คิดว่าตอนนี้มาถึงจุดที่สำเร็จสูงสุดหรือยัง

มันเลยจุดที่เราคาดหวังเอาไว้ เพราะอ๊อฟไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องดัง ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องมีเงินเยอะๆ ต้องเป็นที่รู้จัก หรือมีคนรักเราเยอะมากมาย เราไม่ได้คิด คิดแค่ว่าอยากทำงานที่เรารักไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังมีโอกาสก็จะทำ แต่ถ้ามันหมดโอกาส คนไม่รับแล้ว อดีตที่ผ่านมาจะกลายเป็นกำลัง อ๊อฟไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะมาเป็นนักร้องได้อย่างปัจจุบันนี้

ภาพลักษณ์กับตัวตน
อ๊อฟคิดอย่างไรกับคำว่า "ภาพลักษณ์" ของนักร้องหรือนักแสดง

อ๊อฟจะบอกว่าคนฟังเพลงสมัยนี้ เปลี่ยนไปเยอะมาก จนบางทีอ๊อฟไม่เข้าใจว่า คนที่ทำตัวเป็นเทพ เหมือนคนที่จับต้องไม่ได้ แต่ปัจจุบันนี้คนฟังเพลงเปลี่ยนไปแล้ว ยุคสมัยเปลี่ยนไป ทุกอย่างไม่เหมือนสมัยก่อนที่ศิลปินนักร้องกว่าจะได้เจอกับคนดู คนฟังมันยาก แต่ปัจจุบันเราไม่สามารถอยู่บ้านได้เกิน 2-3 วัน เราต้องออกไปเดินห้าง แต่พอออกไปเดินห้างจริงๆ กลับใส่แว่นดำ อ๊อฟมองว่าบางทีภาพลักษณ์สำคัญก็จริง แต่ที่สำคัญกว่าภาพลักษณ์ คือความจริงที่คนทั่วไปสัมผัสได้ว่าคนนี้มันจริง มีความจริงอยู่ เราเคยเจอกับศิลปินที่เราเคยคิดว่าน่ารัก แต่ความจริงอาจจะไม่น่ารัก เหมือนที่หลายคนเห็นก็ได้

เหมือนอ๊อฟอยากเป็นคนที่ต่อหน้าอย่างไรลับหลังก็อยากให้คนรักเราอย่างนั้น

ใช่ อ๊อฟคิดว่าตัวเองแปลกกว่าคนอื่น เพราะอ๊อฟไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ เป็นคนธรรมดา ที่มีอาชีพร้องเพลง และมีคนรู้จักก็เท่านั้น ซึ่งจะทำให้เรากล้าคุยกล้าเล่นกับคนที่เราเจอ เราจะคุยกับเขาได้เต็มที่ แล้วคนเหล่านั้นจะเป็นกระจกสะท้อนที่เอาไปพูดกันปากต่อปาก สำหรับคนที่ยังไม่เคยเจออ๊อฟ อาจจะว่าต้องหยิ่งแน่เลย ต้องแบบตลกมากๆ แต่อ๊อฟอยากให้คนพูดปากต่อปากว่า คนนี้น่ารักนะ เข้าถึงง่ายนะ คุยได้นะมากกว่า

อัลบั้มชุดที่ 6 The Illusion of Love
งานนี้เพลงอัลบั้มล่าสุดเป็นอย่างไรบ้าง

ถือว่าอ๊อฟได้รับโอกาสที่ดีจากผู้ใหญ่หลายท่านที่เขาเลือกให้เราไปร้องเพลง และเขาผลิตงานให้เรา เพราะเขาอยากร่วมงานกับเรา ซึ่งอ๊อฟไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร เพราะตั้งแต่เด็กๆ แม่จะสอนว่า นอกจากเราต้องไม่ลืมตัวเองแล้ว เราต้องไม่ลืมบุญคุณคนที่ให้โอกาสเราด้วยนะ อย่าคิดว่าเรามีของอย่างเดียว เพราะบางทีคนเก่งที่ขาดโอกาสยังมีเยอะมาก แต่ทำไมเราอยู่ตรงนี้ได้ เพราะว่าไม่เคยลืมว่าใครทำอะไรให้เรา

อัลบั้มนี้มีโปรดิวเซอร์เยอะมากถึง 6 คน

ใช่ พอเราโตขึ้น ทำมาหลายอัลบั้มแล้ว อยากทำอะไรที่แปลกออกไป หรือทำแล้วตื่นเต้น แต่บางทีสิ่งที่เรามองกับสิ่งที่ผู้ใหญ่มอง อาจจะไม่เหมือนกัน ต้องหาจุดกึ่งกลางให้ได้จะทำยังไงให้คนฟัง รู้สึกว่าเพลงแต่ละเพลงกลายเป็นภาพใหม่ของเรา และ 10 เพลงในอัลบั้ม มีความแตกต่างกันหมดเลย

อ๊อฟคิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงาน

โอกาส หลายคนบอกว่าระหว่างพรสวรรค์ พรแสวง และโอกาส อันไหนจำเป็นกว่ากัน ถ้ามีโอกาสแต่ไม่มีพรสวรรค์ก็อยู่ได้ไม่นาน มีพรสวรรค์ไม่มีโอกาสก็อยู่ไม่ได้ มีพรสวรรค์แต่ไม่มีพรแสวงวันหนึ่งทุกอย่างก็ต้องหมด ฉะนั้นความจริง 3 องค์ประกอบสำคัญ และอาศัยกันหมด

ไอดอลคนเก่ง
มีคนมองอ๊อฟเป็นไอดอลชาวสีม่วง

ความจริงแล้ว คนแบบอ๊อฟมีคนชอบน้อยนะ สิ่งที่เขาชอบคืออ๊อฟเปิดเผย แต่จะบอกว่าอ๊อฟเยอะเกินพอดี แต่อยากให้แยกระหว่างสิ่งที่อยู่บนเวทีกับชีวิตจริง เพราะเราแตกต่างกันมาก ชีวิตปกติเราไม่ได้เยอะขนาดนั้น แต่สิ่งที่ทำบนเวทีทำเพื่อความสนุกและความสุข แต่แปลกที่คนชอบเรา ดันเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ กลุ่มผู้หญิง หรือกลุ่มผู้ชายห่ามๆ ที่เขาเห็นความน่ารักของอ๊อฟ แต่คนที่เป็นประเภทเดียวกันกับอ๊อฟ เขาจะไม่ค่อยชอบอ๊อฟเท่าไหร่นะ

ความกล้าในการเปิดเผยตัวตนของเรา

ความจริงเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลมากกว่า อ๊อฟไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ในวงการนี้ได้นานแค่ไหน แต่อย่างน้อยในพื้นที่ ที่เราอยู่ หรือที่เราทำงาน เราจะไม่รู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเอง เราเคยเจอคนที่ไม่มีความสุขในการทำงาน ไม่มีความสุขในการทำอะไรก็ตาม กลัวคนจะมองภาพลบ ทั้งที่เบื้องหลังไม่สวยหรู แต่เบื้องหน้าต้องเป็นภาพสวยงาม ซึ่งบางทีเราไม่เข้าใจ แต่เรายอมรับนะ เพราะอ๊อฟเป็นคนตรงๆ และการเปิดเผยตัวเองมันขึ้นอยู่กับความสบายใจของแต่ละคน

บทเรียนรัก
ความที่เป็นอ๊อฟเรื่องของความรักต้องดูเยอะขึ้นไหม

จริงๆ ก็มีส่วน แต่ไม่ได้เป็นเหตุผลหลักที่ เราจะต้องกลัวความรัก ทุกคนอาจจะเจอทั้งความรักที่ดี และไม่ดีได้ อยู่ที่ว่าจะเลือกอะไร บางคนมักจะมองว่าเป็นแบบนี้ จะมีคนเข้ามาเยอะหรือเปล่า ไม่อยากให้เหมารวม เพราะตัวอ๊อฟไม่เหมือนคนอื่น เพราะคนที่ชัดเจนแบบนี้ ดีกว่าคนที่ไม่ชัดเจนนะ เพราะคนไม่ชัดเจนอ๊อฟว่าน่ากลัว และการที่เราชัดเจนแบบนี้ คนที่เข้ามาในชีวิตเราเขาจะกลัว เพราะจริงจัง ใครมาเล่นๆ เราไม่เอา ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาหาจะคิดว่าเราเยอะ เพราะอ๊อฟเป็นคนซีเรียสมาก ต้องชัดเจน ถ้าไม่ชัดเจนเราก็ไม่เอา

มีการสกรีนอย่างไร

ประเด็นคือทุกคนมีสัญชาตญาณหมด อย่างอ๊อฟเองความรักครั้งที่แล้ว ที่โดนเขาหลอก ใช่ว่าเราไม่รู้นะ ไม่ใช่ว่าอ๊อฟไม่เอะใจ แต่เราเลือกที่จะเชื่อมากกว่า ระหว่างเชื่อตัวเองกับเชื่อสิ่งที่เขาทำให้เราเชื่อ ถ้าเกิดว่าตอนนั้นเราเชื่อตัวเองมากกว่านี้ คงไม่โดนแบบนั้น

ยังหวังจะเจอคนที่จริงใจหรือเปล่า

หวังเสมอนะ แต่ไม่ได้ขวนขวาย เพราะการที่เราจะไปรีบเร่งก็คงไม่ใช่ อ๊อฟคิดว่าความจริงอาจจะไม่ใช่เวลาของมันก็ได้ อาจจะถูกคน แต่ไม่ได้ถูกเวลา คงต้องรอต่อไป

ตอนนี้เจอคนที่ใช่แล้วหรือยัง

อ๊อฟไม่ได้ขวนขวายนะ แต่ไม่ได้ปิด มีใครเข้ามาคุยก็คุย ถ้าคุยไม่ชัดเจน เราก็ไม่คุย เพราะถ้ามีคนเข้ามาคุย อ๊อฟจะถามเลยว่าจะคุยในฐานะอะไร ถ้าเป็นเพื่อนอ๊อฟไม่คุย (หัวเราะ) เพราะอ๊อฟจะมีคนรอบข้างช่วยดูให้อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะฟังเขาหรือเปล่า แม่ก็พูดแต่เราเลือกที่จะไปเชื่อเขามากว่าเชื่อตัวเอง ทุกอย่างมันมีให้เลือก อยู่ที่เราเลือกและกำหนดเอง

นี่แหละ ตัวตนคนแบบ "อ๊อฟ" ปองศักดิ์

.......................................
คนนี้ชื่อ ปองศักดิ์ รัตนพล
ชื่อเล่น อ๊อฟ
เกิด 22 มีนาคม พ.ศ. 2528
การศึกษา จบการศึกษาระดับ ปวช. จาก โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์เชียงใหม่
ผลงานที่ผ่านมา อั้ลบั้ม This is...Aof , อั้ลบั้ม To Be Continued , อั้ลบั้ม Life is Colorful , อั้ลบั้ม Offering Love ฯลฯ
ผลงานปัจจุบัน อัลบั้ม THE ILLUSION OF LOVE