Inside Dara
"เกรซ นรินทร" เปิดใจ ถูกพุ่งเป้านางงามหน้าแป้น หนีหนี้แต่กลับใช้ชีวิตสุขสบาย

ออกมาเปิดใจเคลียร์ให้ฟังกันชัดๆ ไปเลยทีเดียว สำหรับ เกรซ-นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 เมื่อมีข่าวเม้าท์ออกมาหนาหูจนถูกพุ่งเป้ามาเต็มๆ ว่าเป็นนางงามหน้าแป้น คุณแม่ยืมเงินจำนวนหกหลักเอาไปหมุนตอนประกวดและไม่ยอมคืน แต่กลับใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย

โดยงานนี้ เกรซ นรินทร ได้เผยให้ฟังว่า พอจะเห็นข่าวแล้วตอนแรกก็เฉยๆ แต่พอได้คุยกับคุณแม่ถึงข่าวล่าสุดที่มีผลกระทบกับครอบครัวก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน ส่วนตัวพอทราบแล้วว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวก็ให้ทนายช่วยจัดการต่อ พร้อมยืนยันครอบครัวคอยซัพพอร์ตทุกอย่าง ไม่มีปัญหาเรื่องเงินแน่นอน

ถามถึงข่าวที่เกิดขึ้นที่โยงมาถึงเราว่าเป็นนางงามหน้าแป้น ?

“เห็นแล้วค่ะ คือที่จริงแล้วเกรซว่าตั้งแต่เกรซได้รับมงก็ได้ยินข่าวอะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนแรกรู้สึกชิน เพราะโอเคเรามาเป็นนางงามต้องมีกระแส มีข่าวอะไรอยู่แล้ว แต่พอตอนนี้คุยกับคุณแม่ ข่าวล่าสุดมันมีผลกระทบเกี่ยวกับครอบครัวของตัวเอง เราเลยรู้สึกว่าไม่ได้แล้วนะ ก็คุยกับคุณแม่ว่าดำเนินคดีแน่นอน เพราะว่ามันไม่เป็นความจริง ดำเนินคดีและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาล ก็ให้ทนายเขาเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดแล้ว”

ที่เขาอ้างว่าคุณแม่ไปหยิบยืมเงินมาเพื่อส่งเราเข้าประกวด มันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไหม ?

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ให้เป็นหน้าที่ของศาลดีกว่า ตอนนี้กำลังดำเนินคดีอยู่ คืออยากพูดแค่นี้ ถ้าพูดมากกว่าจะส่งผลกับรูปคดี ตอนนี้ก็ให้ทนายเจมส์เป็นคนดูแลทุกอย่าง”

เรารู้ตัวใช่ไหมว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวนี้ออกมา ?

“รู้ค่ะ”

เรากับเขารู้จักกัน ?

“รอดูแล้วกันค่ะ เพราะตอนนี้เล่าเรื่องราวทุกอย่างไปให้ทางทนายเจมส์หมดแล้ว คือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคดีไปดีกว่าค่ะ”

ส่วนตัวเราโกรธไหม ?

“อย่างที่บอกเลย เกรซรู้สึกว่ามากับมงเรื่องข่าวมันเป็นอะไรที่แบบ ถ้าเกรซโกรธเกรซคงจะโกรธว่าหน้าแป้นอะไรแบบนี้ ก็โอเคค่ะคือเราไม่สามารถที่จะให้คิดใครคิดอะไรยังไงได้ สุดท้ายแล้วทุกคนมีความคิดของตัวเองค่ะ มีอิสระเสรีภาพในการคิด การแสดงออกไป ส่วนตัวเราทำหน้าที่เราให้ดีที่สุดอย่างเมื่อกี้ที่พี่พูดเลยสีผมใช่ไหม ก็อยากจะฝากทุกคนติดตามซิงเกิลด้วยนะคะ จะออกในต้นปีหน้า จะทำเพลงเปลี่ยนจากนางงามเป็นนักร้องเต็มตัว

เปลี่ยนจากนางงามเป็นนักร้องเต็มตัวแล้ว อยากให้ทุกคนติดตามโฟกัสในอนาคตดีกว่าว่าจะพัฒนาอะไรต่อไปยังไงบ้าง ส่วนเรื่องราวของข่าวมันมีทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะตัวเกรซเอง หรือตัวคนอื่นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาล หน้าที่ของทนายไป”

ตอนที่เราลงรูปกับทนายเจมส์ เขามีมาติดต่อขอเขาอะไรไหม ?

“อันนี้ถ้ากับเกรซโดยตรงยังไม่มีนะคะ”

ยังไม่มีการเจรจาคุยกันนอกรอบ ?

“ค่ะ เพราะว่าให้ทนายเจมส์เป็นคนจัดการให้ทั้งหมดค่ะ ถ้าสมมติตัวเกรซหรือตัวคุณแม่เองไปจัดการมันจะส่งผลได้กับรูปคดี ก็รอดำเนินคดีไปค่ะ”

เรายื่นฟ้องไปแล้ว ?

“ก็แค่นี้แล้วกัน (ยิ้ม)”

ตอนเราไปประกวดเราใช้เงินเยอะมากน้อยขนาดไหน ?

“เกรซว่าทุกๆ คนไม่ใช่แค่การประกวดนะ ตั้งแต่ตอนแรกเลยที่เริ่มเข้าประกวดต้องเริ่มใช้เงินอยู่แล้วค่ะ อย่างตัวเกรซเองคุณแม่เป็นคนดูแล ไม่ได้มีผู้จัดการหรืออะไร ดังนั้นเรื่องเงินเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องใช้ เหมือนชีวิตประจำวันเลยค่ะต้องใช้เงินอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ทางครอบครัวเราก็ซัพพอร์ต ทุกคนซัพพอร์ตเกรซเต็มที่ทุกคน ทางครอบครัว ทางญาติคุณพ่อคุณแม่ ทุกคนซัพพอร์ตเต็มที่ค่ะ ดังนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร”

คุณแม่ซีเรียสกับข่าวที่เกิดขึ้นขนาดไหน ?

“ถามว่าซีเรียสไหม อย่างที่บอกเลยค่ะตอนแรกคิดว่าไม่ได้มีอะไร เพราะข่าวมันมีทุกวันอยู่แล้ว แต่ว่ามันเริ่มกระทบถึงครอบครัวมากขึ้น เพราะเรารู้สึกว่าอาจจะมีการดูถูกครอบครัวนิดหนึ่ง ซึ่งเอาตรงๆ ครอบครัวก็ไม่ค่อยโอเค อย่างที่บอกว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลในการดำเนินคดีแล้ว”

ฟ้องในข้อหาอะไร ?

“อันนี้ขอไม่พูดแล้วกันค่ะ เดี๋ยวรอดูต่อไปแล้วกันเนอะ”

คิดว่าเรื่องนี้จะจบยังไง ?

“เรื่องนี้เอาตรงๆ เรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นอะไร เราไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้ สิ่งที่โฟกัสอยู่คือเพลงค่ะ เกรซทำเพลงหนักมาก และตั้งใจให้เพลงออกมาดีที่สุด ยังไงก็ฝากพี่ๆ ช่วยโปรโมตเรื่องเพลงด้วยนะคะ ออกมาต้นปีหน้าแน่นอน อยากให้ดูเพราะเปลี่ยนจากนางงามเป็นนักร้องเต็มตัวแล้ว ก็อยากจะโฟกัสเรื่องเพลง ทำแนวที่ไม่ใช่แนวของตัวเอง เพราะหลายคนอาจจะมองว่าเราเป็นสายหวาน คงออกเพลงหวานๆ หรือเปล่า ไม่นะคะ จะออกเพลงสไตล์เท่ๆ เป็นตัวเองมากขึ้น อยากให้ทุกคนโฟกัสและมองว่าต่อไปเกรซจะพัฒนาไปในรูปแบบไหนมากขึ้น ก็ทำเองค่ะ รอติดตาม”

ตอนเราไปประกวดเราไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงินใช่ไหม ?

“ไม่ค่ะ”

คุณแม่โกรธไหม เพราะเหมือนเป็นข่าวที่กระทบคุณแม่โดยตรง ?

“โกรธไหม อย่างที่บอกเราถึงต้องดำเนินคดี เพราะมันกระทบกับครอบครัว ทุกคนมีอารมณ์โกรธ แฮปปี้ ทุกคนมีอารมณ์อยู่แล้ว พอมันมีข่าวออกมาตั้งแต่หน้าแป้นออกมาคุณแม่เขาก็ต้องรู้สึกนิดหนึ่งแหละ เพราะเป็นพ่อแม่เราเขาก็รู้ว่าเราเป็นยังไง เราศัลยกรรมอะไรไหม ทุกคนถ้าสมมติใครรู้ความจริงมันก็มีความรู้สึกอยู่แล้วแหละ แต่ถามว่ามันส่งผลกระทบอะไรขนาดนั้นก็ไม่ค่ะ ทำอะไรให้มันถูก ดำเนินคดีแค่นั้นจบ และมูฟออนต่อไป พัฒนาชีวิตตัวเองต่อไป ทำอย่างอื่น เพราะเราต้องใช้ชีวิตต่อไป เราคงไม่ได้หนุดแค่นี้แน่นอน”

กองประกวดว่ายังไงบ้าง ?

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ เพราะเขาก็รู้ทุกอย่างค่ะ และคุยเรียบร้อยแล้ว คุยกับทนายเจมส์เรียบร้อยแล้ว รู้เหมือนพี่ๆ แหละ เขาก็รู้และบอกว่าถ้าอยากให้ไปเป็นคนพูดหรืออะไรก็บอก คุยและเคลียร์กันเรียบร้อยแล้วค่ะทุกอย่าง ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แค่คุยว่าอ๋อมันไม่ใช่นะ แบบนี้ๆ”

สามารถไกล่เกลี่ยคู่กรณีได้ไหม ?

“ก็อย่างที่บอกว่าดำเนินคดีไปแล้ว ก็รอดูแล้วกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป”

แสดงว่าก่อนหน้านั้นเรามีการพูดคุยกันแล้ว ?

“ไม่ค่ะ ถ้าโดยส่วนตัวของเกรซไม่ได้มีการพูดคุยกับเขา”

เราดำเนินคดีเลย ?

“ใช่ค่ะ มันทำให้ชื่อเสียงเราเสียหาย แต่ที่สำคัญทุกข่าวมันเหมือนต้องการให้ชื่อเสียงเราเสียหายอยู่แล้วแหละ แต่มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนี้ไง แต่อันนี้มันกระทบกับครอบครัวเกรซค่ะ เลยโอเคถ้าสมมติว่าสิ่งเดียวที่เราจะทำได้เพื่อทำให้ทุกคนดูก็คือการดำเนินคดี เพราะว่ามันมีหลักฐานและตรวจแล้วว่าอันไหนคือความจริง อันไหนคือความไม่จริง ก็ทำให้รู้เลยว่ามันไม่ใช่นะ มันแบบนี้นะ ก็รอดูค่ะ ตอนนี้ดำเนินคดีอยู่”

มีเครียดไหม ?

“ไม่นะ ถ้าเกรซเครียด น่าจะเป็นตอนหลังได้มงค่ะ อันนี้เครียดมาก โดนบูลลี่ อันนั้นเครียดจริงๆ ตอนโดนบูลลี่ก็คือหน้าแป้น เราก็แบบความจริงหน้าเราแป้นจริงๆ อันนั้นก็เครียด แต่อันนี้มันไม่มีความจริง เลยไม่ต้องเครียด เราเลยทำในสิ่งที่ถูกต้อง แค่คุยกับคุณแม่จบ ดำเนินการ ตอนนี้ทำแต่งานเพลง เกรซเครียดงานเพลงอยู่ค่ะตอนนี้”

เป็นความต้องการของเราหรือทางครอบครัว ?

“คือมันเป็นความต้องการของตัวเอง เพราะกระทบต่อครอบครัว”

เราได้อ่านรายละเอียดที่เขาพาดพิงเราไหม ?

“เห็นค่ะ เห็นทุกอัน เห็นหมดทุกข่าว เห็นหมดทุกคนที่เอาลงแชร์ พูดในออนไลน์นะคะ ซึ่งเห็นหมดแล้ว และดำเนินคดีหมดแล้ว”

ยืนยันว่าสิ่งที่เขาพูดมันไม่เป็นความจริง ?

“ก็คุยกันในศาลแล้วกันค่ะถ้างั้น”

เราจะดำเนินคดีกับคนคนที่แชร์และคอมเมนต์ไหม ?

“ก็ที่จริงแล้วทนายเจมส์ก็คุยกับเกรซว่าอยากจะเอาผิดที่คอมเมนต์ แต่ว่าโดยส่วนตัวเกรซกับคุณแม่รู้สึกว่าคอมเมนต์มันก็คือคอมเมนต์ค่ะ ถ้าเรามานั่งดำเนินคดีก็คงทำตั้งนานแล้ว เกรซเลยรู้สึกว่าถ้าแต่ละคอมเมนต์ ถ้าไม่มีอะไรร้ายแรงมากเราก็คงไม่ทำ ก็ไม่เป็นไร เราก็ไม่ได้อยากมามีปัญหา คือคนที่เอาไปแชร์ เอาไปพูด ก็ดำเนินคดีแน่นอนค่ะ”

เอาไปพูดยังไง ในทางไหนที่เราจะดำเนินคดี ?

“เกรซไม่ได้ติดต่อกับคนนั้นโดยตรงค่ะ เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องของทนายให้คุยกับทางทนายโดยตรงค่ะ ก็คือคนที่แชร์ ต้นตอคนที่โพสต์ คงที่ลง คนที่พูดในทีวีออนไลน์อะไรสักอย่าง ก็หลายคนค่ะ ก็รอดูค่ะ เพราะเพิ่งยื่นเรื่องไป เห็นที่เกรซลงรูปกับทนายเจมส์ไหมคะในอินสตาแกรม ก็ตั้งแต่วันนั้นแหละค่ะ ที่จริงก็ไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องอะไรแบบนี้นะ เราแค่รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง มันกระทบปุ๊บ ก็เลยปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมายไปแล้วกัน ให้มานั่งพูดอะไรตลอดเวลาเรื่องราวมันไม่จบหรอกค่ะ ดำเนินการไป ก็บอกไปว่าดำเนินการไปนะคะ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ที่เช็คดูว่าประมาณกี่ราย ก็รอดูแล้วกันค่ะ ไม่ได้เยอะและไม่ได้น้อยค่ะ”