Inside Dara
ชาคริต ใจหวิวหลังหย่า วุ้นเส้น ขำข่าวกิ๊ก โบวี่ ส่วน ตาล ลีโอ แค่น้อง

ชาคริต รับรู้สึกใจหายหลังหย่า วุ้นเส้น วิริฒิพา แต่ก็ยังคุยกันอยู่เรื่อยๆ ตอนแรกก็เฮิร์ต ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ตนก็ทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว สาเหตุคือต่างคนต่างทำงานไม่มีเวลาให้กัน เหมือนไปกันคนละทาง ไม่ได้ทะเลาะเกลียดกัน โต้ทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย ยืนยันไม่มีมือที่ 3 ธุรกิจก็ยังทำร่วมกันอยู่ ส่วนภาพกับ ตาล ลีโอ เป็นรุ่นน้อง ขำมีข่าวกิ๊กกับ โบวี่ อัฐมา พูดขำๆ มีข่าวกับสาวเยอะดูหล่อมาก ตอนนี้โสดไม่มีสาวคุยและไม่คิดจะไขว่คว้าหาคนใหม่ในตอนนี้ ส่วนวุ้นเส้นก็รู้จักตนดีอยู่แล้วว่าตนเป็นยังไง บอกโชคดีที่ตนและวุ้นเส้นรักกัน...

เมื่อเวลา 14.00 น. พระเอก-พิธีกรหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังมาบันทึกเทปรายการ "Davinci เกมถอดรหัส" ที่ทีวีที กรีนปาร์ค สตูดิโอ ซ.เคหะร่มเกล้า 78 แยก 1 ถึงกรณีประเด็นร้อนหย่ากับอดีตภรรยาสาวสวย วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ รวมทั้งข่าวคราวกุ๊กกิ๊กกับสาวๆ ทั้งนักแสดงสาวเซ็กซี่ โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ และอดีตนางแบบสาวเซ็กซี่ ตาล ลีโอเกิร์ล ด้วย

ถามถึงสถานภาพตอนนี้ว่าโสดหรือไม่โสด?

"ผมยังงงกับชีวิตผมอยู่เลย แต่ถ้าถามถึงสาเหตุของการหย่าร้าง มันก็เป็นเรื่องของเวลา และภาระที่ต้องรับผิดชอบหลายสิ่งหลายอย่าง เลยทำให้ชีวิตตะกุกตะกัก ความรู้สึกคือเราก็ยังรักกันนะ แต่เขาเองก็มีอะไรที่ให้ทำอีกตั้งเยอะแยะ อย่างตอนนี้คุณแม่ผมก็ป่วยอยู่ ผมก็ต้องดูแล ไหนยังต้องดูแลเรื่องธุรกิจ งานวงการบันเทิงก็ยังต้องทำ คือมันหนักด้วยกันทั้งคู่ เรื่องการตัดสินใจหย่า เราคุยกันมาเป็นปีแล้ว แต่เราก็พยายามประคับประคองกันไป ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกอย่างยากไปหมด ด้วยงานและเวลา เราก็เลยตกลงคุยกัน มันเป็นการตัดสินใจของเราสองคน ไม่ใช่ว่ามันจะแฮปปี้ แต่มันเป็นเรื่องที่เราเข้าใจตรงกัน ถามว่ายังรักเขาไหม ก็แน่นอนอยู่แล้ว จะบ้าเหรอ ผมยังรักเขาอยู่แล้ว"

เรียกว่าจบลงด้วยดี?

"ใช่ครับ เพราะเราก็ยังมีธุรกิจที่ทำด้วยกัน ถามว่ารู้สึกยังไง ก็หวิวๆ นะ เราอยู่ด้วยกันมาตั้ง 4 ปี ก็ยังเป็นห่วงและคิดถึงเขาเสมอ มันเป็นเรื่องปุบปับ จะให้แฮปปี้มันก็ไม่ได้หรอก เพราะเขาก็ยังอยู่ในใจเราตลอด เหมือนเวลาไปต่างจังหวัด เราก็คิดถึงกันตลอด ตอนนี้ก็โทรหา คุยกัน แท็กรูปหากัน ผมว่าก็ต้องค่อยๆ ปรับ"

ช่วงแรกๆ เฮิร์ตไหม?

"ผมว่าก็ทั้งคู่ ตัวเขาเองก็เฮิร์ต มันไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โชคดีที่มันมีแต่ความเข้าใจ เราไม่ได้ทิ้งมันไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย เราก็พยายามรักษาทุกอย่างเอาไว้ มันก็เหมือนเรา pause (หยุดพัก) ไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที เขาเองก็หนัก ผมก็สมองจะแตกอยู่แล้ว"

ถ้าทุกอย่างมันซอฟต์ลงจะกลับไปง้อไหม?

"มันไม่ได้มีอะไรที่เลวร้าย มันเป็นเรื่องของการคุยกัน ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว ผมแฮปปี้กับการที่เรายังมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน"

อะไรที่ทำให้เราอยู่ด้วยกันไม่ได้?

"มันไม่ใช่อยู่ด้วยกันไม่ได้ เราไม่ได้มีชีวิตไปในทางเดียวกัน ผมยังต้องทำอะไรหลายๆ อย่าง มันก็ไม่แฟร์นะถ้าเขาต้องการเวลา แล้วเราไปไม่ได้ ไหนต้องถ่ายละครถ่ายรายการ แบ่งเวลาไปดูแลแม่ วันนี้ถ่ายละครภูมิแพ้มา ป่วยอีก ก็เอาไข้ไปติดแม่ไม่ได้ ผมก็เครียดอีก สภาวะมันก็ยุ่งเหยิงพอสมควรกับการแบ่งเวลา มันก็เลยเป็นไปตามสภาพที่มันควรจะเป็น แต่สุดท้ายมันไม่ได้มีความรู้สึกทะเลาะหรือเกลียดกัน มันเป็นเรื่องของเส้นทางกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ"

แล้วข่าวที่บอกว่าเราทำร้ายร่างกายเขา?

"ไม่มีหรอก จะบ้าเหรอ ก็เอาไปเขียนกัน น้องเขาก็ตอบอยู่ตลอดว่าคืออะไร แต่เราก็ไม่รู้ว่าอะไร แล้วอยู่ดีๆ ก็งง มีข่าวไปกินข้าวกับสาว เราก็คงว่าไปเมื่อไร แต่คือมันไม่ใช่ครั้งแรก เราเจออะไรแบบนี้มาตลอดการทำงานในวงการ เพียงแต่ตอนนี้มันอาจจะไม่แข็งแรงเท่าเมื่อก่อน เมื่อก่อนอาจจะช่างมันเถอะ เหนื่อยใจ แค่เรารู้ตัวเรา และแคร์คนที่เรารู้จักก็พอ ตอนนี้คุณแม่ป่วยเราก็ไม่อยากให้มีอะไรไปกระทบ มันก็มีจุดที่บางทีเราก็เซนซิทีฟอ่อนแอ แต่มันก็ทำให้เราเข้มแข็ง ฝึกตนให้นิ่งๆ เพราะเราก็ไม่รู้จะทำอะไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไป"

มีเรื่องมือที่ 3 มาเกี่ยวข้องไหม?

"ไม่มีครับ มันไม่มีทางที่จะมีใครหรอก แล้วก็ไม่คิดด้วย"

คุณแม่ว่ายังไงบ้าง?

"คุณแม่ผมป่วยเส้นเลือดในสมองแตก คงพูดไม่ได้ การรับรู้ของท่านอยู่กับปัจจุบัน แต่ว่าสมองที่กลับมาใหม่ เหลือแค่เขียนกับพูด ซึ่งมันจะเป็นก้อนสมองที่อยู่ชิดด้านหลัง พูดได้ก็แล้วแต่วัน ตามสิ่งที่จิตใต้สำนึกเขาพูดได้ เราก็ลุ้นอาการกันทุกวัน ก็ให้เป็นแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป"

ธุรกิจที่ทำร่วมกันจะเป็นยังไง?

"ก็ยังทำร่วมกันอยู่ ยังทำปกติ"

หลังจากหย่าแล้วได้คุยกันไหม?

"คุยครับ เมื่อเช้ายังกู๊ดมอร์นิ่งเขาอยู่เลย"

หลายๆ คนลุ้นอยากให้คู่เรากลับมาเหมือนเดิม เพราะเหมือนเรายังรักกันมาก?

"ก็คุยกันอยู่ตลอด เวลาเจอก็รู้สึกดี กอดกัน อย่าถามผมเลย (ก้มหน้าเอามือจับคาง)"

มีภาพหลุดเรากับตาล ลีโอเกิร์ล?

"ก็ไม่มีอะไร เขาก็มากินข้าวที่ร้าน คนมาทานข้าวที่ร้านและขอถ่ายรูปเยอะมาก ช่วงนี้ผมหล่อมากเลย ทุก 3 วันผมจะมีคนใหม่ตลอด ก็พูดไม่ออกเหมือนกัน"

ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งมาข่าวกับโบวี่ อัฐมา?

"นั่นยิ่งแล้วใหญ่เลย ผมขำมากกว่า มีรุ่นพี่ผมส่งข่าวมาให้จากนิวยอร์กด้วยนะ ผมก็แบบว่าอ้าว มีข่าวกับผู้หญิงอีกแล้วเหรอ แต่ก็ขำๆ บางทีก็ไม่ขำนะ อย่างที่บอกเราทำอะไรไม่ได้ เวลาเท่านั้นที่จะทำให้คนเข้าใจเรา คนที่เรารู้จัก เขาก็รู้หมดว่ามันคืออะไร วันๆ เราก็ทำแต่งาน แต่บางคนที่คอมเมนต์มา เราก็ไม่รู้จักเขา ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ปล่อยมันไป ทุกๆ 10 นาทีผมก็จะพูดอภัยทานไป ถือว่าหมดกรรมซึ่งกันและกันดีกว่า มันไม่ใช่เรื่องเพราะเราก็ยังงงๆ อยู่เลย"

แล้ววุ้นเส้นถามไหม?

"เขาก็รู้จักเราอยู่แล้วว่าเป็นยังไง เขาก็ไม่ถาม ถ้าในอนาคตเขาก็บอกถ้าจะมีใครก็เป็นสิทธิ์ของผม ผมก็บอกไปว่าตัวเขาก็เช่นกันที่เขาจะมีใครก็ตาม ถ้าพูดกันตามหลักของสถานะ แต่มันไม่ใช่เรื่องท่ีสำคัญที่ผมจะมานั่งไขว่คว้า ผมว่าวุ้นเองก็เหมือนกัน เขาคงอยากทำงาน อยากพักผ่อน เราสองคนไม่ใช่คนหมกมุ่นที่จะต้องมีแฟนอยู่ตลอดเวลา ยิ่งกับตรงนี้ผมว่าไม่ใช่ ขอใช้เวลากับสิ่งที่จะทำตรงนี้ดีกว่า ตอนนี้ก็โสด ไม่ได้มีคุยสาวที่ไหน แต่ผมก็เป็นคนมีเพื่อนนะ (หัวเราะ) ถ้าถามว่ามีไปกินข้าวไหมก็ไม่ได้ไป แต่คนที่ถ่ายรูปรู้จักไหมก็รู้จัก"

เป็นเพราะเรายังรู้สึกดีกับวุ้นเส้นอยู่หรือเปล่าเลยไม่ได้ไขว่คว้าหาใคร?

"ไม่เลยครับ ผมก็ไม่ได้คิด แต่ผมต้องมานั่งตอบทุกวันกับนิทานเรื่องนึงที่ดันใส่ชื่อผมลงไป ผมก็แบบ (ถอนหายใจ) เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหม ถามอย่างอื่นเถอะ คือแม้แต่คนอื่นที่เวลาเราไปเจอ เขาก็เดินเข้ามาถามอีกแล้ว เราก็ไม่รู้จะตอบว่ายังไง นอกจากไม่มีอะไรครับ"

ณ วันนี้เรียกว่ายังรอไหม?

"สำหรับผมเราก็ไม่ได้ไปไหน เขาก็ยังอยู่ไม่ได้หนีไปไหน"

กังวลว่าข่าวต่างๆ จะไปกระทบใจวุ้นเส้นไหม?

"ผมว่าถ้าเขาอยากรู้จริงๆ เขาก็จะถาม เพราะผมกับเขาเป็นสามีภรรยากัน มันก็คุยกันได้ทุกเรื่อง ถ้าเกิดเขารู้สึกอะไรจริงๆ ก็คงถาม แต่ผมว่าเขาก็รู้จักผมดีที่สุดอยู่แล้ว เพราะเราก็ใช้ชีวิตด้วยกันมาพอสมควร ก็เลยไม่กังวลกับตรงนั้น และผมกับเขาก็ให้เกียรติกันอยู่แล้ว เรามีแต่ความห่วงใย ความรู้สึกดีๆ ที่เก็บไว้ให้กัน ผมว่าผมโชคดีที่ผมกับเขาได้รักกัน และเราก็เข้าใจกัน"