Inside Dara
อั้ม-แก้ม ปลื้มร้องเพลงสรรเสริญฯ นัท เผยทั้งน้ำตาเคยรับเสด็จในหลวง ร.9

ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักคนบันเทิงที่มีโอกาสได้ร่วมอยู่ในบันทึกครั้งประวัติศาสตร์เมืองไทยสำหรับ อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ และ นัท มีเรีย หลังจากได้มาร่วมร้องเพลงในการถ่ายทำภาพยนตร์เพลงสรรเสริญพระบารมี ณ ท้องสนามหลวง เพื่อแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ซึ่งทั้งคู่เผยถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมทำงานครั้งนี้ ตลอดจนเผยถึงความประทับใจและพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย

พูดถึงนาทีที่คนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพร้อมกัน?

อั้ม “ผมรู้ว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่และดูอยู่ต้องรู้สึกขนลุกในความตั้งใจของทุกคนที่มาร้องที่นี่ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องตั้งใจ มานั่งรอกันตั้งแต่เช้า เชื่อว่าทุกคนที่ดูต้องสัมผัสได้ถึงความตั้งใจ พลังความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชื่อว่าจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ต่อให้ประเทศไหนในโลก ก็ไม่สามารถทำแบบเราได้ ในฐานะคนไทยตั้งใจไว้โดยตลอดว่า เราจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ ทั้งประเทศ สังคม และผู้อื่น เหมือนอย่างที่ท่านทรงปลูกเมล็ดกล้าไว้ในหัวใจของเราทุกคน หน้าที่ของเราต้องส่งต่อความดีนี้ให้ลูกๆ หลานๆ เรา ให้โตมาเป็นต้นไม้ที่มีรากที่แข็งแรง เพราะว่าสิ่งที่ท่านทรงสอนเป็นคำสอนแบบธรรมชาติ พระองค์ทรงต้องการให้ประชาชนมีความสุขจากภายใน และพระองค์ไม่เคยหวังสิ่งใดตอบแทน สิ่งที่พระองค์ทรงต้องการคือความสามัคคี เชื่อว่าอันนี้คือพลังที่ทำให้มีวันนี้”

นัท “เป็นภาพประทับใจ นัทเชื่อว่า คนที่อยู่และมาไม่ได้จะรับรู้ถึงความรู้สึกตรงนี้ที่เราร้องให้กับพระองค์ท่าน ครั้งนี้เป็นเหมือนครั้งสุดท้ายที่จะทูลลาพระองค์ท่าน เราเองอยากให้คนไทยอย่าลืมที่จะทำความดี ถวายพระองค์ท่าน พระองค์ท่านไม่ต้องการอะไรเหมือนพ่อที่รักลูก อยากให้ลูกมีความสุข สามัคคีรักใคร่ ปรองดอง การร้องเพลงเป็นการสรรเสริญพระบารมี ร้องถึงพระองค์ท่านอยากให้เพลงนี้อยู่ในใจ และเตือนสติเราทุกครั้งว่า เวลาเราจะทำอะไร เรานึกถึงพระองค์ท่านก่อนว่า ทรงทำอะไรให้เราไว้บ้าง แล้วเราใช้ชีวิตอย่างมีสติเดินตามรอยท่าน ทำให้เราอยู่ได้อย่างมีสันติ นัทเคยได้มีโอกาสรับเสด็จพระองค์ที่ศิริราชค่ะ ตอนนั้นแม่ป่วยที่ศิริราช มีโอกาสได้เฝ้าฯ พระองค์ตอนยังทรงพระดำเนินด้วยพระองค์เองนะคะ ท่านเสด็จลงจากรถแล้วมาเยี่ยมสมเด็จพระพี่นาง เห็นประตูรถท่านเปิดมา ตั้งแต่พระบาทท่านเหยียบพื้นดิน มีไม้เท้าตามลงมา แล้วท่านก็ค่อยๆ ทรงพระดำเนิน (ร้องไห้) เสด็จขึ้นบันได ไปเยี่ยมพี่ นัทเห็นพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนเป็นภาพที่นัทจำไม่ลืมเลย พระองค์ท่านมีพระเมตตา มีน้ำพระราชหฤทัยงดงาม พระองค์ท่านรักครอบครัวและรักประเทศชาติ ประทับใจมาก อยากจะบอกกับพ่อหลวงว่าอยากจะทำดี คิดดีทำดีพูดดี ปฏิบัติตัวดี ให้ดีที่สุด เป็นคนที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติของเราด้วย ไม่มากก็น้อยจะทำสุดความสามารถ”

พระราชดำรัสที่เราประทับใจและนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน?

นัท “การรู้จักหน้าที่ของตนและการอดทนและมีความเพียร จะทำให้เราถึงจุดหมาย เป็นหลักที่ง่ายมากแต่ถ้าเราระลึกได้ทุกวันทำให้เป็นนิสัยมันก็จะกลายเป็นธรรมชาติ โดยที่เรารู้สึกว่ามันไม่รู้สึกผิดแปลกอะไร พระองค์ทรงเป็นตัวอย่างเรื่องความอดทน พระองค์ทรงหนักแน่นมั่นคงมากมายขนาดไหน”

อั้ม “พระองค์ท่านทรงทุ่มเททุกอย่าง แรงใจแรงกายให้กับหน้าที่ของพระองค์ ที่ทำเพื่อคนอื่น เรามองว่าเรามีความสุขทุกครั้งที่คิดถึงพระองค์ท่าน สิ่งที่เรามีความสุขคือเมื่อเราได้ทำเพื่อผู้อื่น และสิ่งที่พระองค์ทรงพยายามพร่ำสอนคือ วิถีการใช้ชีวิตแบบพอเพียงมันเป็นหลักในการดึงชีวิตให้เราไม่เหลิง ไม่มัวเมาลุ่มหลงไปกับอะไรต่างๆ นานา เราต้องรู้จักควบคุมความต้องการของเรา เชื่อว่าหลักนี้จะทำให้เรามีสติรู้จักพอและความโลภน้อยลง”

ด้านนักร้องสาวผิวเข้ม แก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น หรือ แก้ม เดอะสตาร์ ก็ได้เผยถึงความรู้สึกหลังมาร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ณ ท้องสนามหลวง ด้วยเช่นกัน

ถามถึงความรู้สึกที่ได้มาร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี?

"รู้สึกดีมากจริงๆ นะ และวันนี้คนเยอะมาก เราแค่ได้มาเราก็ภูมิใจแล้วนะ ถึงแม้ว่าวันนี้เราอาจจะไม่สามารถเข้าไปที่ในท้องสนามหลวงนะ ได้มาร่วมงานเราเห็นพลังของคนไทยแล้ว แก้มมาถึงศาลหลักเมืองเวลา 11.00 น. จริงๆ มาวันนี้อยู่ตรงไหนก็ได้นะ แต่อาจจะไม่ได้ยินเพลงเท่านั้นเอง วันนี้คนมาด้วยใจกันจริงๆ ไม่เป็นไรหรอก อยู่ตรงไหนก็เหมือนกัน ถือว่าเราเป็นส่วนเล็กๆ ที่ได้ส่งพลังไปตรงที่ร้องเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9"

เพลงสรรเสริญพระบารมีในวันนี้จะมีความพิเศษกว่าเดิมขนาดไหน?

"เพลงสรรเสริญวันนี้มีความพิเศษอย่างมากเลยนะ เพราะว่ามันมาจากใจของประชาชนทุกคนตรงนี้ ถึงแม้เราไม่ต้องได้ร้องนะ แต่เรามาวันนี้มันพิเศษมาก แต่ตอนนี้เราเองก็มีจุดนะ แต่ว่าตอนนี้ทุกคนมาเยอะ เราแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองได้ มุมไหนตรงไหนได้หมด”.