Inside Dara
'กบ-สุวนันท์' ทวงบัลลังก์ "นางเอกเจ้าน้ำตา" เปิดใจชีวิตคู่ไม่ได้หวานแต่ยิ่งอยู่ยิ่งผูกพัน

ร้างราเวที ห่างเหินการแสดงไปนาน สำหรับนางเอกเจ้าบทบาท กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง คัมแบ็กอีกครั้งในรอบ 7 ปี ประเดิมละครดราม่า “น้ำเซาะทราย” ค่ายดาราวิดีโอ ทางวิก 7 สี ประกบพระเอกคู่ขวัญ หนุ่ม-ศรราม โชว์ฝีไม้ลายมือสุดพลัง อินเนอร์แรง ให้แฟนๆหายคิดถึงกัน ยิ่งซีนซีเนม่ารู้ความจริงเพื่อนร้าย เพื่อนรัก อย่าง พุดก รอง (เจี๊ยบ-โสภิตนภา) หักหลังฉกสามีไปรับประทาน น้ำหูน้ำตาไหลพรากๆ ราวกับทำนบแตก ชนิดไม่ห่วงสวย ทำให้แฟนๆสะเทือนอารมณ์หนัก กระแสฮอตทะลุจอขนาดนี้ ไม่รอช้าคว้าสาวกบ นางเอกเบอร์หนึ่งตลอดกาล มาเปิดใจ การกลับมายืนที่เดิม บรรยากาศที่คุ้นเคย ใน “คนดังนั่งคุย” มาเสิร์ฟแล้วจ้า

กระแสทีมคุณวรรณนรีมาแรงมากกบรู้สึกยังไงบ้าง

“คนเชียร์เยอะ คนให้กำลังใจเยอะ กบไม่ได้เล่นละครมานาน ตื่นเต้นมากนะคะ วันแรกที่มาถ่ายละครตื่นเต้นเจอ 20 เทกได้ กบไม่ได้เล่นละครมานานมากจริงๆ 7 ปี เป็น 7 ปีที่ไม่ได้มาอยู่กองเลย เพราะเวลาเล่นละครต้องทำหลายอย่างมีเรื่องบท คาแรกเตอร์ มีเรื่องอารมณ์ บล็อกกิ้งเยอะมาก แล้วบทเรื่องนี้ค่อนข้างยาว อารมณ์ค่อนข้างหนัก กบมาเล่นตอนแรกที่เข้าฉาก 20 เทก จนเครียดบอกพี่หลุยส์ (สยาม สังวริบุตร) ไม่ไหวแล้ว หลังจากนั้นมาพอเราเริ่มประกอบร่างได้ เราก็เต็มที่กับมัน มีอยู่โมเมนต์นึงกบไปยืนหลังไฟ ระหว่างรอเช้าฉาก จู่ๆความคิดเราก็แว้บขึ้นมา นี่คือที่ที่เราเคยอยู่มาตั้งแต่เด็กๆ ที่ที่เราอยู่มาเกือบ 20 ปี มายืนที่ที่เราค้นเคย คุ้นชิน เป็นความรู้สึกเหมือนเรากลับมาบ้าน ถ้าเราไม่เคยออกไปเลยมันจะไม่มีโมเมนต์นี้เลย เรากลับมายืนตรงจุดนี้ เราฟังเสียง 5-4-3-2 อีกครั้งนึงหลังจากที่เราไม่ได้ยินมานานมาก มันก็รู้สึกสนุก กบเลยมีความรู้สึกยิ่งเล่นยิ่งสนุก อาจจะเป็นเพราะเราหายไปนานเลยโหยหาความรู้สึกเก่าๆ โหยหาสิ่งที่เรารัก โหยหาครอบครัวของเรา ยิ่งเล่นยิ่งสนุกยิ่งมัน ชอบมาก”

ห่างหายจากละครไปนาน กลับมาทำไมไม่เลือกบทซอฟต์ๆก่อนแต่เลือกที่จะรับ น้ำเซาะทราย แนวดราม่าฮาร์ดคอร์

“เราต้องเข้าใจความจริงว่าหนึ่งเราอายุเริ่มเยอะพอสมควร สองเรามีครอบครัวมีลูกแล้ว บทบาทที่เราจะได้รับจะไปเป็นนางเอกใสๆ โดนกระทำไม่รู้เรื่องรู้ราว กบว่าคงไม่ค่อยเหมาะ กบว่าเป็นจุดพอดีของเรา ของละครเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ด้วยวัย สิ่งแวดล้อมเหมาะสมกับเรามาก ถ้าเราไม่เล่นเรื่องนี้แล้วเราจะไปเล่นเรื่องไหนล่ะ สองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุยกันมาแล้วเหมือนกันแต่กบยังไม่พร้อมหลายๆเรื่อง เลี้ยงลูกด้วย กบพูดประโยคนี้ตลอดจะพยายามไม่ทิ้งโอกาส โอกาสที่หยิบยื่นเข้ามาในชีวิตตัวเอง ฉะนั้นนี่คือโอกาสที่หยิบยื่นเข้ามาในชีวิตตัวเอง โอกาสและจังหวะที่พอดีเลยเลยมีโอกาสได้รับเล่นเรื่องนี้”

พอกลับมารับเล่นละครพี่บรู๊ค (ดนุพร ปุณณกันต์) ว่ายังไงบ้าง “พี่บรู๊คไม่ได้ว่าอะไร คนทำงานทุกวันเป็นระยะเวลา 20 ปี ออกจากบ้านไปเจอผู้คนทุกวัน วันนึงหยุดชีวิตตัวเองเพื่อมาอยู่กับลูกและชีวิตวนเวียนแค่นั้นตลอดเวลา อยู่กับลูก 24 ชม. เค้าก็เข้าใจ กบพูดตลอด กบอยากทำงาน ชอบทำงาน แล้วนี่คืองานของกบ ต้องขอบคุณพี่บรู๊คมาก พี่บรู๊คเข้าใจกบมาก ช่วยแบ่งเบาภาระด้วย หน้าที่รับส่งลูกเป็นหน้าที่ของกบ เมื่อไหร่ที่กบถ่ายละครจะเป็นเค้าไปรับส่งให้ ทั้งๆที่เค้าก็เหนื่อยจากงานเหมือนกัน”

กับละคร “น้ำเซาะทราย” ได้โคจรมาเจอพี่หนุ่ม ศรราม แฟนๆกรี๊ดหนักมาก

“มีทั้งสมหวังและไม่สมหวังกับคู่ของเราจริงๆ ความสมหวังคือเราได้กลับมาเล่นละครด้วยกันอีก แต่ความไม่สมหวังเรื่องนี้เราไม่ได้รัก เราเป็นครอบครัวมีปัญหากัน เป็นความสมหวังบนความไม่สมหวัง แต่หลายๆคนก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกันอีกครั้ง”

เรื่องนี้กบร้องไห้เยอะมั้ย “ในช่วงแรกๆ ร้องเยอะมาก ช่วงที่รู้ความจริง ช่วงมีปัญหาในครอบครัวจะร้องไห้เยอะ พอผ่านไปนานจะดูแลหัวใจได้ดีขึ้น”

การร้องไห้สำหรับกบถือว่าน้ำตาสั่งได้มั้ย “ไม่ค่ะ กบจะบอกเลย กบไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายนะ เพียงแต่รูปหน้าของกบร้องไห้แล้วดูน่าสงสารคนเลยรู้สึกสงสารจังเลย กบพูดเลยไม่ใช่คนร้องไห้เก่ง ยิ่งเราโตขึ้น มีครอบครัว เกิดปัญหาอะไรในชีวิตจะทำให้เราร้องไห้น้อยลง ปัญหาอะไรเข้ามาเราจะรู้สึกเราโตแล้ว มีการจัดการได้ดีกว่าการร้องไห้ ตัวจริงร้องไห้ยาก เวลาเข้าฉากกบหนักใจมากจะทำยังไง คุยกับพี่หลุยส์ บทก็ยาว ร้องห่มร้องไห้อารมณ์รุนแรง แต่เราก็มีสมาธิ กบอยู่ในกอง ทุกคนจะรู้กบไม่ค่อยคุยเล่น กบไม่ได้หยิ่งอะไรนะแต่เป็นแบบนี้ กบมาทำงาน มุ่งมั่นกับงานเบอร์ 1 เลย วันไหนฉากสบายๆ เราก็ลั้ลลาได้ วันไหนฉากเยอะ บทยาวจะไม่คุยเล่นกับใคร ทุกคนจะชิน”

คนสงสัยชีวิตจริงกบเป็นคนเจ้าระเบียบแบบ วรรณนรีหรือเปล่า

“ก็ไม่ถึงขนาดนี้ แต่กบมีความเป็นระเบียบอยู่ในตัว วินัยสูง แต่กบบาลานซ์ แต่ในเรื่องจะไม่บาลานซ์เลย อย่างกบมีระเบียบวินัย แต่กบเล่นกับลูกๆ กบจะบาลานซ์สำหรับลูกกบนะ ไม่ให้เค้าตึงเกินไป อ่อนเกินไป เวลาเค้าอยากทำอะไรตามใจเค้า เค้าทำในสิ่งที่อยากทำ มีหลายๆครั้งที่เค้าทำในสิ่งที่เราไม่อยากให้ทำ แต่เราต้องหักใจว่าลูกยอมทำในสิ่งที่เราอยากให้ทำ เราต้องตามใจลูกในสิ่งที่เค้าอยากทำถึงแม้เราไม่ถูกใจเราก็ตาม นี่เป็นวิธีบาลานซ์ของกบ ให้มันพอดี แต่วรรณนรีไม่บาลานซ์เลยเค้าสั่งทุกคน ถามว่ากบมีส่วนเป็นวรรณนรีมั้ย? มีค่ะ แต่กบไม่ได้เป็นวรรณนรีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มีอยู่บ้าง ถามว่ากบเป็นคนจู้จี้ขี้บ่นมั้ยก็พูดไปเรื่อย ด้วยความที่เป็นแม่ พูดไปบ่นไปเพื่อไม่ให้เราเหนื่อย ถ้าเราไม่บ่น ดุแล้วเค้าทำเราก็จะ

ไม่เหนื่อย เค้ายังทำ เราก็จะเหนื่อยขึ้น กบเชื่อมีทุกบ้าน แม่คือแม่”

สิ่งที่กบได้จากละครน้ำเซาะทราย

“รู้เลย การที่ครอบครัวจะแตก การที่จะทำให้คนรอบข้างเรา จะเป็นสามีก็ตามเป็นลูก หรือเป็นเพื่อนร่วมงานก็ตาม ถ้าจะเกิดเหตุอะไรเกิดขึ้นสำคัญสุดเราต้องปรับตัวเราก่อน กบมองว่าวรรณนรีมีส่วนผิดด้วย เพราะฉะนั้นการที่คนเราจะทะเลาะกัน คนเราจะมองข้อเสียของคนอื่นทำให้สังคมแตกใช่มั้ย เราและ เพื่อนเราทะเลาะกันทำให้เรากับสามีทะเลาะ เรากับลูกทะเลาะกัน มันคือการไม่มองย้อนกลับมาดูตัวเอง มองแต่ข้อเสียของคนอื่น ไม่เห็นข้อเสียของเราไม่ปรับจูนเข้าหากันเลยใช่มั้ย ถ้าเราอยู่กับใครนานๆ เกิดข้อขัดแย้งให้มองที่ตัวเราด้วย หาข้อยุติโดยสงบ เราลองคุยกันมั้ย ปรับตัวนั่นเอง ถ้าเราทำได้เราก็อยู่ได้”

กบกลับมาเล่นละครจะรับงานต่อเนื่องหรือพักก่อน

“ตอนนี้ขอพักแป๊บนึง เพราะกบถ่ายละครน้ำเซาะทราย กบถ่ายมา 1 ปี กบมีซิตคอมด้วย 1 เรื่อง ตอนนี้ปิดทั้งสองเรื่อง หนึ่งปีที่ผ่านมา กบทำงานทุกเสาร์-อาทิตย์ กบไม่ได้เจอหน้าลูกทั้งสองคนช่วงที่เค้าหยุดเรียน กบได้เจอเฉพาะวันธรรมดาเช้าตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว กินข้าวไปโรงเรียน ตอนเย็นไปรับกลับมาไปเรียนพิเศษหรือว่าเล่นกัน จากนั้นเข้านอนเป็นแบบนี้ กบไม่ได้มีเวลาร่วมกัน พาลูกเที่ยวไม่มีเลย เพิ่งจะมีช่วงนี้แหละ เพิ่งได้ทำ กบพักตรงนี้นิดนึง เพราะกบทำงานได้เฉพาะช่วงเสาร์-อาทิตย์จริงๆ ถ้ารับงานติดกันปุ๊บ เราจะไม่มีเวลาให้ลูกอีก ไม่ได้มีชีวิตร่วมกันกับเค้า ถ้ามีละครติดต่อมากบก็ยังอยากเล่นนะ แต่ต้องคุยในเรื่องรายละเอียดกัน คิวเสาร์-อาทิตย์ หรืออาทิตย์-จันทร์ เพื่อให้กบได้มีเวลาอยู่กับลูกบ้าง กบอยากรับ พูดตรงๆ กบสนุกมากเลย”

จากคนทำงาน แต่จู่ๆวันนึงก็หยุดงานไปเลยเพื่ออยู่กับลูก จริงๆทำได้ยังไง

“ก็ลูก คำเดียวเลยค่ะ กบเป็นคนวางเป้าหมายอนาคตค่อนข้างชัดเจนมาก เวลาทำอะไรกบคิดดีที่สุดแล้ว กบไม่ได้แบบตัดสินใจด้วยอารมณ์ ไม่เอาแล้วฉันเบื่อแล้ว ไม่เอาไม่ทำอยู่กับลูกดีกว่า ไม่ใช่นะคะ กบค่อยๆคิด ค่อยๆทำ กบยอมหยุดในช่วงที่คนยังโอเคกับกบบ้าง กบไม่ได้หายไปเลย ไม่ได้ลาออกจากวงการ กบต้องตัดสินใจหนักมาก ตอนนั้นตัดสินใจไม่ยาก เราอยากมีลูก เชื่อมั้ยเดือนแรกที่ได้หยุดกบแฮปปี้มาก อยู่เฉยๆไม่ต้องตื่นเช้าไปทำงาน แต่หลังจากนั้นเศร้ามาก เหมือนคนซึมเศร้า เหมือนเราเป็นคนไม่มีค่า กบไม่ได้ทำงาน พี่บรู๊คก็ให้กำลังใจงานของกบคืองานเลี้ยงลูก กบไม่ได้หยุดไปนอนเฉยๆ คุณก็ยังทำโน่นทำนี่ แต่กบรู้สึกมันเหงาเลย ปกติเจอคนในกองถ่ายเยอะมาก คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้เฮฮา เจอแฟนคลับคนชื่นชอบ หลังๆไปเดินคนทักลูกมากกว่าตัวกบเหมือนเค้าจำเราไม่ได้ แต่ถ้าเป็นรุ่นไล่ๆกัน จะจำได้เพราะกบไม่แต่งหน้าแล้วใส่แว่นโตๆอันนึง คนจำไม่ได้เราก็รู้สึกนอยด์ มันมีความรู้สึกดี แต่กบว่าถ้าเราค่อยๆยอมรับมันได้ เข้าใจธรรมชาติของมันได้ เราอยู่กับมันได้ ชีวิต เราง่ายขึ้น รับได้ ความเป็นจริงของโลกใบนี้เราต้องกลับเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีใครจะเข้ามาทัก มาเดินห้างฯ สบายๆ เป็นแค่คุณแม่ของณดา (หัวเราะ)”

ตอนนี้น้องๆ ณดา ณดล เป็นซุปตาร์ตัวน้อย

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก กบว่าผลพวงจากพ่อกับแม่แหละที่เป็นคนในวงการ”

เวลากบโพสต์ภาพหรือคลิปยอดกดไลค์ คอมเมนต์ทะลุมาก “ดีใจที่คนรักลูกเรา คนเป็นแม่รู้สึกดีใจ คนชมเราไม่เท่าชมลูก คนรักเราแล้วเอ็นดูลูกเราด้วยก็รู้สึกดี”

ดูรวมๆ ณดาแสบซนกว่าน้องหรือเปล่า “น้องแสบกว่าพี่ค่ะ พี่เนี่ยเรียบร้อยเพราะอยู่กับแม่เยอะ แม่ดุ พูดเลย (หัวเราะ) คนพี่จะเป็นเซนสิทีฟ เป็นคนมีความอ่อนโยนในตัวเองเยอะมาก แต่ไม่ได้เป็นหญิงจ๋าเรียบร้อย พี่เนี่ย แม่แค่มองเค้าจะหยุด มีอารมณ์กลัว แต่น้องนี่ไม่มีกลัวอะไรเลย แล้วดื้อที่สุด ไม่กลัวอะไรที่สุด ณดาจะดื้อเงียบแต่ณดลจะดื้อเหมือนกบ ดื้อโฉ่งฉ่าง ไม่เอาคือไม่เอา ไม่ยอมคือไม่ยอม”

ยิ่งมีลูกแล้วความหวานตามประสาสามีภรรยากับพี่บรู๊คยังเหมือนเดิมมั้ย

“กบกับพี่บรู๊คเนี่ยเป็นคนไม่หวานมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ไม่ได้หวานจี๊ดจ๊าด เดินจับมือ จูงมือกันตลอดเวลา ด้วยความที่เราคบกันตอนที่เป็นนักแสดงเดินไปไหนไม่จับมือกันอยู่แล้ว กอดเอว กอดคอไม่ทำอยู่แล้ว ถึง ณ วันนี้กบว่า คือตัวพี่บรู๊คมีหน้าที่การงานที่ต้องทำ กบมีเรื่องการดูแลลูกที่เราจะต้องทำ เราเคยคุยกัน เคยถาม พี่ยังรักหนูอยู่หรือเปล่า? เค้าก็บอกรักสิ กบรู้สึกว่าความรักของเราไม่ได้หวือหวา วันก่อนตื่นมาเจอหน้าพี่บรู๊ค กบก็ทักทำไมตื่นเช้า เพราะกบจะนอนกับลูก ก็มากอดกันทีนึง จุ๊บเหม่งกันคนละทีก็แค่นี้ไปแล้ว กบไปทำงานแล้ว ถามว่ามีลูกแล้วหวานก็ไม่ใช่หวานอยู่แล้ว วาเลนไทน์มีดอกไม้ให้ บางครั้งมี บางครั้งก็ไม่มี วาเลนไทน์ปีนี้กินอะไร ก็สั่งมากินที่บ้านแล้วกันขี้เกียจออก เราไม่ใช่วาเลนไทน์ต้องนั่งดินเนอร์ คู่เราเป็นคู่ง่ายๆ ไม่ต้องอะไรเยอะๆ บางทีเค้าเห็นกบบ่นอยากได้นาฬิกาออกกำลังกาย เค้าไปต่างประเทศเค้าซื้อมาให้ โทร.มาบอกพี่ซื้อมาให้แล้วนะ แล้วไม่มีแบบหวานๆ เซอร์ไพรส์ พอกลับมาเจอกัน ณดาไปหยิบนาฬิกามาให้แม่ไป เราอยู่กันแบบง่ายๆ เลยทำให้เราอยู่ด้วยกันได้นาน ไม่เจอกัน ทุกวันนี้บางวันไม่ได้เจอกันเพราะตื่นเช้ามากบไปส่งลูกแล้ว”

กบแยกห้องนอนกับพี่บรู๊คเหรอ “ใช่ค่ะ แยกห้องนอนกับพี่บรู๊คเพราะสองลิงยึดแม่ค่ะ (หัวเราะ) กบนอนกับลูกเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร บางวันไปเที่ยว ก็นอนด้วยกัน 4 คนพ่อแม่ลูก แต่ส่วนใหญ่ลูกหลับ กบก็จะไปอยู่กับเค้า มีเวลาให้เค้า นั่งดูหนังกันสองคน หนังจบไปแล้วนะ นอนแล้วนะ เราอยู่เป็นเพื่อนกัน ความรักฉันแฟนแปรเปลี่ยนเป็นความผูกพัน เราเอื้ออาทรต่อกัน”.

อูย...ย ขนาดหวานไม่มากแต่มดไต่นะจ๊ะ!!