Inside Dara
ฝ่าด่านพิสูจน์ฝีมือกับหนุ่มที่ชื่อ'เคนภูภูมิ'

หากเอ่ยชื่อ "เคน" ภูภูมิ พงศ์ภาณุ หลายคนคงนึกถึงพระเอกหน้าใหม่ที่มีหน้าตาดีไปพร้อมกับข่าวค(ร)าวมากมาย โดยที่บางทีคนรู้จักหนุ่มน้อยคนนี้มาจากข่าวมากกว่างานเสียอีก วันนี้รายการ "ซุปตาร์ในดวงใจ" และ "คม ชัด ลึก" จึงพาทุกท่านไปรู้จักตัวจริงๆ ของเขาที่มากขึ้น ว่าแล้วมาสัมผัสตัวตนของหนุ่มคนนี้กันเลย....


ผลงานล่าสุด
กับภาพยนตร์ สาระแน โอเซกไก เป็นอย่างไรบ้าง

บทบาทจะมี 4 ตอน มีพี่ตั๊ก บริบูรณ์ พี่แจ๊ส ชวนชื่น เนย เนโกะจัมพ์ และเคน ซึ่งในส่วนของผม จะโดนหลอกไปโฆษณา เราดีใจที่ได้ไปถ่ายโฆษณาที่ญี่ปุ่น ได้โกอินเตอร์ ซึ่งตอนไปที่ประเทศญี่ปุ่นก็ไปถ่ายทำตามปกติ ไม่รู้เลยว่ากำลังโดนแกล้ง อาจจะมีเรื่องอะไรที่ตลกบ้างนิดหน่อย แต่เขาอธิบายว่าคนญี่ปุ่นชอบอะไรที่ตลก ผมโอเคถ้าชอบตลกผมก็ทำให้ได้ มีทำท่าตลกๆ ผมทำท่าแปลงร่าง และเอามือมากุมเป้า ถ้าอยากเห็นเต็มๆ ต้องรอชมในภาพยนตร์ และคือมีกล้องตัวหนึ่งจับเราตลอดเวลา ซึ่งเราไม่รู้ว่า กล้องตัวนี้เป็นกล้องของทีมงานสาระแน เราสงสัยทำไมกล้องตัวนี้ต้องถ่ายตลอดเวลา แต่ทีมงานเขาบอกว่าดาราต่างประเทศที่มาทำงานในประเทศญี่ปุ่น จะต้องมีกล้องจับตลอดเวลาเป็นเรื่องปกติ ซึ่งต้องบอกว่าขนาดผู้จัดการส่วนตัวของผมที่ไปด้วยกัน เขาก็เป็นหน้าม้าเหมือนกัน ไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย แต่ไปช่วยทีมงาน (หัวเราะ) คือทุกคนในนั้นรู้กันหมด มีผมไม่รู้อยู่คนเดียว แต่ก็สนุกดี ยังไงติดตามชมกันได้ 18 ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

แล้วกับบทบาท "วีกิจ" ในละคร "แรงเงา" กับการเป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรก

ยอมรับว่ารู้สึกกดดัน แต่พอได้มาเจอพวกพี่ๆ นักแสดงและทีมงานที่เก่งๆ แล้ว เขาช่วยเราเยอะมาก ผมคิดว่าการแสดงของผมน่าจะดีขึ้นกว่าเรื่องที่แล้ว ตัวผมเองยังลุ้นๆ อยู่ อยากให้ทุกคนคอยติดตามผลงานของผมต่อไปเรื่อยๆ อาจจะได้เห็นอะไรที่แปลกใหม่ ในตัวเคนบ้าง รวมถึงในตัวบทบาทอื่นๆ ด้วย ซึ่งในเรื่องนี้เล่นเป็นผู้ชายแสนดีมาก ต้องเล่นเป็นคนที่มีอายุแก่กว่าอายุจริงๆ 10 ปี ก็พยายามเรียนรู้กันไปจากพี่ๆ นักแสดงในเรื่อง ทำให้เราค่อยๆ โตไปเอง เพราะได้สังเกตุอะไรที่มากขึ้น ในตอนแรกๆ คนอาจจะมองว่าเล่นไม่ยาก แต่หลังจากนี้ผมว่ายาก

ฉากไหนที่เครียดและกดดันที่สุด

ฉากหลังๆ ผมว่าเครียดหมดเลย เพราะมีการถึงเนื้อถึงตัวเยอะมาก ผมว่าตอนหลังๆ วีกิจเริ่มทนไม่ไหวแล้ว ทนเห็นนางเอกทำตัวแย่ๆ ไม่ไหวแล้ว จึงมีรุนแรงใส่นางเอกบ้าง มีตบจูบบ้าง ถือว่าหนักเลย อยากให้ทุกคนติดตามชมกัน เรียกได้ว่าเข้มข้นมาก ไม่ใช่แค่คู่พี่ธัญญ่า(ธัญญาเรศ เองตระกูล) ยังมีอีกหลายๆคู่ เพราะตัวละครเยอะมาก และแต่ละตัวดำเนินเรื่องตลอดเลย จะมีตัวละครที่มาสอดแทรกเยอะ และมีเรื่องทุกตัวละครเลย ตัวที่สอดแทรกเข้ามา คือ เป็นตัวสร้างเรื่อง ทำให้ละครดำเนินเรื่องต่อไปได้เรื่อยๆ เลย

กระแสตอบรับละครเป็นอย่างไรบ้าง

กระแสตอบรับดีเลย มีคนเรียกว่า วีกิจ บ้างแล้ว (ยิ้ม) มีเข้ามาบอกว่า น่าสงสารจังเลยวีกิจ ทำไมมุตตาไม่เรียกวีกิจ ทำไมต้องไปเลือกเจนภพ มีหลายๆ คนเขาหมั่นไส้มุตตา (หัวเราะ) เพราะวีกิจ โสด น่าตาดี มีรถขับ ที่บ้านมีฐานะนิดหน่อย ทำไมไม่เลือก (หัวเราะ) ซึ่งในตอนแรกๆ มีกระแสวิจารณ์ว่าผมยังเล่นแข็งอยู่ ผมอยากให้รอดูต่อๆ ไปเรื่อยๆ สำหรับตัวผมแล้ว คิดว่าบทบาทการแสดงของผมมันจะค่อยๆ ออกมาทีละนิด คอยดูกันต่อไปดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไร (ยิ้ม) ผมว่าน่าจะสนุกและมีอะไรที่ทุกคนอยากเห็นผมแสดง และคิดว่าคงจะได้เห็นในเรื่องนี้ ซึ่งตอนนี้เห็นเขาบอกว่าละครยังจบไม่ลง (หัวเราะ) ก็ยังถ่ายไม่จบ แต่ใกล้ๆ เข้ามาทุกที


1 ปี กับการเป็นนักแสดง
1 ปีที่ผ่านมาได้เรียนรู้อะไรบ้าง

1 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมโตและรู้อะไรมากขึ้น เพราะว่าใน 1 ปีมานี้ ผมได้มีโอกาสทำงานอะไรหลายๆอย่าง ทั้ง ละคร ภาพยนตร์ ถ่ายแบบ เดินแบบ โฆษณา พิธีกรก็เคยแล้ว คอนเสิร์ตก็เคยแล้ว ตอนนี้งานเบื้องหน้าก็เหลือดีเจ ส่วนงานเบื้องหลังยังไม่เคยเลย ถือว่าผมได้มีโอกาสที่ทางผู้ใหญ่ให้ลองทำงานอะไรหลายๆ อย่าง แต่ถ้าให้เลือกที่สุดผมคงชอบการแสดง ทั้ง ภาพยนตร์ และละคร ส่วนการร้องเพลงอาจไม่ใช่แนวผม (หัวเราะ) อาจจะร้องได้บ้าง แต่ไม่ได้เพราะ ส่วนดีเจผมยังพูดไม่ค่อยเก่ง อาจจะไม่ใช่แนวทาง แต่งานทุกอย่างท้าทายสำหรับผม เพราะอย่างการร้องเพลง ผมไม่เคยร้องเพลงโชว์ใครมาก่อน และไม่เคยเต้น เพราะผมเป็นคนที่อายเรื่องการเต้น และการร้องเพลงมาก ตอนแรกกังวัลมากว่ายังไงก็ทำไม่ได้แน่ๆ จนได้เข้าไปเรียนเรื่อยๆ หลังๆจึงเริ่มรู้สึกว่าสนุกดี และเวลาได้ขึ้นคอนเสิร์ต ออกมาได้เห็นคนมาให้กำลังใจเราเยอะ เลยรู้สึกว่าสนุกไปกับเรา แต่ละงานผมต้องเข้าคอร์สสร้างความมั่นใจให้กับตัวผมเอง ทำให้เราเพิ่มเปอร์เซ็นของการทำงานให้เราได้อีกเยอะเลย ถ้าเรามีความมั่นใจ

ชีวิตเปลี่ยนไปแค่ไหนเมื่อเข้าวงการ

พอได้เข้ามาในวงการ เวลาไปไหนมาไหนมีคนรู้จักเรามากขึ้น มาทักเรา ยังรู้สึกแปลกๆ อยู่ จริงๆ แล้วผมอยากทำอะไรปกติธรรมดา อย่างไปเดินห้างกับเพื่อนๆ ไปเตะบอล ขนาดในสนามฟุตบอล ยังมีคนมาขอถ่ายรูปด้วยเลย และในบางสถานที่ที่คิดว่าจะไม่มีคนรู้จัก แต่มีคนรู้จักเราและมาขอถ่ายรูป ผมว่าเป็นเรื่องปกติของการทำงาน อย่างผมอาจจะต้องแลกกับเวลาส่วนตัวไปบ้าง แต่ถ้าเทียบกับการทำงานในออฟฟิศ ผมว่ามันดีกว่า เพราะไม่ต้องตื่นเช้ามารถติด เป็นเรื่องปกติ ต่างคนต่างมีอะไรที่ต้องแลกอยู่แล้ว

เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงไหม

ผมเป็นคนมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ผมชอบนั่งอยู่บ้าน ขอแค่ในบางครั้งอยากทำอะไรที่เป็นส่วนตัวบ้าง อยากไปฟิตเนส อยากไปเตะบอลกับเพื่อนๆ เพราะเมื่อก่อนผมจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนเยอะ ไปเตะบอล เล่นเกม แต่มาช่วงหลังบางทีด้วยเรื่องของเวลา จึงไม่มีโอกาสได้ทำอะไรแบบนั้น งอแงกับตัวเอง อาจจะเข้าใจว่าต้องทำอะไร แต่จะมีคำถามตามมาว่าทำไมต้องทำ อาจจะเพราะป็นวัยรุ่นจึงทำให้คิดแบบนั้น และตอนแรกที่เข้าวงการ แค่เข้ามาเพราะว่าผมบังเอิญไปเจอพี่เอ (ศุภชัย ศรีวิจิตร) และบังเอิญพี่เขามีเด็กในสังกัดเยอะมาก และไม่คิดว่าเราจะเป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสได้มาทำงานตรงนี้ แต่มาตอนนี้ผมเข้าใจกว่าแต่ก่อนเยอะ ว่าต้องมีการแลกอะไรบางอย่างบ้าง

ต้องดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าตอนก่อนเข้าวงการไหม

เรื่องแต่งตัวของผมเหมือนเดิม จนพี่ๆ ที่ดูแลผมเขาบอกว่า เวลาออกไปข้างนอกแต่ตัวเยอะกว่านี้ก็ได้ (หัวเราะ) เพราะผมจะชอบใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืด รองเท้าแตะ อย่างบางทีผมไปเดินห้างแรกๆ ผมก็แต่งตัวแบบนั้น จนเพื่อนๆผมเองนี่แหละบอกว่า คนมองเยอะมาก ถามผมว่าเอาเสื้อคลุมไปใส่ไหม คือ ผมคิดว่าผมทำงานทุกวัน แต่งหน้าทำผมมาเยอะแล้ว วันว่างๆ ขอเป็นอะไรที่ไม่ต้องทำอะไรเลยได้ไหม แต่ไม่ได้จริงๆ ถึงแม้จะใส่กางเกงขาสั้น ขอให้รองเท้าเป็นผ้าใบ เพื่อให้ดูสุภาพนิดหนึ่ง เพราะคนรู้จักเราเยอะขึ้น

ชีวิตในวัยเด็ก

ผมเป็นเด็กที่รู้สึกคุ้ม เพราะชีวิตในวัยเด็กของผมเหมือนในหนังเรื่อง "แฟนฉัน" เพราะใช้ชีวิตปั่นจักรยาน อยู่ต่างจังหวัด เป็นอะไรที่สุดขั้วจริงๆ ได้มีโอากสได้เล่นอะไรหลายๆอย่าง ที่เด็กสมัยนี้อาจจะไม่ได้เล่นแล้ว คือ ตามต่างจังหวัด จะมีงานวัดบ่อยมาก มีงิ้ว มีลิเก มียิงปืน มีหนังกลางแปลงให้ดู เป็นงานที่ใหญ่มากและทุกคนต้องไป ผมยังจำได้ว่าย่าผม ป้าผม จะชอบไปดูลิเกกันมาก ซึ่งผมว่างานวัดสมัยนี้ คนอาจจะไม่เยอะเหมือนสมัยก่อน อย่างในกรุงเทพฯ มีงานวัดน้อยมาก ผมโชคดีที่เกิดในยุคที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปมาก ผมยังชอบบรรยากาศแบบเก่าๆ ถือเสื่อไปนั่งดูหนังกลางแปลง อะไรแบบนี้


ข่าวคราวกับวิธีรับมือ
ข่าวเกิดขึ้นเยอะมาก

เยอะมากจริงๆ แต่บางทีข่าวเกิดขึ้นมาโดยที่ผมไม่รู้เรื่องเลย มีช่วงหนึ่งที่ผมจะถ่ายรูปกับใครไม่ได้เลย เพราะถ่ายปุ๊บ จะเป็นข่าวเลยทันที มีพี่ๆ นักข่าวเอารูปมาให้ดู ว่ามีรูปหลุดคู่สาวอะไรแบบนี้ ผมจะบอกไปว่า ไม่ใช่แล้วพี่ นั่นมันเพื่อนผม ซึ่งผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเวลาที่ผมถ่ายรูปกับใครแล้วถึงกลายเป็นข่าวบ่อยๆ แต่ไม่เป็นไรผมจะตั้งใจทำงานตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าที่เราจะมีอะไรที่แตกออกไป ผมว่างานตรงนี้เป็นอะไรที่ดี มีเวลาพอที่เราจะทำอะไรหลายๆ อย่าง อย่างตอนนี้ผมกำลังจะเปิดธุรกิจกับพี่เวียร์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) เป็นร้านอาหารชาวเหนือ อยู่ตรงเกษตรนวมินทร์

เป็นคนเจ้าชู้ไหม

จริงๆ แล้วผมอยากมีใครเป็นตัวเป็นตนนะ คือ ถ้าผมจะรักใคร คงรักคนเดียว ถ้าเจอคนที่ดี และคุยกันรู้เรื่องเข้าใจ ผมว่าคงจะรักเขามาก และคงจะหึงมากด้วย ณ ตอนนี้ผมยอมรับว่ามีคนคุยด้วยอยู่บ้าง แต่ว่ายังไม่อยากที่จะตกลงหรือคบกับใครอะไร เพราะว่าผมยังมีงานที่ต้องทำ คงจะต้องดูกันต่อไปยาวๆ เพราะเรื่องแบบนี้คงดูแป๊บเดียวไม่ได้ คงต้องดูต่อไปยาวๆ เมื่อก่อนผมเคยแอบชอบบางคน แต่เขาไม่เคยคุยด้วยเลย แต่พอผมเข้าวงการ เขามาทักว่าดังใหญ่แล้วนะ ซึ่งเมื่อก่อนทำไมไม่พูดกับผมแบบนี้บ้างเลย (ยิ้ม)

โดน "เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร" เรียกเตือนบ่อย

ไม่หรอก พี่เอเขาไม่ดุ เขารู้ว่าเราโตแล้ว คุยกันด้วยเหตุผลอะไรแบบนี้มากกว่า แต่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์จริง ซึ่งพี่เอเขาจะชอบดูดวง อย่างแบบช่วงนี้ดวงไม่ดีนะ ควรใช้เบอร์นี้ อะไรแบบนี้ จะช่วยทำให้อะไรมันดีขึ้น อย่างเรื่องเปลี่ยนชื่ออะไรแบบนี้ก็ด้วย ซึ่งมันเป็นความเชื่อ ที่ผมว่าหลายๆ คนก็คงมีความเชื่อเรื่องพวกนี้ ซึ่งผมรอติดตามผลอยู่ว่าจะเป็นอย่างไร จะดีขึ้นไหม ตอนนี้เปลี่ยนแล้ว หวังว่าจะมีหนังและละครเข้ามาอีก

การเรียนเป็นอย่างไรบ้าง

ยังเรียนอยู่ ตอนนี้หนักมากเพราะปีสุดท้ายแล้ว ก็ต้องหาเวลาไปเรียน หาเวลาไปสอบ อาจารย์ก็ช่วยเท่าๆ ที่ช่วยได้ แต่ผมต้องช่วยตัวเองด้วย ซึ่งเพื่อนๆ ดีมากช่วยจดงาน การบ้านต่างๆ เวลาเราไปสอบ เรามั่นใจได้เลยว่า ถ้าเราไม่ทัน เพื่อนช่วยแน่นอน จึงอยากจะให้ปริญญาเพื่อนอีกสักใบ (ยิ้ม) เพื่อนเขาจะคอยช่วยบอก ช่วยตามงานให้ โชคดีที่มีเพื่อนกลุ่มนี้

ครอบครัวภูมิใจขนาดไหน

แฮปปี้ แต่จะเห่อละครมากกว่า ตอนนี้กำลังดูเรื่อง แรงเงา แต่เขาก็จะไม่ค่อยไปคุยเท่าไหร่ว่าลูกเป็นพระเอกนะหรืออะไรแบบนี้ เพราะเขาค่อนข้างที่จะขี้อายเหมือนกัน ถ้าไม่มีใครถาม เขาก็จะไม่ค่อยพูดแต่เขาก็ภูมิใจของเขา


ชื่อ : ภูภูมิ พงศ์ภาณุ
ชื่อเล่น เคน
วันเกิด : 20 ตุลาคม 2532
การศึกษา : จากโรงเรียนกุนนทีรุทธารามวิทยาคม และกำลังศึกษาปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ผลงานที่ผ่านมา : หอแต๋วแตกแหกกระเจิง ภาพยนตร์ 30 กำลังแจ๋ว ละคร สามหนุ่มเนื้อทอง ฯลฯ
ผลงานปัจจุบัน : ละครแรงเงา ภาพยนตร์สาระแนโอเซกไก