Inside Dara
“พิ้งกี้” หลังเลิกผัว !! แซ่บ แต่ไม่สุด เพราะสะดุดตอเดิม

ถ้าเปรียบชีวิตเหมือนละครโรงใหญ่อย่างที่หลายคนชอบพูดกัน

ชีวิตของนางเอกตาคม ผิวสีน้ำผึ้ง อย่าง “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” ก็คงจะเป็นละครหลังข่าวที่เข้มข้น และมีปมต่างๆ ให้คนคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา

โชคชะตาที่เคยทั้งขึ้นสุด เคยทั้งดิ่งสุด ครู่หนึ่งก็กลับขึ้นมาได้อีก ผลัดกันอยู่อย่างนั้นหลายครั้งหลายครา ชนิดเดาตอนต่อไปไม่ได้จริงๆ

จากนางเอกที่เคยโด่งดัง มีแต่คนนิยมชมชื่นทั่วบ้านทั่วเมือง กลายมาเป็นคนที่ถูกเหยียบแทบจะจมธรณี เพราะดันไปเป็นมือที่สาม เขย่าขาเตียงของนางเอกรุ่นพี่ จนเกือบไม่มีที่ยืนในวงการ

ไปๆ มาๆ ก็กลับมาเจิดจรัสเป็นผู้หญิงที่คนอิจฉา เพราะได้แต่งงานกับเศรษฐีระดับหมื่นล้าน

”เพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง”

ตอนนั้นใครๆ ก็พากันคิดว่าพิ้งกี้คงจะใช้ชีวิต “นกน้อยในกรงทอง” อย่างสุขสบาย ไม่ต้องมาตรากตรำเล่นหนัง เล่นละครให้เหนื่อยแรงที่ไหนได้ เพียงแค่ 3 ปีให้หลัง เธอก็แหกกรงออกมาประกาศตัวเป็นอิสระ ชนิด “จบไม่สวย”

เพราะต่างฝ่ายต่างก็ให้สัมภาษณ์พาดพิงกันไปมา ในมุมมอง และเหตุผลของตัวเอง แต่ก็พอจะจับใจความคร่าวๆ ได้ว่า ประเด็นหลักๆ น่าจะเป็นในเรื่องของทัศนคติในการใช้ชีวิตคู่ที่ไม่ตรงกัน ซึ่งแน่นอน อาจจะมีเรื่องของเงินๆ ทองๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยและด้วยเหตุที่ว่ายังไม่มีลูกด้วยกัน จึงไม่หลงเหลือสายใย หรือความสัมพันธ์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกัน ทำให้ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องถนอมน้ำใจซึ่งกันและกัน

ถ้าเทียบกับกรณีของ “แอฟ-ทักษอร” กับ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ที่ยอมรับว่าเตียงหักรักร้าวในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน แต่การพูดถึงอีกฝ่ายของคู่แอฟ-สงกรานต์ ก็ไม่ได้มีการแลกหมัดกันชนิดเอาเป็นเอาตายแบบคู่ของพิ้งกี้-เพชร เพราะต่อให้ไม่อยากถนอมน้ำใจกัน แต่อย่างน้อยก็เพื่อถนอมความรู้สึกของลูก

แหละ....แน่นอนว่า สิ่งที่หลายคนจับตามอง ก็คือชีวิตที่จะต้องดำเนินต่อไปของพิ้งกี้ หลังจากตกสถานะม่าย จะบอกว่าหลังจากหย่าขาดจากอดีตสามีก็ไม่ได้ เพราะทั้งคู่ไมได้จดทะเบียนกันตามกฎหมาย

ดูเหมือนการกลับมาโลดแล่นในวงการบันเทิง จะเป็นเส้นทางแรกที่พิ้งกี้เลือกที่จะเดิน !!!

ด้วยสถานะม่ายสาวเนื้อหอม ที่ดีกรีความแซ่บ และซ่าจะทบทวีขึ้นตามวัยและวันที่เพิ่มพูน

พินิจจากภาพแฟชั่นเซ็ตล่าสุด ที่อวดสรีระแบบเนื้อ นม ไข่ ชวนให้ผู้ชายน้ำลายหก และเสียดายแทนอดีตสามีที่ปล่อยให้สาวเซ็กซี่เบอร์นี้หลุดมือ

ส่วนงานละคร ก็มีที่จ่อคิวรอเรียบร้อยแล้ว อย่างเรื่อง “ภูตพิศวาส” ฉบับรีเมกใหม่ ของผู้จัด “ต่าย- นัฐฐพนท์ ลียะวณิช” ที่ทำป้อนช่องวันเป็นเรื่องแรก

เป็นอีกครั้งคราหนึ่งที่เอ็กแซ็กท์เปิดโอกาสให้พิ้งกี้กลับมาโลดแล่นในวงการบันเทิง

เพราะเมื่อครั้งที่เธอเจอวิกฤตเหตุการณ์ “เมียหลวงลวงสังหาร” จนเหมือนจะโดนแบนจากวงการ นอกจากช่อง 8 แล้วก็มีเอ็กแซ็กท์สมัยยังผลิตละครป้อนช่อง 5 นี่แหละ ที่ยื่นมือลงมาช่วย ป้อนบทเด่นๆ ให้ในเรื่อง “มารยาริษยา” บทเดียวที่ที่เคยส่งให้ “ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม” โด่งดังมาแล้ว

ในเรื่อง “ภูตพิศวาส” นั้น นอกจากจะมีพิ้งกี้แล้ว ยังมีนางเอกที่กำลังมาแรงอย่าง “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” เล่นด้วย ส่วนพระเอกก็คือ “ฌอห์น จินดาโชติ” และก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีเรื่องที่ 2 ของผู้จัดคนเดียวกันต่อเนื่องในเรื่อง “เรือนร่มงิ้ว”

ว่ากันว่าการ “รีโอเพนนิ่ง” กลับมาประเดิมละครหลังจากเลิกกับอดีตสามีหนนี้ แลกมาด้วยผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว

แต่หนทางการกลับมาของเธอก็ใช่ว่าจะราบเรียบ เหมือนเดินบนพรมกุหลาบ เพราะใช่ว่าทุกช่องจะอ้าแขนรับ

พิ้งกี้อาจจะเข้าได้เพียงช่องดิจิตอล แต่ช่องหลัก อย่าง 7 กับ 3 เห็นทีจะยาก

กับช่อง 7 นั้น พิ้งกี้เคยสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักแสดงคนแรกที่ถูกช่องประกาศผ่านสื่อว่าไม่ต่อสัญญา ในปี 2553 ซึ่งแม้จะไม่ได้แจ้งเหตุผลอย่างเป็นทางการ แต่ผู้คนก็พอจะเดาเกมออกว่า มาจากคดีมือที่สามอันลือลั่นสะท้านวงการนั่นเอง

เพราะฉะนั้น กลับไปไมได้แน่นอน !!

ส่วนช่อง 3 นั้น แต่แรกมีข่าวว่าจะต้อนรับการคืนสู่เหย้าด้วยละครเรื่อง “กรงกรรม” ของผู้จัด “อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์” ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตของ “นางย้อย” พี่สาวของ “นางแย้ม” จากเรื่อง “สุดแค้นแสนรัก”ซึ่งถ้าตามโผเดิม จะมี “ใหม่ เจริญปุระ” หวนคืนมาร่วมงานกับช่อง 3 อีกครั้งในรอบเกือบ 30 ปี ในบทของ “นางย้อย” ส่วนพิ้งกี้ถูกระบุว่าจะให้เล่นบท “พิไล” สะใภ้รอง ที่ซ่อนความร้ายลึก อิจฉาริษยา ภายใต้ใบหน้าที่สวยหวาน ขับเคี่ยวกับ “เบลล่า-ราณี” ที่พลิกบทบาทมาเล่นเป็นโสเภณี ในบท “เรณู” สะใภ้ใหญ่ โดยมี ”เจมส์จิ-จิรายุ” ที่หยิบชิ้นปลามัน เบียด “อาเล็ก-ธีรเดช” คว้าบท ”อาซา”หรือ”กมล” ลูกชายคนที่สามของนางย้อยไปครอง

แต่สุดท้ายชื่อของพิ้งกี้ก็ตกไป กลายเป็นนักแสดงในช่องอย่าง “แพร”พิชชาภา พันธุมจินดา” รับบทนี้แทน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พิ้งกี้หลุดจากโผนักแสดงในละครของช่อง 3

เพราะตอนที่ถูกช่อง 7 บอกเลิกสัญญา ก็มีข่าวว่าถูกค่ายทีวีซีนจองตัวไว้ลงละครเรื่อง “เงาพราย” คู่กับ “ศรราม เทพพิทักษ์” มีการฟิตติ้ง และบวงสรวงเปิดกล้องกันไปเรียบร้อยแล้วด้วยซ้ำ ไปๆมาๆ

กลับถูกปลดกลางอากาศ เปลี่ยนให้ “มาร์กี้-ราศรี” มาเสียบบทนี้ไป

แน่นอนว่าเหตุผลก็คงไม่ต่างจากกรณีช่อง 7 ด้วยเหตุอันเนื่องมาจากวีกรรรม-วีรเวรที่เธอก่อไว้นั่นแหละ แถมดูจะร้ายแรงกว่าตรงที่คู่กรณีของเธอ ก็ถือว่าเป็นขาใหญ่ของช่อง 3 ด้วย จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยอมให้เธอมายืนหายใจอยู่ในช่องเดียวกัน

มาหนนี้ แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่การจะกลับไปช่อง 3 ของพิ้งกี้ ก็หนีไม่พ้นเจอ “ตอ” เดิม ทำให้ต้องถูกเนรเทศออกมาเป็นคำรบสอง

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.....

ต่อให้บุญมี แต่ถ้าถูกกรรม (เก่า) บัง ยังไงก็ไปไม่ได้ไกลกว่านี้ !!