Inside Dara
50 ยังแจ๋ว แอน สิเรียม จัดทูพีซแดงอวดหุ่นแซ่บ ทำไฟลุกทั้งไอจี

แม้อายุจะเข้าเลข 5 แล้ว แต่ความสวยสะพรั่งเหมือนสาววัยรุ่นยังคงอยู่ สำหรับ แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ที่ความปั๊วะปังทั้งใบหน้าและรูปร่างยังสวยแบบไร้ที่ติ สามารถใส่ชุดว่ายน้ำได้ทุกแบบ แบบไม่อายใคร

ล่าสุด แอน สิเรียม ก็ได้เช็กอินเที่ยวอยู่พัทยา จัดเต็มชุดว่ายน้ำทูพีซสีแดง นั่งโพสท่าสุดปังสมเป็นนางแบบ หุ่นก็ดีจนน่าอิจฉา แถมผิวพรรณขาวผ่องเป็นยองใย พร้อมเขียนแคปชั่นว่า "เลือกให้หน่อย ชอบรูปไหนกัน #annsirium #แอนสิเรียม" ด้านแฟนๆ ที่ติดตามต่างเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมในความสวยกันเป็นจำนวนมาก.

เปิดเรื่องลับสามีต่างชาติ หวงหนักห้ามลงรูปโป๊เปลือย

สวยเซ็กซี่ตลอดกาลในวัย 50 กะรัต สำหรับนักแสดงมากฝีมือ แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ แถมยังเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกสาวคนสวยอย่าง น้องนนนี่ นนลนีย์ ที่สามารถเป็นเพื่อนปรึกษาได้ทุกเรื่อง ล่าสุดเธอออกมาเปิดใจถึงความรักครั้งใหม่กับหนุ่มต่างชาติ จัสติน เทดด์ ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา แบบหมดเปลือกถึงชีวิตคู่ครั้งนี้ กว่าจะผ่านมาได้ต้องปรับจูนเข้าหากันเยอะพอสมควร

"กว่าจะเซ็กซี่ได้เราก็ต้องมีแรงบันดาลใจก่อนโดยการรักษาสุขภาพ มันก็ต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ถึงขั้นอดอาหาร พอเรามองว่าพออายุมากขึ้นร่างกายลีนมากไปก็ไม่โอเค แฟนไม่ชอบเค้าบอกว่ามันดูแมนไป แล้วก็อยากให้มันมีความเป็นผู้หญิงบ้าง"

คุณจัสตินชอบให้ถ่ายเซ็กซี่แบบนี้ไหม?

"เค้าก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกันแต่เค้าก็ไม่ได้ห้ามเท่าไร แต่พักหลังมาที่เรากลับมาเล่นละครและมีภาพลงไอจีเค้าก็จะบ่นว่าไม่ต้องมีภาพเซ็กซี่มากก็ได้ เราก็บอกว่าไม่ได้เซ็กซี่มากนะก็เท่าเดิมแต่มันก็ต้องมีนิดนึง"

ได้ข่าวว่าคุณจัสตินมีปัญหาเรื่องสุขภาพเป็นอะไร?

"เกี่ยวกับหลังค่ะ เค้าผ่าตัดหลังมาแล้วเค้าจะนั่งนานๆ ไม่ได้ สาเหตุน่าจะมาจากสมัยหนุ่มๆ ที่เค้าเล่นกีฬาเยอะพอสมควร ประจวบกลับตอนที่นั่งทำงานเค้าก็จะไม่ค่อยเปลี่ยนอิริยาบถสักเท่าไร ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วล่าสุดก็มีผ่าสะโพก เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้ไม่ถึงสามอาทิตย์ ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาเค้าไปพบแพทย์ที่ต่างประเทศเป็นหมอประจำ ก็ค่อนข้างกังวลใจอยู่ เพราะเขาก็อยากจะกลับมาคล่องแคล่วว่องไวเหมือนเดิม

ซึ่งเขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับเราในการออกกำลังกาย เพราะสมัยก่อนเราก็พร้อมอยู่แล้วแต่เราไม่มีกล้ามเนื้อ เค้าก็แนะนำให้เรายกเวท ซึ่งตอนแรกเราก็กังวลว่าการยกเวทมันจะทำให้กล้ามเนื้อเราใหญ่โตเกินไป แต่พอเค้าให้ความรู้และเราได้ลองออกกำลังกายมาก็เลยรู้ว่ามันทำให้เราสดชื่น และมันดีกับช่วงอายุวัยทองอย่างเราด้วย"

เห็นบอกว่าคุณจัสตินคือพรหมลิขิต?

"ก็เจอกันที่เมืองไทยนี่แหละค่ะ แล้วค่อยไปเจอกันที่อังกฤษอีกทีซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ ตอนแรกเราไม่ได้ปิ๊งเลยเพราะเราไม่ได้ชอบฝรั่ง ไม่ใช่สายฝอเพราะเราก็เป็นฝออยู่แล้ว มันต่างดาวมีตาสีฟ้าคล้ายเอเลี่ยน แต่เดี๋ยวนี้ก็คือเทรนด์มันเปลี่ยนไปแล้ว

ซึ่งตอนนั้นเจอครั้งแรกเค้าก็เขียนอีเมลมาจีบ ตอนแรกเราก็คิดว่าโทรคุยก็ได้ไม่จำเป็นต้องส่งอีเมลมาจีบเพราะไม่รู้จะต้องตอบยังไง ภาษาอังกฤษเราก็ไม่แข็งแรงเลยไม่รู้จะตอบเขายังไง แล้วก็ไปเจอเค้าอีกทีที่ต่างประเทศ ตอนนั้นก็ไม่มีอะไรทำไม่เข้าห้างสรรพสินค้าก็กลัวจะเสียเงิน เราก็เลยออกไปเดินตามสวนสาธารณะ"

เขาโอเคไหมที่เราเป็นดาราและอยู่ในวงการบันเทิง?

"เค้าก็ไม่ได้สนใจขนาดนั้น เพราะเค้าก็ดูแต่ซีรีส์อังกฤษ เค้าก็รู้ว่าเราเป็นนักแสดงแต่คงไม่คิดว่าจะเป็นนักแสดงระดับนางเอก"

อะไรทำให้เราตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับเขา?

"คือเรารู้สึกว่าเราเข้ากันได้และมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรขนาดนั้น แล้วเรารู้สึกว่าเราค้นพบตัวเราเองแล้ว ว่าการที่เราจะอยู่กับใครมันต้องประกอบไปด้วยสิ่งใดบ้าง และเราก็รู้สึกว่าเขามีความสม่ำเสมอ ซึ่งตัวเค้าเองก็รู้อยู่แล้วตั้งแต่แรกว่าเราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เค้าก็พยายามอยู่กับปัจจุบันว่าตอนนี้มันเป็นยังไง เราเข้ากันได้ไหมมากกว่า เค้าบอกว่าอดีตมันก็เป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้วเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ และไม่มีใครที่จะสมบูรณ์แบบไปครบทุกด้าน"

เราต้องปรับตัวกับเขาเยอะไหม?

"ปรับนะคะ ตอนอยู่ที่ต่างประเทศเราก็ปรับเยอะมาก เรื่องแรกเลยก็คืออากาศ และเขาเป็นคนชอบไปไหนมาไหนออกข้างนอก ซึ่งเราก็เป็นภูมิแพ้อากาศด้วย มันกลายเป็นปัญหาของเรา และเวลานอนเขาชอบเปิดหน้าต่าง ซึ่งตอนนี้ก็ปรับจนมันพอดีเลย อย่างตัวเค้าชอบดูฟุตบอลเราก็ไปหัดดูฟุตบอลตามเขา ซึ่งเราทั้งคู่ก็ชอบคนละทีมตอนนั้นก็ไปกันไม่ได้ ก็พยายามปรับกันจนชิน

ตอนนี้เราก็ได้กลับมาทำงานอยู่ที่ไทยแล้ว กลับมาทำงานในวงการเหมือนเดิม ตัวเค้าก็ไม่ได้มีข้อแม้อะไรที่จะห้ามเราเซ็กซี่ แต่ละบทบางทีเค้าก็บอกให้เราเป็นคนรับเอง อย่างตอนนั้นเรารับบทหญิงรักหญิงก็ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของสังคมไทยเหมือนกัน ถือว่าปรับตัวอยู่เยอะมาก".